Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 351

Cover Renegade Immortal 1

351. หลบหนี

อสูรวิญญาณกลืนกินดวงวิญญาณและหันมาทางหวังหลิน แม้ว่ามันจะถูกควบคุมด้วยกับดักอสูรทว่ามันยังคงไม่เป็นมิตร มันจะมาถูกหวังหลินควบคุมได้อย่างไร?

หวังหลินสงบนิ่งอย่างมากขณะที่เจ้าอสูรกระโจนเข้าหาเขา หวังหลินสร้างผนึกและส่งไปที่ราชรถสังหารเทพ โซ่ตรวนพุ่งออกมาและล่ามวิญญาณอสูรไว้

วิญญาณอสูรเริ่มต่อสู้ดิ้นรนไม่ยอมพ่ายแพ้ ทว่าโซ่ตรวนเต็มไปด้วยพลังอำนาจยิ่งใหย่ มันค่อยๆลากอสูรวิญญาณกลับเข้าสู่ราชรถอย่างช้าๆ

อสูรวิญญาณต่อสู้ดิ้นรนอย่างเปล่าประโยชน์ขณะถูกลากกลับเข้าไปหาราชรถสังหารเทพ เมื่อมันอยู่ด้านข้างราชรถ ร่างของมันเริ่มหดลงจนหายเข้าไปในราชรถ

ราชรถสังหารเทพกลับเป็นกับดักอสูรและลอยเข้าหาหวังหลิน

แววตาหวังหลินสว่างวาบ เขานำหินวิญญาณระดับสูงหนึ่งก้อนออกมาบนฝ่ามือและมืออีกข้างรับกับดักอสูรไว้ ขณะที่มันร่อนลงบนข้อมือมันเริ่มดูดซับพลังปราณของงเขา

ด้วยหินวิญญาณระดับสูงในมือ หวังหลินเหาะเหินห่างไปอย่างรวดเร็ว ความเร็วของเขาไม่ได้เร็วมากขณะที่เหาะเหินเขาหันพลังดึงดูดจากกับดักอสูรเข้าหาหินวิญญาณระดับสูง

กระบวนการนี้กินเวลายาวนานมากก่อนที่แรงดูดนะค่อยๆอ่อนลง หวังหลินปาดเหงื่อบนหน้าปาก เมื่อเขาคลายฝ่ามือก้อนหินวิญญาณระดับสูงเปลี่ยนไปเป็นฝุ่นผงคามือ

“พลังความแข็งแกร่งของราชรถสังหารเทพเป็นสิ่งที่เกินจินตนาการของข้าไปไกล มันคู่ควรจะเรียกว่าสมบัติแห่งสวรรค์โดยแท้ ทว่าอสูรวิญญาณดุร้ายมาก ขณะเดียวกันกับดักอสูรสามารถควบคุมมันได้เพียงแค่ระยะเวลาอันสั้น มันอาจจะกินข้าเข้าสักวัน”

“นอกจากนั้นทุกครั้งที่ข้าใช้มัน ข้าจะต้องใช้หินวิญญาณระดับสูงหนึ่งก้อนเพื่อเติมเต็มพลังปราณที่ข้าเสียไป ค่าใช้จ่ายของมันสูงล้ำมากเกิน” เม็ดเหงื่อบนหน้าผากหวังหลินหายไปเพียงสายลมพัด เขาเริ่มขบคิดอย่างเงียบๆ

ความเร็วของหวังหลินเร็วมาก เขารู้ว่าชั้นที่สามนั้นอันตรายอย่างสูงและเขาต้องจากที่นี่โดยด่วน รวมถึงประโยคจากคนเถื่อนชั้นที่สองยังคงก้องในโสตประสาทของเขา

ชาแมนเจ็ดใบไม้ซึ่งเทียบเท่ากับเซียนขั้นแปลงวิญญาณเป็นสิ่งที่หวังหลินในปัจจุบันไม่อาจต่อต้านอะไรได้

“ข้าสงสัยว่าราชรถสังหารเทพสามารถสังหารเซียนขั้นแปลงวิญญาณได้หรือไม่ ความแตกต่างระหว่างเซียนขั้นตัดวิญญาณและแปลงวิญญาณไม่อาจอธิบายเป็นตัวเลขได้ มันแตกต่างกันด้านคุณภาพ พลังปราณทั้งหมดภายในเซียนขั้นแปลงวิญญาณคือการเปลี่ยนไปเป็นพลังปราณสวรรค์” หวังหลินขมวดคิ้ว

