Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1320

Cover Renegade Immortal 1

1320. ผสาน

วิชาแรกของปรมาจารย์เต๋าความฝันแสดงให้เป็นถึงวิชาโจมตีอันรุนแรงที่สุด!

ส่วนวิชาที่สองเป็นโล่เงาแสงที่มีพลังป้องกันสูงสุด! เมื่อไหร่ที่สองวิชานี้ปรากฏขึ้นมา โลกพลันเปลี่ยนสี!

หวังหลินยังไม่ได้เข้าใจประทับพลิกสวรรค์อย่างสมบูรณ์ ตอนนี้จมความคิดอยู่ในโล่เงาแสง ความคิดสลับไปมาระหว่างสองวิชาที่ต่างกัน

“จงดูให้ดี วิชาที่สามที่ข้าจะสอนเจ้ามีชื่อเรียกว่า ผสานเต๋า! มันไม่ใช่วิชาโจมตีหรือป้องกัน แต่เป็นวิชาเต๋าที่ผสานวิชาของเจ้าเข้ากับแก่นแท้ได้ด้วยวิธีพิเศษ หากเจ้าสามารถเรียนรู้วิชานี้ได้ เจ้าสามารถผสานวิชาทั้งหมดของเจ้า เปลี่ยนมันให้กลายเป็นวิชาที่แตกต่างกันนับสิบล้านอย่าง หรือผสานทั้งหมดให้เป็นหนึ่งเดียวก็ยังได้!”

ปรมาจารย์เต๋าความฝันเอ่ยน้ำเสียงสงบนิ่ง หลังจากแสดงพลังอำนาจของวิชาประทับพลิกสวรรค์และวิชาโล่เงาแสง เขาไม่ได้ลดมือลง แต่กลับใช้มือขวาสร้างผนึกอัศจรรย์ชี้ใส่ความว่างเปล่า

ก้อนเมฆหนึ่งในนั้นถูกผลักออกไปอย่างรวดเร็วและล้อมรอบปลายนิ้วเปลี่ยนกลายเป็นก้อนสายหมอกและเริ่มหมุนวน

มันหมุนวนเร็วขึ้นจนสายหมอกหายไปเปลี่ยนกลายเป็นหยดน้ำสีขาวสะอาด หยดน้ำหมุนไปด้วยและก่อเกิดเป็นวังวน

ทว่าวังวนนี้เปลี่ยนไปอีกครั้ง จากนั้นกลายเป็นหยดน้ำสดใสอยู่เหนือปลายนิ้ว และหมุนเร็วยิ่งกว่าเดิม

หวังหลินใช้สายตาสังเกตทำให้เขาเข้าใจได้บางส่วน

วินาทีนี้หยดน้ำเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เกิดเสียงแตกร้าว หยดน้ำเปลี่ยนกลายเป็นผลึกน้ำแข็งที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน เสียงแตกร้าวนี้ไม่ด้อยกว่าเสียงสายฟ้าเลย ไม่นานนักที่ปลายนิ้วมีกระบี่น้ำแข็งปรากฏขึ้นมา!

กระบี่เล่มนี้ยาวเจ็ดนิ้วและกว้างสามนิ้ว ปลดปล่อยความหนาวเย็นสุดขั้ว ยามที่แสงอาทิตย์ส่องลงมา มันเรืองแสงสีสันสวยงาม!

จากก้อนเมฆ เป็นหมอก เป็นหยดน้ำและเป็นน้ำแข็งจนท้ายที่สุดกลายเป็นกระบี่น้ำแข็ง! ความคิดหวังหลินสั่นไหวในชั่วระยะเวลาอันสั้น ให้ความรู้สึกราวกับคว้าอะไรบางอย่างได้เลือนลาง

“แก่นแท้หมอกถูกเปลี่ยนไปด้วยวิชาเต๋าของข้า แสดงพลังของสองวิชาที่ใช้ผสานกัน!” ปรมาจารย์เต๋าความฝันมองไปยังหวังหลิน

หวังหลินสะบัดแขนขวาโดยไม่ลังเล สายลมทมิฬโหยหวนไปทั่วโลก มังกรดำแปดตัวปรากฏขึ้นมาพ่นสายลมเย็นที่สามารถปัดเป่าทุกชีวิตให้มอดดับ

