Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1680

Cover Renegade Immortal 1

1680. การค้นพบที่ไม่คาดคิด

สายลมทางซ้ายร้องหวีดหวิว เส้นขีดสีดำสายหนึ่งพุ่งเข้าหาเขา เส้นสีดำเหล่านี้คืออสูรยุงหลายหมื่นตัว ก่อเกิดเป็นภาพที่น่าตกตะลึงยิ่ง

อสูรยุงดุร้ายตัวหน้าสุดมีขนาดหลายพันฟุต ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อมันเห็นหวังหลิน ร่างกายจึงสั่นระริก

เสียงคำรามแหลมดังสนั่น มันพุ่งตรงเข้าหาหวังหลินจนเกิดเป็นสายลมปะทะใบหน้าดุจคมมีด

แค่การที่มันพุ่งมาก็ทำให้คนอื่นหวาดกลัวเกินพอแล้ว

เจ้าอสูรยุงคุ้นเคยกับร่างทรงพลังของหวังหลินอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงพุ่งหาด้วยความตื่นเต้น หวังหลินทำได้แค่ยิ้มออกมา เขามาด้วยร่างอวตาร ดังนั้นจึงไม่สามารถต้านทานการเข้าสวมกอดอย่างรุนแรงของมันได้

หวังหลินยกแขนขวาและเลื่อนไปข้างหน้าเบาๆ เกิดเป็นระลอกคลื่นดังลั่นและล้อมรอบอสูรยุง จนมันต้องชะลอตัวลง

เจ้าอสูรยุงส่งเสียงร้องหึ่งอย่างตื่นเต้น จะงอยปากเริ่มลูบไล้หวังหลิน ท่าทีของมันดูคิดถึงเป็นอย่างยิ่ง

หวังหลินเป็นเจ้านายมันแต่เป็นเหมือนครอบครัว ความคิดนี้ฝังไว้ในส่วนลึกของวิญญาณมันและไม่เคยจางหาย

ขณะที่มันลูบไล้หวังหลินด้วยจะงอยปาก อสูรยุงส่งเสียงคราง ราวกับกำลังดุด่าหวังหลินว่าทำให้มันรอมาแสนนาน

หวังหลินหัวเราะและมีความสุขยิ่ง พริบตาเดียวเขาขึ้นไปยืนอยู่บนหลังเจ้ายุงและมองออกไป เห็นอสูรยุงหลายหมื่นรอบตัว บางตัวเห็นได้ชัดว่ารู้จักหวังหลิน แต่ก็มีบางตัวที่เข้าร่วมฝูงทีหลังยังมีสายตาสงสัย

จิตใจหวังหลินเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขหลังจากรวมกลุ่มกับราชายุงที่อยู่กับเขามาช้านาน หวังหลินอยู่คนเดียวมาค่อนชีวิต มีอสูรเพียงไม่กี่ตัวที่อยู่ด้วยกันและเจ้าอสูรยุงนี้อยู่กับเขามานานที่สุด

หวังหลินลูบหัวราชายุงและยิ้มขึ้น “เจ้าทรงพลังขึ้นกว่าเดิมมาก”

ราชายุงส่งเสียงคำรามและเผยท่าทีพอใจ มันส่งเสียงคำรามราวกับกำลังบอกเล่าถึงเรื่องราวร้อยปีที่ผ่านมา แต่น่าเสียดายที่หวังหลินไม่เข้าใจ ทว่าหวังหลินเห็นว่ามันโตขึ้น ผ่านไปสักพักจึงคาดเดาบางอย่างได้

“เอาหล่ะ พาข้าไปส่วนลึกของแดนสวรรค์วายุ!” หวังหลินยิ้ม

ราชายุงดวงตาส่องสว่างและมุ่งหน้าไป เคลื่อนที่รวดเร็วในชั่วพริบตา เหล่าอสูรยุงนับหมื่นตามกันไป กลายเป็นพายุอสูรยุงเคลื่อนพล

