1758. รอคมมีด
ตอนนี้ขุนพลเกราะขาวไม่สามารถหนีได้อีกแล้ว ที่นี่ไม่ใช่สนามรบจริงที่จะสามารถหนีไปไหนก็ได้และเกมกระดานคือ สนามที่สองฝั่งเข้าต่อสู้กัน
ในสนาม หากขุนพลล่าถอย กำลังใจของเหล่าทหารก็จะถดถอย หวังหลินพุ่งเข้าหาด้วยแรงเหวี่ยงมหาศาลจนไม่สามารถถอยได้อีกต่อไป!
หากเขาถอย นั่นหมายความว่าเขาหวาดกลัวหวังหลิน หากเขาถอยก็อาจไม่มีวันชนะ! อีกทั้งยิ่งหวังหลินสังหารมากขึ้น ยิ่งทรงพลังมากขึ้น!
แม้เขาจะสังหารได้เช่นกัน แต่หากล่าถอยตอนนี้ก็เทียบหวังหลินไม่ได้ในด้าน แรงเหวี่ยง!
“ฆ่า!!” ขุนพลเกราะขาวร้องคำราม ม้าสีขาวด้านล่างเขาจึงพุ่งทะยานเข้าหาหวังหลิน!
ณ ทางทิศตะวันออกของสนามรบไร้ขอบเขต พายุสีขาวและดำอยู่ห่างกันถึงหมื่นฟุต ทั้งสองพายุได้สังหารผู้คนไประหว่างทางเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบที่สุด!
เสียงกรีดร้องดังกึกก้องและเกิดการตายมากมาย พายุสีขาวและดำเข้าใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ!
ขุนพลพยัคฆ์ขาวในท้องฟ้ากำลังตกตะลึง สีหน้าเริ่มบิดเบือน ความคิดจิตใจ ดังสนั่นอยู่ในขุนพลเกราะขาว พยัคฆ์สีขาวเลือนลางปรากฏขึ้นด้านหลังขุนพล เกราะขาวทันที!
เจ้าพยัคฆ์ร้องคำรามใส่หวังหลิน!
แม้กระทั่งม้าขาวที่ขุนพลขับขี่ก็ได้เปลี่ยนกลายเป็นพยัคฆ์ขาว มันวิ่งไปพลางร้องคำรามเสียงดังลั่น
ตอนนี้ควันสีดำห่อหุ้มไปทั่วทั้งม้าและทั้งร่างกายหวังหลิน เรือนผมสีขาวพริ้วสะบัด ดาบสีดำในมือดูเหมือนปังตอ!
โลหิตสดๆ หยดลงมาจากปลายดาบ
“เจ้าเป็นพยัคฆ์แล้วอย่างไร? วันนี้ข้าจะสังหารมัน!” หวังหลินดวงตาส่องสว่างและเต็มไปด้วยความเย็นเยียบ ควบคุมควันสีดำรอบตัวก่อเกิดเป็นเงายักษ์
เงายักษ์นี้ไม่ใช่บัญชาโบราณเย่โม่ แต่เป็นบัญชาโบราณหวังหลิน!
ระยะห่างห้าพันฟุตลดลงเรื่อยๆ จนเหลือเพียงหนึ่งพันฟุตในพริบตา นี่เป็นระยะห่างที่สามารถตัดสินกันได้ในเสี้ยววินาที!
ตอนนี้ทั้งสองเข้าใกล้กันมากที่สุดแล้ว!
“ฆ่า!” ขุนพลเกราะขาวเงยหน้าขึ้นและส่งเสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์!
หวังหลินนั้นแตกต่าง เขาไม่ได้ร้องคำราม ม้าสีดำกระโจนขึ้นไปในอากาศ เขายกดาบและกวาดเป็นวงที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย แสงจากดาบคละเคล้ากับยามกลางคืนและตัดกับดวงจันทร์สีโลหิตด้านหลัง
หนึ่งฟาดฟันทำให้ท้องฟ้าเปลี่ยนสี ก้อนเมฆแตกกระจาย ท้องฟ้าพังทลายและรวมกันในดาบของหวังหลิน!
