Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1653

Cover Renegade Immortal 1

1653. มุ่งหน้าสู่ทุกชั้นฟ้า

ค่ายกลแห่งชีวิตและความตายได้พัฒนามาจากวังวนซึ่งก่อรูปเป็นกงล้อ หากมันไม่หมุน ชีวิตและความตายก็ไม่เปลี่ยนแปลง หากมันหมุน เมื่อนั้นชีวิตและความตายจะกลับตาลปัตร!

เมื่อกงล้อยักษ์หมุน เกิดเป็นเสียงดังลั่นทะลวงผ่านอวกาศและมาถึงพื้นที่บริเวณรอบสายหมอก เมื่อกงล้อหมุน ชีวิตและความตายจึงถูกตัดสินไปแล้วเรียบร้อย

แรงกดดันทรงพลังโผล่ออกมาจากงล้อและตกลงใส่แผ่นดินซึ่งทะลุผ่านหลุมค่ายกลดินแดนปิดผนึกไปแล้วครึ่งส่วน

แรงกดดันเข้ากดทับชีวิตและความตาย ส่งไปถึงวิญญาณและวิญญาณดั้งเดิม!

แผ่นดินสั่นสะท้าน เกิดรอยแตกร้าวขึ้นบนขอบและแผ่กระจายออกไป

เสียงดังลั่นอึกทึก พริบตาเดียวรอยแตกร้าวบนแผ่นดินเสมือนเป็นลำห้วยและเกิดเสียงดังกึกก้องทั่วแผ่นดิน

เซียนหลายคนบนแผ่นดินถึงกับหน้าซีดและกระอักโลหิตจากแรงกดทับ ร่างกายเกิดเสียงปะทุปุบปับ เผยสีหน้าท่าทางเจ็บปวด

เซียนบางคนที่มีระดับบ่มเพาะต่ำต้อยถึงกับร่างกายระเบิดจากแรงกดดัน วิญญาณดั้งเดิมถูกผนึกไว้ในศีรษะก่อนจะลอยเข้าไปในอวกาศ

อารามขนาดใหญ่ที่มีเค้าโครงอยู่แล้วถึงกับสั่นไหวและเกิดรอยแตกร้าวไปทั่ว ไม่นานมันก็กลายเป็นซากปรักหักพัง

ชายชรามีโลหิตไหลย้อนออกมาจากมุมปาก แววตาเผยความหวาดกลัว เขาดิ้นรนร้องคำรามก่อนจะกระโดดผึง สองฝ่ามือสร้างผนึกรวบรวมสายลมทมิฬรอบร่างให้สร้างเป็นปากขนาดยักษ์พุ่งใส่กงล้อ ราวกับต้องการกลืนกินกงล้อนั่น!

หวังหลินอธิบายการกระทำแบบนี้ได้เพียงแค่หนึ่งประโยคเท่านั้น!

ประเมินตัวเองสูงเกินไป!

ชายชราคนนี้ประเมินตัวเองสูงเกินไปและกล้าลองกลืนกินค่ายกลแห่งชีวิตและความตายของหวังหลิน เขาไม่คู่ควรที่จะกลืนกินมัน! แววตาหวังหลินกระพริบเย็นวาบและพ่นลมหายใจ

ชายชราซึ่งห่อหุ้มด้วยสายลมทมิฬ ปากอ้าเปิดกว้างขยายออกไปมากกว่าแสนฟุตและพยายามจะกลืนกินกงล้อเบื้องบน

ที่เขาต้องทำแบบนี้เพราะรู้ว่าหนีไปไหนไม่ได้ ในเมื่อหนทางมีแต่ความตายจึงต้องเสี่ยงทุกอย่าง หากสำเร็จไม่เพียงแต่จะรอดชีวิตได้แต่เขาจะกลายเป็นคนมีชื่อเสียง!