ความเร็วของราชายุงนั้นรวดเร็วยิ่งกว่าเดิมมากมาย ขณะที่หวังหลินยืนอยู่บนหลังมัน เขามองดูใกล้ๆ สายตาเผยอาการประหลาดใจ

แม้ในอดีตเจ้าอสูรยุงก็ไม่ได้อ่อนแอมากนัก แต่ในตอนนี้ความแข็งแกร่งของมันใกล้เคียงยิ่งกับเซียนขั้นที่สาม ทรงพลังเทียบเท่ากับเซียนขั้นทะลวงสวรรค์ระดับที่ห้า

การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ทำให้หวังหลินประหลาดใจครั้งใหญ่

ดูราวกับเจ้ายุงห่างอีกเพียงก้าวเดียวก่อนจะเปลี่ยนแปลงให้ทรงพลังน่ากลัวเหมือนเซียนขั้นที่สาม นี่มันเหนือกว่าสิ่งที่หวังหลินคาดคิด

‘มันไปเจอโชควาสนาอะไรกันถึงก้าวหน้าได้ขนาดนี้?’

ขณะที่หวังหลินกำลังขบคิด เจ้าอสูรยุงร้องคำรามพุ่งผ่านชิ้นส่วนมากมายไป มันคุ้นเคยกับที่นี่มากและพาหวังหลินเข้าสู่ส่วนลึกของแดนสวรรค์วายุอย่างรวดเร็ว

หวังหลินเคยมาที่นี่ครั้งเดียวและเห็นหมอกหนาตรงหน้าได้ทันที ข้างในหมอกมีรอยแยกขนาดยักษ์ซึ่งนำทางสู่สถานที่ไหนไม่ทราบ ทั้งยังเปล่งกลิ่นอายหนาวเย็น

ด้านล่างสายหมอกมีแผ่นดินหลายแห่ง หนึ่งในนั้นมีรูปปั้นรูปร่างมนุษย์อยู่ก่อนหน้านี้

แต่ในตอนนี้มันกลับไม่มีรูปปั้นนั้นแล้ว

ซากศพของอสูรยุงหลายหมื่นตัวเรียงรายอยู่บนยอดแผ่นดิน พวกมันลืมตาแต่ไม่มีแสงไฟ กลิ่นอายแห่งความตายเต็มไปทั่วร่าง

หวังหลินเห็นสิ่งนี้จึงหรี่ตาขึ้นมา

เจ้าราชายุงนำพาหวังหลินเข้าไปในหมอกและร่อนลงข้างซากศพ จะงอยปากแทงเข้าไปในซากศพและสูดเข้า ร่างกายของมันเรืองแสงสีทอง

อสูรยุงหลายหมื่นรอบตัว ไม่มีตัวใดกล้าเข้ามาดูดซับข้างหน้า

หวังหลินกระโดดลงและยืนอยู่ข้างซากศพอสูรยุงตัวหนึ่ง เจ้าอสูรยุงตัวนี้ตายมานานแล้ว แต่ร่างกายมันไม่เน่าเปื่อย ดูเหมือนมันจะเหือดแห้งแต่ยังมีแก่นของอสูรยุง

แม้จะตายไปแล้วแต่ยังเปล่งแรงกดดันทรงพลัง หวังหลินสัมผัสแรงกดดันนี้ได้ชัดเจนและมันยังคล้ายกับแรงกดดันที่เซียนขั้นที่สามปลดปล่อยออกมา!

หลังจากสังเกตการณ์เล็กน้อย หวังหลินเห็นร่องรอยที่ทำให้มันตายอยู่ตรงลำคอ บาดแผลมีสามรู แต่ละรูขนาดเท่าหนึ่งนิ้วมือ

หากไม่มองใกล้ๆคงยากจะสังเกตเห็นบาดแผลนี้

หวังหลินหรี่ตาแคบลงและเข้ามาใกล้รอยแผล เขามองมันอยู่นานก่อนจะแหย่สามนิ้วของตัวเองเข้าไปในสามรูนั้น

มันเหมาะเจาะกันอย่างยิ่ง รูขนาดเล็กสามรูถูกสร้างขึ้นจากสามดัชนีแทงทะลุเข้าไป!

