1665. ก่อสร้าง
ค่ายกลถูกทำลายไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจบสิ้น การสร้างค่ายกลใหม่ของหวังหลินและดินแดนชั้นในคือปฐมบทครั้งใหม่ เป็นก้าวแรกในแผนการสังหาร ราชันย์เทพของหวังหลิน!
ค่ายกลดินแดนปิดผนึกพังทลาย กลิ่นอายดาราจักรโบราณพุ่งเข้ามาห่อหุ้มดินแดนชั้นใน กลิ่นอายนี้ทั้งไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยในเวลาเดียวกัน
ช่วงยุคแรกเริ่มก่อนที่จะมีค่ายกลดินแดนปิดผนึก ดินแดนชั้นในและดินแดนชั้นนอกเป็นอันหนึ่งเดียวกัน เหล่าคนมากมายหายใจรับกลิ่นอายนี้ เหล่าเซียนนับไม่ถ้วน บ่มเพาะกลิ่นอายเช่นนี้ มีเซียนขั้นที่สามเพียงไม่กี่คนหยิบยืมกลิ่นอายเพื่อสร้าง มิติเพลิงนรกานต์ของตัวเองเพื่อรวบรวมเพลิงนรกานต์มาช่วยตัวเองฝึกฝน!
ทว่าหลังจากค่ายกลดินแดนปิดผนึกถูกสร้างขึ้นมา เหล่าเพลิงนรกานต์ทั้งหมดถูกแยกออกมาจากดินแดนชั้นในจนไม่มีเหลือ การปรากฏตัวของมันได้เกิดเป็นวัฏจักร อันเลวร้ายเป็นเวลาหลายหมื่นปีจนดินแดนชั้นในเทียบกับดินแดนชั้นนอกไม่ติด
ทว่าในวันนี้ กลิ่นอายที่หายไปนานกลับคืนสู่ดินแดนชั้นใน ราวกับเด็กที่ พลัดพรากจากบ้าน วันหนึ่งประตูได้เปิดขึ้นและเด็กคนนั้นกลับมาบ้าน!
กลิ่นอายที่คุ้นเคยห้อมล้อมดาราจักรทั้งสี่แห่ง หากบอกว่ากลิ่นอายนี้ทำให้ทุกอย่างสดใหม่ก็ดูจะเกินจริงไปหน่อย อย่างไรก็ตามการมีอยู่ของมันได้ทำให้ เซียนดินแดนชั้นในที่เพิ่งชนะมาให้ความรู้สึกถึงความหวัง!
ตาข่ายค่ายกลหลายชั้นได้สูญสลายไปอย่างต่อเนื่องจนพวกมันหายไปอย่างสิ้นเชิง ช่วงระยะเวลาไม่กี่ชั่วยามนี้ เสียงดังสนั่นกึกก้องทั่วอวกาศ
เสียงค่ายกลพังทลายดังเข้าไปในดาราจักรโบราณ ทำให้จิตใจเซียนดินแดนชั้นนอกสั่นสะท้าน เหล่าคนที่มีระดับบ่มเพาะสูงส่งและเซียนขั้นที่สามเพียงไม่กี่คนพลันทะยานออกมามองไปทางดินแดนชั้นใน
พวกเขาสัมผัสได้ชัดเจนว่ากลิ่นอายของดาราจักรโบราณกำลังพุ่งออกไปราวกับไปเติมเต็มดินแดนชั้นใน
เหล่าเซียนดินแดนชั้นนอกจำนวนมากทะยานออกมาจากทั่วดาราจักรโบราณเพื่อเข้าหาดินแดนชั้นใน!
พวกเขาอยากเห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับดินแดนชั้นในหลังจากไม่มีค่ายกลแล้ว!
หวังหลินยืนอยู่ท่ามกลางดวงดาว จ้องมองค่ายกลดินแดนปิดผนึกที่สูญสลายไปอย่างสงบนิ่ง เขาสัมผัสถึงกลิ่นอายของดาราจักรโบราณ ดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้า
หลังจากผ่านไปสักพักจึงค่อยๆ ยกแขนขวาขึ้นมาโบกสะบัด จากนั้นส่งเสียงดังกังวาลไปทั่วสี่ดาราจักรในดินแดนชั้นใน
เสียงดุจฟ้าผ่าแต่ทุกคนกลับได้ยินคำพูดของเขาอย่างชัดเจน!
