Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1675

Cover Renegade Immortal 1

1675. หนึ่งปี!

เสียงแตกร้าวดังอยู่ข้างหูหวังหลิน ในกะโหลกผุดรอยร้าวขึ้นมาและตรงหน้าอกเริ่มมีกระดูกแตกกระจาย

นาทีความเป็นความตาย หวังหลินหลับตาลง ทุกอย่างในโลกกลายเป็นเท็จ ความเจ็บปวดทั้งหมดสูญสิ้น

ขณะเดียวกันหวังหลินยกแขนขึ้นมาสะบัดทั้งที่ยังหลับตา

คลื่นสะบัดทำให้ท้องฟ้ามัวหมอง พื้นปฐพีเหี่ยวแห้ง กลิ่นอายของสามเผ่าโบราณหายไป ส่วนหนึ่งลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าและอีกส่วนลอยเข้าสู่พื้นดิน

“เต๋าแห่งความฝัน ผสานกับความฝันยุคโบราณ ความฝันนี้จะกลายเป็นความฝัน ของข้า…กลิ่นอายของสามเผ่าโบราณ เปลี่ยนกลายเป็นพลังแห่งความฝันเพื่อสร้างสรรค์วิชาของข้า ความฝันนิรันดร์กาล…ด้วยสายตาของข้าที่ปิดลง ทุกสิ่ง ทุกอย่างเป็นเรื่องเท็จ เมื่อข้าลืมตาขึ้น จงเข้าสู่ความฝันของข้า!!” หวังหลินพลันลืมตา

หวังหลินศึกษาวิชาความฝันยุคโบราณมา และถึงแม้มันจะแข็งแกร่งแต่ก็มีขีดจำกัด วิชาความฝันยุคโบราณนั้นเป็นวิชาที่เจ้าของโล่จำทุกอย่างเอาไว้และเปลี่ยนมันเป็นความฝันเพื่อสังหาร

อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของโล่เสียชีวิตไป ความฝันก็จะพังทลายลงและไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ วิชาเต๋าแห่งความฝันที่หวังหลินคิดค้นขึ้นมาก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสิ่งนี้ ตอนนี้หวังหลินกลายเป็นเจ้าของโล่และเป็นเจ้าของความฝัน!

เมื่อเขาเป็นเจ้าของ ความคิดทุกอย่างของเขาสามารถเปลี่ยนทุกอย่างในความฝันได้!

ยามที่ลืมตาขึ้นมา เขากลายเป็นความฝันยุคโบราณ! ดวงตาที่เปิดออกและภาพฟ้าดินเกิดการสั่นสะเทือน สวรรค์กลายเป็นดวงตา พื้นดินกลายเป็นดวงตาของเขาเช่นเดียวกัน!

เมื่อลืมตา โลกพลันเปิดออกกลายเป็นดวงตาของหวังหลิน ชายวัยกลางคนถึงกับหน้าซีดพลันหันกลับไปมอง สิ่งที่เห็นทำให้ตกตะลึงจนตื่นจากความบ้าคลั่ง!

เขาเห็นดวงตาปรากฏขึ้นในโลก เต็มไปด้วยความหนาวเย็นและจิตสังหาร ท้องฟ้าด้านบนคือเปลือกตาบน ปฐพีด้านล่างคือเปลือกตาล่าง รวมกันกลายเป็นดวงตาขนาดยักษ์

หากแค่นี้เขาคงไม่หวาดกลัว สิ่งที่ทำให้หวาดกลัวคือสิ่งที่เขาเห็นด้วยสัมผัสวิญญาณ

สัมผัสวิญญาณแผ่กระจายทะลุออกไปจากโลกมายาแห่งนี้ เขาเห็นใบหน้ายักษ์ด้านนอก ร่างกายของเขาเผชิญหน้ากับดวงตาข้างซ้าย

มันไม่ใช่เพียงแค่ใบหน้าแต่ยังเป็นร่างใหญ่ยักษ์เกินเปรียบเทียบ ร่างนั้นสวมชุดสีขาว เรือนผมสีขาวสะบัดพลิ้วในสายลม มันคือ หวังหลิน!

เหตุการณ์นี้ทำให้เขาตกตะลึงและชะงักอยู่ตรงนั้น เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่กำลังเห็นด้วยสัมผัสวิญญาณและสองตา

ร่างกายแข็งค้าง

ในตาซ้ายของหวังหลินมีความหนาวเย็นเสียดแทงและค่อยๆ หลับตาลง พลังอำนาจที่สามารถสังหารได้ทุกสิ่งแผ่กระจายออกมา

“เป็นไปไม่ได้!” ชายวัยกลางคนหันกลับไปมองหวังหลินที่ตนเองกำลังฉีกกระชาก แต่เมื่อเขาหันกลับมากลับไม่มีใครอยู่ตรงนั้น!

