Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1732

Cover Renegade Immortal 1

1732. ชื่อเขาคือ หวังหลิน

ด้านในค่ายกลเพลิง ขณะที่ยักษ์เพลิงโค้งคำนับ หวังหลินก้าวเท้าต่อไปอย่างสงบนิ่ง ยักษ์เพลิงยอมให้หวังหลินก้าวไปบนมือของมันและยกหวังหลินขึ้นเหนือศีรษะ หวังหลินก้าวออกไปจากมือและยืนอยู่บนศีรษะยักษ์เพลิงทันที

หวังหลินยกแขนขึ้นและชี้ไปข้างหน้า

เจ้ายักษ์ยืนขึ้นและร้องคำรามตรงจุดที่หวังหลินชี้ไป เสียงคำรามของมันทำให้กิเลนเพลิงทั้งเก้ายืนขึ้นและสั่นเทา แต่ละตัวมีท่าทีดุดันและร้องคำรามเช่นกัน

ผู้คนบนดาวเบญจธาตุต่างก็รู้สึกศีรษะด้านชา หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะในจุดที่ หวังหลินชี้ เพราะในสายตาของทุกคนนั้น จุดที่หวังหลินชี้ไปคือวังวน ชี้มาหาพวกเขา!

ทำให้เจ้ายักษ์และกิเลนทั้งเก้าร้องคำรามเสียงดังสนั่นใส่เซียนหลายร้อยคนที่ล้อมรอบหอคอย รวมถึงสี่คนที่กำลังมองดูจากกระจกด้านในหอคอยด้วย!

เหล่าเซียนหลายคนถึงกับถอยหลังโดยไม่รู้ตัว สีหน้าซีดเผือด เซียนที่มีระดับต่ำถึงกับมีโลหิตไหลออกจากปาก ถอยออกไปไกลและนั่งลง

เบื้องหน้าสายตาพวกเขา หวังหลินกำลังยืนอยู่บนศีรษะยักษ์และกิเลนทั้งเก้าที่ติดตามมา เจ้ายักษ์ก้าวเท้าและโบกแขน

โลกแห่งค่ายกลเพลิงพังทลายในทันที!

วินาทีที่มันพังทลาย ภาพในวังวนพลันเปลี่ยนไป สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าทุกคนคือน้ำทะเลกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา คลื่นทะเลร้องคำรามราวกับสวรรค์ส่งเสียง

ท้องฟ้าในโลกนี้มืดมนและเต็มไปด้วยก้อนเมฆ ไร้แสงไฟหรือสายฟ้าแต่กลับเป็นสายฝนกระหน่ำตกลงมา เป็นภาพเหตุการณ์อันน่าตกตะลึงยิ่ง!

เหนือทะเลมีคลื่นมหึมาส่งเสียงดังคำราม ชายวัยกลางคนหน้าตาหล่อเหลา เรือนผมสีดำ ถือหอกสีฟ้าปรากฏขึ้นเหนือคลื่น เขายกแขนขึ้นและสะบัด!

“ขุนพลเทพวารี!! นั่นมันท่านขุนพลเทพวารีของสำนักกุ้ยยี่ของเรา!!”

“ส่วนใหญ่ท่านขุนพลเทพวารีใช้เวลาไปกับการปิดด่านบ่มเพาะ ตอนนี้เขาปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว ผู้บุกรุกไม่รอดไปจากค่ายกลวารีแน่นอน!!”

“ขุนพลเทพวารีมีร่างวิญญาณวารีที่สมบูรณ์ เมื่อใดที่เขาอยู่ในค่ายกลวารี พลังจะเพิ่มขึ้นมหาศาล ผู้บุกรุกจะต้องตายอย่างน่าเวทนา!”

เมื่อชายวัยกลางคนปรากฏตัวขึ้น เหล่าเซียนสำนักกุ้ยยี่รอบด้านต่างรู้สึกถึงพละกำลังที่เพิ่มเข้ามาและเริ่มตื่นเต้น

ชายชราผู้อยู่ในขั้นชำระสวรรค์ระดับกลางถึงกับร้องคำราม

“สหายสำนักกุ้ยยี่ ตอนนี้มีคนมาล่วงเกินเรา เราปฏิบัติกับเขาด้วยความเคารพแต่เขากลับมีท่าทีโอหังเช่นนี้! เขาทะลวงค่ายกลของเรา กระทั่งขโมยจิตวิญญาณไป สองในห้าด้วยซ้ำ!”

“เขาคือผู้บุกรุก เราจะปล่อยเขาเข้ามาได้อย่างไร!?” ชายชราเอ่ยน้ำเสียงแหบพร่า สายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

“ใช่แล้ว เขาชื่อ หวังหลิน ข้ารู้จักเขาเพียงเล็กน้อย เขามีชื่อเสียงมากด้านนอกดาวเบญจธาตุและเป็นคนโหดเหี้ยมยิ่ง ที่ใดที่เขาไป ทุกชีวิตจะดับสูญ เขาจากไปที่ไหนจะไม่มีใครรอด!”

