1731. จ้าวแห่งเพลิง
ภายในวงแหวนทั้งห้า ฉากเหตุการณ์พร่ามัวอย่างสิ้นเชิงจนยากจะมองเห็นได้จากภายนอก พวกเขาเห็นแต่เพียงระลอกคลื่นบิดเบือนโผล่ออกมาจากวงแหวนเท่านั้น
หวังหลินอยู่ส่วนลึกในห้าวงแหวนและมีท่าทางสงบนิ่งมาก ในมือขวาถือกองดินที่กำลังเคลื่อนไหว มันเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปอย่างต่อเนื่อง
มันพยายามออกไปจากมือหวังหลิน แต่ท้ายที่สุดแล้วหวังหลินจึงกำหมัด ก้อนดินเท่าฝ่ามือแตกสลายและไม่สามารถก่อร่างขึ้นมาใหม่ได้ มันสูญสลายไปจากฝ่ามือ หวังหลินทันที
ก้อนดินถูกสร้างขึ้นจากธาตุปฐพีและมีร่องรอยของแก่นแท้ปฐพี หวังหลินเก็บมันใส่ในมิติเก็บของซึ่งมีก้อนดินสองก้อนแล้ว
อีกก้อนนั้นเทียนหยุนเป็นคนมอบให้!
‘ช่างคุ้มค่าแล้วที่มาจากแผ่นดินเซียนดารา ถึงกับนำจิตวิญญาณปฐพีมาใส่ในค่ายกล ผ่านไปอีกหลายหมื่นปีจิตวิญญาณอาจจะเติบโตเข้าสู่ร่างจิตวิญญาณปฐพีขั้นที่สามได้!’ หวังหลินดวงตาส่องสว่าง มองค่ายกลเบญจธาตุด้วยสายตาหลงใหล
หวังหลินสนใจค่ายกลนี้อย่างยิ่ง
‘ข้ามีแก่นแท้เพลิงที่อยู่ในเบญจธาตุ หากข้าได้อีกสี่ธาตุ ระดับบ่มเพาะคงจะเพิ่มขึ้นมหาศาล หากทั้งห้าธาตุผสานกันเป็นหนึ่ง ข้าสงสัยว่ามันจะกำเนิดเป็นแก่นแท้ใหม่ได้หรือไม่!’ หวังหลินยิ้มพลางมองค่ายกลเบญจธาตุ รอยยิ้มสว่างสดใส
หวังหลินไม่อยากพูดเรื่องศีลธรรมกับศัตรู โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้มาจากโลกถ้ำ ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง! หากอีกฝ่ายมีพลังอำนาจในการขังหวังหลินไว้ที่นี่ เขาคงยอมแพ้ แต่หากทำไม่ได้ เมื่อพวกมันมาปล้นหวังหลิน หวังหลินก็จะปล้นกลับไปให้โหดเหี้ยมยิ่งกว่า!
หลังจากเอาจิตวิญญาณปฐพีไป หวังหลินจึงก้าวเท้าต่อและปรากฏในโลกแห่งเพลิง
ทั่วโลกเต็มไปด้วยทะเลเพลิง หวังหลินเห็นท้องฟ้าเป็นสีแดง พื้นดินเป็นสีแดง ทุกอย่างเป็นสีแดงของเปลวเพลิง ท้องฟ้ากำลังเผาไหม้ พื้นดินก็เผาไหม้อยู่เช่นกัน ทัศนวิสัยพร่าเลือนเนื่องจากเกิดคลื่นความร้อนออกมา
ในความร้อนไม่มีสัญญาณชีวิต มีเพียงเปลวเพลิงเท่านั้น!