“วันนี้ข้าได้ทำลายค่ายกลดินแดนปิดผนึกไปแล้วและจะสร้างขึ้นมาใหม่ ค่ายกลนี้จะต้องไม่มีชื่อ!”
ขณะคำพูดของหวังหลินแผ่กระจายออกไป เขาโบกสะบัดแขนทั้งสอง กงล้อ สามแก่นแท้ขนาดยักษ์ลอยออกมาและตั้งตระหง่านเบื้องหน้าเขา
เสียงซี่ๆ ดังสนั่น กงล้อยักษ์เริ่มขยายและแผ่กระจายออกไปทั่วสารทิศ มันเพิ่มขนาดไปเรื่อยๆ จากหมื่นฟุตไปถึงหลักล้าน หลักสิบล้านจนไร้ขอบเขต!
มันเข้าไปแทนที่ค่ายกลดินแดนปิดผนึกและกลายเป็นค่ายกลใหม่!
ขณะที่มันแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ หวังหลินเผยแววตาเป็นแสงประหลาด ชี้ไปที่อวกาศเบื้องบน
“สมบัติทั้งหมดที่ถูกทำลายไปในร้อยปีนี้และจิตวิญญาณสมบัติทั้งหมดที่ สูญสลายในสงครามที่ผ่านมา…ข้าหวังหลิน ขอเรียกจิตวิญญาณพวกเจ้าให้กลับมาจากความว่างเปล่าและเข้าสู่ค่ายกลเพื่อคงอยู่ไปชั่วนิรันดร์…”
น้ำเสียงของหวังหลินแฝงพลังอำนาจแห่งแก่นแท้ ยามนี้เกิดระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นแผ่กระจายออกมาโดยมีเขาเป็นจุดศูนย์กลาง แผ่กระจายออกไปยังทะเลเมฆา ทุกชั้นฟ้า ฟ้ากระจ่าง และอัญเชิญนที
ขณะที่เสียงดังกึกก้องหลังระลอกคลื่นผ่านไป ร่างเงามีสีสันสวยงามปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า เหล่าเงาพวกนี้มีทั้งกระบี่ ดาบและสมบัติมากมายหลายอย่าง
สมบัติทั้งหมดนี้ล้วนแตกหัก พวกมันเคยแตกหักไปแล้วและแตกสลาย แต่พวกมัน มีจิตวิญญาณ พวกมันได้ยินคำสัญญาแห่งนิรันดร์ของหวังหลินและจึงปรากฏตัวขึ้นมา หลังจากนั้นชั่วขณะ ทั้งหมดจึงทะยานเข้าหากงล้อสามแก่นแท้
ขณะที่พวกมันผสานเข้าไป ได้ทำให้กงล้อที่กำลังขยายตัวเปล่งสัมผัสแห่งบารมีอันทรงพลัง เพียงจิตวิญญาณสมบัติหลายล้านตัวเข้าผสาน กงล้อจึงเปล่งพลังชีวิตอันทรงพลัง
เจ้านายของจิตวิญญาณสมบัติทั้งหมดนี้ได้เสียชีวิตไปแล้วและจิตวิญญาณควรจะหายไป ทว่าในโลกนี้มีวัฏจักรแห่งการเกิดใหม่อยู่ด้วย เหล่าจิตวิญญาณสมบัติเหล่านี้ได้ก้าวเดินออกมาจากวัฏจักร ปรากฏตัวขึ้นทุกหนแห่งภายในสี่ดาราจักรและเข้าผสานกับกงล้อ
ยามที่พวกมันผสาน กงล้อที่กำลังหมุนจึงได้รับปัญญาขีดสุด!
