1765. ต้าวเฟยปรากฏตัว
วินาทีที่เกาทัณฑ์ดอกที่สองพุ่งทะยานไป แสงสีทองในตาหวังหลินพังทลายราวกับมันกำลังแตกสลาย ทว่าในจังหวะนั้นหวังหลินบังคับให้มันก่อตัวขึ้นมาใหม่จนเหลือเพียงเศษเสี้ยว
เศษเสี้ยวนี้คือ พลังสายโลหิตเทพส่วนสุดท้ายของเขา
หวังหลินกังวลว่าคนอื่นจะเห็น ดังนั้นจึงหลับตาตอนที่ยิงเกาทัณฑ์ดอกที่สองไป
หวังหลินเข้าใจว่ายังมีพลังให้ยิงได้อีกดอก แต่นั่นคงเป็นดอกสุดท้าย!
เกาทัณฑ์พุ่งออกไปจนโลกสั่นสะเทือน อวกาศที่ห่อหุ้มราวกับผ้าไหมที่กำลังแตกสลาย เซียนเต๋าสีรุ้งร้องคำราม เหล่าตาปลาทั้งแปดที่ลืมตามาได้ทำให้เขาตกตะลึง พอเกาทัณฑ์ดอกที่สองของหวังหลินพุ่งออกไป เซียนเต๋าสีรุ้งยิ่งตกตะลึงกว่าเดิมและระเบิดระดับบ่มเพาะออกมา
แสงสีรุ้งแผ่กระจาย ม่านแสงเจ็ดชั้นเจ็ดสีโผล่ขึ้นมาเบื้องหน้าเขาในจังหวะที่ พวกตาปลาเข้าใกล้
พวกตาปลาที่เข้าใกล้พลันมีขนาดเล็กลง ขณะที่แสงสีดำส่องประกายจึงเปลี่ยนกลายเป็นเกาทัณฑ์แปดดอก!
เกาทัณฑ์ทั้งแปดนี้เหมือนกันกับเกาทัณฑ์ลี่กวงจนแทบไม่มีความแตกต่าง แม้แต่กลิ่นอายยังเหมือนกันจนทุกคนที่นี่ตกตะลึง!
‘หรือนี่จะเป็นพลังสุดยอดของพวกตาปลาที่ลือกัน?’ ชายชราชื่อหม่าจาก ดาวเบญจธาตุพลันมองดูอย่างใกล้ชิด
มหาชั้นฟ้าซวนลั่วมองดูเหล่าตาปลาทั้งแปด เขาเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องพลังสุดยอดที่พวกตาปลามี
‘เมื่อพวกตาปลาลืมตา พวกมันสามารถเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นสิ่งใดก็ได้และได้รับพลังส่วนหนึ่งของมัน…แต่การทำให้พวกมันลืมตานั้นเป็นไปได้ยาก พวกที่อยู่ในถ้ำนี้ช่างน่าสนใจ…’ ซวนลั่วลืมตาขึ้นมาด้วยความสนใจ
เกาทัณฑ์ลี่กวงทั้งเก้าผสานเข้าด้วยกันจนบอกไม่ได้ว่าดอกไหนเป็นของจริง พวกมันพุ่งตรงเข้าหาเซียนเต๋าสีรุ้ง ท่าทีของเขาพลันเปลี่ยนไป ม่านสีรุ้งรอบตัวบิดเบือนพร้อมกับเสียงดังสนั่น!
ม่านแสงสีรุ้งพังทลายไปพร้อมกับเกาทัณฑ์ลี่กวงทั้งเก้าดอก แต่พวกมันไม่ได้ แตกสลายแต่กลับคืนเป็นตาปลาทั้งแปดตัว ร่อนลงห่างจากตัวแรกไปไม่ไกล เหล่าตาปลาทั้งเก้าตกอยู่ในลมหายใจเฮือกสุดท้าย
การปะทะกันครั้งนี้ได้เกิดคลื่นกระแทกปกคลุมทัศนวิสัยและสัมผัสวิญญาณ เกาทัณฑ์ลี่กวงดอกที่เก้าแทงทะลุทุกสิ่งทุกอย่างและมุ่งหน้าตรงไปยังเซียนเต๋าสีรุ้ง
เสียงกรีดร้องดังโหยหวนออกมาจากคลื่นกระแทก เมื่อคลื่นหายไปจึงมองเห็นเซียนเต๋าสีรุ้งกระอักโลหิตและมีหลุมขนาดเท่ากำปั้นอยู่บนหน้าอก เขาถูกคันศรลี่กวงเจาะทะลวงใส่จนบาดเจ็บสาหัส!
