520. ทะเลวิญญาณมารตะวันออก
สายตาเซียนกระบี่หลิงเทียนโฮวสว่างขึ้นและเพ่งไปที่ทะเลตะวันออก กระบี่มายาด้านหลังเขาสั่นเทาและจากนั้นพุ่งเข้าไปในทะเลตะวันออก
กระบี่ทั้งสี่เล่มเริ่มหมุนติ้วจนเกิดเสียงดังสั่นสะเทือนสวรรค์ พวกมันสร้างวังวนที่ใจกลางทะเล กระบี่แต่ละเล่มเสมือนวังวนไร้ขอบเขต แต่ละตำแหน่งคือกระบี่ทั้งสี่จุดและเปิดกระชากแม้แต่สิ่งที่ไม่อาจเปิดได้!
คลื่นสีเขียวและสีแดงออกมาจากทางเข้าพร้อมกับเสียงโอดครวญคล้ายภูติผี
การเปิดเช่นนี้ดูคล้ายกับไม่มีผลอะไร แต่เมื่อมองใกล้ๆจะเห็นได้ว่ามันบุ๋มลึกเข้าไปข้างใน!
“ประตูสู่ทะเลวิญญาณมารตะวันออกได้เปิดขึ้นแล้ว ใครที่จะเข้าจงรีบเข้าไปซะ!” แม้เซียนกระบี่หลิงเทียนโฮวเพียงพูดไม่กี่คำแต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยจิตสังหาร
หลังจากกล่าวจบ ศิษย์สิบสองกระบี่เปลี่ยนเป็นลำแสงแหลมคมสิบสองสายและพุ่งตรงเข้าหาทางประตู
ขณะที่คนสุดท้ายของกลุ่มสิบสองกระบี่เข้าไปจนหมด ม่านตาเซียนกระบี่หรี่แคบลง เขาพลิกนิ้วมือและลำแสงปราณเส้นหนึ่งพุ่งเข้าหาศิษย์คนสุดท้าย
“นี่คือปราณกระบี่จากข้าให้พวกเจ้าทั้งสิบสองคนใช้เป็นวิชาเอาตัวรอดในยามคับขัน!” ขณะที่หลิงเทียนโฮวกล่าวเช่นนี้ ปราณกระบี่เส้นนั้นถูกศิษย์คนสุดท้ายรับเอาไว้อย่างเคารพ เขาโค้งตัวให้เซียนกระบี่และจากนั้นเดินเข้าไปข้างใน
ทันหลางหายตัวไปจากด้านหลังหลิงเทียนโฮวเรียบร้อย เขาเปลี่ยนร่างเป็นปราณกระบี่อันนั้นและเลือนหายเข้าไปในประตูของทะเลวิญญาณมารตะวันออกพร้อมกับเหล่าสิบสองกระบี่
เทียนหยุนสงบนิ่งขณะใช้สายตามองหลิงเทียนโฮวและเอ่ยขึ้น “ศิษย์ของสำนักชะตาสวรรค์ เข้าไปข้างในได้!”
ทั้งสิบคนพร้อมด้วยหวังหลินต่างขานรับ พวกเขาลุกขึ้นทันทีและเหาะเหินเข้าหาทางเข้า
ทว่าความเร็วของหวังหลินช้าลงเล็กน้อยและเขาไม่ได้เข้าไปเป็นคนแรก เขารอให้คนอื่นๆเข้าไปก่อนและค่อยตามไป
หลังจากศิษย์สำนักกระบี่ต้าหลัวและศิษย์สำนักชะตาสวรรค์เข้าไปเรียบร้อย ศิษย์ของสำนักอันโด่งดังและศิษย์ของเหล่าเซียนเฒ่าต่างก็เหาะเหินเข้าหาทางเข้า
เหยาซีเชว่ที่อยู่บนหยกโลหิต นางขบคิดเล็กน้อยก่อนจะกัดฟันและพุ่งเข้าหาทางเข้า
ผู้คนเข้าประตูอย่างต่อเนื่อง ด้วยเวลาชั่วโมงครึ่ง ท่ามกลางเหล่าเซียนนับร้อยที่เข้าไปพวกเขาต่างเป็นศิษย์ของคนที่มีชื่อเสียง
ครึ่งชั่วโมงต่อมาเซียนกระบี่หลิงเทียนโฮวสะบัดแขนและวังวนทั้งสี่ที่ถูกสร้างขึ้นพลันสั่นเทา จากนั้นพวกมันหยุดหมุนและเปลี่ยนเป็นปราณกระบี่สี่เส้นลอยกลับมาหาหลิงเทียนโฮวกลายเป็นกระบี่มายากระพริบถี่รัว