“เหล่าดาวเคราะห์เซียนบริสุทธิ์ที่พังทลายระหว่างสงคราม พวกเจ้าทั้งหมดมีวิญญาณและมีหนทางแห่งชีวิต ทว่าตลอดหลายล้านปี มีพวกเจ้าหลายล้านที่แตกดับสูญสลาย…วันนี้ข้าขอเรียกพวกเจ้าให้เข้ามาในค่ายกลและคงอยู่ไปชั่วนิรันดร์!” หวังหลินเอ่ยขึ้นบางเบาด้วยสายตาโศกเศร้า
ขณะที่เอ่ยคำพูดดังกึกก้อง ภาพเงาของดาวเคราะห์ปรากฏขึ้นมาทั่วสี่ดาราจักรที่ว่างเปล่า
มีดาวเคราะห์เซียนหลายดวงที่ถูกทำลายแต่วิญญาณพวกมันไม่ยอมแตกสลาย พอหวังหลินเอ่ยคำสัญญาแห่งชีวิตอันนิรันดร์ พวกมันจึงปรากฏตัวทั้งหมด
ขณะที่วิญญาณดาวเคราะห์ปรากฏตัว เศษฝุ่นทุกอณู อุกกาบาตทุกก้อน และ เศษเสี้ยวแผ่นดินที่แตกสลายทั้งหมดจึงสั่นสะท้าน
เสียงร่ำร้องดังกึกก้องไปทั่วสี่ดาราจักร เหล่าละอองฝุ่น อุกกาบาตและเศษเสี้ยวแผ่นดินต่างลอยมาด้วยวิญญาณดาวเคราะห์ พุ่งเข้าหากงล้อแก่นแท้ที่กำลังหมุน
ขณะที่พวกมันผสานเข้าอย่างต่อเนื่อง กงล้อแก่นแท้จึงได้รับรูปร่างทางกายภาพและระเบิดแรงกดดันอันเหนือล้ำ หวังหลินสะบัดแขนให้กงล้อขยายต่อไปเรื่อยๆกระทั่งมันห่อหุ้มทะเลเมฆาและแผ่ไปถึงดาราจักรทุกชั้นฟ้า ปกคลุมทั่วทั้งดาราจักรอัญเชิญนทีและฟ้ากระจ่างได้หมดจด!
เซียนดินแดนชั้นในทั้งหมดต่างก็ตื่นเต้นที่ได้เห็นค่ายกลกงล้อเข้าแทนที่ค่ายกลดินแดนปิดผนึก อารมณ์ความรู้สึกตอนนี้เป็นสิ่งที่พานพบได้ยากยิ่งในชีวิต
พริบตาเดียวค่ายกลใหม่จึงปรากฏขึ้น ป้องกันขัดขวางดินแดนชั้นนอกแต่ยังปล่อยให้กลิ่นอายจากดินแดนชั้นนอกเข้ามาอีกด้วย!
ค่ายกลนี้คือกงล้อที่มีขนาดกว้างใหญ่จนไร้ขอบเขต ใหญ่ยิ่งกว่าค่ายกลดินแดนปิดผนึกของเดิม การปรากฏตัวของมันถือเป็นยุคใหม่!
“เซียนดินแดนชั้นนอกนับไม่ถ้วนที่ตายไปในดินแดนชั้นใน พวกเจ้าทั้งหมดสังหารผู้คนไปมากมายและแม้จะตายไปแล้วก็ไม่สามารถเข้าสู่วัฏจักรแห่งการเกิดใหม่ได้ พวกเจ้าต้องชดเชยบาปที่ทำลงไป! วันนี้ข้าหวังหลิน จะรวบรวมเศษเสี้ยววิญญาณพวกเจ้าเข้าด้วยกันและสั่งให้เป็นทาสรับใช้เพื่อผลักหมุนกงล้อ ทำงานไปตลอดชีวิตและไม่มีวันเป็นอิสระ!!” ดวงตาหวังหลินเปิดกว้าง ฝ่ามือสร้างผนึกก่อนจะผลักลง ใส่อวกาศ
นาทีนี้เกิดพายุลูกหนึ่งขึ้นในดินแดนชั้นใน พายุนี้ถูกสร้างขึ้นจากวิชาและวิญญาณของหวังหลิน เสียงคำรามที่มีเพียงหวังหลินเท่านั้นที่สัมผัสได้พลันดังกึกก้องไปทั่วสี่ดาราจักรของดินแดนชั้นใน
เศษเสี้ยววิญญาณที่บิดเบี้ยวพลันปรากฏตัวท่ามกลางดวงดาว ทั้งหมดมีสีหน้าท่าทางดุร้ายและดิ้นรน ทว่าพวกมันส่งเสียงร้องด้วยความหวาดกลัวทันทีที่พายุวิญญาณของหวังหลินได้รวบรวมพวกมันและผสานเข้าไปในกงล้อ!
