1766. สำนักตงหลิน
ต้องขอบคุณที่สามารถใช้เหลียนต้าวเฟยเป็นโล่ พลังทำลายล้างจึงอ่อนลงจนถึงจุดที่หวังหลินสามารถใช้มรดกบัญชาโบราณเข้าต้านทานได้
ขณะที่เหลียนต้าวเฟยกลับไปหลับ หวังหลินรีบถอยร่นเข้าหาเหล่าตาปลาทั้งเก้า
หวังหลินเคลื่อนทะยานอย่างรวดเร็วพร้อมกับถือเหลียนต้าวเฟยที่กำลังหลับใหลไปด้วย พอเขามองไปทางพวกตาปลาจึงหรี่ตาแคบ
เขาเห็นพวกมันเหลือเพียงสี่ตัวเท่านั้น!
อีกห้าตัวหายไป!
หวังหลินไม่มีเวลาคิดมาก ดังนั้นจึงสะบัดแขนเสื้อจับตาปลาไปสามตัว ขณะที่กำลังจะจับตัวที่สี่ มันกลับหายไปต่อหน้าต่อตา
หวังหลินรู้สึกหนังศีรษะชาด้าน มองไปตรงจุดที่เจ้าตาปลาได้หายไป ตรงนั้นไม่มีสิ่งใด มีเพียงเสียงโลกที่ล้มเหลวกำลังพังทลายอยู่เท่านั้น
ซวนลั่วยืนอยู่ตรงนั้น มองหวังหลินที่กำลังประหลาดใจด้วยความระมัดระวังและเผยรอยยิ้มภูมิใจ พอเห็นสีหน้าหวังหลินจึงยิ้มกว้าง
แววตาหวังหลินกะพริบวาบโดยมิอาจสังเกตเห็น เขารู้ความลับเรื่องตาปลา เนื่องจากราชันย์เทพสีรุ้งได้ศึกษาจนค้นพบความลับของพวกมันในโลกที่ล้มเหลว สามร้อยใบแห่งนี้ หวังหลินค้นพบมันในความทรงจำของวิญญาณดวงที่สาม
หากมีตาปลาสองตัว หนึ่งตัวผู้และหนึ่งตัวเมีย พวกมันจะเกิดความสัมพันธ์เชื่อมต่อกัน การเชื่อมต่อกันนี้ยังคงอยู่แม้จะเข้าไปในมิติเก็บของหรือม่านพลัง การเชื่อมต่อคงอยู่ไปกระทั่งพวกมันจะตาย
หวังหลินรีบคิดทุกอย่างและถอยโดยไม่ลังเล
วินาทีนั้นผีเฒ่าจางที่ได้สติมาสักพักจึงก้าวออกไปจากสายหมอก
ผีเฒ่าจางมีสองทางเลือก หนึ่งคือ สังหารหวังหลินและเอาวิญญาณดวงที่สามมา หรือไล่ตามเซียนเต๋าสีรุ้งและใช้โอกาสที่มีเพียงครั้งเดียวในชีวิตนี้ตอนที่เซียนเต๋าสีรุ้งบาดเจ็บสาหัสเพื่อเข้าผสานวิญญาณ!
แม้การผสานจะไม่สมบูรณ์เนื่องจากขาดวิญญาณดวงที่สาม มันเป็นเพียงการเก็บไว้กับตัวเท่านั้นแต่ก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ แม้ระดับบ่มเพาะจะยังเหมือนเดิมแต่จะไม่มีใครชิงวิญญาณดวงที่สามไปจากเขาอีก!
ทั้งสองทางเลือกถือเป็นสิ่งล่อลวงต่อผีเฒ่าจางอย่างมาก หากเขาพยายามสังหารหวังหลินก่อน เขายังคงหวาดกลัวคันศรลี่กวง เขาไม่มั่นใจว่าหวังหลินยังใช้ได้อีกกี่ครั้ง หากเสียเวลามากเกินไป เซียนเต๋าสีรุ้งอาจจะฟื้นคืนพลังได้ ตอนนั้นมันจะไม่คุ้มค่า!
อย่างไรก็ตามเขาไม่ยอมปล่อยให้หวังหลินไปไหน! เขาต้องการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!