“โอ้? หนึ่งในหกวิชาของจักรพรรดิเทพป๋ายฟ่าน เรียกขานสายลม! ถึงแม้มันจะไม่ใช่วิชาเต๋า แต่หากบ่มเพาะถึงจุดสูงสุด มันก็ยังทรงพลัง!” ปรมาจารย์เต๋าความฝันเกิดความประหลาดใจ

หลังจากเรียกขานสายลมเสร็จ หวังหลินสร้างผนึกขึ้นต่อโดยไม่หยุดชะงักและชี้ใส่มังกรดำเจ็ดตัว เหล่ามังกรร้องคำรามสั่นสะเทือนปฐพี เสียงดังสนั่นกึกก้อง เกิดแสงกะพริบและมีหยาดฝนปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า!

“อัญเชิญสายฝนของป๋ายฟ่าน!” ปรมาจารย์เต๋าความฝันขมวดคิ้ว ไม่คาดคิดว่าหวังหลินจะสามารถร่ายสองวิชานี้ได้จริงๆ เขาได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของ “ป๋ายฟ่าน” มาก่อนซึ่งเป็นผู้ปกครองแดนสวรรค์อัสนี วิชาของเขานั้นประสานกันได้ยากยิ่ง

‘เด็กคนนี้ฉลาดจริงๆ เขาต้องรู้ว่าข้าอยากช่วยเขาผสานสองวิชา ดังนั้นจึงนำสองวิชาที่ทรงพลังที่สุดออกมา…’ ปรมาจารย์เต๋าความฝันมองหวังหลินด้วยรอยยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้ม มือขวายื่นเข้าหาอวกาศ

มังกรดำเจ็ดตัวสั่นสะท้านในทันทีและบิดเกลียวกันเองจนกลายเป็นวังวนยักษ์ที่ดูดซับหยาดฝนทั้งหมดภายใน

เสียงสายฟ้าดังสนั่นต่อเนื่อง วังวนขยายขนาดขึ้นและใหญ่ขึ้นจนกระทั่งคล้ายจะทับกับท้องฟ้าไปหมด

“ด้วยความเข้าใจของข้า เป้าหมายของวิชาเรียกขานสายลมและอัญเชิญสายฝนของป๋ายฟ่านคือปกคลุมผืนฟ้าด้วยเรียกขานสายลมและปกคลุมผืนดินด้วยอัญเชิญสายฝน ปกคลุมฟ้าดินเพื่อก่อกำเนิดโลก! ผสานสองวิชาเข้าด้วยกันน่าจะเทียบเท่าการป้องกันของโล่เงาแสง!” ปรมาจารย์เต๋าความฝันสะบัดแขนขวา วังวนยักษ์ในท้องฟ้าร้องคำรามดังยิ่งกว่าเดิม จากนั้นมันก็เริ่มขาย

ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยสายลม พื้นดินถูกสายฝนเทกระหน่ำให้จมไป ไร้แสงจนมองไม่เห็นพื้นดิน ไม่มีแม้แต่พลังดั้งเดิม ราวกับถูกแยกไปอีกมิติและสร้างโลกของตัวเองขึ้นมา!

โลกใบนี้จะเล็กหรือใหญ่เทียบเท่าจักรวาลก็ขึ้นอยู่กับตัวเอง ทำให้มันเป็นการป้องกันอันทรงพลัง!

ขณะที่ปรมาจารย์เต๋าความฝันสะบัดแขนขวา โลกสั่นเทาและกลับคืนสู่ปกติ มีวังวนทรงกลมสีดำขนาดเล็กๆลอยอยู่ข้างกระบี่น้ำแข็ง

“ไม่ว่าเจ้าจะเข้าใจสามวิชานี้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเองแล้ว” ปรมาจารย์เต๋าความฝันก้าวไปข้างหน้าเปลี่ยนเป็นแสงสีฟ้า หลังจากเขาหายไปยังมีคำพูดส่วนหนึ่งที่เหมือนพูดกับตัวเองดังกึกก้อง

‘หากนางฟื้นคืนความทรงจำได้ ถึงแม้ข้าจะกลายเป็นคนทรยศต่อดาราจักรโบราณ แล้วอย่างไรเล่า?’ คำพูดเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เผยนิสัยของตนเองและเป็นคำตอบให้กับคำถามก่อนหน้านี้ของหวังหลิน…

