1682. คนนอก
‘เดิมทีข้าคิดว่ามันคือประตูไปสู่ถ้ำของราชันย์เทพสีรุ้ง… แต่ตอนนี้เห็นชัดว่ามันไม่ใช่ประตูแต่เป็นทางเดินที่คนอื่นเปิดขึ้น!’ หวังหลินจ้องประตูหินในระยะพันฟุตด้วยสีหน้ามืดมนพลางล่าถอย
ขณะที่เดินกลับมา ไข่อสูรยุงเปล่งแสงกะพริบวูบวาบจนทั่วทั้งถ้ำดูเลือนตา
‘ทางเดินแห่งนี้ไม่ควรมีอยู่ ใครสักคนต้องเปิดทางเดินขึ้นมาเข้าสู่ถ้ำของราชันย์เทพสีรุ้งโดยตรง…ใครเล่าเป็นคนเปิดทางเดินนี้…’ หวังหลินดวงตาส่องสว่าง สมองเริ่มทำงาน เขาค้นในความคิดอย่างรวดเร็วเพื่อหาเบาะแส
หวังหลินคาดเดาจากเบาะแส เริ่มสรุปสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อตอนนั้น!
‘ใครกันเล่า… เป็นเหลียนต้าวเฟยหรือไม่… หรือจะเป็นคนอื่น…’ หวังหลินถอยกลับไปยังจุดที่อสูรยุงกำลังดูดซับไข่ อสูรยุงไม่รู้ว่าหวังหลินคิดอะไรอยู่และยังดูดซับอย่างมีความสุข ร่างมันเปล่งแสงพลางย่อยไปอย่างช้าๆ
ขณะที่หวังหลินถอยกลับไปยังขอบรอยแยกและกำลังจะจากไป เขาพลันหยุดชะงักและมองขึ้นไป ในใจเกิดเสียงดังสนั่นพร้อมกับนึกอะไรได้บางอย่าง!
‘ที่เผ่าสายฟ้ากระจาย ข้ารู้ว่ามาว่าในอดีต มีกลุ่มคนลึกลับหนึ่งปรากฏขึ้น พวกเขาสวมชุดประหลาด มีวิชาและสมบัติที่คาดไม่ถึง… ตอนที่ข้าดูดซับสายฟ้านิรันดร์มาได้ ข้าเห็นความทรงจำของมันและภาพกลุ่มคนพวกนั้นอย่างเลือนลาง…’
‘รวมถึงแส้ฟาดวิญญาณ แส้นั้นคือสมบัติที่เป็นของพวกเขา ข้าคิดว่าจะไปดาวเคราะห์เบญจธาตุเพื่อตามหาหน่าต้าว[1]! ผู้นำของกลุ่มนั้นดูเหมือนหน่าต้าว!’
‘จากข่าวของเผ่าสายฟ้ากระจาย เซียนลึกลับพวกนั้นมาจากนอกดาราจักรโบราณ แต่ไม่มีอะไรพิเศษ เช่นนั้นพวกเขาคือเซียนจากแผ่นดินเซียนดารา!’ ดวงตาหวังหลินเปล่งประกาย ความคิดกระจ่างใสพลางวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง
เขาไม่ได้ยินคำพูดของคนในสำนักกุ้ยยี่ แต่ในขณะที่หวังหลินวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง จึงค่อยเริ่มไขว่คว้าหาความจริงได้ ความคิดบ้าๆ ผุดขึ้นในใจ!
‘ราชันย์เทพสีรุ้งแห่งสำนักเจ็ดเต๋าชิงเต๋าแห่งสวรรค์มาได้และละทิ้งคนรัก เขาผนึกสำนักเจ็ดเต๋าและรู้แจ้งเต๋าแห่งสวรรค์ในถ้ำนี้’
‘แต่การกระทำของเขาทำให้คนอื่นเกิดความสงสัย จนวันหนึ่งมีคนที่มีพรสวรรค์บนแผ่นดินเซียนดาราได้ใช้วิธีพิเศษเพื่อเปิดทางเข้าสู่ถ้ำของราชันย์เทพสีรุ้งโดยตรง!’
