Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1785

Cover Renegade Immortal 1

1785. ปรารถนาเพื่อไปถึงแผ่นดินเซียนดารา

ช่องว่างเปิดขึ้นมาในประตู กลิ่นอายแห่งแผ่นดินเซียนดาราพุ่งเข้ามาแทนที่ โลกพังทลายเบื้องหลังหวังหลิน ผีเฒ่าจางปรากฏตัว

ร่างเงาสวมผ้าคลุมเผยแววตาเป็นแสงลึกลับน่ากลัวและจ้องมองหวังหลิน ด้วยเหตุผลบางอย่าง สัมผัสแห่งชีวิตและความตายได้พุ่งเข้าไปในใจเขาตอนที่ ประตูเปิดออก

หวังหลินยืนอยู่หน้าประตู หันกลับมามองผีเฒ่าจาง กลิ่นอายแห่งแผ่นดินเซียนดาราพุ่งเข้ามาผ่านช่องว่าง ทำให้สายโลหิตบัญชาโบราณของหวังหลินส่งเสียงร่ำร้อง โลหิตไหลเวียนอย่างบ้าคลั่ง

ราวกับกำลังดูดซับกลิ่นอายที่พุ่งออกมาตรงหน้า

ในใจผีเฒ่าจางผุดสัมผัสอันตรายรุนแรงมากขึ้น เขาไม่ได้เข้าไปใกล้แต่พูดอยู่ห่างๆ “แม้เจ้าจะเปิดประตูได้ เจ้าก็ไม่กล้าออกไป! แม้ข้าไม่มีความทรงจำของวิญญาณ ดวงที่สาม แต่ยังมีสัญชาตญาณหลงเหลืออยู่ในวิญญาณ ระหว่างโลกถ้ำและแผ่นดินเซียนดารามีม่านกั้นอยู่ มีเพียงคนที่มีสายโลหิตจากแผ่นดินเซียนดาราเท่านั้นที่สามารถออกไปได้!”

“ถึงแม้เจ้าจะมีสายโลหิตและออกไปได้ หากเจ้าไม่มอบวิญญาณดวงที่สามมา เมื่อเจ้าออกไปจากถ้ำนี้ข้าจะสังหารทุกคนที่เจ้าห่วงใย!”

“ตอนนี้ประตูถ้ำเปิดแล้ว ระหว่างเราไม่มีความบาดหมางอะไรกัน มอบวิญญาณ ดวงที่สามมาให้ข้า ข้าจะออกไปจากที่นี่และไม่มีวันกลับมาอีก!” คำพูดของผีเฒ่าจางแฝงพลังอำนาจอย่างประหลาด

หวังหลินไม่ได้เอ่ยตอบ เขาไม่สามารถมอบวิญญาณดวงที่สามให้ได้ สำหรับเขามันไม่ใช่ซูต้าวผู้เป็นราชันย์เทพสีรุ้ง แต่คือศิษย์ของเขา เซี่ยฉิง

หวังหลินยกแขนขวาขึ้นมา สองลำแสงกะพริบวาบอย่างน่ากลัว ข้างในมี เส้นโลหิตซึ่งคือ โลหิตหัวใจของเซี่ยฉิง!

เซี่ยฉิงคือวิญญาณดวงที่สามกลับมาเกิดและใช้ชีวิตตัวเองเพื่อสร้างผนึกขึ้นมาสามอย่าง หนึ่งนั้นเพื่อวิญญาณของตัวเองและอีกสองได้มอบให้แก่หวังหลิน มันคือสิ่งสุดท้ายที่เขาทำเพื่ออาจารย์ก่อนตาย

หลังจากสองผนึกผสานเข้ากับกลิ่นอายจากแผ่นดินเซียนดารา มันจะมีพลังอำนาจในการผนึกวิญญาณอีกสองดวง!