เขาพลันร้องคำรามโกรธเกรี้ยวและพุ่งออกไปโดยไม่สนอาการบาดเจ็บ มุ่งหน้าไปหาหวังหลินด้วยจิตสังหารและสัมผัสความบ้าคลั่ง
“ข้ายอมทิ้งวิญญาณดวงที่สามเพื่อไปฆ่าเจ้า!” เซียนเต๋าสีรุ้งร้องคำรามและใช้แขนขวาสร้างผนึก ดวงตะวันเลือนลางเก้าดวงปรากฏขึ้นรอบร่าง
ตะวันทั้งเก้าคือวิชาที่ทรงพลังที่สุดของเซียนเต๋าสีรุ้ง เขาใช้มันเพื่อสังหาร หวังหลินโดยไม่ลังเล!
หวังหลินหน้าซีด ตอนนี้เขาเหมือนตะเกียงน้ำมันที่แห้งขอดและอ่อนแอมาก พลันกัดฟันแน่น ยกคันศรลี่กวงขึ้นมาด้วยมือซ้ายและรั้งด้วยมือขวา นี่เป็นครั้งที่สามและหวังหลินรู้ว่ามันคงเป็นครั้งสุดท้าย!
สายคันศรถูกดึงจนตึงและปรากฏเกาทัณฑ์ขึ้นอีกครั้ง ทั้งยังมีคราบโลหิตอยู่บนเกาทัณฑ์ หวังหลินปล่อยแขนขวาไป เกาทัณฑ์พุ่งทะยานเป็นครั้งที่สาม!
เมื่อดอกที่สามยิงออกไป หวังหลินพลันหลับตาเพื่อซ่อนแสงสีทองที่กำลังหายไปจากดวงตาอย่างสมบูรณ์
หน้าอกของเซียนเต๋าสีรุ้งเต็มไปด้วยรอยเลือด ขณะที่เกาทัณฑ์ดอกที่สามเข้ามา สองแขนพลันสร้างผนึกและโบกสะบัด แววตาบ้าคลั่งเนื่องจากไม่เคยบาดเจ็บแบบนี้ในชีวิตมาก่อน สิ่งที่ขับเคลื่อนเขาให้บ้าคลั่งได้ขนาดนี้คือหวังหลินซึ่งมีระดับต่ำกว่าเขาหลายขั้น!
สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดก็คือคันศรลี่กวงที่ทำให้เขาบาดเจ็บนั้นเป็นอาวุธที่เขาบอกให้ราชันย์เอาไปมอบให้ เดิมทีตั้งใจจะให้หวังหลินเอาไว้ล่อเหลียนต้าวเฟยให้ ออกมา จากนั้นพอเกิดเรื่องบาดหมางระหว่างหวังหลินและผีเฒ่าจาง หวังหลินจะใช้คันศรนี้ทำให้ผีเฒ่าจางบาดเจ็บสาหัส
อย่างไรก็ตามถึงผีเฒ่าจางได้ใช้คันศรนี้มันก็ไม่สมบูรณ์
แต่เขาไม่คาดคิดว่าจะมาโดนคันศรลี่กวงทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ความบ้าคลั่งในใจทำให้เขาไม่สนทุกสิ่งทุกอย่างแล้วและคิดจะฆ่าหวังหลินเท่านั้น!
สองมือสร้างผนึก เก้าตะวันส่องประกายเจิดจ้า พวกมันลอยออกมาและพุ่งหาเกาทัณฑ์ดอกที่สาม
ทั้งสองฝั่งปะทะกันจนเกิดเสียงดังกึกก้อง เก้าตะวันพังทลายแต่เกาทัณฑ์เผยสัญญาณแตกสลายเช่นกัน แสงพร่าเลือนระเบิดขึ้นและครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง!