“ถึงเช่นนั้นนี่มันแปลกไปเล็กน้อย ทำไมถึงไม่มีชาแมนเจ็ดใบไม้ปรากฎตัวตอนที่เกิดความปั่นป่วนใต้ต้นไม้แห่งการเกิดใหม่?” แววตาหวังหลินสว่างขึ้นและเหาะเหินรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม

หวังหลินจับตาดูขณะเหาะเหินในชั้นที่สามพร้อมกับแบกต้นไม้แห่งการเกิดใหม่ไว้บนบ่า เขาเคลื่อนฝ่ามือเหนือต้นไม้และตัดมันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

“กิ่งต้นไม้คราวก่อนสามารถเก็บใส่กระเป๋าได้ แต่ทั้งต้นไม่อาจเข้าไปได้ ข้าจะตัดมันเป็นชิ้นๆเพื่อดูว่ามันทำได้ไหม” หวังหลินตัดชิ้นนึงออกมาและลองดู

ชิ้นส่วนต้นไม้แห่งการเกิดใหม่เล็กๆพลันหายเข้าไปในกระเป๋าโดยไม่มีหน่วงเวลา

“มันได้ผล!” หวังหลินเพิ่มความเร็วของตนและนำชิ้นส่วนต้นไม้เข้าไปในกระเป๋า

“ต้นไม้แห่งการเกิดใหม่เป็นปริศนาจริงๆ มันไม่สามารถเก็บใส่กระเป๋าได้ทั้งต้นแต่เป็นชิ้นๆกลับทำได้” หวังหลินมองเข้าไปในกระเป๋าและเหาะเหินเข้าหาทางออกของชั้นสาม

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ หวังหลินเห็นทางออกในระยะสายตา เขาใช้เคลื่อนที่พริบตาและมาถึงอุโมงค์แต่ขณะนั้นเสียงกระแอมดังขึ้นห่างไปไกล

ผู้เฒ่าคนหนึ่งมีรอยสักปกคลุมร่างกายมากกว่าแปดในสิบส่วนค่อยเดินหลังค่อมออกมาอย่างช้าๆ

หวังหลินไม่ลังเล เขาพุ่งตัวเข้าไปในอุโมงค์และขึ้นไปยังชั้นสอง

ผู้เฒ่าผมขาวสวมสร้อยข้อมือสร้างจากกระดูกอสูร เขาสัมผัสสร้อยข้อมือและเดินเข้าไปหาทิศทางที่หวังหลินไป

เพียงกระพริบตา เขาหายวับและปรากฎตัวบนชั้นที่สอง

“อะไรกัน?” หลังผู้เฒ่าปรากฎตัวเขาตกตะลึงทันที ตอนที่หายตัวไปเขาสัมผัสตำแหน่งของคนนอกผู้นั้นอย่างชัดเจนแต่เมื่อปรากฎตัวอีกครั้งตัวตนของมันได้หายไปอย่างสิ้นเชิง

ผู้เฒ่ายืดหลังตรงและชี้ไปยังระหว่างคิ้วตนเอง เจ็ดใบไม้ค่อยๆปรากฎบนหน้าผากและทุกมุมทุกตำแหน่งบนชั้นสองพลันปรากฎในใจเขาทันที

ในเวลาเดียวกันวิชาที่เหมือนกับสัมผัสวิญญาณของเซียนได้กวาดผ่านชั้นสองแต่ไม่พบร่องรอยของหวังหลินเลย

ซึ่งทำให้ผู้เฒ่าเผยใบหน้าตกใจ

“เจ้าหนูคนนอกผู้นี้มีวิชาที่สามารถเล็ดรอดสายตาของข้าได้” ผู้เฒ่าครุ่นคิดเล็กน้อยและจากนั้นหายตัวไป

ครึ่งเดือนผ่านไปในพริบตา

ภายในช่วงเวลาครึ่งเดือน ไม่มีใครออกมาจากสุสานอมตะ ผู้เฒ่าฮู่เสี่ยงให้วิญญาณต้นกำเนดได้รับบาดเจ็บและใช้สมบัติช่วยชีวิตเพื่อหนีออกมา ทว่าเขาหนีรอดไปได้ครึ่งทางและถูกผู้เฒ่าหลังค่อมจับได้ จากนั้นไม่มีข่าวของผู้เฒ่าฮู่อีกเลย

ส่วนร่างศพของซิ่วลั่วและหยุนเมิ่ง พวกเขาถูกสำนักเซียนที่ถูกทอดทิ้งรับไปเพื่อหาทางใช้อย่างอื่น

ฉิวซื่อผิงไม่สามารถต่อต้านการปรับแต่งของชาแมนหกใบไม้ได้ นอกจากนั้นชาแมนหกใบไม้ยังเสมือนกับเซียนขั้นตัดวิญญาณ เป็นผลให้เขาแปรเปลี่ยนเป็นหุ่นเชิด

