Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 654

Cover Renegade Immortal 1

654. อันตรายที่ซ่อนอยู่ของศาสตร์สังหารเทพ

ด้านนอกสีดำสนิทและมีเสียงสายลมคำรามดังขึ้นมาจากข้างในรอยร้าว รอยร้าวดูเหมือนจะมีโลกของมันเองและเสียงคำรามจากข้างนอกมีเฉพาะเสียงจากโลกใบนี้เท่านั้น

แรงดึงดูดไร้ที่สิ้นสุดออกมาจากหลุมราวกับต้องการกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง

หวังหลินนั่งสมาธิอยู่ในรอยร้าว มองออกไปด้านนอกเข้าไปในความมืดมิด เขาดูเหมือนหลอมรวมเข้ากับความมืดมิดไปแล้ว ประกายสายฟ้ากระพริบผ่านดวงตาเป็นครั้งราว

การถูกกักขังอยู่ที่นี่ทำให้สัมผัสความโดดเดี่ยวค่อยๆปรากฏขึ้นในความคิด ราวกับเขาแยกตัวออกมาจากโลกและลืมเลือนทุกคน…

สิ่งเดียวที่ติดอยู่กับเขาคือความทรงของการฝึกฝนเซียนแปดร้อยปี

ผู้คนโดดเดี่ยวมักจะจดจำคนที่ปรากฏขึ้นในชีวิตมาเสมอ ความโดดเดี่ยวของหวังหลินนั้นล้ำลึกเมื่อเขานึกถึงอดีตที่ผ่านมา

บางครั้งราวกับเขากำลังซ่อนตัวอยู่ นึกถึงอดีตหรือไม่ก็ซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ คิดถึงคนที่เขาห่วงใย

หวังหลินพึมพำออกมาในความมืด “สงสัยจริงว่าใครกำลังทำความสะอาดสุสานของท่านพ่อและท่านแม่…”

ลูกแก้วสีขาวเล็กๆกำลังลอยอยู่เบื้องหน้าหวังหลิน แสงจากลูกแก้วอ่อนแออย่างยิ่งจนไม่สามารถให้แสงสว่างขึ้นมาในความมืดมิดได้

แต่ว่าในลูกแก้วสีขาวนี้กลับมีความอบอุ่นออกมา ความอบอุ่นเคลื่อนผ่านสายตาหวังหลินเข้าสู่จิตใจดุจเสียงกระซิบนุ่มๆ มันค่อยๆเติมเต็มความโดดเดี่ยวของหวังหลิน

มีร่างจางๆอยู่ในลูกแก้วเล็กนั้นมาตลอดซึ่งเงียบไปตามหวังหลิน ทั้งคู่ยืนอยู่ในความมืดมิด

แม้ท้องฟ้าและผืนดินจะแตกสลาย ท้องทะเลแห้งเปือดหรือก้อนหินผุพัง ร่างนั้นก็จะอยู่กับหวังหลินไปตามอายุขัยเสมอ แม้จะเกิดใหม่มันก็จะติดไปกับเขา…

ข้างในรอยร้าวยังคงเย็นเยียบราวกับความอบอุ่นทั้งหมดถูกดูดออกไปผ่านรอยแยกนั้น แต่ตัวตนของลูกแก้วสีขาวยังคงให้ความอบอุ่นเติมเต็มจิตใจหวังหลินและดูเหมือนจะเป็นไปตลอดกาล

หวังหลินที่ผสานเข้ากับความมืดมิดพลันยกมือขึ้น ลูกแก้วสีขาวค่อยๆร่อนไปบนฝ่ามือ มันกระพริบและปลดปล่อยแสงอ่อนๆออกมา สิ่งนี้ทำให้หวังหลินสูญเสียความสุขมานานมาก

“ความสุขของทุกคนแตกต่างกัน…ความสุขของข้าคือการอยู่ร่วมกับครอบครัว อยู่ร่วมกับหวานเอ๋อ…” ดวงตาหวังหลินเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความนั้นช่างสูญเปล่าและยากเสียจริง

ไม่มีใครรู้ว่าส่วนลึกภายในดินแดนวิญญาณปิศาจนั้น ข้างในหลุมไร้ก้นบึ้งนี้มีชายหนุ่มที่กำลังดิ้นรนต่อต้านโชคชะตาและโดดเดี่ยวอยู่ในใจ

หวังหลินนั่งในรอยร้าวนี้มาสามปี

ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการจากไปแต่ช่วงระหว่างสามปีนี้แรงดึงดูดภายนอกได้เพิ่มระดับความรุนแรงจนเหนือจิตนาการแล้ว

สองปีก่อนนั้นตอนที่หวังหลินกำลังสำรวจกระบี่มั่งคั่ง แรงดึงดูดจากหลุมได้เพิ่มขึ้นรุนแรงทันที รอยร้าวมากกว่าครึ่งได้รับผลกระทบจากแรงดึงดูดไปแล้ว