เปลวเพลิงมหึมาส่งเสียงดังคำรามเข้าสู่หูของหวังหลิน ทว่ามันกลับไม่มีผลกับเขา ความจริงแล้วหวังหลินกลับรู้สึกว่าที่นี่สะดวกสบายยิ่งกว่าข้างนอกเสียอีก
ณ ดาวเบญจธาตุ ชั้นใจกลาง ชายหนุ่มชุดดำและกลุ่มชายวัยกลางคนทั้งสี่เพิ่งจะระงับความหวาดกลัวในใจได้ พวกเขาจดจ้องกระจกและเห็นหวังหลินอยู่ภายในเปลวเพลิง
“แม้พลังของจิตวิญญาณเปลวเพลิงจะคล้ายคลึงกับจิตวิญญาณปฐพี ตัวเปลวเพลิงมีพลังในการเผาทำลายร่างกายและวิญญาณ แม้หวังหลินจะเอา จิตวิญญาณปฐพีไปได้ เขาจะต้องลำบากในค่ายกลเพลิงแน่นอน!” ชายชราชุดดำไม่รู้เรื่องแก่นแท้เปลวเพลิงของหวังหลิน เขาดูเหมือนกำลังพูดกับอีกสามคนรอบตัวหรือไม่ก็บ่นพึมพำกับตัวเอง
ความจริงแล้วไม่ใช่ความผิดที่พวกเขาไม่รู้ เพราะดาวเบญจธาตุปิดตัวเองจากภายนอกมานาน แม้แต่ตัวตนและระดับบ่มเพาะของหวังหลินก็รู้มาจากเซียนดินแดนชั้นนอกที่บังเอิญทะลุเข้ามาได้
พวกเขาไม่ได้รู้มากนักและส่งคนออกไปไม่กี่คนเพื่อสืบสาวหาความจริง พวกเขาเพียงแค่รู้เพิ่มขึ้นนิดหน่อยแต่ไม่ได้รู้เรื่องแก่นแท้ของหวังหลิน
“ใช่แล้ว จิตวิญญาณปฐพีนั้นนุ่มนวลและไม่ดุร้ายเท่าจิตวิญญาณเพลิง ข้ามั่นใจว่าเขาจะต้องถูกจิตวิญญาณเพลิงทำร้ายจนบาดเจ็บ!” สตรีวัยกลางคนมีสายตา เคร่งขรึม นางเกลียดซือถูหนานและเกลียดทุกคนที่รู้จักซือถูหนาน
อีกสองคนขบคิดเงียบๆ พวกเขามองกระจกด้วยสายตาหวาดกลัว ทั้งสองยังคงมีเหตุผลและไม่กล้าพูดอะไร
ภายในค่ายกลเพลิงมีเปลวไฟลุกโชน เมื่อหวังหลินเข้ามาถึง ทะเลเพลิงร้องคำรามและมีคลื่นเพลิงพุ่งใส่เขาทันที
มันเข้าไปใกล้และมีกิเลนเพลิงเก้าตัวปรากฏขึ้นมา เหล่ากิเลนเพลิงมีขนาดสูงหลายพันฟุตและสร้างขึ้นจากเพลิง พวกมันยังมีก้อนเปลวเพลิงหลายก้อนอยู่ใต้เท้า
กิเลนเพลิงทั้งเก้าตัวมีท่าทีดุร้าย พวกมันพุ่งเข้าหาหวังหลินจากเก้าทิศทาง กลายเป็นภาพอันน่าตกตะลึง! ทั้งยังมีคลื่นเปลวเพลิงมหึมาจากด้านหลังเหล่ากิเลน ทั้งเก้า ทำให้ดูน่าหวาดกลัวยิ่ง!
เซียนทุกคนบนดาวเคราะห์เบญจธาตุต่างก็เผยรอยยิ้มอำมหิต นอกจากกระจกที่ชายชราชุดดำกำลังใช้ดูแล้ว ยังมีวังวนหนึ่งอยู่ในท้องฟ้าด้วย วังวนนี้กำลังแสดงสิ่งที่เกิดขึ้นในค่ายกล
คงไม่พูดเกินจริงนักที่จะบอกว่าหวังหลินกำลังถูกคนหลายหมื่นคนรับชม เหล่าเซียนทั้งหมดโผล่ออกมาจากหอคอยและมองดูหวังหลิน
ชายชราชุดดำกำหมัดพลางมองกระจกเบื้องหน้าและเอ่ยขึ้น “ข้าอยากเห็นว่าเขาจะต่อต้านอย่างไร! คราวนี้จะต้องได้รับบาดเจ็บแน่นอน!”
ทว่าในจังหวะนั้น สีหน้าของชายชราพลันเปลี่ยนไปครั้งใหญ่ รวมถึงสตรี วัยกลางคนก็ร้องเสียงแหลมไปด้วย
“เป็นไปไม่ได้!! เขา…เขา…”
หลังจากนั้นไม่นานเหล่าเซียนทั้งหมดของสำนักกุ้ยยี่ที่กำลังรับชมวังวนในท้องฟ้าต่างก็อุทานเสียงดัง
ภายในค่ายกลเพลิง หวังหลินมองดูเหล่ากิเลนเพลิงทั้งเก้าตัวกำลังพุ่งมาหา พวกมันหยุดห่างจากหวังหลินไปร้อยฟุตด้วยสายตาสงสัยและในไม่นานก็เริ่มสั่นเทา พวกมันคุกเข่าอยู่บนพื้นและเริ่มอ้อนวอน
พวกมันดูไม่เหมือนกิเลนอีกต่อไปแต่เหมือนแมวน้อยตัวเล็กๆ ราวกับดูมีความสุขคล้ายกับได้เจอเจ้านาย!