ชั่วจังหวะที่สองผนึกปรากฏ กลิ่นอายจำนวนมหาศาลจากแผ่นดินเซียนดาราได้เข้ามาผ่านช่องว่างเล็กๆ ในประตู ซึ่งพุ่งเข้าหาแขนขวาของหวังหลิน กลิ่นอายเข้าผสานกับผนึกอย่างรวดเร็ว

แสงน่ากลัวเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็วดุจดวงอาทิตย์สองดวงปรากฏขึ้นในแขนขวา ร่างหวังหลินพร่าเลือนอยู่ในแสงนี้ แม้กระทั่งประตูด้านหลังยังถูกห่อหุ้ม มองดูสลัวลงจากไกลๆ

ทว่าพลังผนึกนี้ไม่ได้สมบูรณ์ มันยังดูดซับกลิ่นอายจากแผ่นดินเซียนดารา ประตูเองก็เปิดได้เพียงเสี้ยวเดียว อัตราการดูดซับจึงค่อนข้างช้า

เมื่อผีเฒ่าจางสัมผัสได้ถึงพลังผนึก รูม่านตาหรี่แคบ ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงรู้สึกสภาวะวิกฤติความเป็นความตาย มันออกมาจากพลังผนึกที่ปรากฏขึ้นมาหลังจากเริ่มดูดซับกลิ่นอายแผ่นดินเซียนดารานั่นเอง!

แววตาผีเฒ่าจางกะพริบเย็นเยียบและพุ่งหาหวังหลินโดยไม่ลังเล เขารู้ว่าไม่ใช่เวลาที่จะล่าถอย แม้สัมผัสอันตรายจะรุ่นแรงแต่ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจเหนือจินตนาการ!

เขาเคลื่อนร่างอย่างรวดเร็วและมาถึงในระยะพันฟุตทันที ผีเฒ่าจางยกแขนขึ้น ตัวอักษรคำว่า “ต่อสู้” พุ่งเข้าหาหวังหลิน ขณะเดียวกันร่างเงาปรากฏขึ้นเหนือ เงาวิญญาณของราชันย์เทพสีรุ้งที่อยู่รอบตัวผีเฒ่าจางด้วย วิญญาณของเซียนเต๋าสีรุ้งพลันปรากฏขึ้นมา ร่างกายเปล่งแสงสีรุ้งและพุ่งหาหวังหลิน

หลังจากนั้นไม่นาน วิญญาณที่มีผ้าคลุมพลันอ้าแขนออก ผ้าคลุมขยายยืดยาวออกไปและพุ่งทะยานหาหวังหลิน

หวังหลินมีสีหน้าท่าทางสงบนิ่ง สองผนึกในมือยังคงดูดซับกลิ่นอายจาก แผ่นดินเซียนดารา ขณะที่ผีเฒ่าจางและอีกสองวิญญาณสีรุ้งเข้ามาใกล้ หวังหลินยกแขนซ้ายขึ้นและผลักไปข้างหน้า

ร่างแก่นแท้ทั้งแปดของหวังหลินปรากฏขึ้นมาพร้อมกันและผลักฝ่ามือออกไปข้างหน้า เกิดเป็นเสียงดังสนั่นกึกก้อง ดอกไม้ดอกที่ห้าได้พังทลายหายไปจนเผยปรมาจารย์เต๋าความฝัน ชายชราชื่อหม่าจากดาวเบญจธาตุ ถังซานและคนอื่นๆ

รวมถึงขุนพลเต่าดำและวิหคศักดิ์สิทธิ์ที่บาดเจ็บสาหัสด้วย

ชั่วจังหวะที่ร่างแก่นแท้โผล่ออกมา สีหน้าท่าทางของผีเฒ่าจางจึงเปลี่ยนไป เขาไม่มีความทรงจำจากวิญญาณดวงที่สามจึงไม่รู้จักพวกมัน แต่ชายชราชื่อหม่า เต็มไปด้วยสายตาหวาดกลัวและไม่เชื่อสายตาที่ได้เห็นร่างแก่นแท้!

‘ร่างแก่นแท้!!! นี่…นี่มันร่างแก่นแท้ แค่ร่างแก่นแท้เดียวก็หาได้ยากในคนคนเดียวแล้ว แต่เขา…เขามีถึงแปด!!!’

