Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 427

Cover Renegade Immortal 1

427. ต้นไม้วิญญาณบรรพชน

บรรพชนลำดับห้าเงียบกริบแต่ขมวดคิ้วบางๆ

ขณะนี้ผู้ดูแลโลงศพทั้งสองสร้างผนึกเร็วขึ้นและเร็วขึ้น จากนั้นกระแอมเป็นโลหิตออกมาแต่ไม่ได้ตกไปบนโลงศพ มันกลายเป็นคนสองคน ทั้งร่างโลหิตสองลำดับเกิดขึ้นพุ่งตรงเข้าไปในโลงศพ

ร่างศพขนาดใหญ่ออกมาจากโลงศพพร้อมกับเสียงขูดขีดจำนวนมาก ร่างนี้สูงมากกว่าร้อยฟุตและเน่าเปื่อย มีหลายส่วนมองเห็นลึกถึงกระดูกขาว

มีแม้กระทั่งหนอนตัวใหญ่ยังคงไต่ยั้วเยี้ยบนร่างกายทำให้ดูน่าสะอิดสะเอียนมากขึ้นไปอีก

แต่สภาพศีรษะยังคงปกติดีโดยเฉพาะระหว่างคิ้วที่เป็นตำแหน่งขวานสีม่วงซึ่งเห็นได้ชัด

ขณะนั้นเองน้ำเสียงสงบนิ่งดังออกมาจากระยะไกล “บรรพชนลำดับห้าแห่งเผ่าละทิ้งอมตะ ข้าฉูหยุนเฟยมาที่นี่เพื่อประลองกับท่าน!”

เมื่อน้ำเสียงส่งมาถึง เสียงพื้นดินแตกกระจายดังออกมาจากภายนอกก้อนเมฆดำ หลังจากนั้นไม่นานแรงกดดันทรงพลังปรากฎขึ้นภายนอกและแตกกระจาย

เซียนขั้นเทวะของสำนักหยกสวรรค์ยืนห่างไปหนึ่งหมื่นลี้ทว่าดวงตาเจิดจ้าราวกับสายฟ้า เบื้องหลังเป็นเซียนจำนวนมากสายตาเยือกเย็นและเต็มไปด้วยจิตสังหาร

ดวงตาบรรพชนลำดับห้าเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นขณะโบกสะบัดแขนขวา “ฆ่า!”

เพียงคำเดียว เผ่าละทิ้งอมตะทั้งหมดพุ่งออกไปและการต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้น

ฉูหยุนเฟยเข้ามาถึงด้านข้างโลงศพ เขาตีมันหนึ่งฝ่ามือ “สำนักซากศพ พวกเจ้ารนหาที่ตาย!”

ก่อนฝ่ามือฉูหยุนเฟยจะมาถึง บรรพชนลำดับห้ายื่นมือออกมาและดึงร่างศพยักษ์เข้าไปหาสมาชิกเผ่าของตนที่กำลังสวดคาถา

เสียงดังปัง ร่างศพยักษ์ตกลงบนพื้นจนเกิดคลื่นกระแทกพัดเอาฝุ่นฟุ้งขึ้นมา

โลงศพสลายกลายเป็นฝุ่นผงด้วยฝ่ามือของฉูหยุนเฟย

บรรพชนลำดับห้ารีบเอ่ยขึ้น “กระตุ้นต้นไม้แห่งการเกิดใหม่!” จากนั้นพุ่งเข้าหาฉูหยุนเฟยอย่างรวดเร็วพร้อมกับสะบัดแขน ก้อนเมฆดำรีบออกมาล้อมรอบเขาและฉูหยุนเฟยทันที

แสงกระพริบแปลบปลาบออกมาจากข้างในก้อนเมฆดำขณะเดียวกันเกิดคลื่นกระแทกเนื่องจากพลังปราณสวรรค์ถูกใช้งาน ใครก็ตามที่ถูกคลื่นกระแทกสัมผัสจะสลายกลายเป็นฝุ่นผงโดยทันที

หลังบรรพชนลำดับห้าพุ่งออกไป หนึ่งในผู้อาวุโสกระโดดข้ามผ่านและร่อนลงบนร่างศพยักษ์ เขาไม่ใส่ใจหนอนแมลงบนร่างขณะที่ฝ่ามือขวายื่นออกไป บอลแสงสีทองขนาดเท่ากำปั้นปรากฎขึ้นในฝ่ามือเขา