‘พวกเขาเดินทางผ่านเส้นทางนี้!!’
‘คนพวกนั้นคือเซียนลึกลับที่เผ่าสายฟ้ากระจายพบเจอ! พวกเขาไม่ได้ปรากฏขึ้นที่แรกในดินแดนชั้นนอกแต่เป็นแดนสวรรค์วายุ! แต่ไม่มีใครในแดนสวรรค์วายุรับรู้ถึงการปรากฏตัว!’
‘พวกเขาผนึกทางเดินแห่งนี้และละทิ้งแดนสวรรค์วายุไป บางทีคงได้ค้นหาดินแดนชั้นในแต่ท้ายที่สุดก็ออกไปจากค่ายกลดินแดนปิดผนึกและเข้าสู่ดินแดนชั้นนอก!’
‘จากนั้นอีกนานหลายปีพวกเขาก็หายตัวไป…สี่แดนสวรรค์ล่มสลาย ทางเดินถูกปิดผนึกเนื่องจากเกิดความเสียหายอย่างหนัก บางทีมันก็ไม่มั่นคงอยู่แล้ว มีโอกาสเป็นไปได้หลายอย่าง แต่ท้ายที่สุดกลับนำพากลุ่มอสูรยุงออกมาจากไหนสักแห่ง!’
‘อสูรยุงพวกนี้แพร่พันธุ์อยู่ในทางเดินและทำลายผนึกให้เปิดออก พวกมันพุ่งเข้าไปในแดนสวรรค์วายุและครอบครองที่นั่น!’
ภาพหลายอย่างปรากฏขึ้นในหัวหวังหลิน ทั้งหมดเป็นภาพที่เขาจินตนาการ เขามองปลายทางเดินและขบคิด
‘รอยแยกนี้จึงเปิดเป็นครั้งที่สอง!’
‘กระนั้น เห็นได้ชัดว่าคนพวกนั้นยังอยู่ในถ้ำและไม่จากไป ไม่เช่นนั้นประตูหินและทางเดินคงไม่อยู่ พวกเขาคงผนึกมันและทิ้งไว้เพื่อที่ไม่ให้ใครตรวจจับได้ในอนาคต…’
‘ในเมื่อพวกนั้นยังไม่จากไป แล้วไปอยู่ไหนกัน? ดาวเคราะห์เบญจธาตุ! พวกเขาคงยังไม่พบสิ่งที่ต้องการ บางทีสิ่งที่ต้องการนั้นคือสิ่งเดียวกับเซียนเต๋าสีรุ้งและผีเฒ่าจาง!’
‘ตั๊กแตนจับจักจั่น นกขมิ้นอยู่ด้านหลัง! คนพวกนั้นต้องมีความคิดแบบนี้แน่!’ หวังหลินเคลื่อนร่าง ยื่นแขนขวาเข้าหาเจ้ายุง เขากำลังจะพามันออกไปนอกรอยแยกด้วย
แต่ทว่าเหล่าอสูรยุงเผยสายตาฝืนๆ มองไข่ทั้งหมด มันส่งเสียงมาที่หวังหลิน
หวังหลินหันกลับมามองไข่ยุงนับล้านฟอง ดวงตาส่องสว่าง สะบัดแขนขวา สายลมพุ่งผ่านทางเดินทำให้ไข่หายไป พวกมันถูกเก็บไว้ในมิติเก็บของของหวังหลิน
ราชายุงส่งเสียงดีใจและไม่ฝืนใจที่จะออกไปอีก มันติดตามหวังหลินออกมานอกรอยแยก พอถึงแดนสวรรค์วายุ สายลมโหยหวน สายหมอกปกคลุมรอยแยกไปหมด
หวังหลินยืนข้างรอยแยก สองมือสร้างผนึก จากนั้นจับมือผสานให้ขอบรอยแยกสั่นเทา ไม่นานมันก็ปิดลงและหลอมรวมกลับเข้าด้วยกัน
หลังจากผนึกรอยแยกไป หวังหลินเริ่มสร้างผนึกจนกลายเป็นภาพพร่ามัว อักขระมากมายปรากฏร่อนลงใส่รอยแยก พริบตาเดียวรอยแยกถูกผนึกนับไม่ถ้วนห่อหุ้มไว้จนสมบูรณ์