หอกของขุนพลเกราะขาวเปล่งแสงสีขาวแพรวพราวและแทงออกไปข้างหน้า เงาพยัคฆ์ขาวด้านหลังเริ่มเลือนลางและผสานกับหอก มองไกลๆ คล้ายกับไม่ใช่หอกแต่เหมือนพยัคฆ์ขาวกำลังกระโจนใส่!
ขณะที่พายุทั้งสองสีเข้าปะทะกัน เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วโลก สั่นสะเทือนผืนปฐพี สั่นไปทั่วท้องฟ้าและแผ่กระจายไปยังดาราจักรดวงดาว!
ดาบของหวังหลินปะทะเข้ากับหอกจนหอกพังทลาย พยัคฆ์ขาวส่งเสียงร้องโหยหวน ดาบหวังหลินเองก็แตกสลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยด้วยเช่นกัน
ม้าของทั้งคู่เข้าปะทะและส่งเสียงคำราม ศีรษะทั้งสองตัวระเบิดและแยกขาดจากกัน เปลี่ยนกลายเป็นควันสีดำและสีขาวแตกกระจายออกไปทั่วทิศทาง
อาวุธแตกสลาย ม้าสิ้นชีพทั้งคู่!
ทั้งสองกระโจนออกไปในเวลาเดียวกัน พอปะทะกันจึงเริ่มการต่อสู้ เสียงดังลั่นกึกก้องดุจคงอยู่ไปชั่วนิรันดร์ วินาทีต่อมามันยิ่งดังมากขึ้นราวกับโลกกำลังผ่าเป็นสองซีก!
ขุนพลพยัคฆ์ขาวในท้องฟ้าตัวสั่นเทาและกระอักโลหิต ทว่าใบหน้ายังคงดุดัน จิตสังหารเต็มเปี่ยม!
อย่างไรก็ตามหลังจากเขากระอักโลหิต จึงมองหวังหลินด้วยสายตาหวาดกลัว!
‘เขามีจิตสังหารทรงพลังขนาดนี้ได้อย่างไร?! ในชีวิตได้สังหารคนไปมากแค่ไหน!?’
ร่างดั้งเดิมหวังหลินในท้องฟ้าเองก็สั่นเทาเช่นกัน ใบหน้าซีดเล็กน้อย แต่ดวงตาเปล่งประกายยิ่งขึ้น มองไปยังขุนพลพยัคฆ์ขาวและเอ่ยเสียงดังกึกก้อง
“เจ้ากำลังแพ้!”
“ข้าพยัคฆ์ขาวจะไม่มีวันแพ้ นี่คือกฎที่ข้าตั้งเอาไว้ ข้าไม่มีวันพ่ายแพ้!” ขุนพลพยัคฆ์ขาวตีหน้าอกตัวเองและกระอักโลหิตอีกรอบ
ขณะที่โลหิตสาดกระจายไปรอบพื้น ชุดเกราะของขุนพลเกราะขาวจึงพังทลาย เขาฟุบลงบนพื้นไปพร้อมกับโลหิตที่ไหลทั่วร่าง โลหิตของขุนพลพยัคฆ์ขาวบนท้องฟ้าจึงร่อนลงไปผสานกับชุดเกราะสีขาว เขาร้องคำรามพลันลุกขึ้นและไม่สนใจหวังหลิน จากนั้นเริ่มสังหารทหารที่อยู่ใกล้ๆ
ทุกครั้งที่เขาสังหาร อาการบาดเจ็บจะฟื้นคืนเล็กน้อย ชุดเกราะพังทลายจะกลับมาใหม่!