ปากยักษ์ของชายชราได้กลืนกินกงล้อแห่งชีวิตและความตายเข้าไป แต่ในจังหวะนั้นมีเสียงร้องโหยหวนออกมาจากในปาก พลังรุนแรงระเบิดออกมาจากภายใน พลังนี้มีแก่นแท้แห่งชีวิตและความตาย รวมถึงแรงผลักดันอยู่ด้วย

ปากขนาดยักษ์แตกสลายด้วยแรงระเบิด เศษเสี้ยวกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง ช่างเป็นภาพที่น่าอัศจรรย์ราวกับก้อนเมฆที่ปกคลุมท้องฟ้ากำลังแตกสลาย หมอกสีดำพังทลายและกงล้อแห่งชีวิตและความตายปรากฏขึ้นอีกครั้ง!

เสี้ยววินาทีนั้นพลังรุนแรงจากกงล้อได้เข้าไปในร่างชายชรา เขากระอักโลหิตและถูกกระแทกเข้าไปในอารามซึ่งกลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว

รอยแตกร้าวปกคลุมทั่วแผ่นดิน ตรงจุดที่ชายชราแล่นลงไปกลายเป็นหลุมลึกหมื่นฟุต

ในหลุมลึกมีร่างชายชราที่กำลังบาดเจ็บ โลหิตไหลย้อมเสื้อผ้า เขาอ่อนแอมาก แววตาหวาดกลัวถึงขีดสุด พยายามดิ้นรนลุกขึ้นยืน

แต่ในจังหวะนั้นหวังหลินสะบัดแขนและชี้ลงไป กงล้อที่ไร้การเคลื่อนไหวพลัน กดทับลงไปเก้านิ้ว!

เก้านิ้วแห่งทัณฑ์สวรรค์ แรงกดดันกระจายไปทั่วอวกาศ!

ชายชราที่พยายามลุกขึ้นถึงกับกระอักโลหิตอีกครั้ง เขาถูกกดทับจากแรงกดดันที่กำลังเพิ่มขึ้นและหนีไปไหนไม่ได้ ร่างกายถูกกระแทกกลับเข้าไปในพื้นดิน

แผ่นดินเริ่มแตกสลายอีกครั้ง ขอบแผ่นดินจำนวนมากแยกออกมาและเปลี่ยนกลายเป็นฝุ่นผง

เซียนดินแดนชั้นนอกที่เหลืออยู่บนแผ่นดินล้วนตายตกตามกันไปมากมาย เหลือคนที่ทรงพลังกำลังนั่งอยู่บนแผ่นดินและต่อต้านแรงกดดันนี้ ใบหน้าแต่ละคนขาวซีดและเผยแววตาสิ้นหวัง

‘การกวาดล้างในทะเลเมฆาจบลงแล้ว!’ หวังหลินหลับตาและสะบัดแขนขวา

กงล้อแห่งชีวิตและความตายกดทับลงไปอีกเก้านิ้วเข้าหาแผ่นดินที่กำลังแตกสลาย! ยามนี้ชายชราในหลุมลึกจึงส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนครั้งสุดท้ายในชีวิต

ร่างกายระเบิดเป็นจุณ วิญญาณและวิญญาณดั้งเดิมถูกผนึกไว้ในศีรษะ ศีรษะลอยเข้าไปในอากาศตามหลังร่างที่เกิดการระเบิด

เมื่อชายชราตาย เหล่าเซียนดินแดนชั้นนอกที่เหลือทั้งหมดจึงระเบิดตายกันหมด!

เมื่อชีวิตทั้งหมดสูญสิ้น แผ่นดินจึงแตกสลายอย่างสิ้นเชิง เศษเสี้ยวทั้งหมดลอยตัวออกไปก่อนจะเปลี่ยนกลายเป็นฝุ่นผง

แม้กระทั่งแผ่นดินครึ่งส่วนที่ออกไปนอกค่ายกลก็มิอาจหลบหนีพ้น มันกลายเป็นฝุ่นและหายวับไปจากดวงดาว!

