Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 295

Cover Renegade Immortal 1

295. ดินแดนสวรรค์ที่พังทลาย

หลังเก็บหม้อหวนคืนกลับไป หวังหลินเห็นวังวนนับไม่ถ้วน เหล่าเซียนทั้งหลายกำลังเข้าและหายไปในนั้น

ร่างหวังหลินเคลื่อนไหวและพุ่งเข้าไปในวังวนแห่งหนึ่ง ร่างค่อยๆหายไปข้างใน

แสงเป็นภาพเบลอส่องสว่างเข้ามาในแววตาเขาและหวังหลินรู้สึกราวกับกำลังตกลงมาจากฟากฟ้า ทว่าเขาฝืนบังคับสายตาให้เปิดขึ้นและเห็นสิ่งที่เขาจะไม่มีวันลืม

เบื้องล่างเขาเป็นเศษชิ้นส่วนสีทองแตกกระจายราวกับกระจกบานหนึ่งที่ตกลงพื้นและกระจัดกระจาย

ดินแดนสวรรค์ราวกับกระจกที่แตกเป็นเสี่ยงๆ ตอนนี้พลังปราณทั้งหมดได้หายไปจากดินแดนสวรรค์ มีเพียงจำนวนน้อยเท่านั้นที่ยังคงเหลืออยู่ในดินแดนสวรรค์แต่ละชิ้นส่วน

ขณะที่ร่างหวังหลินลดลงไปอย่างรวดเร็ว เศษชิ้นส่วนยิ่งขยายใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น ในไม่ช้าหวังหลินตรวจพบว่าเขาร่อนลงบนชิ้นส่วนหนึ่งที่ปลายขอบ

ขณะที่ร่อนลง หวังหลินตบกระเป๋าอย่างรวดเร็วและกระดิ่งทองเหลืองปรากฎในฝ่ามือ เป็นหนึ่งในสามสมบัติจากเซียนโบราณที่เขาสามารถหลอมรวมมาได้ สมบัติชิ้นนี้มีความสามารถในการเปลี่ยนตัวมันเองไปเป็นกับดักศัตรู

หลังร่อนลง หวังหลินมองรอบๆและตกใจ

พื้นดินไม่มีสัญญาณแห่งชีวิต มีเพียงแค่ใบหน้าเหี่ยวแห้ง ภูเขาที่อยู่ห่างไกลถูกตัดครึ่งออก รอยตัดเรียบลื่นจนเห็นได้ชัดเจนว่ามันถูกตัดโดยใครสักคน

เบื้องล่างภูเขามีพระราชวังตั้งอยู่แต่เปลี่ยนเป็นเศษดินเศษหินไปหมดแล้ว อีกครึ่งยอดภูเขาหล่นลงบนยอดพระราชวัง มองไกลๆจะดูราวกับภูเขาลูกใหญ่เชื่อมต่อกับภูเขาลูกเล็ก

บนพื้นมีหลุมลึกหายแห่ง บางหลุมกระทั่งพ่นควันสีขาวลอยขึ้นมาในอากาศอย่างช้าๆ

ที่นี่คือโลกที่หมดลมหายใจไปแล้ว

หวังหลินครุ่นคิดและพึมพำ “ที่นี่…คือดินแดนสวรรค์หรือนี่?”

แม้จะรู้อยู่แล้วว่าดินแดนสวรรค์ถูกทำลายไปแล้ว แม้แต่เขากำลังยืนอยู่ที่นี่ หวังหลินยังไม่เชื่อสายตา ในยุคโบราณนั้นเมื่อคนผู้หนึ่งบรรลุขั้นตัดวิญญาณ พวกเขาจะได้ยินเสียงเรียกของดินแดนวรรค์ สำหรับเหล่าเซียนแล้วดินแดนสวรรค์เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่ควรจะทรุดโทรม

แต่ตอนนี้หวังหลินมองรอบๆตัวเองจึงช่วยไม่ได้ที่จะเงียบเสียง หลังผ่านไปชั่วครู่เขามองไปที่พระราชวังที่อยู่ห่างไกลและเคลื่อนที่เข้าหาทิศทางนั้น

