59. คำถาม
ลิ่วหยุนเจี๋ยตัวสั่น เขาฝืนยิ้ม “หวัง…น้องหวังต้องการอะไรหรือ? ถ้าหากเจ้าต้องการเม็ดยารวมปราณข้ายังพอมีเหลืออีกมากและสามารถแบ่งให้เจ้าได้”
“พี่สาม มีบางสิ่งที่ข้าต้องการจากท่านผู้ช่วยของท่าน หวังเฮ่า” หวังหลินจ้องที่ลิ่วหยุนเจี๋ยครั้งก่อนเขาไม่มั่นใจพอที่จะต่อต้านลิ่วหยุนเจี๋ยดังนั้นจึงไม่อาจช่วยหวังเฮ่าได้แต่หลังจบการประลองนี้จึงได้เข้าใจพลังของตนเองดีขึ้น
ใบหน้าลิ่วหยุนเจี๋ยบิดกลายเป็นบิดเบี้ยวเขาหัวเราะขมขื่นในใจพลางกัดฟันพูดขึ้น “หวังหลินหวังเฮ่านั้นเป็นผู้ช่วยที่สำคัญที่สุดในการปรุงยาของข้าดังนั้นข้าไม่อาจตกลงได้!”
ฮวงหลงยืนด้านข้าง งุนงงอย่างมากและตะโกนขึ้นทันที “ลิ่วหยุนเจี๋ย แค่ผู้ช่วยคนเดียวจะสำคัญเท่าไหร่กันเชียว?”
ใบหน้าลิ่วหยุนเจี๋ยเจ็บช้ำอย่างมาก เขายอมรับที่จะเลือกความยุ่งยาก “ท่านจ้าวสำนัก ศิษย์ไม่ได้ไม่เชื่อฟัง หวังเฮ่าความจริงแล้ว…”
ใบหน้าหวังหลินเปลี่ยนไปทันทีเขาเคลื่อนกายราวกับสายฟ้าพุ่งเข้าหายอดเขาเหิงยั่วฮวงหลงและผู้อาวุโสคนอื่นๆเต็มไปด้วยความสับสนและติดตามอยู่ด้านหลังต้าวซิ่วจับลิ่วหยุนเจี๋ยติดตามหวังหลินไปด้วย
ไม่ช้าหวังหลินก็มาถึงบนคลังสมุนไพรในลานกลางหลักเขาตรวจสอบด้วยสัมผัสวิญญาณและพบกับพลังชีวิตอันอ่อนแอของหวังเฮ่าในหลังห้องขณะที่เขาเข้ามาถึงในห้อง ความโกรธก็ถึงขีดจำกัด
ในห้องขนาดใหญ่มีเตาหลอมยักษ์ตั้งอยู่และหวังเฮ่านั่งขัดสมาธิอยู่ด้านในเตาหลอมนั้น พลังชีวิตของเขาอ่อนแอและอ่อนแอลงเรื่อยๆ
หวังหลินไม่กระพริบตาเขาส่งวิชาแรงโน้มถ่วงออกไปจับหวังเฮ่าขณะที่มือที่สร้างจากวิชาเซียนเข้าใกล้เตาหลอมยาแสงสีรุ้งออกมาจากเตาหลอมและปะทะกับมือเขา
หวังหลินกลายเป็นเย็นยะเยือกพลังจากวิชาเซียนแรงโน้มถ่วงได้เพิ่มถึงจุดสูงสุดและทำลายแสงสีรุ้งหวังหลินจับหวังเฮ่าอย่างเบามือและวางเขาลงบนพื้น
เขาวางแขนแตะบนหน้าผากหวังเฮ่าและเงียบเสียงลง
ขณะนั้นฮวงหลงและผู้อาวุโสคนอื่นก็ได้มาถึงผู้อาวุโสใบหน้าแดงมองที่เตาหลอมยาจากนั้นก็มองหวังเฮ่าสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีและตะโกนขึ้น “บททดลองเตาหลอมอัคคี!”