เมื่อกระบี่ทั้งสี่หายไป แสงสีเขียวและสีแดงจำนวนมากรั่วไหลออกมาจากรูที่เปิดค้างไว้ ในพริบตาเดียวรูนั้นก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
เหล่าเซียนรอบๆแทบทั้งหมดกระจายตัว ในไม่นานนักเหลือเซียนเพียงเล็กน้อยอยู่นอกทะเลวิญญาณมารตะวันออก
เซียนทั้งหมดนี้ต่างเป็นเซียนชราที่มีชื่อเสียง พวกเขามีระดับบ่มเพาะสูงล้ำทั้งยังรู้จักกันและกันเป็นอย่างดี เหตุผลที่พวกเขาไม่จากไปไหนเนื่องจากของที่อยู่ในลำแสงสีแดงสุดท้ายนั้น
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความลับยิ่งใหญ่ของดาวเทียนหยุน ทุกคนที่นี่เงียบสนิทและไม่มีใครพูดอะไร
เซียนกระบี่หลิงเทียนโฮวหรี่ตาแคบลงขณะจ้องเทียนหยุนและตะโกน “เทียนหยุน ของในลำแสงสีแดงนั้นคือเหรียญตรา!”
ดวงตาเทียนหยุนสงบนิ่งขณะมองเซียนกระบี่และจากนั้นมองสหายชรารอบด้าน พลันเผยรอยยิ้มบางและเอ่ยขึ้น “ใช่แล้ว มันเป็นเหรียญตรา และมันเป็นชิ้นที่สาม! ข้าไม่คิดว่าการเปิดทะเลวิญญาณครั้งนี้จะนำพาเหรียญตราที่เราทั้งหมดต่างรอคอย ตอนนี้เหรียญอยู่ในทะเลวิญญาณมารตะวันออกดังนั้นเราไม่ต้องกังวล การเปิดทะเลวิญญาณขึ้นทุกห้าพันปีเป็นการให้ศิษย์ทดสอบตนเองข้างในเป็นเวลาห้าร้อยปี เราจะพบกันที่นี่อีกครั้งในอีกสองร้อยปีและเราจะเข้าไปข้างในอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าทุกคนคงได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งก่อน ดังนั้นข้าหวังว่าทุกคนจะเตรียมตัวมาอย่างดี ข้าเชื่อว่าสองร้อยปีถือว่าเป็นเวลาเพียงพอที่จะทำให้ทุกคนเตรียมพร้อมอย่างสมบูรณ์!”
หลังเทียนหยุนกล่าวจบ เขาคำนับฝ่ามือให้กับทุกคนก่อนโบกแขนเสื้อและก้าวเข้าไปในอากาศ ร่างกายค่อยๆเลือนหายไป
เซียนกระบี่หลิงเทียนโฮวพ่นลมหายใจขณะหันตัวกลับมามองทะเลวิญญาณมารตะวันออกด้วยสายตาสื่อความหมาย จากนั้นก้าวขึ้นบนปราณกระบี่และหายตัวไป
หลังจากทั้งสองคนนี้ เซียนเฒ่าที่เหลืออยู่ทั้งหมดมีความคิดหลากหลาย พวกเขาตั้งกลุ่มสามถึงห้าคนและจากไป
พื้นที่นอกทะเลวิญญาณมารตะวันออกตอนนี้กลับคืนสู่สภาวะเงียบสงบดังก่อนหน้านี้ ทะเลมีสิ่งของลอยอยู่อย่างช้าๆและปลดปล่อยกลิ่นอายลี้ลับ
สีเขียวและสีแดงกระพริบต่อเนื่องภายในท้องทะเล
เซียนกระบี่หลิงเทียนโฮวเปลี่ยนเป็นปราณกระบี่เส้นหนึ่งพุ่งผ่านอากาศ สำนักกระบี่ต้าหลัวไม่ได้ตั้งอยู่บนดาวเทียนหยุนหรือดาวบริวารห้าดวงใกล้เคียง แต่อยู่บนดาวขนาดใหญ่ที่หลิงเทียนโฮวลากมาที่นี่
แม้ว่าดาวดวงนี้ไม่อาจเทียบเทียนหยุนได้ แต่มันใหญ่กว่าดาวบริวารห้าดวงของเทียนหยุนมากมายนัก ดาวดวงนี้มีพลังปราณหนาแน่นและยังเหมาะกับเหล่าเซียนอย่างมาก
สำนักกระบี่ต้าหลัวถูกสร้างขึ้นที่นี่ก็เพราะเขา!