‘ลือกันว่านอกจากการเข้าไปแดนเทพดั้งเดิมแล้ว มีอีกวิธีในการได้รับร่างแก่นแท้! แม้วิธีนี้จะไม่เคยพิสูจน์มาก่อนแต่นั่นแสดงให้เห็นว่ามันหายากแค่ไหน!’

หวังหลินและร่างแก่นแท้ทั้งแปดโจมตีพร้อมกันจนเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง ผีเฒ่าจาง วิญญาณสีรุ้งและวิญญาณผ้าคลุมต่างก็สั่นเทาและถูกบังคับให้ถอย!

เป็นครั้งแรกที่หวังหลินเผชิญหน้ากับผีเฒ่าจางและบังคับให้อีกฝ่ายถอยไปได้!

หวังหลินร่างสั่นสะท้าน พลังอันแข็งแกร่งเข้าไปในร่างผ่านแขนซ้ายและเข้าไปยังร่างแก่นแท้ทั้งแปดด้านหลังเขา

หวังหลินดวงตาส่องสว่างขึ้นมา หยิบยืมพลังสายนี้ใช้แขนซ้ายวาดเป็นวงโค้ง จากนั้นล่าถอยเพื่อประทับแขนซ้ายไปบนประตู

เสียงประตูสั่นไหว ขณะเดียวกันร่างแก่นแท้ทั้งแปดก็ถอยร่นกลับมาด้วยและกระแทกเข้าใส่ประตู

ประตูถูกดันกลับไปมากขึ้น จากเพียงแค่รอยแตกร้าวจนมันเปิดออกมาได้เกือบสามในสิบส่วน!

ตอนนี้ประตูไม่จำเป็นต้องมีคนผลักมันเปิดอีกแล้ว ขณะที่กลิ่นอายทรงพลังของแผ่นดินเซียนดาราพุ่งเข้ามา ประตูจึงค่อยๆ เปิดกว้างออกด้วยตัวเอง

ขณะเดียวกันยิ่งกลิ่นอายแผ่นดินเซียนดาราพุ่งออกมามากและผสานกับสองผนึกในมือหวังหลิน ยิ่งทำให้สีหน้าผีเฒ่าจางเปลี่ยนไปมหาศาล หวังหลินยกแขนขวาขึ้นทันที

ผีเฒ่าจางเต็มไปด้วยสายตาหวาดกลัว เขาไม่มีเวลาลังเลและรีบถอย หวังหลินมองผนึกในมือ เขาเห็นเซี่ยฉิงอยู่เลือนลาง แววตาเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง

“เซี่ยฉิง…เจ้าคือศิษย์ของข้าและเป็นอาจารย์ข้าด้วย…” หวังหลินถอนหายใจพลางสะบัดแขน สองผนึกทะยานออกไปหาผีเฒ่าจางที่กำลังหลบหนี

สองผนึกนี้เสมือนกับโชคชะตา ไม่ว่าผีเฒ่าจางจะรวดเร็วเพียงใดก็ไม่สามารถหนีโชคชะตาได้พ้น

สองผนึกเข้าประชิดผีเฒ่าจางทันที ก่อนที่ผีเฒ่าจางจะทำอะไรได้ ผนึกแรกพุ่งตรงเข้าหาหน้าผาก

ผีเฒ่าจางส่งเสียงร้องคำราม สองฝ่ามือสร้างผนึกปรากฏวิชาขึ้นมา วิญญาณที่มีผ้าคลุมรอบตัวเขาเผยแววตาหวาดกลัว มันสะบัดแขนและมีลำแสงพุ่งไปหาผนึก

อย่างไรก็ตามวิชาใดหรือลำแสงใดก็ไม่สามารถหยุดยั้งผนึกนี้ได้ ราวกับไม่มีสิ่งใดคงอยู่เบื้องหน้ามัน ผนึกทะลุทะลวงผ่านทุกสิ่งทุกอย่างและประทับลงกลางหน้าผากของร่างเงาผ้าคลุมทันที

