Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 431

Cover Renegade Immortal 1

431. พิราบยึดรัง

“น้องหวัง หยินหยกชิ้นนี้บรรจุข้อมูลเขตแดนของหลิวเหมยเอาไว้ ข้ารู้ว่าผู้อาวุโสมีเหตุผลที่จะทำสิ่งนี้ดังนั้นไม่ว่าเจ้าจะดูมันหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้า”

โจวหวู่ไท่จากไปพร้อมกับเหล้าครึ่งขวดและทิ้งหินหยกไว้

หวังหลินครุ่นคิดเล็กน้อยจากนั้นตรวจสอบหินหยกด้วยสัมผัสวิญญาณ วันเวลาผ่านไปใบหน้าหวังหลินยิ่งมืดมนขึ้นเรื่อยๆ

“เต๋าของหลิวเหมย…เขตแดนพันจิตภาพไร้ปราณี…ซ่อนอารมณ์ที่แตกต่างกันหลายพันแบบไว้ภายใต้ความไร้ปราณีของจิตใจ ข้าสังเกตมันได้เมื่อตอนนั้นแต่หากหลิวเหมยตอแยข้าต่อไป ข้าต้องหาทางต่อกรกับนาง!” หวังหลินบดขยี้หินหยกแตกละเอียด

เขายืนขึ้นเดินเข้าไปในค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณ กระตุ้นมันและหายตัวไป

แคว้นซูเป็นแคว้นที่ใกล้ที่สุดกับเผ่าละทิ้งอมตะ

มีเผ่าละทิ้งอมตะอยู่ที่นี่จำนวนมากอยู่แล้วโดยธรรมชาติ

สำนักฟ้าเมฆาของแคว้นซูซึ่งอยู่มานานได้พ่ายแพ้ต่อเผ่าละทิ้งอมตะ เซียนทั้งหมดต้องมีตราประทับรอยสักบนร่างตัวเอง

เหล่าคนธรรมดาโชคดีและไม่ได้มีผลกระทบอะไรมาก มีเพียงหมู่บ้านไม่กี่แห่งที่อยู่ใกล้กับเผ่าจึงถูกลูกหลงระหว่างการต่อสู้

นอกจากเอาพวกเด็กที่สามารถบ่มเพาะไป เผ่าละทิ้งอมตะไม่ได้สังหารคนธรรมดาเลย

ณ วันนี้หวังหลินเดินออกมาจากค่ายกลเคลื่อนย้ายทางฝั่งทิศตะวันตกของแคว้นซู

ท้องฟ้าสลัวเหลือแคว้นซู แม้ว่ามันจะเป็นตอนกลางวัน ดูเหมือนว่าแสงไฟจะถูกก้อนเมฆดำดูดซับไป มองไกลๆไม่แตกต่างจากตอนกลางคืนเลย

สิ่งที่จับสายตาจริงๆคือต้นไม้ที่เติบโตออกมาจากสุสานอมตะได้แทงทะลุสู่ยอดฟ้า หากมองใกล้ๆจะรู้สึกตกใจและทำให้ผู้คนสัมผัสว่าตัวเองเล็กน้อยแค่ไหน

บนท้องฟ้าจะเห็นผู้คนเผ่าละทิ้งอมตะเหาะเหินข้ามไปพร้อมกับเหล่าเซียนที่ติดตาม พวกเซียนทั้งหมดจะมีรอยสักบนร่างกายและสายตามืดมัว

นอกเหนือจากนี้ยังมีต้นไม้ลึกลับมากมายที่ปลูกไว้ทั้งแคว้นซู ต้นไม้พวกนี้เคลื่อนไหวตัวได้น่าขนลึกและเติบโตอย่างรวดเร็ว

แคว้นซูเปลี่ยนไปมากเมื่อหวังหลินมาถึง

การกระตุ้นค่ายกลเคลื่อนย้ายจับความสนใจของเผ่าละทิ้งอมตะ แทบในทันทีที่หวังหลินปรากฎตัว ก้อนเมฆสีดำจำนวนมากในท้องฟ้าเข้ามาใกล้ มีชาแมนเจ็ดถึงแปดคนข้างในก้อนเมฆ ขณะที่พวกเขาเห็นหวังหลินจึงเริ่มกระตุ้นพลังรอยสักของตัวเองเพื่อโจมตี