อีกคนก้าวออกมาร้องคำราม “ไม่นานมานี้ ข้าได้ยินเรื่องราวของตระกูลเถิงบนดาวเคราะห์เซียนดวงหนึ่ง เขาสนใจสมบัติจากตระกูลนั้นและทำการกวาดล้างทั้งตระกูลอย่างอำมหิต รวมถึงคนธรรมดาด้วย แม้แต่คนเฒ่าคนแก่หรือหนุ่มสาวก็ไม่เว้น โลหิตหลั่งไหลดุจสายน้ำ!”

“ข้ารู้มาว่าผู้อาวุโสหน่าต้าวผู้ใจดีของเราไปพบหวังหลินคนนี้ขณะที่กำลัง กวาดล้างคนธรรมดาและย่ำยี่เซียนสตรี ผู้อาวุโสเข้าไปแทรกแซงแต่ไม่ได้สังหารเขา อย่างไรก็ตามหลังจากระดับบ่มเพาะเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล แทนที่จะขอบคุณกลับเข้ามากวาดล้างดาวเคราะห์เบญจธาตุ เขาพูดว่ามาที่นี่เพื่อพบเจอผู้อาวุโสหน่าต้าว แต่แท้จริงแล้วเพื่อมาทำลายสำนักกุ้ยยี่ของเรา!!”

“เราจะปล่อยคนไร้ยางอายและน่ารังเกียจแบบเขาเข้าสู่ดาวเคราะห์เบญจธาตุได้อย่างไร! เซียนมารคนนี้ควรถูกทุกคนสังหาร การสังหารเขานั่นหมายถึงการช่วยเหลือคนหมู่มาก! ท่านทุกคน แม้ระดับบ่มเพาะของเราจะต่ำต้อย เรามีคนมากกว่าและ เขาก็แค่คนเดียว!”

คำพูดที่ว่ามานี้ดูเผินๆ ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ในไม่นานคนที่ไม่รู้จักหวังหลินจึงเริ่มเชื่อ พวกเขามองหวังหลินที่อยู่ในวังวนด้วยความโกรธและเกลียดชัง!

หวังหลินไม่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ แต่ถึงแม้ได้ยินก็ไม่คิดใส่ใจ ตอนนี้เขายืนอยู่บนศีรษะของเจ้ายักษ์เพลิง มันเดินออกมาจากค่ายกลเพลิง เบื้องหน้าคือทะเลอันกว้างใหญ่ที่มีสายฝนตกลงมาจากฟากฟ้า สายฝนตกลงใส่ยักษ์เพลิงและกิเลนทั้งเก้าตัวจนเกิดเสียงซี่ๆ

ในหมู่ธาตุทั้งห้า น้ำกับไฟไม่เคยเข้ากันได้ ในค่ายกลวารี เจ้ากิเลนทั้งเก้าจึงส่งเสียงคำราม

เบื้องหน้าหวังหลินมีชายวัยกลางคนผมสีดำยืนอยู่บนคลื่นทะเล เขาถือหอกสีฟ้าและสวมเกราะ สายตาจ้องมองหวังหลินอย่างเยือกเย็น

“หวังหลิน!!” วินาทีที่หวังหลินมองไป ชายวัยกลางคนพลันส่งเสียงร้องคำราม เขากระโจนขึ้นไปในอากาศ คลื่นทะเลผุดขึ้นใต้ฝ่าเท้า โผล่ออกมากระแทกเข้าใส่หวังหลิน

เสียงคำรามจากท้องทะเลเข้าห่อหุ้มรอบหวังหลิน จากนั้นกำแพงน้ำสี่ทิศปรากฏขึ้น ผนึกหวังหลินไว้ข้างในอย่างสิ้นเชิง!

ขณะเดียวกัน ชายวัยกลางคนผมสีดำจึงร้องคำรามและกระโจนขึ้นสู่อากาศด้วยหอกในมือ เขาแทงหอกใส่หวังหลินที่ถูกขังไว้ข้างในกำแพงน้ำ

ร่างกายขยับไปพร้อมกับหอกและเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงสีฟ้า ก้อนเมฆในท้องฟ้าหนาแน่นและมีสายฝนเริ่มตกหนัก สายฝนก่อตัวเป็นหอกวารีติดตามเขาจากด้านหลัง

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก กิเลนทั้งเก้าตัวด้านหลังหวังหลินส่งเสียงร้องคำรามและพุ่งเข้าใส่หอก แต่พวกมันก็ถูกคลื่นมหึมาเข้าท่วมในทันที

แม้กระทั่งร่างหวังหลินและเจ้ายักษ์เพลิงยังจมไปกับทะเล จากนั้นหอกวารีแทงผ่านเข้าไป

ขณะที่หวังหลินจมอยู่ใต้น้ำ หอกสายฝนได้แทงเข้าสู่น้ำมาด้วยเช่นกัน

ท้องทะเลร้องคำราม เสียงดังสนั่นกึกก้อง ก่อตัวเป็นคลื่นมหึมา!

