Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 460

Cover Renegade Immortal 1

460. บุรุษแกร่งเกราะโลหะ

แม้กระทั่งร่างมีชีวิตที่เกิดจากดวงวิญญาณก็หายไปพร้อมกับการล่มสลาย…

การตายของร่างมีชีวิตทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ ตอนนี้คนธรรมดา เซียน และกระทั่งพวกสัตว์บนดาวซูซาคุต่างก็เริ่มเสียชีวิต

ความตายย่างกรายเข้ามาอย่างเงียบเชียบ พวกเขามิอาจหลีกเลี่ยงและนับได้ว่ามันเป็นภัยพิบัติเท่านั้น

เคราะห์ดีที่มีคนจำนวนไม่มากตายไป แต่หากผลึกดาวเซียนล่มสลาย ทั้งดาวก็คงตายกันหมด…

เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของจูเซว่จื่อดังกึกก้องภายในภูเขาซูซาคุ เขาตอนนี้กำลังนั่งอยู่ภายในภูเขา ดวงตาบ้าบิ่นเผยรอยยิ้มโหดเหี้ยมและพึมพำกับตัวเอง “ศิษย์น้อง เข้าร่วมเกมเป็นอย่างไรบ้าง…เกมมันแค่พึ่งเริ่มต้นเท่านั้นและยังไม่ถึงตอนสำคัญ ศิษย์ตัวดีของข้า เฉียนเฟิง ข้าหวังว่าเจ้าจะใช้สมบัติที่ข้าให้ เมื่อเจ้าใช้สมบัตินั้นตอนสำคัญของเกมนี้ถึงจะเริ่ม…”

บนภูเขาวิญญาณพื้นที่ชั้นในของสุสานซูซาคุ การล่มสลายครั้งนี้กินเวลาหกสิบลมหายใจ บนประตูเกิดรอยร้าวมากขึ้นปกคลุมเกือบทั้งบาน

ขณะนี้เองหยุนเซว่จื่อเคลื่อนไหวร่างและปรากฎบนหน้าประตูบานยักษ์ หมวกฟางปรากฎบนฝ่ามือ เขาตีหมวกฟางและมันแตกสลายกลายเป็นรอยสักนับไม่ถ้วนทันที รอยสักทั้งหมดเรืองแสงสว่างจ้าพร้อมกับกระแทกเข้าใส่ประตูราวกับอุกกาบาต

เสียงดังสนั่นออกมาจากประตูและรอยร้าวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

หยุนเซว่จื่อตะโกนเสียงดัง “โจมตี!”

เผ่าละทิ้งอมตะสองคนรีบเหาะเหินขึ้นกลางอากาศและโจมตีใส่ประตู

ขณะนั้นดวงตาชายชราเริ่มเรืองแสงสีแดงและเยาะเย้ยด้วยความผิดหวัง เขาชี้ฝ่ามือกลางอากาศและเอ่ยขึ้น “เจ้าโลภมาก โง่เสียจริง…”

เมื่อเอ่ยประโยคนั้น เผ่าละทิ้งอมตะสองคนที่กำลังโจมตีกลับเริ่มสั่นเทา ดวงตาเรืองแสงปิศาจและรัศมีสีเขียวและม่วงเริ่มไหลรินออกจากร่างของทั้งสอง

จากนั้นชายชราเอ่ยขึ้น “ระเบิด!”

สองเสียงดังปัง เผ่าละทิ้งอมตะสองคนระเบิดและเกิดคลื่นกระแทกปะทะเข้าใส่ประตู

ขณะที่หวังหลินเห็นวิชานี้ เขาจดจำมันได้ทันทีว่าเป็นวิชาของจ้าวปิศาจหกปรารถนา

ประตูสั่นสะเทือนรุนแรงและรอยร้าวเพิ่มขึ้นไปอีก

หยุนเซว่จื่อหันกลับมาทันทีและมองชายชรา เขาพ่นลมหายใจก่อนจะร้องคำรามและกดลงบนประตู

ปัง!

แรงระเบิดดังกึกก้องสั่นสะท้านสรวงสวรรค์รวมถึงสุสานซูซาคุ ฝั่งซ้ายของประตูมีเศษเล็กๆหลุดออกมาพร้อมกับลำแสงสีแดงพุ่งออกไปแทงขึ้นสู่ท้องฟ้า

หยุนเซว่จื่อลอยเข้าไปในหลุมที่มีลำแสงสีแดงโผล่ออกมาจากนั้นชายชราก็ติดตามเขาเข้าไปอย่างรวดเร็ว

จากนั้นคนที่เหลือบนภูเขาวิญญาณพลันกระตุ้นวิชาอันกลากหลายและพุ่งเข้าข้างใน

หวังหลินเป็นคนที่สี่ที่เข้าไปในหลุม เมื่อก้าวเท้าเข้าไปเขาสร้างควันก้อนเมฆและหายวับไปในนั้น

ภายในประตูเป็นทะเลสีทอง ทะเลแห่งนี้กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา

อีกสิ่งหนึ่งที่อยู่ในระยะสายตาคือเกาะสีทองที่อยู่ห่างออกไปบนเส้นขอบฟ้า มีสิ่งก่อสร้างอยู่ในเกาะแห่งนี้ มันดูคล้ายพระราชวังสวยงดงามตระหง่านตราและเปล่งประกายแสงสีทอง

หลังหยุนเซว่จื่อผ่านเข้าประตูไป ดวงตาปลดปล่อยแสงลึกลับและเหาะเหินเข้าหาเกาะแห่งนั้นอย่างรวดเร็ว

ชายชรารีบติดตามมาเช่นกัน ก้าวเท้าและเหินร่างเข้าหาวังแห่งนั้นทันที เขาห่างด้านหลังหยุนเซว่จื่อเพียงแค่สามร้อยฟุตเท่านั้น ดวงตาเจ้าลิงบนบ่าเรืองแสงเจิดจ้าและเผยใบหน้าตื่นเต้น

ส่วนคนอื่นๆทั้งเฉียนเฟิงและหลิวเหมยกำลังเหาะเหินเข้าหาเกาะแห่งนี้ด้วยความเร็วเต็มพิกัด

โจวหวู่ไท่และซื่อฉินลังเลเล็กน้อย พวกเขาช้าลงและไม่ได้รีบเร่งไปอยู่ด้านหน้า

ส่วนคนที่สวมหน้ากาก เขาไม่ได้มองเกาะแต่มองทะเลเบื้องล่างแทนและเริ่มขบคิด

ร่างหวังหลินเคลื่อนไหวดั่งสายฟ้าเข้าหาพระราชวัง

ในทันทีทันใดมีลำแสงหลายเส้นเคลื่อนผ่านท้องฟ้าและเกิดคลื่นเสียงดังขึ้น

หยุนเซว่จื่อเข้ามาถึงด้านบนพระราชวังและพุ่งเข้าข้างในทันที

ขณะนั้นดวงตาชายชราเรืองแสงสีแดงสว่างจ้าพร้อมกับคว้าเจ้าลิงและร้องคำราม จากนั้นโยนเจ้าลิงและบังคับโยนมันให้กระโดดออกไป ร่างมันหายวับและปรากฎตัวอีกครั้งเร็วกว่าหยุนเซว่จื่อเล็กน้อย

สีหน้าหยุนเซว่จื่อมืดมนพลันพ่นลมหายใจและรีบพุ่งเข้าหาวัง

ทว่าขณะนั้นพระราชวังสั่นสะเทือนและลำแสงแพรวพราวพุ่งออกมาหลายเส้น หยุนเซว่จื่อถูกบังคับให้ออกมาจากวัง เขาตื่นตกใจ

ส่วนเจ้าลิงน้อย มันร้องเสียงแหลมและถูกดันกลับออกมาเช่นกัน แสงสีแดงในดวงตาเพิ่มพูนขึ้นราวกับกระบี่ยาวหนึ่งนิ้ว มันดูตื่นตกใจมาก เจ้าลิงไม่ได้กลับหาชายชรา มันนั่งอยู่ตรงนั้นและจ้องพระราชวังด้วยสายตาดุร้าย

ในเวลาเดียวกันคลื่นเสียงดังกึกก้องออกมาจากส่วนลึกในวังพร้อมด้วยชายร่างกำยำชุดเกราะทองคำเดินออกมา

บุรุษร่างกำยำในชุดเกราะทองคำดูสมสง่ามีบารมี กระบี่สีทองในมือเรืองแสงสีทองเจิดจ้า

เส้นผมสีดำขลับพริ้วไสวเบื้องหลัง เพียงกระโดดหนึ่งครั้งเขาก็มาถึงด้านบนพระราชวัง สายตาเย็นชามองทุกๆคนและกวัดแกว่งกระบี่ ทะเลสีทองราวกับพิโรธเมื่อคลื่นยักษ์ลูกหนึ่งกระแทกเข้าใส่เกาะ

ในพริบตาเดียวทั้งเกาะก็ถูกจมอยู่ใต้ทะเลสีทองและหายวับไป

ท่าทางหยุนเซว่จื่อไม่ชอบใจ เขากำลังจะดำดิ่งเข้าไปในทะเลทองทว่าเมื่อชายชุดเกราะทองคำกวัดแกว่งกระบี่ คลื่นปราณยาวร้อยฟุตพุ่งกระแทกเข้าหาหยุนเซว่จื่อ

หยุนเซว่จื่อร้องคำราม เส้นผมพริ้วสะบัดและขี้ไปที่กลางอากาศ ลำแสงสีแดงปรากฎตำแหน่งที่เขาชี้ไปและปะทะกับปราณกระบี่

เสียงดังปัง ร่างหยุนเซว่จื่อเคลื่อนไหวดังอุกกาบาตเข้าไปในทะเลและหายวับไป

ชายกำยำเกราะทองไม่ได้ไล่ตามแต่สายตาเลื่อนเข้าหาเจ้าลิงน้อย ปราณกระบี่รวบรวมในกระบี่ทองคำอีกคราและกำลังกวัดแกว่ง

