Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 461

Cover Renegade Immortal 1

461. จิตสังหาร

ดวงตาหวังหลินสว่างขึ้น เขารู้ว่าไม่สามารถต้านทานชายเกราะทองด้วยระดับปัจจุบันได้เว้นแต่จะนำวิญญาณเทวะออกมา

ขณะนั้นเฉียนเฟิงและหลิวเหมยขมวดคิ้วเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนมองออกด้วย

ดวงตาเฉียนเฟิงสว่างขึ้นและเอ่ยขึ้นมาทันที “เซิ่งหนิว เราสามคนมาช่วยกันต้านปราณกระบี่จากชายเกราะทองนั้นไหม?”

หวังหลินพยักหน้าแฝงสายตาเย็นชาพลางกล่าว “ตกลง!”

เหตุผลที่เฉียนเฟิงเอ่ยขอให้หวังหลินช่วยก็เพราะเขาไม่มีตัวเลือก เห็นได้ชัดว่าแม้แต่เขาและหลิวเหมยก็ไม่มั่นใจว่าจะต้านทานการโจมตีนั้นได้ หากพวกเขาไม่สามารถต้านทานได้ก็ไม่สามารถเข้าไปค้นหาพระราชวังได้เช่นกัน หยุนเซว่จื่อและชายชราต่างก็นำหน้าไปแล้ว หากพวกเขาช้ากว่านี้อาจจะสายเกินไป

เมื่อมีหวังหลินอยู่ข้างพวกเขา โอกาสที่ทั้งสามคนจะผ่านเข้าไปได้ยิ่งสูงขึ้น

เฉียนเฟิงไม่ประเมินหวังหลินต่ำไปเพียงแค่เพราะเป็นขั้นแปลงวิญญาณระดับต้น ความจริงในใจเขาเชื่อว่าหวังหลินเป็นคนหนึ่งที่มีคุณสมบัติพอจะเป็นคู่ต่อสู้ เขายังรู้ว่าธงวิญญาณหนึ่งล้านดวงที่หวังหลินครอบครองเป็นสิ่งที่สามารถสังหารเขาได้ทันที ดังนั้นเขาจึงกลัวหวังหลินอยู่ลึกๆ

นี่เป็นเหตุผลที่เขาใช้ผีเสื้อสีชาดรั้งหวังหลินเอาไว้เพื่อให้เขาเข้ามาเอาผลึกดาวเซียนโดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับหวังหลิน ทว่าหลังจากเข้ามาที่ภูเขาวิญญาณจึงตระหนักได้ว่ามีม่านพลังหลายชั้นขวางกั้นก่อนที่จะได้ผลึก

เขาไม่คิดว่าหวังหลินจะเป็นคนอ่อนแอเหมือนตอนที่พบกันครั้งแรก ตอนนี้เขาเห็นหวังหลินเท่าเทียมกันแต่ลึกๆในใจเฉียนเฟิงยังรู้สึกโอหังอยู่

ในสายตาเขาหากหวังหลินไม่มีธงวิญญาณหนึ่งล้านดวง เช่นนั้นไม่มีทางที่หวังหลินจะเทียบเคียงกับเขาได้

หลังได้ยินเสียงตอบสนองของหวังหลิน เฉียนเฟิงขบคิดเล็กน้อยและเอ่ยขึ้น “สหายเซิ่ง เราสองคนจะเข้าไปก่อนและเราค่อยศิษย์น้องของข้ารับช่วงต่อ เจ้าคิดเช่นไร?”

หวังหลินมองเฉียนเฟิงและหลิวเหมยด้วยสายตาสงบนิ่ง ขณะนั้นหลิวเหมยมองมาทางเขาเช่นกันพร้อมกับเผยรอยยิ้มและกำลังจะเอ่ยขึ้น ทว่าหวังหลินถอนสายตาออกมา “ไม่ต้องวกวน ข้าจะไปก่อนและพวกเจ้าสองคนค่อยสมทบ”

เฉียนเฟิงตกตลึงพลันดวงตาสว่างขึ้น การเป็นคนแรกนั่นหมายถึงไม่เพียงแต่ต้องเผชิญกับการโจมตีเต็มพลังแต่เขายังต้องให้ความสนใจกับโอกาสการถูกแทงจากคนข้างหลังอีกด้วย มันเป็นสิ่งอันตรายมาก เหตุผลที่เฉียนเฟิงพูดว่าทั้งสองคนจะเข้าไปด้วยกันนั่นก็เพราะเขากลัวว่าหวังหลินจะกังวลเกินเหตุและรั้งกลับไป