หวังหลินและยักษ์เพลิงหายไปจากโลก สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือชายวัยกลางคน เรือนผมสีดำ หน้าตาหล่อเหลา!

ชายวัยกลางคนดูเยือกเย็นและเอ่ยขึ้นอย่างภูมิใจ “แค่ระดับบ่มเพาะเท่านี้… ข้าคือจิตวิญญาณวารี ดังนั้นในค่ายกลนี้ ข้าคือเทพ! แก่นแท้เพลิงของเจ้าไร้ประโยชน์ที่นี่!”

ขณะที่คำพูดเขาส่งเสียงดังกึกก้อง เหล่าเซียนสำนักกุ้ยยี่รอบหอคอยต่างก็ส่งเสียงเอาใจช่วย

“ท่านขุนพลวารีออกมาแล้ว ใครจะต้านทานได้!? ไม่ว่าเปลวเพลิงของมันจะทรงพลังแค่ไหน มันก็มอดดับเบื้องหน้าท่านขุนพลวารี!!”

“ขุนพลวารีบรรลุขั้นที่สามในตำนานแล้ว ผู้บุกรุกบัดซบนั่นจะต่อต้านได้อย่างไร?”

เสียงร้องจากเซียนรอบหอคอยระเบิดออกมา ชายวัยกลางคนดูพึงพอใจมาก พลันถือหอกในมือและร้องคำราม

“หวังหลิน เจ้าแค่บาดเจ็บเท่านั้น ออกมาเจอข้า!”

ทันทีที่เอ่ยจบ เสียงดังสนั่นออกมาจากทะเลเบื้องล่าง มันระเบิดขึ้นสู่อากาศ ม่านน้ำขัดขวางทัศนวิสัยของขุนพลวารี ทำให้เขากำลังจมดิ่ง

แต่ในจังหวะนั้น เสียงเย็นเยียบดังออกมาจากด้านหลัง

“ข้าอยู่นี่”

สีหน้าของขุนพลวารีเปลี่ยนไปมหาศาล เขาหันหน้ากลับไป หวังหลินก้าวออกมาจากน้ำ แขนขวาตีเข้าใส่อีกฝ่าย แก่นแท้ของหวังหลินและพลังโบราณพุ่งเข้าสู่ร่างของขุนพลวารี อวัยวะทั้งห้าพังทลาย กระดูกทั้งหมดแตกสลาย เลือดเนื้อทั้งหมดแทบแยกขาดออกจากกัน ขุนพลวารีกระอักโลหิตและถูกคลื่นกระแทกผลักออกไปไกล!

ร่างกายส่งเสียงปะทุ บนชุดเกราะเกิดรอยแตกร้าว ทว่าตัวเกราะไม่ได้พังทลาย! กลับเป็นพลังชีวิตจำนวนมากรั่วไหลออกจากชุดเกราะและช่วยเหลือขุนพลวารีให้ ฟื้นคืนจากอาการบาดเจ็บสาหัส

หวังหลินอุทานออกมาเบาๆ ก้าวเดินอย่างช้าๆ

“ชุดเกราะประหลาดมาก…เจ้าไม่ได้บรรลุขั้นที่สามแต่ด้วยชุดเกราะนี้ เจ้าถึงแสดงพลังของเซียนขั้นที่สามได้…อย่างไรก็ตามชุดเกราะเต็มไปด้วยข้อเสีย…เมื่อใดที่เจ้าสวมใส่ เจ้าไม่ได้ควบคุมเกราะ แต่เกราะกำลังควบคุมเจ้า” สายตาหวังหลินเต็มไปด้วยเส้นสายโลหิตจากแก่นแท้เขตอาคมจนทำให้ทุกอย่างที่เขาเห็นเปลี่ยนไป เขาสามารถมองเห็นความลับสุดยอดของชุดเกราะนี้ได้

คำพูดของเขาดูธรรมดามากแต่กลับทำให้ขุนพลวารีหวาดกลัวอย่างที่สุด

ณ ตอนนี้ด้านนอกห้าวงแหวน มหาชั้นฟ้าซวนลั่วผู้ลึกลับกำลังยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ตรงนั้น

พอเขาได้ยินคำพูดของหวังหลิน มหาชั้นฟ้าซวนลั่วจึงเผยรอยยิ้มเปี่ยมสุข

‘เช่นนั้นเด็กคนนี้มีชื่อว่าหวังหลิน เยี่ยม เยี่ยมมาก! เกราะของสำนักกุ้ยยี่มีชื่อเสียงมากแม้แต่บนแผ่นดินเซียนดารา! การที่เขาสามารถมองทะลุมันออกได้ ถือว่ายอดเยี่ยม!’

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version