1683. เดินทางสู่การต่อต้านทวยเทพ
เสียงสนั่นกึกก้องขึ้นในหมู่ดาว ทั้งยังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แดนสวรรค์วายุขนาดใหญ่พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วภายใต้การควบคุมของหวังหลิน
หลังจากยึดดาราจักรอัญเชิญนทีกลับมาได้ เซียนอัญเชิญนทีบางส่วนที่อยู่ในดาราจักรทุกชั้นฟ้าจึงกลับมาบ้านเกิดในช่วงสามปีที่ผ่านมา พวกเขาคุ้นเคยกับที่แห่งนี้ดีและการฟื้นพลังที่นี่ก็ดีกว่า
แดนสวรรค์แห่งแสงของดาราจักรอัญเชิญนทีนั้นแตกต่างจากอีกสามแห่ง มันเปิดออกอย่างสมบูรณ์ ตราบใดที่เข้าไปยังทิศเหนือของดาราจักรอัญเชิญนที ก็จะเห็นแม่น้ำสีเงินเรืองแสงสว่าง
แม่น้ำสีเงินแห่งนี้คือแดนสวรรค์แห่งแสง!
หวังหลินเคยมาที่ดาราจักรอัญเชิญนทีอยู่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งเขาก็จะรีบเร่ง เขาเคยเห็นแม่น้ำสีเงินนี้เช่นกันและรู้ว่ามันคือแดนสวรรค์ แต่ก็ไม่เคยเข้าไป
แดนสวรรค์วายุพุ่งเข้ามาปรากฏตัวในดาราจักรอัญเชิญนที แรงกดดันทรงพลังของมันแผ่กระจายออกไปพร้อมระลอกคลื่น
แดนสวรรค์วายุเดินทางไปยังแม่น้ำสีเงินทางทิศเหนือก่อนจะค่อยๆ หยุดลง หวังหลินยืนขึ้นมองดูแดนสวรรค์แห่งแสง สองเท้าก้าวเข้าสู่แม่น้ำสีเงิน
แม่น้ำสีเงินมีเศษเสี้ยวแผ่นดินขนาดเล็กอยู่นับไม่ถ้วน แสงออกมาจากพวกมันจนก่อตัวเป็นสายน้ำสีเงิน
ย่างเท้าที่สาม หวังหลินก็ได้เข้าสู่แดนสวรรค์แห่งแสง จากนั้นก้าวออกมาจากแม่น้ำสีเงินด้วยท่าทีเหน็ดเหนื่อย สะบัดแขนให้ทั้งสายน้ำสั่นไหว สายน้ำสีเงินลอยเข้าหาแผ่นดินของแดนสวรรค์วายุและหมุนอยู่รอบมันอย่างช้าๆ
แผ่นดินของแดนสวรรค์วายุถูกห่อหุ้มด้วยแม่น้าสีเงิน มองดูไกลๆ ช่างงดงามยิ่ง
“การทำลายล้างของแดนสวรรค์แห่งแสงไม่อาจฟื้นคืนกลับมาได้ มันทำได้แค่เป็นเพียงสายน้ำคุ้มกันเพื่อแดนสวรรค์ในอนาคตเท่านั้น” หวังหลินถอนหายใจพลางควบคุมแผ่นดินของแดนสวรรค์วายุและแม่น้ำสีเงินให้จากไป
สถานที่แห่งที่สามที่เขากำลังจะไปคือแดนสวรรค์อัสนีในดาราจักรทุกชั้นฟ้า!