และให้หลิวเหมยตามมาหลังจากนั้น แม้หวังหลินจะลอบโจมตีเขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวล

เฉียนเฟิงตัดสินใจว่าการจัดการกับปราณกระบี่เป็นลำดับแรก การจัดการหวังหลินค่อยทำทีหลัง

เมื่อได้ยินว่าหวังหลินอาสาเป็นคนเข้าไปก่อนเขาจึงระแวงเล็กน้อย ทว่านี่ไม่ใช่เวลาจะมาคิดเรื่องแบบนั้นจึงเอ่ยขึ้น “หากเป็นเช่นนั้น เราก็ขึ้นอยู่กับสหายเซิ่งแล้ว”

หลิวเหมยขมวดคิ้วบาง นางรู้สึกว่าเรื่องนี้มีบางอย่างแปลกประหลาด หลังขบคิดเล็กน้อยนางมองไปทางหวังหลิน

หวังหลินเหาะเหินเข้าหาชายเกราะทองโดยไม่ได้หันไปมองนาง หลิวเหมยและเฉียนเฟิงติดตามหวังหลินไป ทั้งสามคนเคลื่อนไปข้างหน้าในรูปแบบค่ายกล

ขณะที่ทั้งสามคนเข้ามาใกล้ สายตาบุรุษเกราะทองเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมและยกแขนขึ้น แสงสว่างเจิดจ้ารวบรวมบนกระบี่ทองจนพร่ามัว

จากนั้นเขากวัดแกว่งกระบี่อย่างรุนแรง

คลื่นปราณกระบี่ยาวร้อยฟุตซึ่งดูคล้ายกับสามารถแบ่งแยกสวรรค์ออกจากกันได้ทันทีเข้าใกล้ ตามมาด้วยคลื่นเสียงกระแทกทำลายม่านพลัง

ปราณกระบี่แทงทะลุผ่านท้องฟ้าจนได้ยินเพียงแค่เสียง มันเคลื่อนไหวเร็วมากและร่อนมาถึงทันที

ทะเลเบื้องล่างถูกแบ่งออกเนื่องจากแรงกดดันจากปราณกระบี่เกิดเป็นหุบเหวลึก

ตอนที่หวังหลินเห็นหยุนเซว่จื่อและชายชราปัดปราณกระบี่ออก เขารู้สึกถึงแรงจากด้านข้างเท่านั้นและไม่มีส่วนร่วมอะไร ตอนนี้เขาเผชิญมันด้วยตัวเองนึงรู้สึกถึงพลังทำลายล้างภายในปราณกระบี่ได้

เมื่อเผชิญกับพลังทำลายล้างนี้แม้แต่วิญญาณดั้งเดิมก็เริ่มสั่นเทาและแสดงอาการไม่มั่นคง ไม่ใช่เพียงแค่นี้แต่ทุกส่วนในร่างกายรู้สึกถูกตรึงไว้ใต้ภูเขายักษ์

เขาไม่คุ้นชินกับความรู้สึกเช่นนี้ มันเป็นความรู้สึกเดียวกับที่เขาต้องเจอแรงกดดันของสายแร่วิญญาณใต้สำนักหลอมวิญญาณ เพียงแต่ความรู้สึกนี้รุนแรงมากกว่าหลายพันเท่า

ก่อนที่ปราณกระบี่ปะทะเข้าใส่เขา โลหิตเริ่มไหลออกจากมุมปากหวังหลินแต่สายตาเขาไม่เผยแววยอมแพ้

ตอนที่เฉียนเฟิงรับรู้สภาวะปัจจุบันของหวังหลิน เขาหยุดกึกชั่วครู่และเริ่มขบคิด จะใช้โอกาสนี้สังหารหวังหลินและเอาธงวิญญาณหนึ่งล้านดวงมาหรือว่าช่วยเขาต้านทานปราณกระบี่ดี?