ในตอนนั้นหนึ่งในเซียนขั้นแปลงวิญญาณระดับกลางพลันดวงตาส่องสว่างขึ้นและเขาพุ่งเข้ามาหาลำดับมีบอลแสงสีทอง ร้องตะโกนขึ้น “ทิ้งแสงทองนั้นซะ!” จากนั้นสะบัดแขน กระบี่เหินเล่มหนึ่งลอยออกไป

ชาแมนแปดใบไม้พลันเงยศีรษะขึ้นมองชายกลางลำดับกำลังพุ่งเข้ามาหาเขา เขากดแสงสีทองเข้าใส่หน้าอกร่างศพยักษ์โดยไม่ลังเล

แสงสีทองกระพริบวาบขณะกระบี่พุ่งแทงผ่านหน้าอกชาแมนแปดใบไม้โดยพลัน ใบหน้าเขาซีดเผือดราวกับคนตายแต่กดสีทองลงบนหน้าอกร่างศพต่อไป

จากนั้นหัวเราะออกมาและปาดแผลบนหน้าอกตัวเอง เขาเลียโลหิตจากนิ้วและรีบพุ่งออกไปต่อสู้กับชายกลางคน

ร่างศพเผ่ามารยักษ์เรืองแสงสีทองได้สว่างขึ้นและสว่างขึ้น

ฉุหยุนเฟยซึ่งกำลังต่อสู้กับบรรพชนลำดับห้า เขาพลันขมวดคิ้วขณะถอยกลับมาและตะโกน “ทำลายร่างศพเผ่ามารยักษ์นั้นซะ!”

เซียนรอบๆทั้งหมดพุ่งเข้าหาร่างศพทันที

ทว่าเหล่าสมาชิกเผ่าละทิ้งอมตะส่งตัวเองเข้ามาขวางทางโดยไม่สนใจชีวิตตนเอง บางคนถึงกับโยนตัวเองเข้ามาหยุดเซียนหลายคนไว้

แสงสีทองเริ่มส่องสว่างขึ้นและสว่างขึ้น ขณะนี้ร่างศพเผ่ามารยักษ์เริ่มหดลง แสงสีทองเสมือนต้นไม้บนพื้นดิน ขณะมันเติบโตขึ้นสูดเอาสารอาหารจากดินเข้าไปด้วย

กระบวนการนี้กินเวลาเพียงแค่สิบลมหายใจก่อนที่ร่างศพถูกถ่ายเทพลังงานออกไปจนหมดและสลายกลายเป็นฝุ่นผง

ฉูหยุนเฟยพุ่งออกไปจากก้อนเมฆดำเข้าหาแสงสีทอง บรรพชนลำดับห้าพลันเยาะเย้ยภายในก้อนเมฆและไม่ห้ามเขา

เมื่อฉูหยุนเฟยมาถึง แสงสีทองพลันแตกกระจายและต้นไม้แห่งการเกิดใหม่สูงถึงหนึ่งพันฟุตปรากฎออกมา

คลื่นกระแทกอันแข็งแกร่งกระจายออกมาจากมันและปกคลุมทั้งพื้นที่ส่วนตะวันออกของดาวซูซาคุทันที

ใบหน้าท่าทางฉูหยุนเฟยเปลี่ยนไปมากมายขณะรีบถอยกลับ แต่เขาถูกคลื่นกระแทกเข้าใส่จนโลหิตซึมออกมาจากมุมปาก

บรรพชนลำดับห้าแสยะยิ้มพร้อมกับพุ่งเข้าหาฉูหยุนเฟย ดวงตาฉูหยุนเฟยสว่างวาบและตัดสินใจไม่ต่อสู้อีกครั้ง เขาพุ่งออกไปจากที่แห่งนี้ขณะเดียวกันก็ตะโกนขึ้น “ล่าถอย!”

เหล่าเซียนที่กำลังต่อสู้กันอยู่ทั้งหมดถอนหายใจและรีบล่าถอย

สมาชิกเผ่าละทิ้งอมตะกำลังจะไล่ตามแต่ว่าถูกบรรพชนลำดับห้าห้ามไว้ “อย่าไล่ตาม ปกป้องต้นไม้วิญญาณบรรพชน!”

ผู้อาวุโสซือหม่าซึ่งไม่ได้ลงมือเลยพลันมองต้นไม้แห่งการเกิดใหม่ด้วยสายตาลึกลับ เขาเอ่ยขึ้น “จากการตกลงระหว่างเราสองคน ของอยู่ที่ไหน?”