เมื่อหวังหลินลืมตา ศีรษะหลายพันหัว รวมถึงศีรษะของชายชราขั้นที่สามต่างก็ลอยเข้าหาเขา พวกมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของศีรษะหลายหมื่นหัวด้านหลัง

หวังหลินมองดูทะเลเมฆาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะก้าวเข้าพื้นที่แห่งสุดท้ายที่เขากำลังจะไป!

สถานที่แห่งนั้นคือดาราจักรทุกชั้นฟ้า เป็นที่ที่มีผู้คนที่หวังหลินคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ สถานที่แห่งนั้นคือจุดการรบแห่งสุดท้าย!

หวังกลินก้าวเข้าหาดาราจักรทุกชั้นฟ้า เสียงกรีดร้องของศีรษะหลายหมื่นหัวดังกึกก้องไปทั่วดวงดาว ด้านล่างเขามีกงล้อติดตามไปด้วย

“ค่ายกลแห่งเวรกรรม ถือกำเนิด!” หวังหลินเอ่ยเสียงกึกก้อง ศีรษะหลายหมื่นหัวลอยไปด้านบนและหมุนวนจนก่อเกิดเป็นวังวนยักษ์อีกแห่ง

หวังหลินยกแขนขวาและอ้านิ้วมือออก จากนั้นกดลงไปให้วังวนหมุนเร็วขึ้น ศีรษะหลายหมื่นหัวผสานเข้าด้วยกันจนมองไม่เห็นศีรษะแยกออกมาอีก

แขนขวาของหวังหลินค่อยๆ กำหมัด นาทีนั้นโลกเกิดเสียงดังลั่น วังวนพลันหยุดหมุน เปลี่ยนกลายเป็นกงล้อเวรกรรมและลอยอยู่เบื้องบน

หวังหลินมีหนึ่งกงล้อด้านบนและหนึ่งกงล้อด้านล่าง เขาอยู่ระหว่างพวกมันเหมือนเทพเซียนที่สามารถควบคุมชีวิตและความตายรวมถึงเวรกรรมได้ เรือนผม สีขาวสะบัดพริ้วเปล่งจิตสังหารเย็นเยียบ

“ทุกชั้นฟ้า…” ร่างหวังหลินกระพริบวูบวาบและหายตัวไปพร้อมกับกงล้อสองแห่งด้านบนและด้านล่าง เขาปรากฏตัวอีกครั้งในดาราจักรทุกชั้นฟ้า

ณ ดาราจักรทุกชั้นฟ้า เหล่าเซียนดินแดนชั้นนอกหลายแสนคนกำลังล้อมรอบค่ายกลดาวเคราะห์ 999 ดวง เซียนดินแดนชั้นในที่เหลืออยู่บนดาวเคราะห์เหล่านี้ต่างก็มีสีหน้าโศกเศร้า พวกเขารู้ว่าดินแดนชั้นในพ่ายแพ้ต่อสงครามครั้งนี้แล้ว!

ดาวเคราะห์เซียน 999 ดวงถูกย้ายมาจากสี่ดาราจักรและเป็นฐานของดินแดนชั้นใน แต่พวกเขาไม่สามารถหยุดสัญญาณค่ายกลพังทลายได้เนื่องจากโดนวิชาของ เซียนดินแดนชั้นนอกกระหน่ำเข้าใส่ มันราวกับสามารถถูกทำลายไปได้ทุกเมื่อ

เสียงร้องคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์ดังสั่นสะเทือนอวกาศอีกครั้ง ดาวเคราะห์หนึ่งในนั้นไม่สามารถทนรับการโจมตีได้และพังทลายในที่สุด พายุรุนแรงกวาดผ่านในบริเวณ

