1707. ความคาดหวังจากแผ่นดินเซียนดารา
“ด้วยร่างปีศาจโบราณของข้า จงแยกวิญญาณปีศาจและก่อเกิดเป็นหยดโลหิต! เริ่มแยก!” หวังหลินยกแขนขวาเข้ากดใส่ร่างกายและส่งเสียงคำราม ร่างกายสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
ดวงตาซ้ายพลันหลอมละลายในทันที ความเจ็บปวดแสนสาหัสเข้าชโลมทั่วร่างกายจนหวังหลินต้องกัดฟันแน่น รู้สึกเหมือนส่วนหนึ่งในร่างกายกำลังโดนดึงออกไป หยดโลหิตหนึ่งหยดลอยออกมาจากดวงตาข้างซ้าย
หยดโลหิตขนาดเท่าเล็บนิ้ว ลอยเบื้องหน้าหวังหลิน ข้างในหยดโลหิตมี ปีศาจโบราณตัวเล็ก รูปร่างหน้าตาดูเหมือนหวังหลิน
“ด้วยร่างมารโบราณของข้า จงแยกวิญญาณมารและก่อเกิดเป็นหยดโลหิต! เริ่มแยก!” หวังหลินเอ่ยเสียงสงบนิ่ง แตกต่างกับสีหน้าที่เจ็บปวดโดยสิ้นเชิง
แขนขวาสร้างผนึกและกดทับลงบนร่างอีกครั้ง ดวงตาขวาเกิดเสียงปะทุก่อนจะแตกสลาย ร่างหวังหลินแห้งเหี่ยวอย่างรวดเร็วจนเหมือนโครงกระดูก
หลังจากตาขวาพังทลาย หยดโลหิตสีดำเต็มไปด้วยพลังมารมหึมาจึงได้ลอยออกมาข้างโลหิตปีศาจโบราณ ภายในโลหิตมีมารโบราณหน้าตาเหมือนกับหวังหลินตัวเล็กนั่งอยู่ข้างในเช่นกัน
“ด้วย…ร่างเทพโบราณของข้า หลอมละลายทุกอย่างและก่อเกิดเป็นหยดโลหิตเทพโบราณ!” ภาพทัศนวิสัยของหวังหลินพร่ามัวและไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ความเจ็บปวดเกินขีดจำกัดของเขาไปแล้วแต่เขาก็ยังอดทนต่อไป เขาต้องรอดชีวิตผ่านหายนะหยดโลหิตสวรรค์เผ่าโบราณนี้ไปให้ได้!
ร่างกายหลอมละลายอย่างรวดเร็ว ส่วนแรกที่ละลายคือสองแขนและสองขา จากนั้นทั่วร่างจึงห่อหุ้มด้วยหมอกโลหิต ทั่งร่างหายวับไปและกลายเป็นส่วนหนึ่งกับหมอกโลหิต
หมอกเคลื่อนไหวและควบแน่นอย่างรวดเร็ว ผ่านไปเจ็ดนาทีมันจึงก่อเกิดเป็นหยดโลหิตเทพโบราณ!
ตอนนี้จากมุมมองของร่างอวตารหวังหลิน ร่างดั้งเดิมของเขาหายไปแล้วอย่างไร้ร่องรอย เหลือเพียงหยดโลหิตสามหยดเท่านั้น!
สามหยดโลหิตลอยอยู่ที่นี่ ข้างในของโลหิตแต่ละหยดมีหวังหลินน้อยนั่งอยู่ ทั้งสามร่างลืมตาขึ้นมาและสามหยดผสานกันอย่างรวดเร็ว ไม่กี่อึดใจมันก็ได้กลายเป็นหยดโลหิตหนึ่งเดียว!
หยดโลหิตนี้คือแก่นแท้ของเทพโบราณ ปีศาจโบราณ และมารโบราณรวมอยู่ด้วยกัน! มันคือทุกสิ่งทุกอย่างของหวังหลิน!
แตกต่างจากโลหิตของเหล่าเทพ โลหิตนี้ไม่ได้เป็นสีทองแต่เปล่งแสงสีดำจนรอบด้านดูสลัว
เมื่อสามหยดโลหิตผสานกันเป็นหนึ่ง กลิ่นอายบัญชาโบราณแผ่กระจายออกมา หยดโลหิตมีร่องรอยแห่งกาลเวลาและเจตนาฝืนลิขิตฟ้าของเผ่าโบราณ มันพุ่งเข้าไปในท้องฟ้าและเลือนหายออกไปไกล
ไม่มีเซียนคนใดในโลกถ้ำที่สังเกตกลิ่นอายนี้ได้ เพราะกลิ่นอายนี้เป็นของ เผ่าโบราณ มันไม่ได้เป็นของเซียน!