หวังหลินคุ้นเคยกับแดนสวรรค์อัสนีเนื่องจากมีหลายอย่างอยู่ที่นั่น ไม่นานนักแผ่นดินของแดนสวรรค์วายุที่ห่อหุ้มด้วยสายน้ำสีเงินจึงปรากฏตัวในดาราจักรทุกชั้นฟ้า
ระลอกคลื่นการปรากฏตัวของมันได้ถูกเซียนที่กำลังฟื้นฟูอยู่ในดาราจักรทุกชั้นฟ้าสังเกตได้ทันที ทั้งหมดสั่นเทาและแผ่กระจายสัมผัสวิญญาณออกไป จากนั้นตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น
ณ ทางเข้าแดนสวรรค์อัสนี สายฟ้าตรงประตูได้หายไปนานแล้วเนื่องจากหวังหลินดึงไปเมื่อหลายปีก่อน พอกลับมายังสถานที่คุ้นเคยแห่งนี้ เขาจึงก้าวเข้าไปในแดนสวรรค์อัสนีโดยไม่ลังเล
การพังทลายของแดนสวรรค์อัสนีนับว่ารุนแรงเกินไป แผ่นดินจำนวนมากถูกปรมาจารย์จงเฉินเอาไปแล้วและพอมีเรื่องราวหลายอย่างเกิดขึ้นต่อจากนั้น จึงเหลือแผ่นดินน้อยมาก
ทั่วทั้งแดนสวรรค์อัสนีตกอยู่ในสภาพทรุดโทรมและเต็มไปด้วยความอ้างว้าง ที่นี่ไม่มั่นคงราวกับสามารถแตกสลายรุนแรงได้ทุกเมื่อ
หวังหลินมองทุกอย่างเบื้องหน้าและถอนหายใจ
‘ที่นี่ใช้การไม่ได้แล้ว แดนสวรรค์อัสนีฟื้นคืนไม่ได้แล้ว’ หลังจากขบคิดชั่วขณะ หวังหลินส่ายศีรษะ ถอนสัมผัสวิญญาณและจากนั้นจึงกลับไป
ลึกเข้าไปในภายในแดนสวรรค์อัสนีซึ่งมีผีเฒ่าจางอยู่ ดวงตาเขาเผยแสงลึกลับ แม้แต่หวังหลินก็ไม่อาจจับสัมผัสตัวตนของเขาได้ แต่เขามองเห็นหวังหลินได้
‘รวบรวมแดนสวรรค์ทั้งสี่แห่ง…เขารู้มากแค่ไหน…เขาใช่คนที่สามหรือไม่…’ ผีเฒ่าจางขบคิด
เมื่อหวังหลินก้าวเดินออกไปจากแดนสวรรค์อัสนี ดวงตาเปล่งประกายที่มิอาจตรวจจับได้ ตอนที่สัมผัสวิญญาณแผ่กระจายออกไปครั้งแรก เขาไม่อาจสังเกตผีเฒ่าจางได้ แต่ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าข้างในร่างเคลื่อนไหวและปลดปล่อยพลังงานประหลาด ด้วยพลังงานนี้หวังหลินจึงสังเกตผีเฒ่าจางที่กำลังมองเขามาจากส่วนลึกของแดนสวรรค์อัสนี!
หวังหลินไม่ได้ลงมืออย่างวู่วามแต่ออกไปโดยไม่เผยอาการ
‘เขายังซ่อนตัวอยู่ที่นี่!!’ หลังจากออกมาจากแดนสวรรค์อัสนี หวังหลินเดินทางด้วยความเร็วสูงสุดเข้าหาแดนสวรรค์แห่งสุดท้าย แดนสวรรค์พิรุณแห่งดาราจักรฟ้ากระจ่าง!
หลายวันต่อมา หวังหลินยืนอยู่บนใจกลางของแดนสวรรค์ทั้งสี่ หวังหลินใช้เวลาน้อยกว่าครึ่งเดือนเพื่อรวบรวมแดนสวรรค์ทั้งหมดจนมีทรัพยากรมากพอให้สร้างแดนสวรรค์ขึ้นใหม่อีกครั้ง
หวังหลินมองดูอวกาศของดินแดนชั้นใน หลับตาลง ครู่ต่อมาพลันลืมตาขึ้นและชี้ไปที่อวกาศเบื้องล่าง
“แผ่นดินของแดนสวรรค์วายุจะทำหน้าที่เป็นรากฐานของแดนสวรรค์แห่งใหม่!”
หลังเอ่ยขึ้น แผ่นดินของแดนสวรรค์วายุได้ลอยออกไปจากเบื้องหลังหวังหลินเข้าหาตำแหน่งที่เขาชี้ มันปลดปล่อยแรงกดดันทรงพลังและมีพลังปราณสวรรค์เต็มไปทั่วบริเวณ
มันถูกวางตำแหน่งตัดขวางสี่ดาราจักร หากมันแบ่งด้วยดาราจักรดวงดาว แต่ละดาราจักรจะถูกจับจองพื้นที่มากกว่าสองในสิบส่วน
‘แดนสวรรค์แห่งใหม่ไม่ได้ใหญ่นัก แต่ฝุ่นผงของแดนสวรรค์พิรุณจะช่วยให้มันขยายตัวออก!’ หวังหลินสะบัดแขน ฝุ่นผงที่รวบรวมมาในแดนสวรรค์พิรุณได้ล่องลอยออกไป
เมื่อฝุ่นผงเข้าผสานกับแดนสวรรค์แห่งใหม่ ชั้นฝุ่นหลายชั้นร่อนลงไปจนเกิดเป็นฝุ่นหนาบนแดนสวรรค์แห่งใหม่
จังหวะนั้นหวังหลินยกแขนขวาขึ้นมาชี้นิ้วทั้งห้าใส่ท้องฟ้า ดวงตาเปล่งประกายและเกิดประทับฝ่ามือขึ้นบนท้องฟ้า
ประทับวิญญาณสงคราม!