ต้าวซิ่วตรวจสอบลิ่วหยุนเจี๋ยที่อยู่ในมือจากนั้นก็โยนลงบนพื้น “ลิ่วหยุนเจี๋ย เจ้ากล้าได้ขนาดนี้แม้ว่าบททดสอบเตาหลอมอัคคีไม่ได้ห้ามไว้เจ้าสามารถใช้มันได้แค่กับคนนอกและไม่ควรใช้กับคนในสำนัก!ลืมไปแล้วรึไงกัน?!”
ใบหน้าลิ่วหยุนเจี๋ยซีดเผือกเขาคุกเข่าลงบนพื้นและกระซิบขึ้นมา “ศิษย์คนนี้เข้าร่วมสำนักและกลายเป็นศิษย์ของท่านเมื่ออายุ 15 นี่มันก็ผ่านมา 25 ปีแล้ว ศิษย์ยังคงติดค้างอยู่ที่ระดับหกศิษย์ไม่ต้องการยอมแพ้ เมื่อบททดสอบเตาหลอมอัคคีนี้สำเร็จขึ้นเม็ดยาไม่เพียงแต่เพิ่มอายุขัยแต่ยังเพิ่มโอกาสทะลวงระดับให้ด้วยข้าจึงอยากลองขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นยังไงหวังเฮ่าคนนี้เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของข้าตามกฎสำนักแล้วข้าสามารถทำอะไรกับมันก็ได้และเขาไม่ใช่ส่วนหนึ่งของสำนักดังนั้นข้าไม่ได้ทำอะไรผิด!”
หวังหลินลืมตาขึ้นก่อนนี้ชีวิตของหวังเฮ่าได้อยู่ในจุดวิกฤตแต่หลังจากส่งพลังปราณเข้าไปในร่างหวังเฮ่าจึงสามารถช่วยชีวิตเขาไว้ได้หลังจากได้ยินคำพูดของลิ่วหยุนเจี๋ย หวังหลินถอนหายใจ
ฮวงหลงขมวดคิ้วด้านหนึ่งเป็นหวังหลินอัจฉริยะ อีกด้านหนึ่งเป็นศิษย์ที่ผู้คนศรัทธามา 25 ปี ลิ่วหยุนเจี๋ย เขาพบว่าการตัดสินเรื่องนี้เต็มไปด้วยความยากลำบากหลังจากครุ่นคิดอยู่นานจึงตัดสินใจได้และพูดกับต้าวซิ่ว “ต้าวซิ่วเจ้าเป็นผู้คนลงโทษทางวินัย เจ้าจะทำอย่างไรกับลิ่วหยุนเจี๋ย? ”
ขณะที่ต้าวซิ่วได้ยินเช่นนี้ เขาก็เข้าใจการตัดสินของท่านจ้าวสำนักได้ทันที “ลิ่วหยุนเจี๋ยให้ไปอยู่อย่างสันโดษยี่สิบปี”
ฮวงหลงพยักหน้าและหันมาหาหวังหลินเขาพูดอย่างจริงใจ “หวังหลิน จากนี้ไปหวังเฮ่าคนนี้จะกลายเป็นศิษย์สายในจากการพิจารณาแล้วว่าตั้งแต่บัดนี้เจ้าห้ามไปสร้างปัญหากับลิ่วหยุนเจี๋ยอีกเพราะพวกเจ้ายังอยู่ในสำนักเดียวกัน”
หวังหลินชำเลืองมองลิ่วหยุนเจี๋ยและพูดขึ้น “ศิษย์รับคำสั่ง!”
ฮวงหลงโบกแขนเสื้อตัวเองและพูดขึ้น “เอาหล่ะ เมื่อปัญหาได้รับการแก้ไขแล้ว ต้าวซิ่ว เจ้าจัดการเรื่องที่นี่รวมถึงการรักษาหวังเฮ่าด้วย ส่วนหวังหลินตามข้ามา” พูดเสร็จเขาก็เดินออกจากห้องและจากนั้นก็ลอยไปบนอากาศ
ต้าวซิ่วมองไปยังหวังหลินและยิ้มขึ้น “ศิษย์หลานหวังหลิน ไม่ต้องกังวลเรื่องหวังเฮ่า ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ข้าจะหาทางช่วยเขาให้ได้!”