รอบๆด้านเงียบกริบ โลกกลับคืนสู่ความสงบสุข ราวกับทุกอย่างก่อนหน้านี้เป็นแค่ภาพลวงตา เป็นแค่ความทรงจำ

หวังหลินไม่ได้รับรู้ถึงปลายทางของปรมาจารย์เต๋าความฝัน สายตาเขาจดจ้องไปที่กระบี่น้ำแข็งและวังวนทรงกลมสีดำ ความคิดจมดิ่งกับสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้น วิชาทั้งสามที่ปรมาจารย์เต๋าความฝันแสดงออกมากำลังแล่นวาบอยู่ใจความคิดอย่างรวดเร็วเพื่อยืนยันและทำความเข้าใจ

วันเวลาผ่านไป สามวัน เจ็ดวัน ครึ่งเดือน…หนึ่งเดือนผ่านไปโดยไม่รู้ตัว!

หลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน หวังหลินยังนั่งอยู่ที่เดิมไม่เคลื่อนไหว ดวงตาแดงฉานและเต็มไปด้วยความสับสนงุนงง ในความคิดมีคลื่นลูกใหญ่ดังสนั่นกึกก้อง หวังหลินกำลังทำความเข้าใจยอดวิชาทั้งสาม อย่างไรก็ตามถึงแม้ปรมาจารย์เต๋าความฝันจะสาธิตให้ดูและอธิบายด้วยตัวเอง มันก็ยังยากจะเข้าใจ

“ประทับผลิกสวรรค์…พลิกฟ้าดิน…” หวังหลินหลับตาเหมือนกำลังหลับ แต่ความคิดกำลังทำงานอย่างบ้าคลั่งเพื่อสรุปการเปลี่ยนแปลงเขตอาคมที่เกิดขึ้นในวิชานี้

หนึ่งเดือน สองเดือน…สามเดือนผ่านไป

หวังหลินนั่งอยู่บนยอดเขาเป็นเวลาสี่เดือนแล้ว วันเวลาผ่านไปมากกว่าร้อยคืนร้อยวันจนตอนนี้กลายเป็นฤดูฝน ท้องฟ้าไม่ได้เป็นสีฟ้าอีกแล้วแต่เป็นก้อนเมฆสีดำหม่น มีหมอกและสายฝนตกลงมาไม่หยุดหย่น สายหมอกทำให้โลกดูสลัวกว่าเดิม

หวังหลินนั่งอยู่ที่เดิมให้ฝนชะโลมลงบนร่างกาย แต่เขาไม่ได้สังเกตสิ่งอื่นใดเลย ถึงแม้ดวงตาจะหลับสนิททว่าความเหนื่อยล้าทำให้เกิดโลหิตสองสายไหลออกมาเหมือนหยาดน้ำตาและถูกสายฝนล้างออกไป การสรุปในความคิดหวังหลินมาถึงจุดขีดสุดทำให้เขารู้สึกเหมือนตนเองกำลังบ้า

ในวันนี้เองยามกลางคืนและสายฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง สายฟ้ากะพริบวูบวาบเป็นบางครั้งและส่องสว่างบนพื้นดิน เสื้อผ้าหวังหลินชุ่มโชก ร่างกายสั่นเทาราวกับภูเขากำลังสั่นไปพร้อมกับเขาด้วย

หวังหลินพลันลืมตาขึ้นมา แสงในท้องฟ้ากะพริบวาบ ขณะที่ส่องบนพื้นดิน จึงเผยแววตาหวังหลินให้เห็นไปด้วย

ดวงตาเขาแดงฉานอย่างสมบูรณ์ แต่ลึกลงไปภายในรูม่านตานั้นสะท้อนเป็นโลกออกมา ท้องฟ้า สายฟ้า พื้นดินและสายฝนทั้งหมดอยู่ภายในม่านตา สิ่งน่าประหลาดก็คือทั้งหมดกำลังเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ!

การเปลี่ยนแปลงยากจะสังเกตได้ พื้นดินในม่านตาเขาเอนเอียงและกำลัง…พลิกกลับหัว!