หวังหลินเองได้กระเด็นกลับไปเนื่องจากการปะทะ ชุดเกราะรอบร่างกายพังทลาย เขาถอยไปมากกว่าหมื่นฟุต
ตอนนี้ขุนพลเกราะขาวกำลังสังหารเหล่าทหารโดยไม่สนใจว่าใครเป็นใคร พวกทหารที่ตายจึงเปลี่ยนกลายเป็นควันสีขาวเข้าผสานกับร่าง
ขุนพลเกราะขาวรู้สึกว่านี่ไม่มากพอ ร่างกายสั่นเทาและมีโลหิตหลายพันหยดไหลออกจากรูขุมขน หยดโลหิตเปลี่ยนกลายเป็นหมอก ทหารคนใดที่ถูกมันล้อมรอบจะหลอมละลาย จากนั้นหมอกโลหิตจึงเปลี่ยนเป้าหมาย
เป็นผลให้มีทหารจำนวนมากตายลง พวกเขาตายรวดเร็วยิ่งขึ้นจนท้ายที่สุดถูกสังหารไปเกือบแสนนาย!
ขุนพลเกราะขาวกระโจนขึ้นไป อ้าแขนออก กลิ่นอายเหล่าทหารที่ตายไปกว่าแสนคนรวมตัวเข้าหาเขา ชุดเกราะสร้างขึ้นมาใหม่ ม้าสีขาวปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทว่ายังไม่จบแค่นี้ หมอกโลหิตยังคงสังหารต่อไป!
หวังหลินไม่ได้ใช้วิธีเดียวกัน แต่ดวงตาส่องสว่างและจับจ้องไปยังขุนพลสีทองที่สร้างขึ้นจากชายวัยกลางคนจากดาวเบญจธาตุ!
พอขุนพลสีทองสบสายตาหวังหลิน เส้นขนบนร่างตั้งชูชัน เขาล่าถอยโดยไม่ลังเล แต่หวังหลินพุ่งกระโจนเข้าใส่ แขนขวากระแทกลงไป
ชายวัยกลางคนเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่ม ขุนพลที่เขาสร้างขึ้นมาจึงอ่อนแอที่สุดไปด้วย หากที่นี่ไม่มีกฎตั้งเอาไว้ หวังหลินคงใช้ความพยายามนิดหน่อยเพื่อสังหารอีกฝ่าย แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ใช้ร่างหลัก เขาเป็นเพียงร่างอวตารของคนธรรมดาที่สร้างขึ้นจากกฎ ดังนั้นจึงยุติธรรมเล็กน้อย
ชายวัยกลางคนไม่มีโอกาสต่อสู้กลับได้เลย ขณะที่หวังหลินทุ่มแขนเข้ามา ขุนพลสีทองส่งเสียงกรีดร้อง ชุดเกราะสีทองพังทลาย
วินาทีที่มันพังทลาย หวังหลินอ้าปากและสูดเข้าไป วิญญาณของหวังหลินคือวิญญาณกลืนกิน ดังนั้นร่างอวตารจึงมีความสามารถนี้เช่นกัน แม้ระดับบ่มเพาะจะถูกข่มเอาไว้ แต่ความสามารถของวิญญาณยังคงอยู่ เขาไม่สามารถกลืนกินขุนพล เกราะขาวได้ แต่เขาสามารถกลืนกินขุนพลสีทองที่อ่อนแอที่สุดได้!
ขุนพลสีทองกรีดร้องโหยหวนแต่ไม่ได้ส่งผลใหญ่โตอะไรในสงครามนี้ หลังจาก ถูกหวังหลินกลืนกินเข้าไป ร่างกายจึงห่อหุ้มด้วยควันสีดำ เกราะที่พังทลายก่อตัวขึ้นมาใหม่และทรงพลังยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า
คราวนี้มีหมวกเกราะสร้างขึ้นมาและห่อหุ้มศีรษะหวังหลิน เหลือให้เห็นเพียงเรือนผมสีขาวเท่านั้น กลายเป็นภาพสีตัดกับชุดเกราะดำอย่างงดงาม
เสียงมังกรร้องดังกึกก้องใส่ท้องฟ้า สิ่งที่ก่อตัวด้านล่างหวังหลินในคราวนี้ไม่ใช่ม้าแต่เป็นมังกรดำ ร่างกายสร้างขึ้นจากหมอก มันบินรอบหวังหลินพร้อมกับส่งเสียงคำรามใส่ขุนพลเกราะขาว!