เก้าตะวันระเบิดและมีพลังทำลายล้างแผ่กระจาย พลังของทั้งคู่นั้นเกินคำอธิบายไปไกล ด้านขุนพลมังกรฟ้านั้นอยู่ใกล้ที่สุด พลังทำลายล้างเข้าสัมผัสจนร่างกายแตกสลายและตายทันที!
โลกนี้เริ่มแตกสลาย มันกำลังถูกทำลาย!
อย่างไรก็ตามไม่จบแค่นี้ พลังทำลายล้างนี้คือพลังเต็มที่ของเซียนเต๋าสีรุ้งและ โลกที่ล้มเหลวนั้นไม่สามารถต้านทานได้ ขณะที่พลังทำลายล้างแผ่กระจาย โลกที่ล้มเหลวทั้งสามร้อยใบเริ่มแตกสลายทีละใบ
ขุนพลเต่าดำถึงกับมีใบหน้าหวาดกลัว ส่งเสียงกรีดร้องพลางถอยไปพร้อมกับขุนพลวิหคศักดิ์สิทธิ์ ราชันย์หน้าซีดเช่นกัน เปลี่ยนกลายเป็นลำแสงและหนีไปด้วย
ห่างออกไปไกลนั้น นางสนมลำดับสาม ปรมาจารย์เต๋าความฝันและผู้คนจาก ดาวเบญจธาตุต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป ทั้งหมดล่าถอยออกมาจากดอกไม้แรกที่สร้างเป็นโลกทั้งสามร้อยใบ!
ณ ใจกลางพลังทำลายล้าง หน้าอกของเซียนเต๋าสีรุ้งสั่นเทา การปะทะกันของเกาทัณฑ์และเก้าตะวันได้ก่อเกิดคลื่นกระแทกพุ่งเข้าใส่ร่างเขา โลหิตสาดกระจายออกมาจากหน้าอกและเขาบาดเจ็บสาหัส
อย่างไรก็ตามดวงตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง
“เจ้าอยู่ใกล้พลังทำลายล้างนี้มาก ด้วยระดับบ่มเพาะของเจ้า ข้าอยากเห็นเหลือเกินว่าเจ้าจะต้านทานได้อย่างไร!!!”
หวังหลินอยู่ใกล้ที่สุดก็จริงและพลังทำลายล้างก็พุ่งเข้าหาเขา โลกนี้กำลังพังทลาย แม้แต่มรดกบัญชาโบราณก็ต้านทานไม่ได้ ตราบใดที่มันสัมผัสกับร่างกาย เขาคงโดนทำลาย!
แต่ในเมื่อหวังหลินกล้าวางการซุ่มโจมตีที่นี่ เขาเตรียมตัวมาแล้วและคาดคิดว่าจะเกิดพลังทำลายล้างแบบนี้ขึ้น ขณะที่พลังทำลายล้างใกล้เข้ามา สองมือสร้างผนึก แขนขวายื่นออกไป
“ข้าขอโทษ!” หวังหลินถอนหายใจ
แสงสีทองมหึมาระเบิดขึ้น เหลียนต้าวเฟยที่กำลังหลับใหลพลางสวมชุดคลุมยับยู่ยี่กลับปรากฏตัวเบื้องหน้าหวังหลิน
เหลียนต้าวเฟยมีร่างเทพอมตะที่สมบูรณ์ แม้ดาราจักรแห่งนี้จะล่มสลาย ร่างเขาก็ไม่บาดเจ็บ!
เหลียนต้าวเฟยยังคงหลับและยังไม่ตื่น เขารู้สึกคันๆ เล็กน้อยที่หวังหลินจับแขน ดังนั้นจึงบิดตัวและหลับต่อ
แต่ทว่าในตอนที่พลังทำลายล้างพุ่งเข้ามากระแทกใส่เหลียนต้าวเฟย ร่างของเหลียนต้าวเฟยส่องแสงเป็นประกาย ไร้อันตรายจากพลังทำลายล้าง!
