Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 258

Cover Renegade Immortal 1

258. สำนักขยะ

หวังหลินยิ้มบางและเอ่ยว่า “ผู้อาวุโส เราไม่เจอกันมาเจ็ดปี ท่านยังดูเหมือนเดิมนะ”

ใบหน้าประหลาดใจของชายชรายิ่งมากขึ้น เขาจ้องหวังหลินเป็นเวลานานก่อนจะถอนหายใจออกมา แววตาแฝงไปด้วยความยกย่องพร้อมกับกล่าวว่า “เจ้ากลายเป็นคนธรรมดา…เจ้ากลายเป็นคนธรรมดาจริงๆ!”

หวังหลินหยิบไหออกมาจากเตา รินดื่มไปหนึ่งถ้วยและพูดขึ้น “ผู้น้อยเพียงแค่แสวงหาชีวิตแบบคนทั่วไป ข้าจะผ่อนคลายเหมือนผู้อาวุโสที่กำลังเล่นสนุกอยู่ในโลกมนุษย์ธรรมดาได้อย่างไรเล่า?”

ชายชราสูดหายใจลึก เขานำไหเหล้าออกมารินไปหนึ่งจอกและเอ่ยว่า “ข้าเห็นเซียนขั้นตัดวิญญาณมานักต่อนัก แต่เจ้าเป็นคนแรกที่สามารถกลายเป็นคนธรรมดาได้ในหกปี”

หวังหลินไม่ได้พูดอะไร พลันยิ้มออกมาโดยที่จิตใจไม่วอกแวกและชมการแสดง

ชายชราจ้องไปที่หวังหลิน หลังจากเวลาผ่านไปพักใหญ่ สายตายกย่องที่เขามองมายิ่งมากขึ้น “มันไม่ใช่แค่ร่างกายและโลหิตที่เหมือน แต่รวมถึงวิญญาณด้วย เจ้าหนุ่มหากเจ้าสามารถได้รับรู้เขตแดนได้ ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะบรรลุขั้นตัดวิญญาณได้ภายในร้อยปี” ชายชรากล่าวเช่นนั้น

หวังหลินศีรษะกลับมา ดื่มไปหนึ่งอีกและถาม “เขตแดนคืออะไร?”

ชายชรากำลังจะเอ่ยแต่สายตาพลันเปลี่ยนไป เขาพูดขึ้น “ดูสิ ข้าแก่แล้ว ตอนที่ข้าหิวมักจะจำอะไรไม่ค่อยได้”

หวังหลินมองชายชราอย่างเคร่งเครียดและยิ้ม “ผู้อาวุโส ท่านสามารถใช้เวลาของท่านสนุกสนานกับการแสดงได้ ผู้น้อยจะขอตัวก่อน” เช่นนั้นเขายืนขึ้นและออกจากโรงเตี๊ยม

ชายชราตกตะลึง ทันใดนั้นดวงตาส่องสว่างขึ้นและพึมพำ “น่าสนใจ”

หวังหลินถือไหและเดินบนถนนพร้อมกับเหยียบใบไม้อย่างเชื่องช้า เขากลับไปที่ร้าน เปิดประตูและเดินเข้าไป

หลังจากก้าวเข้าไปข้างในได้หนึ่งก้าว พลันได้ยินเสียงชายชราพูดขึ้น “ไม่เลว เจ้าใช้เวลาหกปีเพื่อเปลี่ยนเป็นคนธรรมดาที่นี่เองสินะ”

ชายชราปรากฎเบื้องหลังหวังหลินอย่างลึกลับและเข้าไปในร้านพร้อมกับเขา เขามองดูรอบๆและสายตาค่อยๆเผยความประหลาดใจ

หวังหลินไม่ได้ประหลาดใจกับท่าทีของชายชรา เขานั่งลงและดื่มเหล้าต่อพร้อมกับดูชายชราไปด้วย

“มังกร แมงมุมเพลิง อสูรเสียงสวรรค์ จงกู๋ อสูรแปดกรงเล็บ ไท้หลุน…หึหึ ไม่เลวทีเดียวที่สามารถนำอสูรส่วนใหญ่จากทะเลปิศาจมาที่นี่ได้” ยิ่งชายชรามองดูก็ยิ่งมีใบหน้าประหลาดใจ ท้ายที่สุดสายตาตกลงในกล่องไม้มุมห้อง เขาสะบัดแขนและไม้แกะสลักทั้งหมดในกล่องลอยออกมาทีละชิ้น