พื้นดินดาวเคราะห์แตกกระจาย ท้องทะเลกลายเป็นควัน ทั้งดาวเคราะห์กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยนับไม่ถ้วน วิญญาณของดาวเคราะห์เลือนหายไป

เมื่อดาวเคราะห์เซียนแตกสลาย เซียนดินแดนชั้นนอกจึงร้องคำราม เหล่าเซียนหลายแสนคนพุ่งออกไป นำสมบัติจำนวนมากออกมาและเริ่มการโจมตีอย่างบ้าคลั่งใส่ค่ายกลดาวเคราะห์

เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา แม้จะไม่มากพอที่จะทำลายค่ายกล แต่พวกเขาก็สามารถทำลายดาวเคราะห์ไปได้หลายดวงแล้ว

วันนี้มีดาวเคราะห์เหลือไม่ถึง 999 ดวงแล้ว ตอนนี้มันน้อยกว่า 300 ดวงด้วยซ้ำ!

เซียนขั้นที่สามทั้งหมดที่กำลังโจมตีต่างก็มีระดับบ่มเพาะต่ำกว่าขั้นแก่นแท้ดับสูญ เหล่าเซียนขั้นแก่นแท้ดับสูญทั้งหมดกำลังสังเกตการณ์ด้วยสายตาเยือกเย็น จุดประสงค์ของพวกเขาคือการหยุดเซียนดินแดนชั้นในไม่ให้ทำลายค่ายกล ดาวเคราะห์ด้วยการระเบิดไปทั้งสองฝ่าย!

ที่นี่มีเซียนจากดินแดนชั้นนอกขั้นแก่นแท้ดับสูญอยู่ทั้งหมดห้าคน สามคนนั้นคือนางสนมจักรพรรดิเทพ มีสองคนเกี่ยวข้องกับการตายของหวังหลิน อีกคนหนึ่ง สวมชุดราตรีสีม่วง นางดูเหมือนสตรีสูงศักดิ์

นอกจากนี้หวังหลินรู้จักเซียนขั้นแก่นแท้ดับสูญอีกสองคนเป็นอย่างดี หนึ่งเป็นหญิงชราและชายชราชุดดำผู้โจมตีเขาในช่วงวิกฤติความเป็นความตายครั้งนั้น

นอกจากราชันย์ ชายวัยกลางคนที่ตายไปและปรมาจารย์ซูเฉิน ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีครั้งนั้นล้วนอยู่ที่นี่!

ด้วยเซียนขั้นแก่นแท้ดับสูญห้าคนนี้ เซียนดินแดนชั้นในไม่สามารถเลือกระเบิดค่ายกลดาวเคราะห์เพื่อแตกหักทั้งสองฝ่ายได้ พวกเขาทำได้แค่เฝ้าดูดาวเคราะห์ถูกทำลายไปทีละดวง

นอกจากเซียนขั้นแก่นแท้ดับสูญแล้ว ยังมีเซียนขั้นที่สามอีกเจ็ดคน ซึ่งมีระดับตั้งแต่ขั้นสวรรค์ดับสูญไปถึงวิญญาณดับสูญ เซียนทั้งเจ็ดนั้นกำลังนำเซียนดินแดนชั้นนอกเข้าโจมตีจากเจ็ดทิศทาง

เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วดาราจักรทุกชั้นฟ้าและสั่นสะเทือนจิตใจทุกคน

นอกจากคนทั้งเจ็ด มีสตรีอีกคนอยู่ในกลุ่มเซียนดินแดนชั้นนอก สตรีผู้นี้งดงามยิ่งและกำลังมองดูค่ายกลดาวเคราะห์ด้วยสายตาเยือกเย็น แต่กลับซ่อนแววตากังวลไว้เป็นอย่างดี

นางคือร่างดั้งเดิมของยอดปรมาจารย์หยุนลั่ว ผู้สูญเสียร่างอวตารไปในครั้งนั้น!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version