หวังหลินสงบนิ่ง เขาไม่ได้มองชาแมนเหล่านั้นก่อนจะเคลื่อนร่างและหายตัวไป

เมื่อปรากฎตัวอีกครั้งเขาก็อยู่หมู่บ้านที่โจวลี่เกิดที่นี่

ที่แห่งนี้แห้งแล้งและถึงกับมีต้นไม้ประหลาดเติบโตที่นี่ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดลงเหลืออยู่ หวังหลินถอนหายใจพร้อมกับจากไป

เขาไม่ได้เข้าไปสำนักฟ้าเมฆาเพราะเขาไม่ใช่พ่อพระ หากเข้าไปและลบล้างรอยสักของพวกเซียนออก มันคงไม่ใช่เรื่องดี มันแทบเป็นการเชื้อเชิญให้เผ่าละทิ้งอมตะโกรธเคืองเสียอีก

หวังหลินเห็นสมาชิกเผ่าละทิ้งอมตะจำนวนมากมายขณะที่เหาะเหินผ่านแคว้นซู ทว่าทั้งหมดต่างเป็นขั้นสี่ใบไม้และมีส่วนน้อยที่เป็นขั้นห้าใบไม้

เดิมทีหวังหลินต้องการจากที่นี่ไปและเข้าสู่สนามรบต่างแดนเพื่อรวบรวมวิญญาณเร่ร่อน แต่ทว่าหัวใจเขาสั่นเทา

“ตอนนี้สมาชิกเผ่าละทิ้งอมตะหลักให้ความสนใจบนทวีปซูซาคุ ข้ากลัวว่าจะไม่มีเหลืออยู่ที่นี่มากนัก…”

“ครั้งสุดท้ายที่ข้าเข้าไป ไปได้ถึงเพียงชั้นสาม เผ่าละทิ้งอมตะต้องมีอะไรเก็บไว้จำนวนมากในช่วงหลายหมื่นปีมานี้ เมื่อข้าจะออกไปจากดาวอยู่แล้วก็ควรไปตรวจสอบมันเพื่อเตรียมการสำหรับอนาคต!” ดวงตาหวังหลินสว่างขึ้นและหันไปทางสุสานอมตะ

เขาเหาะเหินอย่างรวดเร็วและในพริบตาก็มาถึงเหนือหลุมที่นำทางสู่สุสานอมตะ รัศมีของต้นไม้ทรงพลังมากขึ้นเมื่อเข้าใกล้ มันใหญ่มากจนปกคลุมทางเข้าสู่สุสานอมตะ หวังหลินดูเหมือนมดตัวเล็กเมื่อยืนอยู่ข้างต้นไม้นี้

เขาคิดสิ่งหนึ่งได้ทันทีเมื่อมองไปที่ต้นไม้ยักษ์ จากนั้นโบกแขนขวาและซ่อนตัวเอง

หลังจากนั้นไม่นานแสงชั่วร้ายออกมาจากต้นไม้พร้อมกับชาแมนห้าใบไม้ปรากฎข้างในแสง เขาเปลี่ยนเป็นเมฆสีดำและลอยออกไปไกล

หลังจากออกไปหวังหลินปรากฎตัวอีกครั้ง ดวงตาสว่างขึ้นและชี้ไปที่ต้นไม้ ลำแสงพลังปราณพุ่งออกไปเข้าหาต้นไม้ยักษ์

จังหวะที่พลังปราณสัมผัสกับต้นไม้ มันแตกสลายกลายเป็นจุดสีทอง

“น่าสนใจ!” หวังหลินเหยียดยิ้มขณะตบกระเป๋านำไม้แกะสลักออกมา เขาถือไว้ในมือและกระซิบ “เปลี่ยนแปลง!”