ไม้แกะสลักทั้งหมดนี้เป็นผลงานที่ไม่สมบูรณ์

ขณะที่ชายชราเห็นผลงานที่ไม่สมบูรณ์เหล่านี้ ดวงตาของเขากลายเป็นเคร่งขรึม เขามองทีละชิ้นอย่างละเอียดก่อนสูดหายใจลึก จากนั้นหันไปมองหวังหลินและเอ่ยออกมา “ข้าประเมินเจ้าต่ำไปจริงๆ ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะมีประสบกาณณ์เช่นนี้ เจ้าจะไม่สามารถสร้างไม้แกะสลักเซียนขั้นตัดวิญญาณหรืออสูรเดียวดายได้เว้นแต่ว่าเจ้าจะเคยต่อสู้กับพวกมันมาแล้ว”

หวังหลินยิ้มบาง เขาไม่ได้กล่าวสิ่งใด เพียงดื่มเหล้าเงียบๆเท่านั้นราวกับว่าคำพูดของชายชราไม่เกี่ยวอะไรกับเขา

หลังขบคิดเล็กน้อย ชายชราวางไม้แกะสลักที่ถืออยู่ หันเข้าหาหวังหลินและถามขึ้น “เจ้าชื่ออะไร?”

“หวังหลิน”

ชายชราพยักหน้า เขาสะบัดแขนขวาและกลิ่นอายของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เปลี่ยนจากชายชราไปเป็นตัวตนคล้ายแม่ทัพผู้สั่งการ แม้ว่าภาพลักษณ์ของเขาจะไม่เปลี่ยนไปเลยและไม่มีพลังปราณออกมาจากร่าง ทว่าเขากลับลึกลับและยากจะมองเห็น

พลังปราณในร่างหวังหลินเคลื่อนไหวเนื่องจากถูกกระตุ้นและแววตาของเขาเรืองแสง ขณะนั้นหวังหลินไม่สามารถเห็นระดับฝึกฝนของชายชราคนนี้ได้ แสงสว่างหายไปจากดวงตาอย่างรวดเร็วพร้อมกับจิบเหล้าไปหนึ่งคราและเอ่ยขึ้น “ผู้อาวุโส บ้านเก่าๆของข้าไม่สามารถทนรับพลังของท่านได้หรอก โปรดควบคุมตัวเองด้วย”

ชายชราหายใจ “เด็กน้อยอ่อนต่อโลก นี่คือเขตแดน!”

เช่นนั้นรัศมีของเขาพลันเคลื่อนไหวทันทีและสัมผัสความโกรธพรั่งพรูผ่านทั่วร้าน สิ่งที่แปลกก็คือไม่มีกระเบื้องชิ้นไหนได้รับความเสียหายและไม่มีรัศมีส่วนไหนออกไปจากร้าน

ชั่วขณะนั้น ข้างในและข้างนอกร้านราวกับโลกสองโลกที่ถูกตัดออกจากกัน

รัศมีโทสะกระจายไปรอบๆและพลังปราณของหวังหลินเริ่มต่อต้านรัศมีนี้โดยไม่รู้ตัว ทันทีที่พลังปราณของเขาเริ่มเคลื่อนไหว มันจะถูกดึงออกไปโดยรัศมีโทสะและหลอมรวมให้รุนแรงมากกว่าเดิมทันที

ภายใต้รัศมีโทสะนี้ ร่องรอยความหวาดกลัวเกิดขึ้นในแววตาหวังหลิน พลังปราณในร่างกายเขาไม่ฟังคำสั่งอีกต่อไป หวังหลินกระทั่งรู้สึกได้ว่าวิญญาณเซียนของเขาได้ถูกหลอมรวมเข้ากับรัศมีโทสะแห่งนี้ ณ ตอนนั้นรู้สึกราวกับสี่ร้อยปีแห่งความยากลำบากของเขาได้กลายมาเป็นเครื่องมือโจมตีหวังหลินเอง

“นี่คือเขตแดนโทสะของข้า ข้าเคยใช้เขตแดนนี้เพื่อบรรลุขั้นตัดวิญญาณ ภายใต้เขตแดนของข้าพลังปราณทั้งหมดที่ถูกหลอมรวมเข้ากับเขตแดนจะถูกข้าควบคุมได้” มีเศษเสี้ยวแห่งความโรคจิตในน้ำเสียงชายชรา หลังชำเลืองมองหวังหลิน เขตแดนของเขาหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่ที่นี่มาก่อนอีกเลย

ในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจนี้ หวังหลินปกคลุมไปด้วยเหงื่อเย็นเฉียบ แขนของเขายังคงสั่นขณะที่ถือไหเหล้าและดื่มไปอึกใหญ่ ร่างกายใช้เวลาชั่วครู่ใหญ่ก่อนจะปรับให้คงที่

หวังหลินครุ่นคิดชั่วครู่จากนั้นถามขึ้น “ทำไมเซียนขั้นตัดวิญญาณที่ข้าเคยเจอมา ไม่มีใครแสดงเขตแดนแบบนี้ได้?”