แม้กระทั่งเปลวเพลิงด้านหลังยังหมุนรอบตัวหวังหลินอย่างมีความสุข ค่ายกลเปลวเพลิงแห่งนี้ส่งเสียงคำรามลั่นเพียงแค่หวังหลินสะบัดแขนขวา
เปลวเพลิงทั้งหมดในโลกนี้รวมเข้าด้วยกันอย่างบ้าคลั่ง พริบตาเดียวเหล่า เปลวเพลิงจึงก่อเกิดเป็นยักษ์เพลิงขนาดสูงหลายหมื่นฟุตเบื้องหน้าหวังหลิน เว้นแต่เพียงกิเลนเก้าตัวเท่านั้น!
เจ้ายักษ์สวมชุดเกราะเปลวเพลิงและมีผ้าคลุมเปลวเพลิงอยู่ด้วย ร่างกายปลดปล่อยสัมผัสอันทรงพลัง มันสร้างขึ้นจากเปลวเพลิงอย่างสิ้นเชิงแม้กระทั่งเส้นขน
หลังจากเจ้ายักษ์เพลิงปรากฏ มันคุกเข่าลงเบื้องหน้าหวังหลิน สองมืออยู่บนหน้าอก ใบหน้าเผยความเคารพอย่างสูงส่ง!
“เกิดแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร…จิตวิญญาณเพลิง…จิตวิญญาณเพลิงคุกเข่าเบื้องหน้าเขาจริงๆ!!!!!” ชายชราชุดดำในหอคอยถึงกับหน้าซีด ความคิดว่างเปล่า
รวมถึงหญิงสาววัยกลางคนก็หน้าซีดเช่นกัน นางอ้าปากแต่แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา นางมองหวังหลินผ่านกระจก สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวค้างอยู่แบบนั้น
ทั้งสองไม่ใช่กลุ่มเดียวที่ตกตะลึง เหล่าเซียนทั้งหมดในสำนักกุ้ยยี่ต่างก็มองดู ฉากเหตุการณ์เบื้องหน้าและเงียบสนิท
พวกเขาตกตะลึงตอนที่หวังหลินจับจิตวิญญาณปฐพีไปแล้ว แต่ตอนนี้ยังมาเห็นจิตวิญญาณเพลิงคุกเข่าต่อหน้าเขา หวังหลินเข้าไปยังไม่ได้เอ่ยคำพูดอันใดออกมา สักคำ เขาเพิ่งมายืนอยู่ที่นี่ ยืนอยู่เหมือนราชาที่เพิ่งกลับมายังอาณาจักรของตนเอง เพียงแค่สายตาก็ทำให้ทุกคนในแผ่นดินต้องคุกเข่าเบื้องหน้าเขาแล้ว
นี่มันเหนือจินตนาการและเกินกว่าความเข้าใจจนเกิดความหวาดกลัวและไม่สบายใจอย่างรุนแรง
หน่าต้าวและชายวัยกลางคนขบคิดอยู่ในชั้นที่สิบ หน่าต้าวหรี่ตาและมีสีหน้ามืดมนขึ้น ทั้งสองมองหน้ากันเองและเห็นแววตาหวาดกลัว
คนอื่นอาจไม่เห็นอะไร แต่ทั้งสองมองเห็น
หน่าต้าวเอ่ยขึ้น “แก่นแท้เพลิง!”
“อีกทั้งยังบรรลุระดับสูงสุดไปแล้ว ทำให้เขากลายเป็นจ้าวแห่งเปลวเพลิง! ไม่เช่นนั้นจิตวิญญาณเปลวเพลิงคงไม่เคารพเขาและคารวะเช่นนั้น!”
“ค่ายกลเบญจธาตุไม่สามารถรั้งเขาได้…”
“อย่างไรเสีย ดูเหมือนเขาไม่ได้มาเฉยๆ เสียแล้ว ข้าเห็นว่าเขามีเจตนาจะเอา จิตวิญญาณทั้งห้าไปด้วย!!” หน่าต้าวมีสายตาเยือกเย็น
“เราควรล่อเขาออกไป เราไม่สามารถสูญเสียอีกสามจิตวิญญาณได้!” ชายวัยกลางคนสูดหายใจลึกและยืนขึ้น เขามองออกไปนอกหอคอย
“ข้าขออัญเชิญเกราะสงครามแห่งบรรพชน!” ชายวัยกลางคนร้องคำราม จากนั้นลำแสงสีฟ้าพุ่งออกมาจากชั้นที่สิบ ลำแสงควบแน่นรอบตัวเขาก่อเกิดเป็นเกราะสีฟ้าน้ำทะเล
“ค่ายกลถัดไปคือค่ายกลวารี ข้าจะไปบังคับเขาออกไปจากค่ายกลเพื่อเข้าสู่เก้าโคจร” ชายวัยกลางคนยกแขนขวาขึ้นมายื่นใส่ความว่างเปล่า ปรากฏน้ำขึ้นและก่อเกิดเป็นหอกในมือ
“ช่วยข้าบังคับค่ายกล ข้าจะไปก่อน!” ชายวัยกลางกระชับหอกในมือและหายวับกลายเป็นไอน้ำ