แม้ว่ามันจะดูไม่ไกลนักแต่หลังจากเหาะเหินไปชั่วครู่ หวังหลินรับรู้ถึงพลังสายหนึ่งออกมาจากท้องฟ้า พลังสายนี้ได้ทำให้ยากที่จะเหาะเหินด้วยความเร็ว

หวังหลินเคลื่อนที่มาถึงพระราชวังหลังเวลาผ่านไปพักใหญ่ หวังหลินเขย่าเมื่อเห็นซากปรักหักพักใกล้ๆ

จากการมองซากปรักหักพังพวกนี้หวังหลินจึงเห็นได้ว่าดินแดนสวรรค์นั้นรวยแค่ไหน เพียงแค่วัตถุดิบที่ใช้สร้างพระราชวังพวกนี้ต่างก็เป็นหินวิญญาณ

แม้หวังหลินจะเคยเห็นสิ่งก่อสร้างที่ใช้หินวิญญาณบริสุทธิ์ในแคว้นซูซึ่งเป็นสถานที่ลี่มู่หวานอาศัยอยู่ เมื่อเปรียบกับที่นี่แล้วนับว่ามีความแตกต่างมหาศาล

หวังหลินไม่สามารถเห็นจุดสิ้นสุดของพระราชวังแห่งนี้ได้ เพียงแค่มองซากปรักหักพังก็เห็นได้ว่าสถานที่แห่งนี้อัศจรรย์แค่ไหนก่อนที่มันจะถูกทำลาย

ทว่าหลังอดีตกาลผ่านพ้นไป หินวิญญาณทั้งหมดนี้ได้สูญเสียพลังงานของมันเอง ความจริงหลายต่อหลายสิ่งเพียงแค่สัมผัสก็กลายเป็นฝุ่นผงแล้ว

หวังหลินถอนหายใจ “เช่นนั้นดินแดนสวรรค์แห่งนี้…”

ขณะที่เดินผ่านซากปรักหักพังไปจึงช่วยไม่ได้ที่หวังหลินจะเริ่มขบคิด พื้นที่แห่งนี้ไม่มีปราณสวรรค์ที่เขากำลังมองหา มีแต่ความโศกเศร้า

ใจกลางพระราชวัง หวังหลินหยุดลงและหวาดกลัวฉากเบื้องหน้า พื้นที่เป็นถ้ำลึกเข้าไป หลังจากมองมันอย่างละเอียดเขาจึงเห็นตราประทับฝ่ามืออยู่ตรงนั้น

หวังหลินตกตะลึง ขณะที่เขาเห็นตราประทับนี้พลันคิดถึงตราประทับบนประตูสวรรค์

พลังของประทับหนึ่งฝ่ามือสามารถทำลายได้กระทั่งพื้นที่กว้าง หวังหลินเชื่อว่าเขาคนนั้นสามารถทำมันได้บนดาวเคราะห์ซูซาคุเช่นกันแต่ทว่าที่นี่คือดินแดนสวรรค์เท่านั้น

ทุกสิ่งทุกอย่างในดินแดนสวรรค์รุนแรงมากกว่าสิ่งภายนอกและสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเซียนขั้นตัดวิญญาณหรือขั้นสูงกว่าซึ่งเป็นผู้ฝึกฝนพลังปราณสวรรค์ เช่นนั้นรอยประทับฝ่ามือนี้นับว่าน่ากลัวอย่างมาก

หวังหลินนั่งย่อลงถัดจากรอยประทับฝ่ามือและสัมผัสมันด้วยแขนตัวเอง ทันใดนั้นกลิ่นอายความตายอันทรงพลังผุดออกมาและเข้าไปในร่างหวังหลินผ่านท่อนแขน

เขตแดนชีวิตและความตายของหวังหลินกระตุ้นทันที หลังเวลาผ่านไปพักใหญ่เขาสูดหายใจลึก แววตาหวาดกลัวยิ่งรุนแรงเด่นชัด

หวังหลินพึ่งจะสัมผัสรอยประทับฝ่ามือที่ยังหลงเหลือกลิ่นอายของผู้ใช้อยู่ด้วย ดังนั้นเขาจึงได้ประสบพบเจอหลังจากสัมผัส ทว่ายิ่งเขาสัมผัสมันได้ก็ยิ่งตระหนักว่าผู้ใช้คนนี้มีทรงพลังแค่ไหน