ชายชราตกตะลึง เขาเกาศีรษะและพูดอย่างเขินอาย “เรื่องนี้…ข้าก็ลืมไปเช่นกัน ข้าเคยลดระดับลงมาถึงขั้นตัดวิญญาณแต่ยังกระตุ้นเขตแดนได้แต่มันมีพลังน้อยเกินไป….ความจริงเซียนขั้นตัดวิญญาณไม่สามารถแสดงเขตแดนเช่นนั้นได้เพราะในวิชาเซียนจะแสดงเขตแดนออกมาได้เพียงเศษเสี้ยวเท่านั้นและไม่อาจถูกตรวจพบได้ ฮี่ฮี่ ขออภัย”

หวังหลินยิ้มบิดเบี้ยวและมองไปยังชายชรา เขาพึมพำกับตัวเอง “เขตแดน…นี่คือเขตแดน…”

ดวงตาชายชราเปลี่ยนไป เขาเผยใบหน้าเจ้าเล่ห์และกระซิบ “เปลี่ยนไปเป็นคนธรรมดาเพื่อพบเจอเขตแดนของเจ้าและใช้เขตแดนนั้นทะลวงผ่านขั้นวิญญาณแรกกำเนิดไปสู่ขั้นตัดวิญญาณ ด่านนี้เป็นสิ่งที่เซียนทุกคนต้องเจอเมื่อจะทะลวงผ่านขั้นวิญญาณแรกกำเนิดไปให้ได้ เด็กน้อยเจ้าต้องการเห็นเขตแดนของคนอื่นหรือไม่? นี่นับว่าเป็นประโยชน์ต่อเจ้ามากมายนัก”

ดวงตาหวังหลินสว่างขึ้น กล่าวได้ว่าการพบเจอเขตแดนของเซียนขั้นตัดวิญญาณคนอื่นๆนับว่าอันตรายมาก แต่ผลประโยชน์กว้างใหญ่เช่นกัน

หวังหลินมองชายชรา เขาไม่ตกลงในทันทีแต่ถามขึ้นก่อน “ข้าต้องจ่ายอะไรบ้าง?”

สายตาชายชราขมวดขึ้น เขาตีหน้าอกตัวเองและพูด “ราคาหรือ? ไม่มีราคาที่จำเป็นต้องจ่ายเลย มีข้าปกป้องเจ้าในแคว้นอันดับสี่แห่งนี้ เราสามารถเดินเคียงคู่กันไปได้และนั่นนับว่าดีแล้ว ”

หวังหลินไม่ได้เอ่ยคำใดแต่มองชายชราเงียบๆ

ชายชราเกาศีรษะและค่อยๆพูดด้วยความเขินอาย “เรื่องนี้…ข้าจะบอกว่าไม้แกะสลักพวกนี้ใช้ได้ดีทีเดียว…เช่นนี้…”

หวังหลินพูดอย่างเฉียบขาด “ก็ได้ ข้ายกให้ท่านหมดเลย”

ชายชรากรอกตา เขาตีหน้าอกตัวเองอย่างโกรธเกรี้ยวและพูดขึ้น “ข้าจะเอาสมบัติระดับต่ำของเจ้าไปเพื่ออะไร? มีเพียงแค่ไม้แกะสลักที่เสร็จไปครึ่งเดียวพวกนั้นนับว่าดูคุ้มค่า ดังนั้นให้ข้าพูดตรงๆละกัน มองดูความหล่อเหลา ฉลาดและรัศมีอำนาจที่ข้ามีสิ จิตใจเจ้าไม่สั่นไหวหรือ? เจ้าไม่คิดจะแกะสลักรูปร่างข้าที่ดูดีขนาดนี้เชียว?”

เมื่อชายชราเริ่มพูดใบหน้าเป็นสีแดงเล็กน้อยแต่ยิ่งพูดขึ้นก็ยิ่งตื่นเต้น เขากระทั่งหน้าอกพองโตและตีลงไป

หวังหลินตกตะลึง เขาพยักหน้า “ตกลง แต่ระดับฝึกฝนของข้าตอนนี้ไม่สูงพอ หลังจากข้าบรรลุขั้นตัดวิญญาณข้าถึงจะสามารถแกะสลักรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของท่านได้”

ชายชราเริ่มมีความสุขทันทีและรีบพูดอย่างรวดเร็ว “ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบ เจ้าต้องทำมันได้ดีเยี่ยมทีเดียว โอ้….ข้าต้องการไม้แกะสลักชุดวาบหวิวด้วย เจ้าต้องทำมันออกมาได้ดีมากแน่ๆ งั้นก็ต้องทำมันมากกว่าหนึ่งชิ้น 100! ใช่แล้ว 100 ชิ้น!”