บรรพชนลำดับห้าคลำดับคิดก่อนจะชี้ไปที่คิ้วตนเอง จากนั้นรอยสักขนาดเท่าฝ่ามือลอยออกระหว่างคิ้วของเขา

รอยสักนี้ซับซ้อนอย่างมาก เพียงแค่มองมันก็ทำให้ตาลายได้แล้ว แต่มันเต็มไปด้วยพลังอำนาจทำลายล้างมหาศาล

“รอยสักนี้เป็นหนึ่งในรอยสักที่ถูกส่งต่อมาจากเหล่าบรรพชน ตอนที่ข้าบรรลุขั้นเก้าใบไม้ข้าจึงทำมันสำเร็จ!” เช่นนั้นเขาโบกแขนและรอยสักลอยเข้าหาผู้อาวุโสซือหม่า

ใบหน้าผู้อาวุโสซือหม่าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขณะตบกระเป๋าและนำกล่องหยกออกมา กล่องหยกไม่ได้ปลดปล่อยพลังปราณธรรมดาแต่กลับเป็นพลังปราณสวรรค์และปกคลุมด้วยกฎเกณฑ์ทรงพลัง

เขาวางรอยสักในกล่องหยกด้วยความระมัดระวังก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอกและเก็บกล่องไว้ในกระเป๋า จากนั้นหัวเราะและเอ่ยขึ้น “บรรพชนลำดับห้าเป็นคนเด็ดขาดจริงๆ ข้าหวังว่าบรรพชนคนอื่นจะเป็นแบบเดียวกัน”

“เมื่อเผ่าละทิ้งอมตะให้สัญญากับสำนักซากศพของท่าน เราจะไม่เปลี่ยนใจแน่นอน!” เขามองผู้อาวุโสซือหม่าด้วยสายตาเย็นชา

ขณะที่ซือหม่าหัวเราะ สายตาสว่างวาบและเอ่ยขึ้นทันที “ข้าได้ข่าวมาจากจ้าวสำนักซากศพ ในสำนักซากศพของเรายังมีร่างศพเผ่ามารยักษ์ผู้ซึ่งครั้งนึงได้สังหารชาแมนเก้าใบไม้ไปหลายคน ร่างเขาบรรพลุขั้นเทวะระดับปลายแล้ว หากท่านสนใจสามารถติดต่อเราได้ทุกเมื่อ!” หลังเอ่ยเช่นนั้นเขาไม่รอให้อีกฝ่ายตอบกลับก่อนจะรีบจากไปอย่างรวดเร็ว

ผู้ดูแลร่างศพสองคนติดตามไปเช่นกันและทั้งสามคนหายตัวไปจากก้อนเมฆดำ

ฉากเดียวกันนี้ปรากฎขึ้นในเขตทวีปซูซาคุปลายขอบทิศเหนือ ใต้และตะวันตก

น่าเสียดายนัก นอกจากจูเซว่จื่อที่ทำลายต้นไม้แห่งการเกิดใหม่ทางทิศตะวันตกได้สำเร็จแล้ว ทางฝั่งทิศใต้และตะวันออกกลับล้มเหลว ทว่าฉากเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นที่ต้นไม้ทิศเหนือ

ร่างซือถูหนานเคลื่อนไหวราวกับภูติพรายและเข้าไปในสายหมอกดำอย่างเงียบเชียบ ไม่มีใครรู้การมาถึงของเขา รวมถึงบรรพชนลำดับสี่ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่แห่งนี้

จังหวะที่ต้นไม้วิญญาณบรรพชนหรือต้นไม้แห่งการเกิดใหม่เริ่มเรืองแสงขึ้น ซือถูหนานเข้ามาข้างในต้นไม้และกลายเป็นเหมือนปรสิต

เขาดูดซับสารอาหารสำหรับต้นไม้ทำให้ต้นกล้าแห่งการเกิดใหม่ล่มสลาย

ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้เผ่าละทิ้งอมตะทุกคนเกิดอาการมึนงง บรรพชนลำดับสี่ต้องเสียสละรอยสักจนในที่สุดก็พบซือถูหนาน

ซือถูหนานหัวเราะอย่างจองหองใส่บรรพชนลำดับสี่และหายตัวไป ทิ้งไว้แต่เพียงเสียงในสายลม “บัดซบ สกปรกจริง! ถ้าข้ารู้ว่ามันสกปรกแบบนี้ข้าคงไม่ต้องกินมัน!”