กลิ่นอายที่ปรากฏขึ้นนี้เพื่อเรียกขานบัญชาโบราณ ขณะที่มันแผ่กระจายกลิ่นอาย ทุกคนที่มีสายโลหิตโบราณในโลกถ้ำจึงสัมผัสพลังได้
ณ ดินแดนชั้นใน ปีศาจโบราณในทะเลเมฆาที่ไม่ได้ตายจากการต่อสู้ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านั้นพลันลืมตาด้วยความตกตะลึง พอจับสัมผัสวิญญาณนี้ได้จึงจ้องออกไปไกล รู้สึกถึงการเคารพต่อกลิ่นอายนั้น
ณ รอยแยกล่องหนที่ล้อมรอบดาวตงหลินซึ่งพังทลายไปแล้ว มีสตรีผู้เป็น เทพโบราณนั่งอยู่ในนั้น นางลืมตาขึ้นมาด้วยความหวาดหวั่น ตกตะลึงไปชั่วขณะก่อนที่ร่างกายจะเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
“โลหิตสวรรค์เผ่าโบราณ”
ณ ดินแดนชั้นนอก ในสุสานโบราณ ต้าเสินยังไม่จากไปไหน เขาตัดสินใจพักอยู่ข้างในเพื่อทำให้มรดกของตัวเองสมบูรณ์พร้อม เขายังนั่งหลับตาอยู่ที่เดิม
หวังหลินมอบมรดกแห่งปัญญาที่เขาต้องการมาตลอด หลังจากผสานเข้ากับมันไปหลายปี บางทีเขายังเป็นต้าเสิน หรือบางทีเขาอาจจะปลุกตู่ซือขึ้นมา!
แต่ยามนี้พลันลืมตาขึ้นและหรี่ตาแคบลงในทันที
ณ แผ่นดินเซียนดารา พื้นที่ฝั่งใต้และตะวันออกเป็นของเหล่าเทพ ส่วนทางตะวันตกและทางเหนือเป็นของเหล่าบัญชาโบราณ เนื่องด้วยแผ่นดินเซียนดารากว้างใหญ่ มีเซียนหลายคนหรือไม่ก็บัญชาโบราณหลายคนก็ไม่เคยออกจากแคว้นของตัวเองเลย
ตอนนี้ ณ ส่วนหนึ่งทางทิศเหนือของแผ่นดินเซียนดารา มีเมืองยักษ์ลอยฟ้าอยู่เมืองหนึ่ง ขนาดของเมืองนี้ใหญ่เท่าโลกถ้ำหนึ่งแห่งจนมิอาจบอกได้ว่าปลายสุดขอบของเมืองอยู่ที่ไหน!
พื้นด้านล่างเมืองเป็นสีดำสนิท เป็นสถานที่ที่ไม่เคยได้เห็นแสงตะวัน มันคือคุกสำหรับจองจำเหล่าเทพของแคว้นโบราณ!
เมืองแห่งนี้มีหน้าที่ในการเป็นเครื่องมือสำหรับการปราบปราม ดังนั้นจึงมี เซียนสายโลหิตเทพหลายคนถูกกักขังไว้ที่นี่
ใจกลางของเมืองโบราณแห่งนี้มีรูปปั้นขนาดยักษ์ตั้งอยู่ มันใหญ่มากจนดูเหมือนค้ำจุนท้องฟ้าเหนือแผ่นดินเซียนดาราได้เลยทีเดียว แม้จะมองอยู่ไกลๆ ยังมองเห็น รูปปั้นนี้ได้!
รูปปั้นนี้คือชายวัยกลางคน ผู้มีสีหน้าท่าทางสมสง่าราวกับมองดูพื้นดินด้านล่าง สายตาของเขาราวกับมองทุกอย่างต่ำต้อย
ในสายตาเขา ท้องฟ้าแห่งนี้ พื้นดินแห่งนี้ เหล่าเทพพวกนี้มีค่าอันใดเล่า?