นอกจากแม่นางผ้าคลุมหน้าและคนรับใช้ของนางซึ่งไม่รู้ตำแหน่ง หวังหลินเป็นเพียงคนเดียวจากกลุ่มพวกเขาที่ยังรอดชีวิต

ในวันนี้เอง ณ เส้นทางจากชั้นที่สองไปชั้นที่สาม ลำแสงสีรุ้งปรากฎขึ้นและในไม่ช้าคนผู้หนึ่งปรากฎกายภายในลำแสง

แทบในทันทีที่หวังหลินปรากฎตัว เขาก็หายวับไป

ครึ่งเดือนก่อนตอนที่เขาสังเกตผู้เฒ่าหลังค่อมได้ตอนที่มาถึงชั้นที่สอง หวังหลินเข้าไปในลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าโดยไม่ลังเลใดๆ

นานมากแล้วตั้งแต่ที่เขาไม่ได้ซ่อนตัวภายในลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า

เบื้องหน้าชาแมนเจ็ดใบไม้ผู้ซึ่งเหมือนกับเซียนขั้นแปลงวิญญาณ หวังหลินเข้าใจดีว่าตนเองไม่มีทางเลือกเลย เมื่อเขาถูกเพ่งเล็ง เส้นทางที่เหลือไว้ให้เขาคือความตายเท่านั้น

หลังเขาปรากฎตัวหวังหลินใช้ความเร็วถึงขีดสุด เขาไม่สนใจอย่างอื่นใดมากกว่าการออกไปจากที่นี่ดังนั้นจึงใช้พลังปราณเพื่อเหาะเหินให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้ หากไม่ใช่ว่าเข็มทิศดวงดาวต้องใช้ในมิติว่าง เขาคงใช้มันไปแล้ว

เขาเคลื่อนที่พริบตาต่อไปขณะถือหินวิญญาณระดับสูงในมือไปด้วย เมื่อกำลังเข้าสู่อุโมงค์ชั้นแรก รอยสักสีทองปรากฎและผนึกอุโมงค์ไว้

“เจ้าหนูคนนอก ตาเฒ่าคนนี้รอเจ้ามานานแล้ว” เสียงกระแอมดังขึ้น ผู้เฒ่าหลังค่อมปรากฎภายในรอยสักและมองหวังหลินอย่างไม่ใส่ใจ

เพียงชายตามองครั้งเดียว หวังหลินรู้สึกราวกับโดนมองทะลุปรุโปร่ง ความรู้สึกหนาวเย็นปกคลุมทั่วร่างกาย

หวังหลินไม่กล้าถอยกลับ เขารู้สึกได้ว่าหากถอยไปก้าวเดียว ผู้เฒ่าคนนี้จะสังหารเขาแน่นอน หวังหลินจ้องเขาอย่างเย็นชาพร้อมกับฝ่ามือซ้ายสัมผัสกับดักอสูร

ผู้เฒ่ากระแอมเล็กน้อยและเอ่ยช้าๆ “เจ้าสังหารโมโม่ เตี่ยหยา คากู่และฉีมู่ ข้าสามารถมองเห็นวิญญาณแห่งความแค้นเคืองในร่างกายเจ้า การสังหารเด็กน้อยในสำนักข้าด้วยระดับขั้นเกือบจะตัดวิญญาณระดับกลางโดยเฉพาะนักรบหกใบไม้เช่นฉีมู่นั้นเจ้าต้องเป็นที่รู้จักกันในโลกแห่งเซียนเป็นแน่ เจ้าชื่ออะไร? ”

หวังหลินเอ่ยอย่างเยือกเย็น “หวังหลิน!” ฝ่ามือขวากดลงบนกับดักอสูรแน่นหนา ราชรถสังหารเทพมีข้อบกพร่องร้ายแรงเนื่องจากมันใช้เวลานานเกินกว่าจะกระตุ้น หวังหลินไม่มั่นใจว่าเขาจะยันไว้ได้นานพอจะเปิดมันหรือไม่

“สมบัติที่สังหารฉีมู่ควรจะเป็นสร้อยข้อมือของเจ้า” ผู้เฒ่ามองดูกับดักอสูรและเอ่ยขึ้น “มีกลิ่นวิญญาณอสูรข้างในนี้”