ไม้แกะสลักสั่นเทาทันทีพร้อมกับปลดปล่อยแสงสีเขียว แสงสีเขียวเปลี่ยนรูปร่างอย่างรวดเร็วกลายเป็นร่างอวตารที่เหมือนหวังหลินในเวลาไม่นานนัก

นี่คือมนค์คาถาที่มีเพียงเซียนขั้นแปลงวิญญาณสามารถใช้ได้ มนต์บทนี้สามารถสร้างร่างอวตารจากสิ่งของได้

เมื่อร่างอวตารปรากฎ มันพุ่งเข้าหาต้นไม้ที่ปกคลุมหลุมเอาไว้

หวังหลินมอบร่างอวตารอย่างสงบและในจังหวะที่ร่างอวตารเข้าใกล้ต้นไม้ รอยสักสีดำไม่กี่แห่งบนกิ่งก้านเริ่มกระพริบ

รอยสักกระพริบหนึ่งครั้งและเปลี่ยนเป็นเส้นด้ายดำแทงเข้าใส่ร่างอวตารทันที ดวงตาร่างอวตารสลัวลงขณะที่เปลี่ยนกลับเป็นไม้แกะสลักและตกลงบนพื้น

สายตาหวังหลินว่างวาบ ไม่สงสัยเลยว่าเผ่าละทิ้งอมตะจะออกไป เมื่อพวกเขามีต้นไม้ลึกลับนี้ป้องกันฐานเอาไว้ ไม่มีคนธรรมดาสามารถเข้าไปได้ง่ายๆ

หวังหลินขบคิดจากนั้นตบกระเป๋าและธงวิญญาณสีทองปรากฎ ธงผืนนี้ไม่ใช่ธงวิญญาณหนึ่งล้านดวงแต่เป็นธงที่มีอสูรกิเลนเป็นวิญญาณหลัก

หวังหลินมีทั้งหมดสามธงวิญญาณคือธงวิญญาณล้านดวง ธงวิญญาณพันดวงที่มีกิเลน และสุดท้ายเป็นธงวิญญาณพันดวงธรรมดาที่เขาสร้างขึ้น

หวังหลินโบกธงวิญญาณและดวงวิญญาณขั้นแกนลมปราณดวงหนึ่งลอยออกมา จากนั้นมันเหาะเหินไปทางต้นไม้ยักษ์ หวังหลินจ้องวิญญาณดวงนั้นด้วยสายตาสว่างไสว

ทว่าดวงวิญญาณสามารถผ่านต้นไม้เข้าไปโดยไร้อุปสรรค

แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีรอยสักใดปรากฎบนต้นไม้

หวังหลินนำวิญญาณออกมาอีกหลายดวงเพื่อทดสอบและทั้งหมดเข้าไปได้โดยไร้ปัญหา

“น่าสนใจจริงๆ มันห้ามพลังปราณแต่กลับยอมให้วิญญาณผ่านเข้าไปได้อย่างอิสระ ต้นไม้นี้น่าสนใจมาก!” หวังหลินโบกธงวิญญาณและวิญญาณมากกว่าสองร้อยดวงพร้อมกับวิญญาณกิเลนลอยออกมา

เพียงแค่คิด วิญญาณทั้งหมดรวบรวมรอบร่างหวังหลินเกิดเป็นเกราะวิญญาณ

วิญญาณกิเลนสร้างรอยสักกิเลนบนหน้าเขาซึ่งเรืองแสงสีทองอีกด้วย

จากนั้นหวังหลินพุ่งเข้าหาต้นไม้ยักษ์โดยไม่ลังเล

คราวนี้เขารู้สึกความหนาวเย็นแล่นผ่านร่างกายขณะที่ผ่านต้นไม้ไปและเข้าไปข้างในได้

ข้างในต้นไม้เป็นโลกสว่างไสวและแพรวพราว มีควันสีดำกำลังออกมาจากสุสานอมตะ ควันนี้กำลังถูกต้นไม้ดูดซับไป

พื้นที่รอบๆเงียบกริบ หวังหลินมองขึ้นไปจึงพบว่ายิ่งสูงยิ่งไปก็ยิ่งมีแสงสีทองมากเท่านั้น หวังหลินมองไม่เห็นยอด เขาเห็นแต่เพียงถ้ำเหมือนโครงสร้างของกิ่งในต้นไม้

เมื่อมองลงไปหวังหลินเห็นหลุมที่คุ้นเคย มันดำมืดและเห็นแต่เพียงควันสีดำที่พวยพุ่งขึ้นจากเบื้องล่างเท่านั้น

หวังหลินขบคิดเล็กน้อยก่อนจะมุ่งหน้าลงไป

สายลมหวีดหวิวดังในหูขณะพุ่งลงไปในหลุม ในไม่ช้าเขาก็ลงมาถึงชั้นแรก ร่างกายพลันหายวับไปโดยไร้ร่องรอย