‘วิชาอันใดกันถึงสามารถสังหารมันด้วยสามดัชนีได้?’ หวังหลินดวงตาส่องสว่างขึ้นมา เขาเคยเห็นเจ้าอสูรยุงตัวนี้มาก่อน มันเป็นอสูรยุงยักษ์ที่บินออกมาจากรอยแยก

ขนาดของมันแตกต่างจากก่อนหน้านี้ แต่กลิ่นอายเหมือนกันมาก

‘สามดัชนี…กลิ่นอายจากสามดัชนีที่หลงเหลืออยู่บนอสูรตัวนี้ช่างคุ้นเคย…ข้ารู้สึกเหมือนเคยเจอมันที่ไหนมาก่อน…’

เจ้าอสูรยุงด้านข้างหวังหลินถอนจะงอยปากออกจากซากศพยุงอย่างพึงพอใจมาก มันมองหวังหลินก่อนจะบินขึ้นไปในอากาศ ชี้ปากเข้าไปในรอยแยกขนาดยักษ์ในสายหมอก

หวังหลินเงยศีรษะ ดวงตาส่องสว่างพลางมองเข้าไปในรอยแยกนั้น ราชายุงส่งเสียงหึ่งและทะยานเข้าหารอยแยก หวังหลินก้าวเท้าติดตามมันไป ทั้งสองมาถึงขอบรอยแยกในเวลาเดียวกัน

แม้จะอยู่ในสายหมอก ความหนาวเย็นที่โผล่ออกมาจากรอยแยกได้ทำให้หวังหลินตื่นตัว เขาไม่ได้เข้าไปในทันที ความจริงแล้วหวังหลินไม่ได้มาที่แดนสวรรค์วายุเพื่อสำรวจรอยแยกนี้

อย่างไรในตอนนี้เขาอยู่ที่นี่และพบเจอซากศพยุงที่มีกลิ่นอายคุ้นเคยจากสามดัชนี หวังหลินเริ่มรู้สึกสงสัยต่อรอยแยกเสียแล้ว

อะไรอยู่ในรอยแยกนี้กันแน่?

เป็นครั้งแรกที่หวังหลินสังเกตรอยแยกขนาดยักษ์ใกล้ๆ หวังหลินค่อยๆ ค้นพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ ขอบของรอยแยกมีรอยหยัก แต่มีอักขระหลายอย่างบอกว่าพวกมันใช้เพื่อเชื่อมต่อกับชิ้นส่วนบางอย่าง

หวังหลินขบคิด พลันสะบัดแขนขวาปรากฏหินหยกหนึ่งขึ้นในมือ เขาบีบมันจนเกิดเสียงแตกร้าว หินหยกถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนและมีขอบไม่สม่ำเสมอไปตามรอยแตก

เมื่อวางเศษหินหยกสองชิ้นต่อกัน มันจึงสมบูรณ์อีกครั้ง จากนั้นหวังหลินใส่พลังส่วนหนึ่งเข้าไปในหินหยกเพื่อเชื่อมมันกลับเป็นเหมือนเดิม ตอนนี้เขาเห็นแต่เพียงรอยแตกละเอียดส่วนหนึ่งเท่านั้น

หวังหลินจ้องมองหินหยก ดวงตาส่องสว่างและบีบมันอีกครั้ง หินหยกแบ่งออกเป็นสองส่วนอีกรอบ บางส่วนที่ประกบติดไปแล้วได้ถูกแยกออกมา แต่มีขอบแตกใหม่เกิดขึ้นด้วย