หลังยืนขึ้นแววตาหวังหลินส่องสว่าง เขาเหาะขึ้นไปบนอากาศและกดฝ่ามือลงบนพื้นที่เดียวกัน หลังเวลาผ่านไปพักใหญ่เขาส่ายศีรษะ เคลื่อนร่างไปรอบๆรอยประทับฝ่ามือและเดินไปรอบๆซากปรักหักพังอย่างต่อเนื่อง

หลังเดินผ่านซากปรักหักพักเป็นเวลาหลายวัน หวังหลินพบแผ่นหินจารึกที่แตกหักพร้อมกับคำบางส่วนสลักไว้

“ของขวัญจากจักรพรรดิสวรรค์พิรุณที่ห้าให้กับปราชญ์สวรรค์เทียนหัว…”

แผ่นจารุกได้กล่าวอย่างลวกๆว่าปราชญ์สวรรค์เทียนหัวได้สำเร็จข้อตกลงที่ดีมากดังนั้นจักรพรรดิสวรรค์จึงสร้างพระราชวังแห่งนี้ให้เขาเป็นรางวัล พระราชวังถูกสร้างในรูปแบบค่ายกลหนึ่งซึ่งจะดึงดูดพลังปราณสวรรค์ในระยะหนึ่งแสนลี้ทำให้การฝึกเซียนมีประสิทธิภาพมากกว่าหลายเท่า

หลังอ่านจบหวังหลินรู้สึกสั่นสะท้านอีกครั้ง แม้เขาจะไม่รู้ว่าอันดับของปราชญ์สวรรค์คือสิ่งใด มันต่ำกว่าจักรพรรดิสวรรค์แน่นอน หากปราชญ์สวรรค์สามารถมีพระราชวังเช่นนี้ได้ เช่นนั้นพระราชวังของจักรพรรดิสวรรค์จะไม่มีเหมือนกันหรือ?

ขณะที่กำลังจะจากไป ดวงตาหวังหลินสว่างขึ้น เขาหันกลับทันทีและจ้องไปที่แผ่นหินจารึก แผ่นหินจารึกดูธรรมดามาก ไม่มีสิ่งใดพิเศษ

แต่สายตาหวังหลินกวาดผ่านแต่ละคำ ทำไมปราชญ์สวรรค์เทียนหัวถึงต้องการมีพระราชวังที่สร้างขึ้นที่นี่กัน? อีกทั้งแผ่นจากรึกนี่คือประกาศิตหนึ่งซึ่งมันควรจะวางข้างนอกเพื่อให้ทุกคนเห็น เช่นนั้นทำไมมันถึงอยู่ที่นี่?

พื้นที่แห่งนี้เป็นส่วนของพระราชวังชั้นใน การที่แผ่นหินจารึกนี้อยู่ที่นี่มันดูเหมือนไม่ชอบมาพากล

หวังหลินขมวดคิ้วขณะยกมือขึ้นชี้ไปที่แผ่นหินจารึก ลำแสงปราณพุ่งออกไปร่อนลงบนแผ่นหินจารึก ทันใดนั้นรอยร้าวบนแผ่นหินยิ่งขยายกว้างขึ้น

หวังหลินตบกระเป๋าและกระบี่เหินเล่มหนึ่งลอยออกมา ภายใต้คำสั่งของเขา กระบี่เหินกระแทกใส่แผ่นหินจารึก เสียงโลหะปะทะกันเกิดเสียงดัง แม้มันจะได้รับความเสียหายจากพลังอำนาจของตราประทับฝ่ามือ แต่แผ่นหินจารึกยังคงทนทานมาก

หลังเวลาผ่านไปพักใหญ่ในที่สุดแผ่นหินจากรึกก็ผ่าครึ่งซีกด้วยกระบี่เหิน หวังหลินมองไปที่ฐานของแผ่นจารึกแต่ไม่สามารถค้นหาสิ่งผิดปกติได้ ทว่าเขายังรู้สึกราวกับมีสิ่งปกปิดไว้เกี่ยวกับแผ่นหินจารึกนี้

แววตาหวังหลินสว่างขึ้นพร้อมกับคว้าแผ่นหินจารึกและดึงกลับ พื้นดินส่งเสียงดังครืดขณะแผ่นหินจารึกถูกหวังหลินลากไปอย่างช้าๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version