ดวงตาเจ้าลิงน้อยเริ่มเรืองแสงสีแดงเข้ม แสงสีแดงตอนนี้ยาวถึงสามนิ้วทำให้มันดูดุร้ายยิ่งขึ้นไปอีก

ชายกำยำเกราะทองตกตะลึงและหยุดกระบี่ไว้

เจ้าลิงน้อยยิ้มขึ้นและเคลื่อนตัวกลับไปด้านข้างชายชรา ทั้งสองกำลังเข้าไปในทะเล

เมื่อชายกำยำเกราะทองมองไปที่ชายชรา ดวงตาสว่างวาบและปราณกระบี่ที่หยุดไว้ก่อนหน้านี้เคลื่อนไหวอีกครั้ง ปราณกระบี่ยาวร้อยฟุตพุ่งออกไปหาชายชรา แต่ก่อนที่มันจะได้เข้าใกล้เขา ท้องทะเลเบื้องล่างก็แหวกออกจากกัน

ชายชราร้องคำรามดวงตาเริ่มเรืองแสงสีแดง ไม่นานที่ปราณกระบี่เข้ามาใกล้ ภาพลวงตาสีหนึ่งออกมาจากร่างกายเขา

ภาพลวงตาแทบมองไม่เห็น มันเป็นคนผู้หนึ่งแต่ไม่แน่ชัดว่าเป็นบุรุษหรือสตรี ภาพนั้นยกแขนขึ้นและหยุดปราณกระบี่เอาไว้

จากนั้นมันโบกแขนพลันปราณกระบี่ถูกโยนเข้าใส่ด้านข้างท้องทะเล

ชายกำยำเกราะทองมองชายชรา พยักหน้าและไม่ได้มองเขาอีก

ร่างลวงตากลับคืนสู่ชายชรา ร่างชายชราสั่นเทาขณะดวงตาเรืองแสงสีแดงเจิดจ้าและดำดิ่งลงสู่ทะเล เจ้าลิงน้อยติดตามเขาเข้าไปเช่นกัน

หวังหลินเฝ้าดูเหตุการณ์นี้ด้วยความระมัดระวัง ด้วยสติปัญญาของเขาจึงสามารถบอกได้ทันทีว่าชายกำยำเกราะทองนี้ไม่มีอันตราย ทว่าการจะเข้าไปในทะเลเพื่อค้นหาพระราชวังได้ คนผู้นั้นต้องสามารถจัดการหนึ่งกระบี่ของเขาเพื่อพิสูจน์ว่าตนเองมีคุณสมบัติ

ดวงตาหวังหลินสว่างขึ้นราวกับเห็นความลับบางประการ เมื่อชายชราและเจ้าลิงถูกแยกออกจากกัน ชัดเจนแล้วว่าชายเกราะทองพร้อมจะจัดการพวกเขาทีละคน

แต่เมื่อพวกเขาเคลื่อนไหวไปด้วยกัน ชายเกราะทองโจมตีเพียงแค่หนึ่งครั้ง

ดูเหมือนชายเกราะทองนับพวกเขาว่าเป็นคนเดียว

ขณะนั้นเองดวงชายเกราะทองสว่างขึ้นและกวัดแกว่งกระบี่ ลำแสงปราณกระบี่ร่อนลงในทะเล เกิดเสียงดังกึกก้องกระจายผ่านสายน้ำ คลื่นยักษ์ออกมาจากทะเลสร้างเป็นคลื่นลูกหนึ่งที่เผยโจวหวู่ไท่และซื่อฉินลอยขึ้นกลางอากาศ พวกเขาหยุดลงเหนือทะเลไปหนึ่งพันฟุต สีหน้าโจวหวู่ไท่ซีดเผือดและเริ่มกระอักโลหิตออกมา

ส่วนซื่อฉิน ใบหน้านางเต็มไปด้วยความตกใจ

ทั้งสองคนซ่อนตัวอยู่ใต้ทะเลและลอบเคลื่อนไหวไปข้างหน้า พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะถูกชายเกราะทองหยุดเอาไว้ ทั้งสองถูกฝืนให้ล่าถอยเมื่อปราณกระบี่พุ่งเข้ามาแต่ถึงกระนั้นมันไม่ได้เร็วพอจะทำให้ได้รับบาดเจ็บ

ชายชราเกราะทองไม่ได้ไล่ตามแต่หันสายตาเข้าหาหวังหลิน

ดวงตาหวังหลินเยือกเย็น ปราณกระบี่นั้นทรงพลังเท่ากับการโจมตีจากเซียนขั้นเทวะ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมชายชราถึงปลดปล่อยวิญญาณตัวเองเพื่อต้านรับมันไว้

หยุนเซว่จื่อเท่านั้นที่สามารถขัดขวางการโจมตีและหยิบยืมมันเข้าสู่ทะเล

ทว่าชายเกราะทองคนนี้ไม่ได้มีเจตนาร้าย ไม่เช่นนั้นไม่มีทางที่โจวหวู่ไท่และซื่อฉินจะรอดไปได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version