สองฝ่ามือเหยียดออกไปราวกับควบคุมทั้งแผ่นดินเซียนดารา ฝ่ามือขนาดยักษ์สองข้างราวกับมีพลังอำนาจทำลายล้างทั่วทั้งแผ่นดิน!
มีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่บนแขนข้างซ้าย
ชายผมผู้นี้มีเรือนผมสีดำขลับ สวมผ้าคลุมสีดำ เรือนผมพลิ้วไสวในสายลม มองดูรูปปั้นเบื้องหน้าด้วยสายตาเคารพ
กลางหน้าผากของรูปปั้นนี้มีแสงเบาบางผุดขึ้นมาเมื่อไม่กี่วันก่อน แสงนี้เป็นสีแดงและแทบดูเหมือนโลหิต มันเป็นฉากอันน่าตกตะลึงจนทำให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงนี้ต้องจ้องมอง
ด้านหลังเขามีร่างหลายพันกำลังลอยตัวอยู่ ต่อจากนั้นก็อีกหลายแสนร่าง
แม้จะมีคนจำนวนมากแต่กลับไม่มีใครเปล่งเสียง ทุกสายตาจับจ้องไปบน ชายหนุ่มชุดดำและรูปปั้น
ผ่านไปสักพัก ชายหนุ่มผมดำดูคล้ายเอ่ยพึมพำกับตัวเอง “เวลาได้มาถึงแล้ว…”
ชั่วขณะนั้น ยักษ์สูงราวแสนฟุตจำนวนเก้าตัวก็กำลังเดินเข้ามาจากพื้นที่ห่างไกล ด้านหลังเป็นชายสวมชุดผ้าคลุมสูงศักดิ์ดูเหมือนรูปปั้นไม่มีผิดเพี้ยน ขณะที่เขาก้าวเดินเข้ามา สองฝ่ามือไพล่ไปด้านหลัง
ด้านหลังเขามียักษ์สูงแสนฟุตตามมาอีกเก้าตัว
รูปลักษณ์ของเขาทำให้เหล่าเซียนแคว้นโบราณนับล้านคนถึงกับโค้งคำนับ
“ขอคารวะ ท่านจักรพรรดิโบราณ!”
มีเพียงชายหนุ่มผมดำที่ไม่โค้งคำนับและยังมองรูปปั้นอย่างสงบนิ่ง
ชายหนุ่มชุดคลุมสูงศักดิ์ดูเหมือนไม่ใส่ใจ เขาก้าวข้ามผ่านคนนับล้านที่กำลังโค้งคำนับเข้าไปด้านข้างชายหนุ่ม พลางคำนับฝ่ามือด้วยรอยยิ้มและเอ่ยด้วยความเคารพโดยไม่ให้เสียเกียรติ
“เย่ซูขอคารวะมหาชั้นฟ้าซวนลั่ว”
ชายหนุ่มผมดำคือหนึ่งในเก้าตะวัน มหาชั้นฟ้าซวนลั่ว!
ชายหนุ่มผมดำเอ่ยขึ้นเบาๆ “ใกล้เวลามากแล้ว เจ้ามาสายไปเล็กน้อย”
“ข้าหวังว่าท่านมหาชั้นฟ้าจะยกโทษให้ จักรพรรดิจวี่และฉีต่างก็กังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่เป็นอย่างยิ่ง ข้ากำลังคุยกับสองท่านนั้นด้วยสัมผัสวิญญาณ” ชายวัยกลางคนถึงกับเผยรอยยิ้มและพยักหน้า
มหาชั้นฟ้าซวนลั่วพลางถอนหายใจเย็นเยียบ
“สามจักรพรรดิ จวี่ เต๋าและฉี เจ้าคือจักรพรรดิของอาณาจักรเต๋า ตอนที่เจ้าไม่ใส่ใจเรื่องคนอื่นมันก็มีเวลาอยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์สำคัญของอาณาจักรเต๋าของข้า พวกนั้นต้องกังวลใจถือเป็นเรื่องปกติ”
“ตามที่ท่านลุงกล่าว” ชายวัยกลางคนเปลี่ยนวิธีการเรียกชายหนุ่ม
หลังจากได้ยินชายวัยกลางคนเรียกเขาว่า “ลุง” ชายหนุ่มผมดำจึงมีท่าทีอ่อนลง
“ท่านลุง เรื่องนี้ประหลาดมาก ข้าสงสัยว่ามีโอกาสแค่ไหน?” จักรพรรดิเย่ซูมองรูปปั้นของบรรพชน ผู้ดูเหมือนเขา
ชายหนุ่มผมดำครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะเอ่ยตอบ “ทายาทของเย่โม่เป็นเรื่องบังเอิญ ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าแค่สัมผัสมันผ่านสายโลหิต ส่วนเขาจะได้รับการยอมรับจากบรรพชนโบราณหรือไม่ ข้าก็ไม่มั่นใจ”
“เขาคือทายาทของเย่โม่? นี่…เป็นไปได้อย่างไร?” จักรพรรดิเย่ซูตัวสั่นเทา แน่ชัดว่าเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยิน
“ตอนนั้น เย่โม่…” ก่อนที่เขาจะได้พูดจบ พลันถูกชายหนุ่มผมดำขัดขวาง
“เจ็ดวันก่อน รูปปั้นโบราณของเผ่าโบราณกลับเปล่งแสงโลหิตสวรรค์ เรื่องนี้ถือว่าปกติ แต่แสงโลหิตสวรรค์นี้ได้รวบรวมกันถึงเจ็ดวันและยังไม่ก่อตัว โอกาสแบบนี้หาได้ยากยิ่ง!”