ความลังเลนี้คงอยู่เพียงชั่วขณะก่อนผีเฒ่าจางจะเดินออกมาจากสายหมอก วินาทีนั้นหวังหลินเอ่ยเสียงคำรามดังกึกก้องไปทั่วโลกที่ล้มเหลวสามร้อยใบ
“ผีเฒ่าจาง เจ้าคิดว่าข้าเหลือให้ยิงได้อีกกี่ดอก?” หวังหลินเอ่ยด้วยน้ำเสียงมืดมนพลางคว้าเหลียนต้าวเฟยและถอยเข้าไปในวังวน สายตายังคงจับจ้องผีเฒ่าจางอย่างเยือกเย็น
ภาพมายารอบผีเฒ่าจางนั้นพร่าเลือนแต่ก็มองเห็นหวังหลินได้ ถึงไม่ได้ไล่ตามก็ไม่รู้ด้วยว่าหวังหลินเหลือให้ยิงเกาทัณฑ์ได้อีกกี่ครั้ง เขาระมัดระวังอยู่เสมอและไม่ยอมเสี่ยง!
หวังหลินเลือกทำร้ายเซียนเต๋าสีรุ้งจนบาดเจ็บสาหัสแทนที่จะเป็นผีเฒ่าจางก็เพราะตามการวิเคราะห์แล้ว เซียนเต๋าสีรุ้งเจ้าอารมณ์กว่า อีกทั้งวิญญาณของเขาก็ได้มรดกเพียงแค่วิชา ซึ่งผีเฒ่าจางได้มรดกในด้านความเข้าใจ ดังนั้นเป็นไปได้ว่า ผีเฒ่าจางเป็นคนมีเหตุมีผลมากกว่า
หากเป็นเซียนเต๋าสีรุ้งที่ยังสภาพดี หวังหลินคงไม่สามารถตัดสินได้อย่างแม่นยำ แต่หากเป็นผีเฒ่าจางหวังหลินมั่นใจถึงแปดในสิบส่วน!
นี่เป็นผลลัพธ์ที่เขาพึงพอใจที่สุดจากการวางซุ่มโจมตีเจ็ดรูปแบบ หวังหลินไม่ อวดดีถึงขนาดคิดว่าสามารถสังหารเซียนเต๋าสีรุ้งได้ แต่เขาสามารถใช้โอกาสนี้แสดงพลังอำนาจของตัวเองได้!
หวังหลินได้สร้างความเสียหายแก่เซียนเต๋าสีรุ้งไว้หลายแห่งจนกระทั่ง ทำให้บาดเจ็บสาหัสก่อนที่จะล่อให้ผีเฒ่าจางลงมือ อีกด้านหนึ่งการที่เขาต่อสู้กับ เซียนเต๋าสีรุ้งได้ทำให้ผีเฒ่าจางไม่ลงมืออย่างผลีผลาม และเขายังเตรียมการ มอบของขวัญพิเศษให้แก่ผีเฒ่าจางอีก!
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าผีเฒ่าจางจะรับของขวัญนี้หรือไม่!
ความจริงแล้วถึงแม้แผนการของหวังหลินจะมีข้อผิดพลาด แต่กลับทำให้ผีเฒ่าจางลังเลมากขึ้น หลังจากหวังหลินหายตัวไป ผีเฒ่าจางดวงตาส่องสว่าง หันไปทางที่ เซียนเต๋าสีรุ้งวิ่งหนีและพุ่งเข้าหาด้วยสายตาที่มีความต้องการ
ราชันย์เป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างในระยะไกล ดวงตาส่องสว่างขึ้น เขามองเหตุการณ์ออกได้เลือนลาง จิตใจเต้นรัว ไม่กล้าย้ำเตือนผีเฒ่าจางแต่ก็เริ่มวางแผนของตัวเอง
เมื่อหวังหลินเข้าไปในวังวน โลกที่ล้มเหลวสามร้อยใบทั้งหมดพังทลาย หยดน้ำค้างบนดอกไม้สีเหลืองในเตาหลอมได้เปลี่ยนกลายเป็นควันและหายไป จากนั้นดอกไม้ก็ค่อยๆ แห้งเหี่ยว
หวังหลินไม่รู้ว่าคนที่เหลือมีชีวิตอยู่หรือตาย หลังจากหายตัวไปจากวังวน เขาก็หายไปจากดอกไม้แรกและปรากฏตัวอีกโลกหนึ่ง
โลหิตไหลย้อนออกมาจากมุมปากของหวังหลิน ใบหน้าซีดเซียว พลางเก็บ เหลียนต้าวเฟยกลับไป มองไปรอบๆ โดยไม่มีเวลาฟื้นพลัง
สถานที่แห่งนี้หมองหม่นแต่มีดอกไม้ดอกหนึ่งกำลังเปล่งแสงน่ากลัวและเยือกเย็น ความเยือกเย็นนี้ออกมาจากน้ำแข็ง!