ขุนพลเกราะขาวได้ยินเสียงคำรามและมองขึ้นไป ยื่นมือหาท้องฟ้าและมีหอกก่อตัวขึ้นมา หยดโลหิตนับพันรวมเข้าไปในร่าง พริบตาเดียวม้าด้านล่างเขาจึงบิดเบือนและกลายเป็นพยัคฆ์ขาวตัวใหญ่
เขายืนอยู่บนหลังพยัคฆ์ขาว ถือหอกไปพร้อมกับจิตสังหารรุนแรง พยัคฆ์ขาวกระโจนขึ้นสู่อากาศ มุ่งเป้าไปที่หวังหลิน!
หวังหลินยกแขนขวาขึ้นมา มีดาบขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น เขาขบคิดพลางให้ เจ้ามังกรดำพุ่งใส่พยัคฆ์ขาว!
การต่อสู้ครั้งนี้จะตัดสินผู้ชนะ!
ทั้งสองฝ่ายเข้าประชิดและปะทะกันอย่างรวดเร็ว พยัคฆ์และมังกรร้องคำราม ทั่วทั้งดาวเคราะห์สั่นเทาราวกับกำลังพังทลาย
ดาบของหวังหลินฟาดฟันลงไปและปะทะกับหอกของขุนพลเกราะขาว หลังจากขบคิดอยู่สักพัก หวังหลินร้องคำราม เงาบัญชาโบราณปรากฏขึ้นด้านหลังและมีดาบอยู่ในมือเช่นกัน
ขุนพลพยัคฆ์ขาวร้องคำรามด้วยความสิ้นหวังเนื่องจากหอกพังทลาย ชุดเกราะพังทลาย พยัคฆ์ขาวด้านล่างพังทลาย กลางหน้าผากมีเส้นโลหิตโผล่ขึ้นมาจากการโดนดาบของหวังหลินพาดผ่าน ร่างกายพังทลาย!
ขุนพลพยัคฆ์ขาวในท้องฟ้ามีสีหน้าซีดเผือดดุจคนตาย เขากระอักโลหิตและมีท่าทีมืดมน
“ตั้งแต่นี้ไป เจ้าคือทาสรับใช้ของข้า!” หวังหลินพลันยืนขึ้นและหรี่ตาแคบลง เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายรุนแรงที่กำลังใกล้เข้ามา จึงก้าวทะยานออกไป ทับซ้อนกับร่างที่สร้างขึ้นจากสัมผัสวิญญาณ
หวังหลินอ้าปากและกลืนกินกลิ่นอายของขุนพลเกราะขาว ร่างกายหวังหลินถูกห่อหุ้มด้วยควันสีดำ ในมือถือดาบเล่มยาว เขายกดาบขึ้นมาและจ้องมองไปบนท้องฟ้า สายตาหรี่แคบลงจนเพ่งพลังทั้งหมดไปยังจุดเดียว พลังแห่งกฎเข้าไปในดาบ!
ดาบเล่มนี้มีพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้! มันสามารถทำลายกฎที่ขุนพลพยัคฆ์ขาวตั้งขึ้นที่นี่ได้! ด้วยการใช้กฎของโลกนี้เข้าช่วยเหลือจึงกลายเป็นดาบทำลายล้าง!
หวังหลินกำลังรอคอยคนที่ทำให้เกิดความรู้สึกถึงสถานการณ์ความเป็นความตาย! ขณะเดียวกันแขนซ้ายหวังหลินสร้างผนึกเปลวเพลิงจนก่อเกิดเป็นร่มเพลิงคันเล็ก จากนั้นมันหายไปจากฝ่ามือ