การเข้าสู่ขั้นแปลงวิญญาณระดับต้นทำให้สัมผัสวิญญาณและระยะการเคลื่อนที่พริบตาของหวังหลินกว้างขึ้น เพียงเคลื่อนที่ครั้งเดียวเขาก็มาถึงทางเข้าชั้นที่สองแล้ว

หวังหลินตรวจสอบชั้นแรกทั้งหมดและพบว่ามีชาแมนไม่กี่คนซึ่งทั้งหมดมีระดับขั้นราวๆสามใบไม้เท่านั้น

เขาตรงเข้าไปชั้นที่สองโดยไม่พัก จากนั้นก็เคลื่อนที่พริบตาอีกครั้ง หวังหลินมาถึงชั้นที่สามตำแหน่งที่รอผู้อาวุโสตำหนักหลอมสมบัติเพื่อให้ผลไม้แห่งการเกิดใหม่เติบโตขึ้น

สถานที่แห่งนี้ว่างเปล่าโดยสิ้นเชิงเว้นเสียแต่จะมีหลุมขนาดใหญ่ซึ่งต้นไม้แห่งการเกิดใหม่ใช้เติบโต

หลังมองไปรอบๆหวังหลินหายตัวไปอีกครั้ง คราวนี้ปรากฎตัวด้านนอกทางเข้าชั้นที่สี่ เมื่อปรากฎตัวใบหน้าหวังหลินเปลี่ยนไปเล็กน้อยและรีบซ่อนตัวเอง

หลังจากนั้นไม่นานเขาเห็นใบหน้ายักษ์ตนหนึ่งเข้ามาใกล้ทางเข้าชั้นที่สี่ เมื่อมันเข้ามาใกล้พลันเปลี่ยนกลายเป็นชาแมนหกใบไม้

เขาเป็นชายวัยกลางคนและร่างทั้งหมดแทบปกคลุมไปด้วยรอยสัก เบื้องหลังเขาเป็นเซียนมากกว่าสิบคนที่มีดวงตามืดมน

ชาแมนหกใบไม้กระโดดเข้าไปในทางเข้าและเซียนที่อยู่ด้านหลังติดตามอย่างรวดเร็ว

สายตาหวังหลินกระพริบวาลและติดตามด้านหลังเซียนเหล่านี้อย่างเงียบๆเข้าไปในชั้นที่สี่

ชั้นที่สี่มีแสงมากกว่าชั้นก่อน ชาแมนหกใบไม้เปลี่ยนกลับเป็นใบหน้ายักษ์ คว้าเอาเซียนทั้งหมดและเหาะเหินออกไปไกล

หวังหลินถูกคว้ารวมเข้าไปด้วย ต้องขอบคุณระดับบ่มเพาะของหวังหลิน ชาแมนหกใบไม้จึงไม่รับรู้สิ่งผิดปกติ

ชาแมนหกใบไม้เคลื่อนไหวรวดเร็วมาก หลังเวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไปพวกเขาจึงอยู่ใจกลางของชั้นที่สี่ มีต้นไม้แห่งการเกิดใหม่เท่าหนึ่งคนโอบและสูงสามสิบฟุต

ทว่าต้นไม้นี้ประหลาดเล็กน้อย แทนที่จะมีกิ่งก้านแต่กลับมีแสงวงกลมลอยเหนือยอดต้นไม้แทน ข้างในแสงเป็นชายชราเปลือยกายพร้อมกับหลุมขนาดเท่ากำปั้นบนหน้าอก ร่างกายปกคลุมอยู่ในรอยสักและมีต้นไม้แปดใบค่อยๆกระพริบบนหน้าผาก

ในเวลาเดียวกันมีรอยสักหนึ่งปลดปล่อยกลิ่นอายโบราณซึ่งรอยเหนือศีรษะเขา รอยสักนี้ซับซ้อนอย่างมาก เพียงมองครั้งเดียวก็ทำให้ตาลายได้แล้ว

ใต้ต้นไม้มีชาแมนหกใบไม้มากกว่าสิบคน ไม่มีใครพูดคุยกันและด้านหลังแต่ละคนมีเหล่าเซียนยืนอยู่มากกว่าสิบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version