ดอกไม้นี้คือ ดอกไม้น้ำแข็ง!
‘ห้าดอกไม้แปดประตู! นี่คือชื่อของกลไกป้องกันของแกนกลางโลกถ้ำ!’ หวังหลินจ้องมองดอกไม้น้ำแข็ง แม้จะไม่ได้มีข้อมูลจากวิญญาณดวงที่สามมากนัก เขาก็ยังรู้จักชื่อการป้องกันนี้
โลกที่ล้มเหลวสามร้อยใบคือ ดอกไม้แรก และโลกน้ำแข็งแห่งนี้คือดอกไม้ต้นที่สอง! บางทีดอกไม้ที่เหลืออาจจะได้รับความเสียหายหรือสูญสลายไปแล้ว แต่หวังหลินไม่สามารถมองออก ดังนั้นจึงไม่สามารถคาดเดาอะไรได้
ส่วนที่ถูกเรียกว่าแปดประตูนั้นอยู่ในดอกไม้ต้นสุดท้าย หวังหลินรู้มาจาก วิญญาณดวงที่สามว่ากุญแจการเปิดดอกไม้ต้นสุดท้ายคือความทรงจำที่มาจากวิญญาณดวงที่สาม
ท่ามกลางประตูทั้งแปด มีเจ็ดบานที่เป็นของปลอมและมีเพียงแค่หนึ่งบานเท่านั้นที่เป็นของจริง ประตูบานนั้นจะนำทางไปสู่แผ่นดินเซียนดารา เหตุผลที่อยู่ในดอกไม้ดอกสุดท้ายเป็นเพราะดอกไม้ต้นที่ห้าถูกผนึกไว้บนประตู
พอจ้องมองดอกไม้น้ำแข็งแล้ว หวังหลินเกิดอาการลังเลแต่ไม่นานก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ร่างกายผสานเข้ากับดอกไม้และค่อยๆ หายวับเข้าไปในน้ำแข็ง
เขาบาดเจ็บอยู่แล้วและเข้าไปในดอกไม้ที่สองโดยไม่ได้ฟื้นคืนพลัง พลังงานเย็นห่อหุ้มรอบตัว ร่างกายปรากฏขึ้นอีกครั้งในโลกน้ำแข็งและกระอักโลหิต
โลหิตสาดกระจายแต่กลับถูกแช่แข็งและตกไปบนพื้น หวังหลินเดินเซและล้มลงไปบนพื้น เงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ เขาเริ่มตกตะลึง
ที่นี่คือโลกน้ำแข็ง พื้นดิน ท้องฟ้าและกระทั่งก้อนเมฆล้วนถูกแช่แข็งทั้งหมด แผ่นดินที่ลอยอยู่เสมือนกับน้ำแข็งยักษ์
‘ดอกไม้ที่สองนี้มันคือสถานที่แบบไหนกัน…’ หวังหลินมีสีหน้าเคร่งเครียดพลางส่งสัมผัสวิญญาณออกไป เขาไม่มีข้อมูลอะไรเลยจากวิญญาณดวงที่สาม ขณะที่เปล่งสัมผัสวิญญาณ ดวงตาค่อยๆ เปล่งประกาย
ในโลกนี้มีพลังชีวิตจำนวนมาก พลังชีวิตที่อยู่ในโลกน้ำแข็งนี้ราวกับมันกำลังหลับใหล หวังหลินยังสัมผัสกลิ่นอายเทพโบราณอันคุ้นเคยที่นี่ด้วย!
ชั่วขณะต่อมา สีหน้าหวังหลินพลันเปลี่ยนไปและมองไปทางซ้าย กลิ่นอาย เทพโบราณที่ออกมาจากทิศทางนั้นรุนแรงมาก
หวังหลินระงับอาการบาดเจ็บและมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่สัมผัสกลิ่นอายเทพโบราณ ผ่านไปหนึ่งก้านธูปไหม้ หวังหลินหยุดลง ปล่อยให้สายลมเย็นตีใส่ใบหน้า
เบื้องหน้าหวังหลินไปแสนลี้มีโลกน้ำแข็งอีกแห่ง สตรีผมยาวผู้หนึ่งนั่งเผชิญหน้าหวังหลินอยู่โลกใบนั้น ตรงกลางหน้าผากมีดาวเทพโบราณเจ็ดดวงที่หมุนอย่างช้าๆ และเปล่งกลิ่นอายเทพโบราณ!
เทพโบราณสตรี!!