เส้นผมบรรพชนลำดับสี่เปลี่ยนเป็นสีขาวและดวงตาแดงฉาน เขาร้องคำรามออกมาและพุ่งไล่ตามซือถูหนาน ซือถูหนานไม่ได้เพียงแค่กลืนกินต้นไม้แห่งการเกิดใหม่แต่รวมถึงวิญญาณบรรพชน!

นี่เป็นหนึ่งในห้าวิญญาณบรรพชนที่เผ่าละทิ้งอมตะใช้เวลาหลายหมื่นปีเพื่อหล่อเลี้ยงมา เมื่อวิญญาณบรรพชนเติบโตขึ้นและรวมเข้ากับมนต์คาถาพิเศษ มันสามารถอัเชิญร่างวิญญาณจากความว่างเปล่าได้ ร่างวิญญาณนั้นจะรวมเข้ากับวิญญาณบรรพชนเพื่อสร้างชาแมนสิบใบไม้!

ทว่าวิญญาณบรรพชนพึ่งจะถูกกลืนกินไปดันอยู่ใต้จมูกเขา ศีรษะเต็มไปด้วยความคั่งแค้นและความโกรธพุ่งทะลุถึงขีดสุด

“ข้าจะไล่ฆ่าเจ้า!” บรรพชนลำดับสี่ร้องตะโกนขณะไล่ตามหลังซือถูหนานอย่างบ้าคลั่ง

ซือถูหนานหลบหนีได้รวดเร็วและหัวเราะ “วิธีของซูซาคุรุ่นแรกไร้ยางอายนิดหน่อยแต่ข้าชอบมัน ตอนที่ข้ามีร่างกายจะสามารถสอนมันให้หวังหลินได้และเราสองคนจะกลืนกินวิญญาณบรรพชน แม้ข้ากลัวว่าด้วยระดับบ่มเพาะของหวังหลินตอนนี้เขาจะไม่สามารถทนได้ก็เถอะ!”

“ข้าจะฆ่าเจ้า!” เสียงคำรามดุร้ายออกมาจากคนที่ตามหลังซือถูหนานซึ่งเขาดูเหมือนหัวใจถูกฉีกเป็นชิ้นๆ

ความเกลียดชังแฝงมาจากเสียงคำรามจนไม่อาจอธิบายเป็นคำพูดได้

หวังหลินได้ยินเสียงคำรามจากระยะไกล เขาเก็บเจ้าอสูรยุงกลับไปทันทีและรีบเหาะเหินออกไปด้านข้างแทนที่จะรอซือถูหนานที่เดิม

เมื่อสัมผัสวิญญาณของซือถูหนานกระจายออกไป เขาพบหวังหลินและเคลื่อนที่พริบตาเข้าหา ซือถูหนานปรากฎตัวข้างหวังหลินและเอ่ยขึ้นทันที “เจ้าช้าเกินไป ข้าจะจับเจ้าไว้เอง มีหมาบ้ากำลังไล่ตามเรามา เมื่อข้ามีร่างกายและย่อยสลายพลังจากวิญญาณบรรพชนเสร็จสิ้น ข้าจะต้มเจ้าหมาบ้าตัวนี้แน่นอน”

สิ้นคำเขาคว้าตัวหวังหลินและรีบเหาะเหินออกไปอย่างรวดเร็ว

ซือถูหนานเร็วมาก ในพริบตาเดียวเขาและหวังหลินก็ออกจากทวีปซูซาคุและอยู่ระหว่างทางไปขั้วโลกเหนือ

บรรพชนลำดับสี่เผ่าละทิ้งอมตะดูเหมือนตั้งใจไล่ล่าซือถูหนานให้ได้

ขณะที่ซือถูหนานเหาะเหินไป เขาไม่เผยความหวาดกลัวเลย เขาชะลอตัวลงบ่อยครั้งเพื่อให้บรรพชนลำดับสี่ไล่ตามทัน

“ข้ากลืนกินวิญญาณบรรพชนและจากนั้นรวมเข้ากับร่างกายผู้นั้น แล้วข้าจะกลืนกินเจ้าหมาบ้านี่ด้วย นี่น่าจะลดระยะเวลาฟื้นฟูไปได้มาก! ข้าจะได้รับประโยชน์เองคนเดียวและกวาดล้างชาแมนที่มีพลังเทียบเคียงกับเซียนขั้นเทวะได้ เช่นนี้กล่าวได้ว่าข้าไม่ลืมความเมตตาของซูซาคุรุ่นแรกเลย!” ซือถูหนานหัวเราะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version