ชายชราจมอยู่ในโลกแฟนตาซีของเขา เขาคิดถึงเวลาถัดไปที่เขาเข้าไปโรงโสเภณีหรือพบสตรีสุดสวย เขาจะให้ไม้แกะสลักตัวเองและพวกเขาเหล่านั้นคงจะจดจำไปจนวันตาย

โดยเฉพาะตอนที่คิดว่าสตรีสุดสวยทั้งหมดกำลังถือไม้แกะสลักของเขา นั่นยิ่งน่าตื่นเต้นเหลือเกินที่ภาพสตรีทั้งหมดนี้อยู่ในความคิด ยิ่งเขามองหวังหลินก็ยิ่งรู้สึกถูกใจ เขาคว้าเข้าหาหวังหลินและเคลื่อนไหว พริบตาเดียวทั้งสองก็หายไปจากร้าน

เมื่อปรากฎตัวขึ้น พวกเขาอยู่ในก้อนเมฆที่ห่างจากเมืองหลวงมาเกินแสนลี้เรียบร้อย

หวังหลินกระจายสัมผัสวิญญาณออกและหวาดกลัวในใจ เขาประเมินได้ว่าเดินทางมาได้ไกลถึงแสนลี้ พลังอำนาจนี้น่าหวาดหวั่นเหลือเกินจนทำให้เส้นผมบนร่างกายลุกตั้งชัน

อาจกล่าวได้ว่าเซียนขั้นวิญญาณแรกกำเนิดระดับปลายสามารถเคลื่อนย้ายพริบตามาได้ไกลเพียงแค่พันลี้ แม้เขาจะไม่รู้ว่าเซียนขั้นตัดวิญญาณระดับปลายจะเคลื่อนย้ายพริบตามาได้ไกลเท่าไหร่แต่มันก็คงไม่ถึงหนึ่งแสนลี้ได้

ภายใต้การวิเคราะห์ของหวังหลิน แม้กระทั่งเซียนขั้นแปลงวิญญาณก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายพริบตามาได้ไกลเช่นนี้ได้ง่ายๆ สำคัญยิ่งกว่าก็คือชายชราคนนี้พาเขามาด้วย ทำให้หวังหลินหวาดกลัวเขามากยิ่งขึ้น

ชายชราตอนนี้กำลังหอบ แม้แต่เขาแล้วการเดินทางหนึ่งแสนลี้ก็ไม่ใช่งานง่ายๆ ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าหวังหลินตกตะลึง เขาเชิดคางอย่างภูมิใจและพูดด้วยท่าทีเสียอกเสียใจ “โธ่ ข้าแก่และร่างกายแย่ลงไปมาก การเคลื่อนย้ายพริบตาไปได้แค่แสนลี้เท่านั้น ข้าละอายใจจริงๆ” แม้จะพูดแบบนั้นแต่คนธรรมดายังมองออกได้ว่าเขามีใบหน้าภูมิใจแค่ไหน

หวังหลินครุ่นคิดอย่างเงียบๆ

หลังจากเวลาผ่านไปพักใหญ่ชายชรายังหอบหายใจหนัก ความภูมิใจบนใบหน้าค่อยๆหายไปขณะที่ถามอย่างโกรธๆ “เด็กน้อย เจ้าเคยเจอใครเคลื่อนย้ายพริบตามาได้ไกลขนาดนี้หรือไม่?”

หวังหลินตอบอย่างสงบนิ่ง “ไม่เคย”

“หลังจากเห็นความแข็งแกร่งที่ข้ามี เจ้าไม่ได้ผายลมออกมาหรือ?” สายตาชายชราเบิกกว้าง นี่มันราวกับเขาใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดเพื่อไปดื่มนมในโรงโสเภณีและเด็กคนนี้ดันไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเสียอย่างนั้น

หวังหลินมองชายชราด้วยใบหน้าประหลาดใจ “ระดับฝึกฝนของผู้อาวุโสเป็นสิ่งที่ผู้น้อยไม่เคยเห็นมาก่อน ขอชื่นชมท่านจริงๆ!”

ชายชราหายใจออกและโอ้อวด “หากมีโอกาส ข้าจะให้เจ้าเจอประสบการณ์การเคลื่อนที่พริบตาหนึ่งล้านลี้” สิ้นคำเขาชี้ไปทิศทางที่อยู่ห่างไกลและเอ่ยขึ้น “นั่นคือสำนักเมฆาขาว ไปกันเถอะ ตาแก่คนนี้จะพาเจ้าไปสำนักขยะแห่งนั้นเอง”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version