ผู้อยู่รอยแยกอวกาศนอกดาวตงหลิน!!
เปลือกตาสั่นระริกและลืมตาขึ้นช้าๆ นางมองออกไปอย่างสงบนิ่งและเห็นหวังหลิน สายตาของทั้งคู่ประสานกัน
“ยินดีต้อนรับสู่สำนักตงหลิน” นางเอ่ยขึ้นบางเบา น้ำเสียงไพเราะจับใจดังกึกก้องผ่านโลกน้ำแข็ง
หวังหลินขบคิดเงียบๆ ในระยะแสนลี้ นึกได้ว่าทำไมกลิ่นอายเทพโบราณถึงคุ้นเคยยิ่ง ตอนที่เขาสังหารบรรพชนตระกูลเซี่ยงบนดาวตงหลิน เขาก็สัมผัสกลิ่นอายนี้ได้
“ที่แห่งนี้คือดาวตงหลิน?” หวังหลินก้าวออกไป ใต้ฝ่าเท้าเกิดเสียงดังลั่น ข้ามผ่านระยะหมื่นลี้เพียงคราเดียวและอยู่ห่างจากเทพโบราณสตรีเพียงแค่พันฟุต
นางมองหวังหลินภายใต้สายตาสงบนิ่งและซ่อนแสงลึกลับจากดวงตาเอาไว้ หลังจากได้ยินคำพูดหวังหลินจึงส่ายศีรษะ
“ที่นี่คือสำนักตงหลิน ไม่ใช่ดาวตงหลิน”
“เราเคยเจอกันมาก่อน ข้าชื่อหวังหลิน ข้าสงสัยว่าแม่นางชื่ออะไร” หวังหลินมองนางโดยเฉพาะดาวเจ็ดดวงกลางหน้าผาก จากนั้นหวังหลินก็นั่งลง
นางเอ่ยขึ้นเบาๆ “ยุนนา เทพโบราณอาวุโสแห่งสำนักตงหลินภายใต้อำนาจราชันย์เทพ”
หวังหลินดวงตาส่องสว่างและเอ่ยถาม “ไม่ว่าที่นี่จะเป็นดาวตงหลินหรือสำนักตงหลิน ทำไมมันถึงคงอยู่ในดอกไม้ดอกที่สอง?”
“เจ้าเป็นคนแรกที่เข้ามาในโลกน้ำแข็งแห่งนี้จากทางเข้าในแกนกลางของถ้ำ ข้าสัมผัสถึงวิญญาณของนายท่านในตัวเจ้าได้…” นางเอ่ยเสียงเบา แต่พอหวังหลิน ได้ยินกลับมีจิตใจเต้นรัว
‘นายท่าน…’ หวังหลินไม่ได้เอ่ยอะไรขึ้นมาแต่มองยุนนาเพื่อให้นางพูดต่อไป
“ที่นี่คือดอกไม้ดอกที่สองในห้าดอกไม้แปดประตู ทุกสิ่งที่นี่นายท่านเป็นคนสร้างขึ้น รวมถึงข้าผู้มีหยดโลหิตหัวใจของเย่โม่ด้วย”
“ที่นี่คือสำนักตงหลิน และข้าถูกสร้างขึ้นจากความทรงจำของนายท่าน มันน่าจะเหมือนกันกับสำนักตงหลินบนแผ่นดินเซียนดารา”
“นายท่านของข้าคือราชันย์เทพสีรุ้ง ในช่วงต้นการบ่มเพาะของเขาได้เป็นศิษย์สำนักตงหลิน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างจึงถูกเตะออกมา จากนั้นก็สร้างสถานที่แห่งนี้ไว้เพื่อเอาไว้จดจำถึงสำนักเก่าของตัวเอง”
“ทุกสิ่งที่นี่ถูกหล่อเลี้ยงด้วยพลังชีวิตของนายท่าน เมื่อเขาตาย ทุกอย่างที่นี่จะสูญเสียพลังชีวิตและถูกแช่แข็ง”
“เจ้าเป็นคนแรกที่เข้ามาที่นี่ และเจ้ามีวิญญาณของนายท่าน ดังนั้นเจ้าคือเจ้าของที่แห่งนี้” ยุนนาเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยนพลางมองไปที่หวังหลิน
“เจ้าบาดเจ็บ…ข้ามีหยดโลหิตหัวใจส่วนสุดท้ายของเย่โม่ เมื่อเจ้าผสานกับมัน เจ้าก็จะสมบูรณ์และสามารถใช้มันฟื้นฟูพลังได้…”