ยามที่โลกหมุนไป ดวงตาแดงฉานของหวังหลินจดจ้องไปยังโลกเบื้องหน้า ภายใต้สายตานี้โลกที่เต็มไปด้วยสายฝนจึงเริ่มบิดเบี้ยว ราวกับโลกภายนอกผสานกับโลกภายในดวงตาเขาและมันก็เริ่ม…เอนเอียง!!!

สายฟ้าดังสนั่นในท้องฟ้าและสายฝนยิ่งหนาแน่น ราวกับก้อนเมฆรับรู้ถึงอันตรายได้และต้องการปลดปล่อยสายฝนทั้งหมดให้รวดเร็ว ทว่าโลกภายในดวงตาหวังหลินเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ สายฝนในดวงตาเขาหยุดชะงักไปชั่วขณะ

วินาทีที่สายฝนหยุดชะงัก สายฝนในโลกจริงก็หยุดลงไปด้วย!

วินาทีนั้นดวงตาหวังหลินส่องสว่างเจิดจ้า ยกแขนขวาขึ้นมากดลงใส่ท้องฟ้าพร้อมกับเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า “พลิกสวรรค์!”

วินาทีนั้นโลกส่งเสียงคำราม โลกภายในดวงตาหวังหลินพลิกตาลปัตร ท้องฟ้ากลายเป็นพื้นดิน และพื้นดินกลายเป็นท้องฟ้า!

สายฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้าจึงถอยกลับและพังทลาย

นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกที่อยู่ในม่านตาเขา ซึ่งมันสะท้อนในโลกจริงที่เขากำลังมองอยู่ด้วยเช่นกัน!

ท้องฟ้าเต็มไปด้วยสายฟ้าพลันเปลี่ยนเป็นผืนดินและทุกอย่างกลับด้าน สายฝนพังทลาย ก้อนเมฆแยกสลาย สายฟ้าแตกกระจาย!

พื้นดินถูกแทนที่ด้วยท้องฟ้าส่งเสียงดังสนั่น หวังหลินลดแขนลง พื้นดินจึงกดทับลงไป!

หากมีใครมองไปที่พื้นดินที่อยู่บนฟ้า คงเห็นมหาสมุทรกลับหัวกลับหาง เมืองของคนธรรมดาและคนทั่วไปกำลังเดินอยู่ในสายฝน

พวกเขาเห็นอสูรตัวเล็กตัวน้อยอยู่ในป่าและอสรพิษกำลังเลื้อยผ่านแม่น้ำ แต่พวกมันดูเหมือนไม่รับรู้สิ่งนี้เลย!

หวังหลินดวงตาส่องสว่างชึ้น สัมผัสได้ชัดเจนว่าเมื่อประทับพลิกฟ้านี้บดกระแทกลงไป มันคงมีพลังอำนาจทำลายล้างโลกได้ ซึ่งแข็งแกร่งกว่าวิชาอื่นๆทั้งหมดของเขาหลายเท่า!

หวังหลินสะบัดแขนขวา พื้นดินไม่ได้บดขยี้ลงไปแต่กลับคืนสู่ปกติทันที ท้องฟ้ายังคงเป็นท้องฟ้า พื้นดินยังคงเป็นพื้นดิน!

‘นี่ไม่ใช่วิธีเดียวในการใช้ประทับพลิกสวรรค์! หากคิดว่าคนเป็นโลก เช่นนั้นเลือดเนื้อ โลหิตและผิวหนังก็คือท้องฟ้า ส่วนอวัยวะภายในคือพื้นดิน การพลิกพวกมัน หายนะของวิชานี้จะเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล!’ หวังหลินขบคิดเงียบๆชั่วครู่และระงับความสุขจากการเข้าใจวิชานี้ลงไป เขาหลับตาและเริ่มทำความเข้าใจวิชาที่สอง!

ตอนที่หวังหลินใช้ประทับพลิกสวรรค์ บนภูเขาฟ้านั้น มือของปรมาจารย์เต๋าความฝันหยุดชะงักบนพิณไปชั่วขณะ

‘คนที่มีห้าแก่นแท้ช่างน่าตกตะลึงจริง เขาสามารถเรียนรู้ประทับพลิกสวรรค์ได้ในเวลาแค่สี่เดือน…ข้าคิดว่าเขาคงใช้เวลาอีกหลายปีเสียอีก…’

…………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version