หวังหลินถือหินหยก มองดูใกล้ๆ จากนั้นมองขอบรอยแยกอีกครั้ง ดวงตาเจิดจ้าขึ้นช้าๆ

‘มันคล้ายมาก…รอยแยกนี้ต้องถูกเปิดออกและจากนั้นถูกเชื่อมกลับเหมือนเดิม แต่ต่อมามันได้ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง ทำให้ขอบของมันได้รับการซ่อมแซม’

‘ครั้งที่สองที่ถูกเปิดอยู่ในช่วงการล่มสลายของแดนสวรรค์วายุ ทำให้มันเป็นสรวงสวรรค์ของเหล่าอสูรยุง…แล้วตอนแรกที่รอยแยกเปิด…ใครเป็นคนเปิด…’

เสียงหึ่งๆ ขัดจังหวะความคิดหวังหลิน เจ้าอสูรยุงกำลังบินร่อนอยู่ข้างนอกรอยแยกและดูเหมือนมันต้องการเข้าไปข้างในจริงๆ มันมองหวังหลินกลับมาด้วยท่าทีกระตือรือร้น

“ช่างมันเถอะ เราเข้าไปดูข้างในกัน” หวังหลินมองอสูรยุงและพยักหน้า เจ้าอสูรยุงส่งเสียงหึ่งๆ และจากนั้นบินเข้าไปในรอยแยก จากการเคลื่อนไหวของมัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันเข้าไปในข้างใน ดูเหมือนมันเข้าไปหลายครั้งแล้วตลอดหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา

หวังหลินยกเท้าขึ้นแต่ก็ระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ความระมัดระวังนี้อยู่กับเขามาตลอดชีวิตและไม่ลดลงแม้จะมีระดับบ่มเพาะเพิ่มขึ้น ยิ่งระดับบ่มเพาะเพิ่มขึ้นก็ยิ่งเข้าใจความลึกลับของโลกใบนี้

หลังจากเข้าไปในรอยแยก กลิ่นอายหนาวเย็นห่อหุ้มรอบตัวหวังหลิน ดวงตาพลันหรี่แคบและกระตุ้นระดับบ่มเพาะขึ้นมา หวังหลินไม่ได้แผ่กระจายสัมผัสวิญญาณแต่กวาดสายตาออกไป

เพียงคราเดียวเขาก็แข็งค้าง สายตาเปล่งประกายเจิดจ้า

ข้างในรอยแยกคือโลกส่องสว่างที่มีวงรีเรืองแสงจำนวนมาก ทรงรีพวกนี้คือไข่อสูรยุงนับไม่ถ้วน!

ไข่ยุงเต็มไปทั่วบริเวณ เป็นอสูรยุงที่กำลังรอการตื่น แค่ชำเลืองสายตาดู มีเป็นหลักล้าน

ยิ่งลึกเข้าไปยิ่งมีไข่มากขึ้นและกว้างใหญ่กว่าเดิม มีแม้กระทั่งไข่ขนาดหลายพันฟุต อสูรยุงข้างในเปล่งแสงสีทอง พวกมันเป็นรูปเป็นร่างอย่างสมบูรณ์และดูเหมือนพร้อมตื่นแล้ว

ชั่วขณะที่อสูรยุงของหวังหลินเข้ามา มันส่งเสียงร่าเริงและพุ่งเข้าหาไข่ฟองหนึ่ง มันแทงจะงอยปากขนาดยักษ์เข้าไปและสูดทุกอย่างข้างในมา

ขณะที่หวังหลินมองดู เข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าอสูรยุงถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ทั้งหมดก็เพราะที่นี่!

‘ที่นี่มันอะไรกัน…’ หวังหลินแผ่กระจายสัมผัสวิญญาณออกมาพลางขบคิดเงียบๆ ขยายสัมผัสวิญญาณไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งห่อหุ้มทั่วบริเวณ

พอเห็นทั่วบริเวณแล้ว ยามนี้ดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง ก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัวและมองขึ้นไปทันที

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version