เมื่อมันร่อนลงไป วิญญาณในผ้าคลุมจึงส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน ร่างเงาทับซ้อนปรากฏขึ้นมาเปลี่ยนกลายเป็นวิญญาณสีรุ้งทันที ผนึกนั้นร่อนลงกลางหน้าผากของวิญญาณสีรุ้งไปด้วย

ผนึกเกิดการระเบิดออกล้อมรอบวิญญาณสีรุ้ง มองไกลๆ ราวกับตาข่ายและวิญญาณสีรุ้งหดตัวอยู่ในตาข่ายจนกระทั่งเหลือขนาดเท่ากำปั้น แสงจากดวงวิญญาณหม่นหมองลง

ตอนนี้ผีเฒ่าจางรีบถอยร่น ใต้ฝ่าเท้าปรากฏระลอกคลื่น ดวงวิญญาณในผ้าคลุมรอบผีเฒ่าจางเต็มไปด้วยความหวาดกลัวสุดขีดพลางเฝ้าดูผนึกที่ประทับกลางหน้าผาก ผนึกได้หายไปเป็นตาข่ายและห่อหุ้มร่างกายทั่วทั้งตัว

ปรมาจารย์เต๋าความฝันและคนอื่นๆเต็มไปด้วยความตกตะลึง พวกเขาไม่คาดคิดว่าหวังหลินจะเตรียมของแบบนี้ขึ้นมา ชายชราชื่อหม่าและหยุนยี่เฟิงมองหวังหลินด้วยสายตาซับซ้อนอย่างยิ่ง

เดิมทีพวกเขาคิดว่าท้ายที่สุดซวนลั่วคงจะช่วยเรื่องราวในโลกถ้ำ แต่ซวนลั่วไม่ปรากฏตัวขึ้นมาเลย ทุกสิ่งทุกอย่างจนกระทั่งตอนนี้พึ่งพาหวังหลินทั้งหมด

วิญญาณในผ้าคลุมพลันถูกจับคอและหดลงจนเหลือขนาดเท่ากำปั้น การเชื่อมต่อกับผีเฒ่าจางถูกตัดขาด

ชั่วจังหวะที่ถูกตัดขาด ดวงตาผีเฒ่าจางพลันหม่นหมอง โลหิตสีดำไหลออกมาจากปาก แม้ดวงตาจะไม่มีแสงไฟแต่มันกลับกระจ่างใส

เขามองไปรอบๆ ท้ายที่สุดสายตาตกลงมาที่หวังหลิน จากนั้นก็เป็นประตูด้านหลังหวังหลิน มองไปยังประตูที่กำลังเปิดอยู่ ผีเฒ่าจางยิ้มออกมา

“เจ้ายอดเยี่ยมมาก…ความฝันของข้าคือ การเปิดประตูถ้ำแห่งนี้ แต่…ตอนนั้น ข้าล้มเหลวในด่านวิบากแก่นแท้และถูกบังคับให้ผสานกับเขา…” ร่างผีเฒ่าจางระเบิดควันสีดำออกมา ผิวหนังแห้งเหี่ยว ของเหลวสีดำไหลนองจำนวนมาก เขากำลังถูกหลอมละลายและกำลังตาย

“ข้าควรตายเมื่อหลายปีก่อนแล้ว…เจ้าทำความฝันข้าให้เป็นจริงและปลดปล่อยข้า…หวังหลิน ขอบคุณ…” น้ำเสียงเบาบางมาก ร่างครึ่งส่วนได้หายไปแล้ว

แต่ร่างครึ่งส่วนที่เหลือเปลี่ยนกลายเป็นลำแสง ดวงตาเปล่งประกายราวกับระเบิดพลังเสี้ยวสุดท้ายในชีวิตและพุ่งเข้าหาประตูที่เปิดได้ครึ่งบาน

แม้กำลังจะตาย เขาก็อยากเห็นแผ่นดินเซียนดาราที่เฝ้าฝันหามาตลอดชีวิต…

หวังหลินไม่ได้หยุดเขา เฝ้าดูร่างครึ่งส่วนของผีเฒ่าจางพุ่งเข้าหาประตูและเฝ้าดูเขาหายวับไปนอกประตูบานนั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version