ความคิดนี้แล่นผ่านในใจเขาและจึงตัดสินใจ เขาจะสังหารหวังหลินและนำธงวิญญาณมา เมื่อมีธงวิญญาณเขาจะมีพลังมากขึ้นพอที่จะต่อต้านปราณกระบี่ได้

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นรวดเร็วในความคิด หลังคิดได้แล้วเฉียนเฟิงหัวเราะและเอ่ยออกมา “อย่ากังวลสหายเซิ่ง ข้ากำลังไป!” เฉียนเฟิงเคลื่อนที่ไปข้างหน้าราวสายฟ้า

การโจมตีครั้งนี้ต้องสำเร็จแน่นอนดังนั้นเฉียนเฟิงจึงไม่เร่งรีบ เขาต้องเข้าใกล้เพื่อเปิดการโจมตีที่หวังหลินไม่มีวันลืม เฉียนเฟิงรู้ว่าเขาต้องโจมตีครั้งเดียวให้สำเร็จไม่เช่นนั้นหวังหลินจะมีเวลาพอให้เรียกธงวิญญาณหนึ่งล้านดวงออกมา หากเกิดแบบนั้นขึ้นหลายอย่างคงไม่ดีเท่าไหร่

ด้วยความเฉลียวฉลาดของหลิวเหมย นางจึงมองเห็นเจตนาของเฉียนเฟิงได้ทันทีและลังเล จากนั้นสายตานางเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางไม่ได้ตามไปแต่รออยู่ตรงนั้น

นางเป็นคนโหดเหี้ยมดังนั้นมันจึงไม่สำคัญอะไรกับนาง รวมถึงหากเฉียนเฟิงสังหารหวังหลิน ภาพมายาสุดท้ายของนางจะถูกรัศมีหวังหลินลบเลือนไป นี่ทำให้อนาคตของนางง่ายดายขึ้นเพราะเป็นเสมือนการลบเลือนมารร้ายภายในใจที่นางจะต้องเผชิญ

ขณะนั้นเองปราณกระบี่เข้ามาถึงเหนือศีรษะหวังหลิน

ดวงตาหวังหลินสว่างวาบและพ่นลมหายใจออกมา เมื่อเขาเป็นคนที่ยอมจะไปเป็นคนแรก เขาจะไม่คิดเรื่องการเปลี่ยนใจของเฉียนเฟิงได้อย่างไร?

ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนเขา

จากจังหวะที่ปราณกระบี่ถูกส่งออกมาและเฉียนเฟิงเริ่มเหาะเหินเข้ามาหา หวังหลินลอบคำนวนความเร็วของเฉียนเฟิง เมื่อเฉียนเฟิงอยู่ห่างหวังหลินไปร้อยฟุต หวังหลินหัวเราะและตบกระเป๋า เจดีย์หนึ่งลอยออกมาจากกระเป๋าและปรากฎเบื้องหน้าเขา

สัมผัสวิญญาณขั้นเทวะระดับต้นของโจวยี่ออกมาจากเจดีย์ ปราณกระบี่หยุดชะงักไปหนึ่งจังหวะหลังพบสัมผัสวิญญาณ หวังหลินใช้การหยุดชะงักนี้หัวเราะพร้อมเรียกเจดีย์กลับคืนและพุ่งเข้าหาทะเล ทว่าเขาจงใจรักษาความเร็วให้อยู่ในระยะหนึ่งร้อยฟุตกับเฉียนเฟิง

สายตาชายเกราะแทนเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมแต่เขาไม่ได้โจมตีหวังหลินทว่าหันไปมองเฉียนเฟิงแทน ตอนนี้ไม่มีสัมผัสวิญญาณระดับเทวะหยุดปราณกระบี่มันจึงตกลงบนร่างเฉียนเฟิง

สีหน้าเฉียนเฟิงเปลี่ยนไป เขาไม่มีเวลาสงสัยว่าทำไมปราณกระบี่ถึงไม่โจมตีหวังหลินและเข้ามาหาเขาแทน ขณะนั้นเขาร้องคำรามพลันตบกระเป๋านำเหล็กแหลมสีแดงออกมา แสงสีแดงสว่างเจิดจ้าและพุ่งเข้าหาปราณกระบี่

ใบหน้าหวังหลินเผยอาการเยาะเย้ย ตอนที่ชายชราและเจ้าลิงต้านทานปราณกระบี่ หวังหลินรู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดปกติ เขาสรุปได้ว่าชายเกราะทองต้องคิดว่าทั้งสองนั้นเป็นหนึ่งคู่และส่งปราณกระบี่ออกมาครั้งเดียว

หวังหลินคำนวณระยะห่างระหว่างชายชราและเจ้าลิงคือราวๆหนึ่งร้อยฟุตและตั้งข้อสงสัยว่าหากเขาอยู่ใกล้เฉียนเฟิง ชายเกราะทองจะนับพวกเขาเป็นหนึ่งคู่