ใบหน้าหวังหลินมัวมอง เขาจ้องผู้เฒ่าและพยายามถอยกลับไปอย่างช้าๆ

สายตาผู้เฒ่าหันเข้ามาหาหวังหลินอีกครั้ง หวังหลินหยุดกึกและไม่ถอยร่นอีกต่อไป

ผู้เฒ่ากระแอมขึ้น “ข้าจะไม่ทำให้ยุ่งยาก จงบอกวิธีที่เจ้าใช้ซ่อนตัวตนมาและข้าจะนำร่างเจ้าไปฝังรอยสักด้วยตัวข้าเอง จากนั้นเจ้าจะเป็นหุ่นเชิดรอยสักของข้า ระดับเช่นเจ้าบางคนยังไม่สามารถหนีข้าไปได้เลย” ผู้เฒ่ายื่นแขนออกและหวังหลินสัมผัสพื้นที่ว่างรอบๆเริ่มเข้าไปใกล้

แววตาหวังหลินเย็นชา ฝ่ามือขวาสัมผัสกระเป๋าและธงกฎเกณฑ์ปรากฎ มันปลดปล่อยมังกรที่สร้างจากกฎเกณฑ์พุ่งเข้าหาเขา

ในเวลาเดียวกันกระบี่สวรรค์ปรากฎในฝ่ามือหวังหลินและเฉือนเขาหาคู่ต่อสู้

ผู้เฒ่าเลิกคิ้วและชี้ไปข้างหน้า รอยสักบนร่างเคลื่อนไหวด้วยวิธีการประหลาด ในไม่ช้ารอยสักหนึ่งปรากฎที่ปลายนิ้วและถูกส่งออกไปเพียงการสะบัด

ขณะที่รอยสักปรากฎมันแบ่งออกเป็นรอยสักเล็กๆสองชิ้นและพุ่งเข้าหามังกร ส่วนพลังปราณกระบี่ผู้เฒ่าสร้างรอยสักอีกชิ้นปะทะเข้ากับพลังปราณกระบี่

ปัง!

พลังปราณกระบี่ทิ้งรอยสีแดงบนนิ้วมือผู้เฒ่า เขามองมันและเอ่ยขึ้น “ไม่เลว กระบี่เล่มนั้นควรจะเป็นสมบัติที่ทรงคุณค่าเช่นกัน”

หวังหลินรู้สึกหนังศีรษะมึนชา ธงกฎเกณฑ์ไร้ประโยชน์ กระบี่สวรรค์ไร้ประโยชน์ และแม้กระทั่งราชรถสังหารเทพยังไร้ประโยชน์ที่จะต่อต้านชายชราผู้นี้

แววตาหวังหลินยิ่งเยือกเย็นขณะนำธงกฎเกณฑ์อีกผืนออกมาจากกระเป๋า เขาสร้างกฎเกณฑ์หนึ่งในฝ่ามือและจ้องไปที่ผู้เฒ่าตรงข้ามกัน

ผู้เฒ่าจ้องธงกฎเกณฑ์และส่ายศีรษะ “เจ้าใช้สมบัติไปจำนวนมากแล้ว ข้ามั่นใจว่าเจ้าต้องเป็นศิษย์สายตรงของสำนักใหญ่ข้างบนนั่น แรงกดดันแห่งสวรรค์คงอยู่บนของชิ้นนั้น ข้าเชื่อว่าเมื่อเจ้าวางกฎเกณฑ์ชนิดสุดท้ายลงไปมันจะอัญเชิญสิ่งที่เหล่าเซียนเรียกว่า ‘ทัณฑ์สวรรค์’ หากเราอยู่บนพื้นดินมันอาจจะทำร้ายข้า แต่ที่นี่คือสุสานอมตะ เป็นโลกที่แตกต่างกัน ทัณฑ์สวรรค์ไม่สามารถมาถึงที่นี่เจ้า เจ้าลองมันได้อย่างอิสระ” เช่นนั้นผู้เฒ่ายื่นมือออกอีกครั้ง

เขาไม่ได้ขยับฝ่ามือรวดเร็วมากในครั้งนี้แต่ใช้พลังมากกว่าครั้งก่อน เสียงรอยร้าวได้ยินไปรอบๆหวังหลินและรอยแยกอวกาศปรากฎขึ้นหลายแห่ง

ราวกับพื้นที่แห่งนี้กำลังล่มสลาย

ดวงตาหวังหลินสว่างวาบ หลังเขาเก็บธงกฎเกณฑ์กลับไป ของอีกชิ้นหนึ่งปรากฎในฝ่ามือ นี่คือม้วนคัมภีร์

ขณะที่ม้วนคัมภีร์ดูธรรมดาปรากฎในฝ่ามือหวังหลิน ใบหน้าผู้เฒ่าที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยพลันเคร่งเครียดและฝ่ามือหยุดกึกโดยไม่รู้ตัว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version