มันกระแทกลงใส่แผ่นดินทันที ประทับฝ่ามือทรงพลังแต่ไม่มีพลังทำลายล้าง ทว่ามันเป็นแรงกดดันของฝ่ามือที่ใช้เพื่อควบแน่นฝุ่นผง เมื่อฝุ่นผงควบแน่นกัน แผ่นดินจึงเริ่มขยายตัวออก!
เสียงการขยายตัวดังสนั่นกึกก้อง มองไกลๆ มันมีขนาดใหญ่เกินจะเปรียบเทียบไปแล้ว!
‘แม่น้ำสีเงินของแดนสวรรค์แห่งแสงจะปกป้องแดนสวรรค์แห่งใหม่ แม่น้ำนี้เอาไว้แบ่งคนธรรมดาจากเหล่าเทพ ดังนั้นจึงไม่มีเซียนต่ำกว่าขั้นตัดวิญญาณเข้ามาได้ นี่คือกฎ!’ หวังหลินสะบัดแขนเสื้อ แม่น้ำสีเงินลอยออกไปล้อมรอบทั้งแผ่นดินและเปล่งแสงสีเงินเป็นประกาย
ด้วยอำนาจของแสงนี้ แดนสวรรค์แห่งใหม่จึงมีอาณาเขตเป็นของตัวเอง!
“ค่ายกลกงล้อ ทำให้แดนสวรรค์แห่งใหม่เป็นแกนหลักของค่ายกล ผสานกลิ่นอายดาราจักรโบราณมาไว้ที่นี่!” หวังหลินกัดปลายลิ้นและพ่นแกนโลหิตออกไป มันพ่นลงใส่ทั้งแดนสวรรค์แห่งใหม่และแม่น้ำสีเงิน
เมื่อโลหิตร่อนลงไป ค่ายกลกงล้อที่ล้อมรอบดินแดนชั้นในจึงกระตุ้นขึ้นทันที เงาของกงล้อยักษ์ปรากฏขึ้นเหนือแดนสวรรค์แห่งใหม่ มันทำการดูดซับกลิ่นอายของดินแดนชั้นนอกจำนวนมากและจากนั้นจึงเติมเข้าไปในแดนสวรรค์แห่งใหม่
‘ดินแดนแห่งนี้สร้างขึ้นมาแล้ว แต่มันเป็นเพียงแรกเริ่มเท่านั้น อย่างไรเสียข้าก็ไม่จำเป็นต้องไปกังวลถึงการเปลี่ยนแปลงในอนาคต… ตอนนี้สิ่งสุดท้ายคือการเชื่อมต่อวิญญาณของดาวเคราะห์เซียนทั้งหมดในสี่ดาราจักรเข้ามาที่แดนสวรรค์แห่งใหม่ จากนั้นพวกคนธรรมดาที่เลือกเป็นเซียนจะเข้าสู่แดนสวรรค์อีกครั้งเมื่อบรรลุขั้นตัดวิญญาณ!’