หลังจากทำเช่นนี้ หวังหลินขบคิดเงียบๆ แต่ยังรู้สึกกังวล ยกแขนขวาขึ้นมา โลกส่งเสียงดังลั่น ศีรษะยักษ์ที่เขาได้มาจากสุสานโบราณ ซึ่งเคยใช้เพื่อสร้างใบไม้โบราณพลันปรากฏขึ้นมา
ยังมีต้นไม้เหี่ยวแห้งจำนวนมากอยู่บนนั้น แต่ก็มีใบไม้โบราณเติบโตขึ้นมากเช่นกัน สามปีก่อนตอนที่หวังหลินดูดซับรูปปั้นเผ่าโบราณทั้งหมดในแดนสวรรค์โบราณ เขาค่อยๆ ส่งพลังโบราณเข้าไปในพื้นที่แห่งนี้ ใบไม้โบราณที่เติบโตขึ้นมาเป็นผลลัพธ์ของคราวที่แล้ว
เพียงสะบัดหนึ่งครา ใบไม้โบราณที่สมบูรณ์หลายสิบใบลอยออกมาจากต้นไม้และเข้าสู่มือหวังหลิน เขาสะบัดแขนให้ใบไม้ร่อนลงใส่รอยแยกเพื่อผนึกทับไปอีกชั้น!
เช่นนั้นหวังหลินจึงรวบรวมใบไม้โบราณที่เหลืออยู่และวางศีรษะกลับเข้าไปในมิติเก็บของ เขาสะบัดแขนและจากไปพร้อมกับราชายุง
เมื่อรอยแยกถูกผนึก มันจึงหายไปอย่างไร้ร่องรอย สายหมอกรอบๆ บางเบาจนหายไปอย่างสมบูรณ์
หวังหลินลอยตัว ก้มศีรษะมองดูแดนสวรรค์วายุเบื้องล่าง ส่งสัมผัสวิญญาณออกมาปกคลุมทั่วทั้งแดนสวรรค์วายุ พื้นที่แดนสวรรค์ปรากฏขึ้นในใจ
การพังทลายของแดนสวรรค์ไม่มีหวนกลับ และเพราะมีเหล่าอสูรยุง การพังทลายจึงไม่ครบถ้วนดี แดนสวรรค์แห่งนี้จึงดีกว่าแดนสวรรค์พิรุณหรือแดนสวรรค์อัสนี
ส่วนแดนสวรรค์แห่งแสง หวังหลินไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน ดังนั้นจึงไม่รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
‘เช่นนั้นก็ใช้แดนสวรรค์วายุเป็นฐาน หากแดนสวรรค์แห่งแสงสมบูรณ์ดี ก็สามารถรวมกันได้เลย!’ หวังหลินสูดหายใจและยกแขนขึ้น ระดับบ่มเพาะขั้นวิญญาณดับสูญพุ่งออกไปจนห่อหุ้มทั้งแดนสวรรค์วายุ
เศษชิ้นส่วนของแดนสวรรค์วายุเริ่มรวมตัวกันจากทุกทิศทางราวกับมีพลังที่มองไม่เห็นกำลังผลักดันพวกมันเข้าหาใจกลาง!
ชิ้นส่วนแดนสวรรค์นับไม่ถ้วนส่งเสียงดังลั่น สายลมไร้ขอบเขตเริ่มพังทลาย อสูรยุงที่อาศัยอยู่ที่นี่มานานพลันบินขึ้นไปในอากาศ ทั้งหมดมองไปรอบๆ ด้วยสายตางุนงงและหวาดกลัว
“รวบรวม!” เรือนผมสีขาวของหวังหลินพลิ้วสะบัดในสายลม ยกแขนขึ้นมาปรบมือกันทันที! ด้วยระดับบ่มเพาะในตอนนี้ของหวังหลิน เขาสามารถทำให้เศษชิ้นส่วนแดนสวรรค์วายุรวมกันได้อีกครั้ง!