หากทั้งสองอยู่ภายในระยะใกล้กัน ปราณกระบี่จะโจมตีคนที่อยู่ใกล้มันที่สุด

นี่เป็นเหตุผลที่หวังหลินปฏิเสธแผนเขาและเฉียนเฟิงไปกันก่อนและหลิวเหมยตามมาคนที่สอง เพราะแบบนั้นแม้เขาจะใกล้เฉียนเฟิงแต่มันใกล้เกินไป หากต้องเคลื่อนไหวผิดปกติอะไรเฉียนเฟิงคงสังเกตได้และระมัดระวังเป็นแน่

เขาจึงตัดสินใจไปเองเป็นคนแรก แม้เฉียนเฟิงจะสงสัยเขาก็ยังตกอยู่ในกับดัก

ตามจริงแม้เฉียนเฟิงไม่ตกลงกับแผนของหวังหลิน เขาก็ไม่ได้แนะนำให้ทั้งสามคนร่วมมือกันอยู่ดี หวังหลินคงยังเผชิญหน้าด้วยตัวคนเดียว เขาไม่เชื่อว่าเฉียนเฟิงจะไม่ใช้โอกาสนี้สังหารเขาหากหวังหลินวางตัวเองอยู่ในจุดอันตราย แม้ว่าจะเกิดกรณีเช่นนั้นมันคงยากยิ่งที่จะหลอกเฉียนเฟิงให้เข้ามาหาเขาภายในระยะหนึ่งร้อยฟุต ทว่าหวังหลินยังคงมีแผนสองและมั่นใจเกินแปดในสิบส่วนว่าจะหลอกลวงเฉียนเฟิงให้เข้ามาใกล้ได้เพียงพอ

เมื่อเฉียนเฟิงแนะนำให้ทั้งสามคนร่วมมือกัน นี่จึงเป็นสิ่งยืนยันความสงสัยของหวังหลิน เฉียนเฟิงไม่สามารถต้านทานแรงกระตุ้นและล้มเลิกความพยายามในการร่วมมือกัน เขากำลังจะใช้ “ช่วยต้านทานปราณกระบี่” เป็นคำกล่าวอ้างเพื่อเข้าใกล้แต่ไม่ได้รู้ตัวว่าหวังหลินมองออกทั้งหมดแล้ว

สัมผัสวิญญาณของโจวยี่ที่มาจากเจดีย์เป็นส่วนสำคัญในแผนครั้งนี้ การหยุดปราณกระบี่เพียงพอให้หวังหลินออกห่างไปเพื่อให้เฉียนเฟิงเป็นคนที่อยู่ใกล้ปราณกระบี่ที่สุด

แม้จะใช้เวลายาวนานเพื่ออธิบาย ทว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตา ขณะที่ปราณกระบี่กวาดเข้าหาเฉียนเฟิง หวังหลินหยุดกึก เขาไม่ได้เหาะเหินห่างไปแต่มองหลิวเหมยด้วยสายตาเย็นชา

หลิวเหมยอยู่ด้านหลังและตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นสถานการณ์เปลี่ยน นางตระหนักบางสิ่งได้ทันทีและรีบไล่ตามหลังหวังหลิน

เมื่อเขาเห็นหลิวเหมยกำลังเข้ามาใกล้ สายตาหวังหลินเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นและพุ่งตัวออกไป คราวนี้เขาเคลื่อนตัวให้ไกลกว่าร้อยฟุตจากเฉียนเฟิง

ในไม่ช้าที่หวังหลินอยู่ห่างจากเฉียนเฟิงเกินหนึ่งร้อยฟุต ชายเกราะทองกวัดแกว่งกระบี่สองครั้งอย่างรวดเร็ว ส่งคลื่นกระบี่หนึ่งเข้าหาหวังหลินและอีกหนึ่งเข้าหาหลิวเหมย

สายตาหวังหลินเต็มไปด้วยจิตสังหาร เขาหยุดเหาะเหินเข้าหาท้องทะเลและเคลื่อนที่พริบตาเข้าสู่ระยะหนึ่งร้อยฟุตของหลิวเหมยขณะที่ปราณกระบี่เข้าใกล้นาง

สีหน้าหลิวเหมยเปลี่ยนไป นางดูเหมือนตระหนักบางอย่างได้ แม้จะไม่แน่ใจนักแต่นางเดาสถานการณ์จากการกระทำของหวังหลิน นางจะเคลื่อนที่พริบตาออกไปเพราะหวังหลินจะอยู่ด้านบนซึ่งทำให้เขาเป็นคนที่โดนปราณกระบี่แทน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version