“แม้แต่ข้าเอง แสงโลหิตก่อตัวเป็นเวลาเก้าวันเท่านั้น ข้าค้นทุกคนอย่างละเอียดด้วยสายโลหิตโบราณและพบว่าไม่มีใครที่ได้เริ่มหายนะโลหิตสวรรค์เผ่าโบราณเลยแม้แต่คนเดียว จากนั้นข้าจึงทำนายหาต้นตอ!”
“มันคือทายาทของเย่โม่!”
“หากเขาสำเร็จและหากสามารถมาที่แผ่นดินเซียนดาราได้ ข้าจะรับเขาเป็นศิษย์ของข้า ศิษย์ของข้าผู้เดียวเท่านั้น! การที่สามารถบรรลุถึงจุดนี้ในโลกถ้ำได้และสามารถออกมาได้นั่นหมายความว่าจะกลายเป็นคนที่ทรงพลังยิ่งในอนาคต! เป็นคนที่แข็งแกร่งต่อเผ่าพันธุ์โบราณของเรา!”
“หลังจากข้าไปเกิดใหม่ เขาสามารถช่วยคุ้มครองเผ่าพันธุ์โบราณได้! ข้าหวังว่าเขาจะทำสำเร็จ!” ชายหนุ่มผมดำเอ่ยพูดพลางมองดูรูปปั้น
เวลาผ่านไปช้าๆ แปดวัน เก้าวัน จนกระทั่งผ่านไปสิบสามวัน!
เหตุการณ์ยังคงเงียบสนิท สมาชิกเผ่าโบราณรอบด้านมองดูแสงโลหิตที่ล้อมรอบรูปปั้นอย่างขะมักเขม้นตลอดหลายวัน แววตายิ่งเกิดความคาดหวังมากขึ้น
ยามพลบค่ำของวันที่สิบสาม การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น!
แสงโลหิตกลางหน้าผากของรูปปั้นดูเหมือนได้มาถึงจุดสูงสุดและปกคลุมเกือบ ทั่วท้องฟ้า รอบด้านถูกห่อหุ้มด้วยแสงโลหิต ผ่านไปไม่กี่ลมหายใจ หยดโลหิต หนึ่งค่อยๆ ก่อตัวกลางหน้าผากของรูปปั้น!
ผ่านไปสักพัก หยดโลหิตที่สองยังไม่ปรากฏ!
“แค่หนึ่งหยดเท่านั้น?” จักรพรรดิเย่ซูถึงกับเผยแววตาดูถูกที่มิอาจสังเกตเห็น
ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น แต่คนของเผ่าบัญชาโบราณรอบด้านถึงกับเต็มไปด้วยความผิดหวัง พวกเขารอคอยมาสิบสามวันเพื่อเป็นพยานรู้เห็นปาฏิหาริย์ และไม่คาดคิดว่าจะเห็นเพียงแค่หยดเดียวเท่านั้น
ทว่าในจังหวะนั้น เสียงอุทานดังออกมาจากฝูงชน หยดโลหิตที่สองลอยออกมาจากกลางหน้าผากของรูปปั้น!
หลังจากนั้นไม่นาน หยดที่สามและสี่ลอยตามกันมาติดๆ!
“สี่หยด!!”
“สี่หยดจริงๆ!!”