ดาวเคราะห์ถูกตั้งชื่อว่าต้าหลัวก็เพราะหลิงเทียนโฮว!
หลิงเทียนโฮวเคลื่อนตัวทะลุผ่านชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์อย่างรวดเร็ว เขาตรงเข้าไปตำแหน่งปิดด่านฝึกตนฝั่งตะวันออกของดวงดาว
“ข้าต้องใช้เวลาสองร้อยปีนี้เพื่อหลอมกระบี่สวรรค์ ข้าจะรวมเก้าวิญญาณอสูรมารเข้าเป็นหนึ่งเพื่อหลอมกระบี่สวรรค์ให้กลายเป็นกระบี่มาร ถึงตอนนั้นโอกาสที่ข้าจะได้รับเหรียญตราจะเพิ่มขึ้นหนึ่งเท่าตัว” ดวงตาเซียนกระบี่ส่องสว่างขึ้นและร่างเลือนหายเข้าไปในอาคารส่วนตัว
ส่วนเทียนหยุนเมื่อกลับเข่าสู่ดาวเทียนหยุน เขาเข้าไปในหอคอยเจ็ดสีบนยอดภูเขาสามลูกทันที เขานั่งลงในหอคอยและมีกระดูกอสูรสีดำล้อมรอบร่าง
กระดูกอสูรเหล่านี้เรียบเนียนและเปล่งประกาย รวมถึงปลดปล่อยกลิ่นอายชั่วร้ายออกมา
“ศิษย์หวังหลินของข้าเป็นคนที่มีโชคชะตาอันยิ่งใหญ่…ข้าไม่รู้ว่าโชคชะตาของเขาเหลืออยู่มากเท่าไหร่…” เทียนหยุนยื่นมือขวาออกไป กระดูกอสูรทั้งหมดลอยเข้าอุ้งมือของเขาและจากนั้นมันกระจัดกระจายบนพื้น
ดวงตาเทียนหยุนสว่างขึ้น เขามองกระดูกอย่างละเอียดและค่อยๆเผยรอยยิ้มบางเบา
ในทะเลวิญญาณมารตะวันออกตกอยู่ในความโกลาหลอย่างสมบูรณ์ กล่าวได้ว่าสถานที่แห่งนี้มีดินแดนของมันเอง!
บางทีอาจจะมีผู้คนที่นี่รู้ความกว้างใหญ่ของสถานที่แห่งนี้ แต่หวังหลินไม่ใช่หนึ่งในนั้นอย่างชัดเจน หลังจากเขาก้าวผ่านประตูเข้ามา หวังหลินรู้สึกเหมือนเดินผ่านน้ำและเข้าสู่ส่วนลึกของทะเล ด้านหน้าเขาคือดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาล
ที่นี่มีท้องฟ้า พื้นดินและกระทั่งทะเล แต่ที่นี่ไม่ใช่ดาวเคราะห์เซียน
ไม่มีใครอยู่รอบตัวหวังหลินในตอนนี้ สิ่งเดียวที่อยู่รอบตัวเขาคือดินแดนสุดลูกหูลูกตา ศิษย์สำนักชะตาสวรรค์อีกเก้าคนถูกแยกออกจากกันทั้งหมดตอนที่เข้าประตู ตอนนี้หวังหลินไม่มีความคิดว่าพวกเขาอยู่ไหน
“ทะเลวิญญาณมารตะวันออกแตกต่างจากทุกที่ที่ข้าเคยไปมาก่อนอย่างสิ้นเชิง ที่นี่เหมือนโลกคนธรรมดามากกว่าสถานที่ที่มีสมบัติจำนวนมากซ่อนอยู่เสียอีก” ดวงตาหวังหลินสว่างวาบ จากนั้นกระจายสัมผัสวิญญาณออกมาและล่องลอยเข้าไปในท้องฟ้า
“ข้าเดาว่าคนอื่นๆที่เข้ามาถูกบังคับให้แยกจากกันด้วยประตูเหมือนกับข้าและจะต้องเอาตัวรอดในทะเลวิญญาณมารตะวันออกด้วยตัวเอง…ซุนหยุนซานพูดว่าการเดินทางสู่ทะเลวิญญาณมารตะวันออกจะกินเวลาห้าร้อยปี นั่นหมายความว่าข้าต้องพักอยู่ที่นี่เป็นเวลาห้าร้อยปี…” หวังหลินสงบนิ่งขณะเหาะเหินออกไปพร้อมกับครุ่นคิด