อย่างไรก็ตามร่างของเหลียนต้าวเฟยสั่นเทา ดวงตาค่อยๆ เปิดขึ้นด้วยความงุนงงและมีความโกรธเล็กน้อย เขายังไม่ตื่นดีและน่าจะครึ่งหลับครึ่งตื่น เริ่มคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวใส่เซียนเต๋าสีรุ้งที่อยู่ตรงหน้า
“ใคร!? ใครกัน?! ใครกล้ารบกวนการนอนของราชาผู้นี้!? พวกเจ้าคนพาล ข้าจะไปบอกพี่ใหญ่!” เหลียนต้าวเฟยร้องคำรามใส่เซียนเต๋าสีรุ้งโดยไม่สังเกตว่าหวังหลินกำลังจับไหล่เขาและใช้เป็นโล่ขวางพลังทำลายล้างส่วนใหญ่เอาไว้
“พวกเจ้ามันทำเกินไป กล้ามาจั๊กจี้ข้าตอนที่กำลังนอนอยู่หรือ? เจ้า…เจ้า…” ขณะที่เหลียนต้าวเฟยร้องคำราม เขาก็เริ่มหาวขึ้นจริงๆ ศีรษะโงนเงนและหลับไปอีกครั้งราวกับทุกอย่างที่พูดเป็นแค่การละเมอ
ทว่าการปรากฏตัวและคำพูดของเขาให้ทำให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นรอบบริเวณอย่างมหาศาล เซียนเต๋าสีรุ้งบาดเจ็บสาหัส หลังจากเห็นเหลียนต้าวเฟยสีหน้าจึงเปลี่ยนไป จิตใจสงบลงเนื่องจากไม่รู้ว่าหวังหลินสามารถยิงเกาทัณฑ์ได้อีกกี่ดอก หากหวังหลินร่วมมือกับเหลียนต้าวเฟย เขาอาจจะตายที่นี่ได้จริงๆ ตอนนี้บาดเจ็บสาหัสพอแล้ว จึงกัดฟันแน่นและเป็นครั้งแรกตั้งแต่เขาเริ่มต่อสู้กับหวังหลินและ เลือกที่จะหนี!
ห่างออกไปไกล ผีเฒ่าจางถูกล้อมด้วยใบเรือหน้าผี เขาได้ลืมตาขึ้นมาแล้ว แต่เลือกที่จะไม่ออกไปจากสายหมอก เขาเป็นพยานรู้เห็นทุกสิ่งทุกอย่าง ดวงตาเปล่งประกายโดยไม่รู้ว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่
ห่างออกไปไกล ราชันย์ที่กำลังหนีพลันตัวสั่นเทาและดีดผึงกลับมา
“น…นายท่าน!!”
รวมไปถึงขุนพลเต่าดำและขุนพลวิหคศักดิ์สิทธิ์ ดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึงจากการเห็นเหลียนต้าวเฟยอยู่ในมือหวังหลิน
“เหลียนต้าวเฟย!!!”
ไม่ใช่แค่สามคนเท่านั้นที่ตกตะลึง ห่างออกไปไกลมีนางสนมลำดับสามพลันหน้าซีดและตะลึงงันไปชั่วครู่
รวมถึงเหล่าผู้คนจากดาวเบญจธาตุ ทั้งหมดตัวสั่นเทา ชายชราชื่อหม่ามองดูเหลียนต้าวเฟยด้วยแววตาหวาดกลัวเกินอธิบาย
“เขา…เขาอยู่ที่นี่จริงๆ!!” ชายชราชื่อหม่าไม่รู้ว่าเหลียนต้าวเฟยมาที่นี่มาก่อน จิตใจสั่นไหว ความคิดขาวโพลน
มหาชั้นฟ้าซวนลั่วก้าวเดินไปหาตาปลาทั้งเก้าตัว พอเก็บไปถึงตัวที่ห้าพลันหยุดกึกและมองไปที่เหลียนต้าวเฟยอย่างละเอียด ดวงตาเผยแสงแปลกประหลาด
‘เหลียนต้าวเฟย…น้องชายของเหลียนต้าวเจิน! เขาก็มาที่นี่ด้วย…’