หวังหลินหยักหน้าเบาๆ หลังจากมองดูหวังเฮ่าที่ใบหน้าฟื้นฟูได้เล็กน้อย เขาจึงทิ้งคลังสมุนไพรไว้และติดตามฮวงหลงไป
หวังหลินคิดอยู่ตลอดเวลาและหาทางเข้าใจว่าทำไมท่านจ้าวสำนักฮวงหลงถึงต้องการอยากคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวฮวงหลงได้นำหวังหลินไปที่โถงหลักจากนั้นก็ตะโกนขึ้นทันที “หวังหลินเจ้ากล้าหาญจริงๆ!”
ใบหน้าหวังหลินสงบนิ่งและพูดขึ้น “ท่านจ้าวสำนัก หากท่านมีอะไรจะพูดก็พูดมาได้เลย”
ฮวงหลงฮึดฮัด “ระหว่างการประลอง วิชาเซียนที่เจ้าใช้ความจริงมันคือวิชาอะไรกัน?”
หวังหลินหัวเราะ “วิชาแรงโน้มถ่วง!ถ้าท่านจ้าวสำนักไม่เชื่อข้า ท่านก็ดูมันใกล้ๆ” หวังหลินกระตุ้นวิชาเซียนแรงโน้มถ่วงและจับโต๊ะและเก้าอี้ทั้งหมดในลานกลางไว้หลังจากสร้างพวกมันเป็นวงกลมในห้องหลายครั้งเขาก็วางมันกลับลงที่เดิม
ฮวงหลงตรวจสอบวิชาเซียนอย่างละเอียดจากนั้นก็เริ่มใคร่ครวญผ่านไปอย่างยาวนานเขาก็ถามขึ้น “ก่อนหน้านี้เจ้าเห็นได้ชัดว่าอยู่ที่ระดับสามและแม้แต่ตอนนี้เจ้าก็ดูเหมือนยังอยู่ที่ระดับสามทำไมเจ้าถึงมีพลังมากมายเพียงนั้น? เจ้าระดับเท่าไหร่กันแน่? หวังหลินบอกความจริงข้ามา!”
ใบหน้าหวังหลินเผยแววขมขื่นเล็กน้อยและพูดขึ้นมา “ศิษย์ไม่เข้าใจจริงๆ ข้าแค่ฝึกฝนไปเรื่อยๆและมันก็เป็นแบบนี้แล้วส่วนเรื่องระดับที่ข้าถึง ศิษย์ก็ไม่รู้เช่นกัน”
ฮวงหลงจ้องหวังหลินและพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำ “หวังหลินเจ้ายังไม่อยากเล่าให้ข้าฟังหรือ?”
หวังหลินยิม “ศิษย์ไม่ทราบจริงๆ”
ฮวงหลงลอบถอนหายใจเขาไม่ต้องการกดดันหวังหลินมากเกินไปเพราะว่าไม่ว่ายังไงหวังหลินยังเป็นศิษย์ของเหิงยั่วและเขาก็ได้ทำหน้าที่ได้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีทั้งยังกลายเป็นดาวรุ่งในเหล่าศิษย์สายในเช่นนี้อีกพอคิดได้ดังนี้ใบหน้าก็กลายเป็นมิตรมากขึ้น “เจ้าได้ให้ขวดอะไรไปกับสำนักซวนต้าวนั่น?”
หวังหลินหัวเราะเขาโบกมือคราหนึ่งก็มีขวดเล็กสองขวดออกมา เขาวางมันบนมือฮวงหลงและพูดขึ้น “ท่านจ้าวสำนักกำลังพูดถึงสิ่งนี้หรือ? ท่านน่าจะรู้จักมันดีกว่าข้าเสียอีกมันแค่น้ำจากแม่น้ำในหลังภูเขาเท่านั้น”