หวังหลินหายตัวไปแล้ว ไม่เพียงแต่หวังหลินที่หายไปแต่โลกใบนี้กลับไม่มีสิ่งใดอยู่นอกจากเขา สัมผัสความหวาดกลัวผุดขึ้นมาเต็มจิตใจทันที

“นี่มันวิชาแบบไหนกัน?!” ใบหน้าท่าทางซีดเผือด ดวงตาหวาดกลัวและรีบถอย แต่เขาไม่ได้เร็วไปกว่าโลกที่กำลังแตกสลาย ดวงตาซ้ายหวังหลินค่อยๆ ปิดลง

“ข้าไม่เชื่อ ทั้งหมดหลอกลวง!!” ชายวัยกลางคนหันมองบนท้องฟ้าที่กำลังตกลงมาและส่งกำปั้นใส่ เกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องแต่เขาไม่สามารถหยุดอะไรได้แล้ว

นาทีต่อมาโลกบีบตัวลงอย่างต่อเนื่องจนเหลือพื้นที่เพียงไม่กี่พันฟุต ชายวัยกลางคนยกแขนขึ้นค้ำฟ้าและยันเท้าไว้กับพื้นดิน สีหน้าท่าทางบิดเบี้ยวจากความเจ็บปวดที่กำลังต่อต้าน

“ทั้งหมดเป็นเรื่องหลอกลวง!!” เสียงดังปัง สองเข่าพังทลายและคุกเข่าลง โลกบีบรัดจนกระทั่งเหลือความสูงไม่กี่พันฟุตเท่านั้น!

“ข้าคือลูกของเย่โม่ ข้าถือกำเนิดขึ้นจากแก่นโลหิตจากศีรษะเขา ข้าไม่แพ้!!” ผู้อ้างตนเป็นลูกของเย่โม่พลันร้องคำรามอย่างเจ็บปวด สองแขนระเบิด โลกมืดลงและปิดสนิท ไม่มีช่องว่างเหลืออยู่แม้เพียงเศษเสี้ยว!

หากมองไกลๆ ดวงตาซ้ายของหวังหลินปิดลงอย่างสมบูรณ์! จากนั้นร่างกายกะพริบวูบวาบและหายวับเป็นละอองแสง

ความฝันสิ้นสุด!

เมื่อความฝันจบลง โลกเลือนหายไป พวกเขายังอยู่ในอวกาศด้านนอกค่ายกลกงล้อ เซียนนับหมื่นที่กำลังเฝ้าดูต่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จากมุมมองของแต่ละคน ลูกของ เย่โม่หยุดชะงักอยู่ตรงนั้นและเริ่มร้องคำรามอย่างเจ็บปวด ไม่มีสิ่งใดเบื้องหน้าเขา

หวังหลินยืนหลับตาห่างออกไปหลายหมื่นฟุต

หลังจากนั้นไม่ถึงสิบลมหายใจ หวังหลินพลันลืมตาขึ้นมา ดวงตาเต็มไปด้วย ความอ่อนล้าและจิตสังหาร สองเท้าก้าวออกไปดุจอุกกาบาต กระบี่โลหิตปรากฏขึ้นในมือขวาในทันทีที่หวังหลินเข้าใกล้ลูกของเย่โม่

ตอนที่ลูกของเย่โม่ลืมตาขึ้นมาและเผยอาการงุนงง หวังหลินฟาดฟันด้วยกระบี่โลหิต ร่างอีกฝ่ายถูกหั่นเป็นสองท่อน แม้แต่ตอนกำลังจะตาย สายตายังคงสับสน

ร่างสองส่วนเปลี่ยนกลายเป็นหยดโลหิตสีม่วงแปดหยดลอยเข้าหาหวังหลินและเข้าไปในหน้าผาก

หวังหลินเหน็ดเหนื่อยมาก หลังจากได้รับแปดโลหิตมา เขาไม่ได้ดูดซับในทันทีแต่ก้าวเท้าอีกครั้งเข้าหาค่ายกลกงล้อ

พอเข้าไปในค่ายกลได้สำเร็จจึงไม่สามารถระงับอาการบาดเจ็บได้อีกต่อไปและกระอักโลหิต หวังหลินนั่งลงข้างซื่อจื่อเฟิงทันทีและเริ่มฟื้นฟู

การต่อสู้ก่อนหน้านี้อันตรายมาก การสังหารลูกของเย่โม่นั้นเป็นงานยากยิ่งสำหรับหวังหลินหากไม่ใช้คันศรลี่กวง แม้เขาจะเอาชนะมาได้แต่ก็บาดเจ็บเพราะ วิชาผ่าสวรรค์อันน่ากลัวนั้น

วิชาผ่าสวรรค์ยังคงทำให้หวังหลินรู้สึกกลัว เส้นโลหิตยังคงอยู่กลางหน้าผาก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในความฝันยุคโบราณนั้นเป็นเรื่องจริง

เขาเกือบจะถูกแยกเป็นชิ้นๆและถูกสังหาร!

ตอนนี้เหล่าเซียนดินแดนชั้นนอกหลายหมื่นคนเห็นเขากำลังฟื้นฟูตัวเอง ผ่านไปสักพักจึงเกิดเสียงคำรามเต็มไปด้วยจิตสังหารดังกึกก้อง

“มันบาดเจ็บ!!”