“ห้าร้อยปีสำหรับคนธรรมดานับได้ว่าหลายชั่วอายุคน แต่สำหรับเหล่าเซียนเพียงแค่กระดิกนิ้วเท่านั้น อย่างไรก็ตามในห้าร้อยปีนี้ข้าต้องทำอะไรหลายอย่าง…”
“ข้าต้องบรรลุศาสตร์สังหารเทพให้สำเร็จ นี่เป็นความสำคัญอันดับแรก! อีกทั้งหากต้าวเสินเป็นอิสระขึ้นมา เขาคงไม่สามารถเดาได้ว่าข้าจะอยู่ที่นี่ ดังนั้นข้าจึงมีเวลาเพิ่มขึ้นอีกห้าร้อยปี…” ดวงตาหวังหลินสว่างวาบและเผยรอยยิ้มบาง
ก่อนหน้านี้เขาได้ยินจากซุนหยุนซานว่าเมื่อเข้าไปในทะเลวิญญาณมารตะวันออกไปแล้ว พวกเขาจะต้องอาศัยอยู่ข้างในเป็นเวลาห้าร้อยปี หลังจากได้ยินเรื่องนั้นหวังหลินจึงตัดสินใจจะต้องเข้ามาในทะเลวิญญาณแห่งนี้แน่นอน
กล่าวก่อนว่าคนที่หวังหลินกลัวมากที่สุดคือต้าวเสินจากดินแดนเทพโบราณ เมื่อเขาคนนั้นเป็นอิสระได้เมื่อไหร่ ต้าวเสินจะออกตามหาหวังหลินก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งมันยากมากที่หวังหลินจะต่อสู้กับต้าวเสินด้วยระดับบ่มเพาะปัจจุบัน!
จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหวังหลินจึงฝึกฝนศาสตร์สังหารเทพอย่างบ้าคลั่งเพื่อเปลี่ยนพลังชีวิตให้กลายเป็นผนึกชีวิต เขารู้ว่าไม่สามารถเอาชนะต้าวเสินได้ ดังนั้นจึงต้องการเรียนวิชาช่วยชีวิตเอาไว้!
มีเพียงหลังจากบรรลุศาสตร์สังหารเทพให้สำเร็จเท่านั้นและสร้างผนึกพลังชีวิตจำนวนมากถึงจะสามารถต่อต้านต้าวเสินได้ นี่เป็นเป้าหมายอันดับหนึ่ง!
“ห้าร้อยปี ข้าจะสามารถบรรลุระดับเซียนได้ถึงไหน…” ดวงตาหวังหลินปลดปล่อยแสงประหลาดขณะลอบครุ่นคิด
“ยังมีเรื่องของผู้อาวุโสโจวยี่อีก นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ข้ามาที่นี่ ด้วยเขตแดนของผู้อาวุโสโจวยี่ในเจดีย์ มันไม่ควรจะยากนักที่ข้าจะหาผนึกเซียนกระบี่ผู้อาวุโสโจวยี่ได้ หากข้าสามารถช่วยท่านโจวยี่ได้ และเมื่อมีความช่วยเหลือของเขาและกระบี่สวรรค์ ข้าจะมีพลังแข็งแกร่งในช่วงเวลาอันสั้น!”
“นอกจากนี้ยังมีกระบี่ใหญ่ที่ข้าเห็นนอกทะเลวิญญาณมารตะวันออก กระบี่ที่ข้าเห็นเกือบคล้ายกับกระบี่มั่งคั่งเมื่อก่อน…” แสงในตาหวังหลินทวีความรุนแรงมากขึ้น
“กระบี่มั่งคั่งมีวิชาควบคุมกระบี่สวรรค์อยู่ข้างใน หากนั่นเป็นกระบี่มั่งคั่งของจริง เมื่อข้าสามารถหามันเจอและเรียนรู้วิชาควบคุมข้างในได้ พลังอำนาจของกระบี่สวรรค์จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยหลายเท่า…”