หวังหลินนั่งอยู่เหนือกงล้อมายาที่ลอยอยู่เหนือแดนสวรรค์แห่งใหม่
ขณะเดียวกัน เนื่องจากการกระทำของหวังหลินในช่วงครึ่งเดือนหลัง เหล่าเซียนดินแดนชั้นในจึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หวังหลินส่งข้อความของตัวเองออกไป ด้วยการที่มีฉิงหลินและคนอื่นๆ เซียนที่เหลืออยู่ซึ่งกระจัดกระจายตัวกันทั่วสี่ดาราจักรจึงมุ่งหน้าเข้าไปยังดาวเคราะห์และแผ่นดินทุกแห่งที่มีชีวิต
ค่ายกลของแดนสวรรค์แห่งใหม่ไม่ใช่สิ่งที่หวังหลินจะสามารถทำได้ตัวคนเดียว สิ่งที่เขาทำอยู่คือการสร้างแผ่นดินของมันขึ้นมา ความจริงแล้วปรมาจารย์หงซานและคนอื่นๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่พวกเขายังจำเป็นต้องฟื้นฟูพลังหลังจากสงคราม อีกทั้งหลายคนก็ไม่รู้ความลับของมิติแห่งนี้ว่าเป็นเพียงแค่ถ้ำ ดังนั้นจึงไม่สามารถมองเห็นอนาคตได้
มีเพียงหวังหลินที่รู้ทุกอย่าง เขาเข้าใจความหมายของความรับผิดชอบและมีบางอย่างที่เขาจำเป็นต้องทำ! หวังหลินรู้ว่าสงครามกับดินแดนชั้นนอกกำลังจะมาถึงจุดจบหรือมันจบไปแล้ว แต่ดินแดนชั้นในกำลังเผชิญหน้ากับการทดสอบที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
ไม่ว่าเขาจะผ่านการทดสอบนี้และนำทางผู้คนออกไปนอกถ้ำ หรือเขาจะล้มเหลวและพาทุกคนในถ้ำตาย ทุกชีวิตคงถูกทำลาย ผ่านไปอีกหลายหมื่นปีภายใต้อำนาจของเต๋าแห่งสวรรค์ ก็จะมีชีวิตใหม่เกิดขึ้นเหมือนเป็นวัฏจักร
บางทีสักวันหนึ่ง ผ่านไปอีกกี่ปีไม่ทราบได้ คงจะมีทารกชื่อหวังหลินถือกำเนิด
เซียนนับหมื่นที่เหลืออยู่จึงปรากฏตัวขึ้นทั่วทุกแห่งในครึ่งเดือนสุดท้ายทั่วสี่ดาราจักร พวกเขานำวิญญาณส่วนหนึ่งของดวงดาวออกมาและเคลื่อนที่หาดาวดวงถัดไป
สามวันสุดท้าย เซียนนับหมื่นกลับมาทีละคน ส่งเศษวิญญาณดาวเคราะห์ที่ดึงมา จากนั้นดวงวิญญาณจึงผสานเข้ากับแดนสวรรค์แห่งใหม่
เมื่อเซียนคนสุดท้ายกลับมา แดนสวรรค์แห่งใหม่จึงมีวิญญาณของดาวเคราะห์ทุกดวงในสี่ดาราจักร ตอนนี้เซียนทุกคนที่เกิดขึ้นใหม่จะสามารถมุ่งหน้ามายังแดนสวรรค์แห่งใหม่ได้เมื่อบรรลุขั้นตัดวิญญาณ
หลังจากเสร็จสิ้นเรื่องทั้งหมดนี้ วิญญาณดั้งเดิมที่หวังหลินแบ่งออกมาจึงกลับคืนสู่ร่างกาย เขาลืมตาขึ้นและคำนับฝ่ามือให้แก่เซียนดินแดนชั้นในนับหมื่นคนที่กำลังมองมายังเขา
“ข้ากำลังจะออกเดินทาง ไม่รู้ว่าข้าจะรอดหรือไม่ ข้าจะไม่ถือครองตำแหน่งจ้าวดินแดนปิดผนึก การคุ้มกันที่นี่ไว้สามปีและสร้างแดนสวรรค์แห่งใหม่ขึ้นมาคือสิ่งสุดท้ายที่ข้าได้ทำเอาไว้ ครานี้ข้ากำลังจะไป…ต่อต้านทวยเทพ!!”
“หากข้าสำเร็จ เหล่าเทพจะต้องล่มสลาย! หากข้าแพ้ ข้าก็แค่ตาย! ซือถู หากข้าตาย ข้าหวังว่าท่านจะเล่าสิ่งที่ข้าได้บอกท่านไว้กับทุกคน บันทึกไว้ในหินหยก วางไว้ทุกดาวเคราะห์ ใส่ไว้ในสมบัติทุกชิ้นและในแดนสวรรค์แห่งใหม่ด้วย แม้ทุกคนจะถูกทำลาย นี่ก็จะเป็นสิ่งที่แดนสวรรค์มิอาจทำลายได้ ส่งมอบให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสรู้ความจริง!!” หวังหลินมองด้านบนและทะยานจากไป
แผ่นหลังของเขาเต็มไปด้วยความโดดเดี่ยว!
เบื้องหลังคือเหล่าเซียนนับหมื่น รวมทั้งฉิงหลิน ปรมาจารย์หงซาน ซือถูหนานและคนอื่นๆ ทั้งหมดคำนับฝ่ามือให้แก่หวังหลิน