“มันกำลังฟื้นฟู นี่เป็นโอกาสดีที่สุด!”

“เมื่อมันบาดเจ็บ ค่ายกลกงล้อจึงไม่อาจทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ทำลายค่ายกลและสังหารมัน!”

เหล่าเซียนนับหมื่นกำลังเลือดร้อนเมื่อเห็นว่าหวังหลินบาดเจ็บ ทั้งหมดพุ่งเข้ามาหาหวังหลินที่อยู่ในค่ายกล

ขณะที่เหล่าเซียนโจมตีอย่างบ้าคลั่ง ค่ายกลรับการโจมตีและเกิดการบิดเบี้ยว ซื่อจื่อเฟิงนั่งข้างหวังหลินด้วยแววตากังวล

ด้านนอกค่ายกลนั้น เซียนขั้นที่สามจำนวนห้าคนซึ่งมีอาการบาดเจ็บกำลังกัดฟันแน่นและทะยานออกมา พวกเขาเริ่มโจมตีกระหน่ำใส่ค่ายกลด้วยวิชาเพลิงนรกานต์

ค่ายกลสั่นสะเทือนเบาๆ ดวงวิญญาณทาสนับไม่ถ้วนผลักดันค่ายกลเพื่อสะท้อนการโจมตีทำลายล้างทั้งหมด

ทว่าในขณะที่ซื่อจื่อเฟิงเป็นกังวล มู่ปิงเหมยและสตรีชุดชมพูเองก็กังวลเช่นเดียวกัน หวังหลินลืมตาขึ้นมาส่งสายตาเยือกเย็น

“แม้ข้าจะบาดเจ็บ ข้าก็ฆ่าพวกเจ้าได้ไม่ยาก!” หวังหลินระงับอาการบาดเจ็บ แขนขวาสร้างผนึกและกดลงใส่ค่ายกล

“กงล้อ จงปรากฏและหมุน!” หวังหลินคำรามพลางใส่พลังเข้าไปในค่ายกล ค่ายกลเริ่มส่งเสียงและมีกงล้อยักษ์ปรากฏด้านนอกค่ายกล

กงล้อนี้มีดวงวิญญาณทาสนับไม่ถ้วนกำลังผลักดันให้มันหมุน มันมีพลังมากพอ จะเปลี่ยนแปลงการทำงานของโลกใบนี้ ขณะที่หมุนจึงระเบิดพลังแห่งความตายออกมาด้วย

เหล่าเซียนดินแดนชั้นนอกทั้งหมดสั่นสะท้าน ร่างกายระเบิดจนเหลวแหลก ดวงวิญญาณดั้งเดิมถูกดูดซับให้กลายเป็นทาสรับใช้เพื่อหมุนกงล้อต่อไป

เซียนดินแดนชั้นนอกหลายหมื่นคนต่างก็ถอยร่นด้วยความหวาดกลัว พริบตาเดียวกงล้อหมุนไปได้ถึงสามรอบ! เหล่าผู้คนตายไปมากมาย เซียนดินแดนชั้นนอกยามนี้สติกระเจิงไปหมด พวกเขาทะยานหนีและไม่กล้าแม้แต่หันมามอง

หวังหลินพลันยืนขึ้นและสะบัดแขน หยดโลหิตเทพปรากฏขึ้นมาจากกลางหน้าผาก ปรากฏคันศรลี่กวง!

หวังหลินรั้งสายคันศรจนเต็มเหนี่ยว แม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่แววตาจ้องมองไปยังอวกาศด้านนอกค่ายกลด้วยจิตสังหารเต็มเปี่ยม

“ก้าวเท้ามาอีกก้าว ข้าจะสังหารเจ้าอีก!”

พอเอ่ยเช่นนั้น ระลอกคลื่นดังกึกก้องอยู่นอกค่ายกลระยะพันฟุตและปรากฏราชันย์ขึ้นมา เขาจ้องมองหวังหลิน ขบคิดอยู่นานและจึงจากไป

หลังจากราชันย์จากไป หวังหลินเก็บคันศรลี่กวง อาการบาดเจ็บของเขาย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม โลหิตไหลออกจากมุมปากและนั่งลง

กาลเวลาไหลดุจสายน้ำไม่มีหยุด พริบตาเดียวก็ผ่านไปอีกเก้าเดือน

ช่วงระยะเก้าเดือนนี้ไม่มีเซียนดินแดนชั้นนอกคนใดย่างกรายเข้ามาเลย ซื่อจื่อเฟิงอุ่นสุราหลายรอบแต่เขาไม่เคยดื่มมันอีกเลย จากนั้นผ่านไปครบหนึ่งปี ซื่อจื่อเฟิงมอง หวังหลินด้วยสีหน้าซับซ้อนเกินอธิบายก่อนจะถอนหายใจเบาๆ และจากไป

ต่อจากนาง คนที่มาหาหวังหลินคือ สตรีชุดชมพู

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version