เศษเสี้ยววิญญาณบางส่วนเหล่านี้คือเซียนที่ตายไปในช่วงร้อยปีก่อน กระนั้นยังมีคนที่เสียชีวิตระหว่างการรบครั้งก่อนหน้ากับดินแดนชั้นนอกอีกด้วย
พายุโหมกระหน่ำ พัดผ่านกลุ่มของมู่ปิงเหมย ผ่านทะเลเมฆา เต็มทั่วทุกชั้นฟ้า จากนั้นผ่านดาราจักรอัญเชิญนทีก่อนจะข้ามไปยังดาราจักรฟ้ากระจ่างและกลับคืนมา เหล่าเศษเสี้ยววิญญาณโหยหวนทั้งหมดส่งเสียงร้องด้วยความหวาดกลัวก่อนจะถูกจับได้และผนึกเข้าไปในกงล้อ
โดยเฉพาะจุดสมรภูมิรบครั้งแรกในทะเลเมฆา มีเศษเสี้ยววิญญาณมากกว่าแสนดวง ทั้งหมดได้ถูกผนึกไว้ในกงล้อ!
รวมไปถึงในดาราจักรทุกชั้นฟ้า เศษเสี้ยววิญญาณหลายแสนดวงต่างส่งเสียงคำรามกึกก้องอย่างเงียบงัน ไม่มีตัวใดจะหนีรอดการลงทัณฑ์นี้ไปได้!
เศษเสี้ยววิญญาณเหล่านี้ไม่สามารถเข้าสู่วัฏจักรแห่งการเกิดใหม่และไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้ พวกมันตายไปแล้ว เป็นเศษเสี้ยววิญญาณที่มีความแค้นหลังจากเสียชีวิต เมื่อไม่มีอะไรมารวบรวมพวกมัน จึงคงอยู่อย่างล่องหน โดยปกติแล้วสิ่งมีชีวิตที่ดูดซับกลิ่นอายนี้จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่โหดเหี้ยมอำมหิต
ความเคียดแค้นได้ส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อเหล่าเซียน โดยเฉพาะเซียนที่มีระดับบ่มเพาะอ่อนแอ ซึ่งวิญญาณทั้งหมดมาจากเศษเสี้ยววิญญาณเหล่านี้!
ขณะที่เหล่าเศษเสี้ยววิญญาณเซียนดินแดนชั้นนอกที่ตายไปจากสงคราม ได้ถูกรวบรวมเข้าไปในค่ายกลกงล้อ จากนั้นจึงมีดวงวิญญาณหลายดวงปรากฏขึ้นรอบกงล้อ สองแขนของพวกมันช่วยกันหมุนกงล้อขนาดยักษ์ พอมีเศษเสี้ยว ดวงวิญญาณหลายล้านดวง กงล้อก็เริ่มหมุน
การหมุนทุกรอบจะทำให้เศษเสี้ยวดวงวิญญาณส่งเสียงร้องคำรามด้วยความเจ็บปวดราวกับถูกบดขยี้ ทว่ายิ่งพวกมันเจ็บปวดมากเท่าไหร่ ยิ่งผลักหมุนกงล้อหนักขึ้น!
วงโคจรนี้จะดำเนินไปชั่วกัปชั่วกัลป์!
“ดินแดนชั้นใน เหล่าผู้อาวุโสที่สิ้นชีวิตในระหว่างสงครามครั้งก่อนและเหล่าสหายเซียนทั้งหลาย วันนี้ข้าหวังหลิน ขอรบกวนวิญญาณที่หลับใหลของท่านเพื่อปลุกขึ้นมา…พวกท่านทั้งหลายยอมกลายเป็นจิตวิญญาณค่ายกลอมตะของค่ายกลนี้หรือไม่? กลายเป็นวิญญาณที่ประสงค์เทิดทูนเหล่าเซียนดินแดนชั้นในไปทั่วทุกรุ่น!!”
“หากพวกท่านทั้งหลายยินยอม ข้าขอให้ท่านทั้งหมดออกมา!!” หวังหลินคำนับฝ่ามือให้กับดวงดาว!