ระดับขั้นวิญญาณดับสูญระดับกลางถือว่าทรงพลังแม้แต่ในเซียนขั้นที่สามด้วยกันเอง ดินแดนชั้นในและดินแดนชั้นนอกมีระดับนี้น้อยมาก!
พื้นดินเริ่มสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง เสียงดังสนั่นกึกก้อง ยามนี้หากมองจากเบื้องบน แดนสวรรค์วายุราวกับกระจกแตกละเอียดที่มีเศษกระจกกำลังเคลื่อนเข้าหากันอย่างช้าๆ และผสานกลับเข้าด้วยกันในที่สุด
เมื่อพวกมันรวมตัวกัน จะเกิดแผ่นดินสมบูรณ์ขึ้น!
สายลมในท้องฟ้าพังทลาย ไม่มีเหลือร่องรอยทิ้งไว้ เหล่าอสูรยุงในอากาศนับไม่ถ้วนต่างก็ตัวสั่น พวกมันตรวจจับหวังหลินได้และมีพลังอันน่ากลัวโผล่ออกมาจากหวังหลิน
ตลอดหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา อสูรยุงมากมายถูกราชายุงของหวังหลินสังหาร พวกอสูรยุงทรงพลังทั้งหมดล้วนตายไปนานแล้วเมื่อหลายปีก่อน ตัวที่เหลือไม่ได้แข็งแกร่งพอจะสร้างปัญหาอันใดให้
หลังจากก่อร่างแดนสวรรค์วายุขึ้นใหม่ หวังหลินร่อนลงบนแผ่นดินและนั่งลง หลับตาแพร่กระจายสัมผัสวิญญาณ ผสานเข้ากับแผ่นดินและควบคุมให้มันลอยทะยานไปข้างหน้า
เสียงดังสนั่นกึกก้อง ภายใต้การควบคุมของหวังหลิน เขาได้นำพาแดนสวรรค์ออกไปจากโลกของมันและเข้าสู่ทะเลเมฆา!
แผ่นดินลอยเคว้งคว้าง เปล่งพลังปราณสวรรค์อันสง่างาม พลังปราณสวรรค์นี้แตกต่างจากบนแผ่นดินเซียนดารา มันถูกเพลิงนรกานต์เปลี่ยนแปลงและเป็นพลังปราณสวรรค์ที่เป็นของโลกแห่งถ้ำ!
นานมาแล้วจ้าวดินแดนปิดผนึกได้สร้างสี่แผ่นดินนี้ขึ้นมาเพื่อรวบรวมเพลิงนรกานต์ เป็นผลให้แผ่นดินของแดนสวรรค์สี่แห่งแตกต่างจากปกติ
เหล่าอสูรยุงที่อยู่บนแผ่นดินได้ถูกแรงกดดันของหวังหลินกดทับ ดังนั้นพวกมันจึงบินออกไปไม่ได้ ทำได้แค่เพียงสั่นเทาและเคลื่อนร่างอยู่บนแผ่นดิน
หวังหลินนั่งอยู่บนแผ่นดิน ดวงดาราส่งเสียงดังลั่น แม้จะหลับตาแต่สัมผัสวิญญาณควบคุมแผ่นดินให้ลอยเข้าหาดาราจักรอัญเชิญนที เขากำลังไปแดนสวรรค์แห่งแสง!
แดนสวรรค์แห่งแสงเป็นแดนสวรรค์แห่งเดียวที่หวังหลินไม่เคยไปมาก่อน สถานที่แห่งนั้นเปล่งแสงเจิดจ้ามากมายจนเป็นภาพสะท้อนงดงาม
[1] หน่าต้าว : คนที่หวังหลินขโมยกระเป๋าบนดาวซูซาคุ เขาเป็นคนบอกหวังหลินว่าผลึกดาวเคราะห์อาจจะช่วยทะลวงขอบเขตจวี่ได้