เดิมทีวิชาขององครักษ์เทพทำให้เขามีโอกาสถึงหกในสิบส่วนที่จะออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อแรงดึงดูดเพิ่มขึ้นมันจึงตกลงไปเหลือสองในสิบส่วนทันที…

หวังหลินไม่ได้สูญเสียความหวังแต่เขารออย่างสงบนิ่งมาอีกสองปี

หลังจากระดับบ่มเพาะบรรลุขั้นเทวะมา การก้าวหน้าของเขาก็ชะลอตัวลง นอกจากนั้นแล้วขั้นเทวะคือจุดสูงสุดของก้าวแรก แม้จักรวาลอันกว้างใหญ่จะเป็นช่นไร จะมีสักกี่คนกันที่บรรลุมาถึงจุดสูงสุดของก้าวแรกได้…

นอกจากคนที่มีพรสวรรค์แต่กำเนิด ใครกันจะไม่ใช้เวลามากมายเพื่อมาถึงระดับสูงสุดนี้ได้ พรสวรรค์ของหวังหลินธรรมดาอย่างยิ่ง หากไม่ใช่ด้วยความมุ่งมั่นและประสบการณ์พิเศษบางอย่าง คงยากอย่างมากที่เขาจะมาถึงจุดนี้ได้

ขั้นเทวะระดับกลาง ขั้นเทวะระดับปลายและขั้นเทวะระดับปลายสูงสุดคือสามคอขวดที่ขัดขวางเหล่าเซียนนับไม่ถ้วนและทำให้ชีวิตผู้คนมากมายต้องจบลงไป มันคือภูเขาสามลูกที่ขัดขวางเส้นทางของหวังหลิน

ในสองปีนี้หวังหลินใช้จิตใจที่สงบนิ่งของตนเองเพื่อค่อยๆทำความเข้าใจสิ่งที่อยู่ข้างในกระบี่มั่งคั่ง ในกระบี่มั่งคั่งมีเพียงวิชากระบี่อยู่วิชา!

ตัดสวรรค์!

ณ วันหนึ่งหลังผ่านไปสองปี หวังหลินถอนสัมผัสวิญญาณออกมาจากกระบี่มั่งคั่ง จากนั้นกระบี่มั่งคั่งก็หายไปอย่างสมบูรณ์ราวกับเสร็จสิ้นเป้าหมายตลอดชีวิตของมันในการส่งต่อมรดกและกลับคืนสู่ที่ที่มันจากมา

สิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่ในจิตใจหวังหลินคือความรู้สึกตกใจที่เขาได้ทำความเข้าใจมาสองปี

หลังจากนั้นสิ่งที่รอหวังหลินคือความเงียบงันและความโดดเดี่ยวไร้ที่สิ้นสุด

หวังหลินนั่งสมาธิทุกวันและมองไปที่ความมืดมิดข้างนอกอย่างเงียบๆ เสียงดึงดูดคำถามเข้าใส่หูของเขาขณะที่มองไปยังความมืดมิดและนั่งนิ่งไม่ไหวติง

เสียงหายใจเบาๆออกมาจากกระเป๋าของหวังหลิน กระเป๋าเปิดขึ้นมาด้วยตัวเองและม้วนคัมภีร์ลอยออกมา

ม้วนคัมภีร์เปิดขึ้นกลางอากาศ ร่างสตรีนางหนึ่งค่อยๆปรากฏอยู่ในนั้น

หวังหลินไม่ได้มองไปที่คัมภีร์ ใบหน้าไม่ได้เผยร่องรอยประหลาดใจแต่กลับสงบนิ่งเยือกเย็นสุดขั้ว จังหวะก่อนม้วนคัมภีร์จะปรากฏ เขาก็ปิดฝ่ามือและลูกแก้วสีขาวเล็กๆนั้นก็เข้าสู่ร่างกาย

“ลงไป…” หวังหลินไม่อาจเห็นฝั่งด้านหน้าของนางได้ เสียงของนางกระจายออกมาอย่างช้าๆดุจเมฆหมอกที่สะท้อนในรอยร้าว

หวังหลินไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ดัชนีทำเป็นกระบี่และตวัดลง การกระทำนี้เรียบง่ายแต่ร่างหวังหลินอยู่ในสภาวะจิตใจอันลึกลับ หลังตวัดนั้นม้วนคัมภีร์ก็ปิดทันที ไม่มีเสียงออกมาจากข้างในอีก

หวังหลินถอนนิ้วมือ หลังมองม้วนคัมภีร์เขาก็คว้ามันและโยนใส่กระเป๋าตนเอง

ในช่วงเวลาสามปีนี้ สตรีในม้วนคัมภีร์ปรากฏขึ้นทั้งสิ้นสี่ครั้ง ทุกครั้งที่นางปรากฏตัวนางจะเรียกหาเช่นนี้

หวังหลินไม่ได้อยากรู้อยากเห็นสิ่งที่อยู่ใต้ก้นหลุม ความสงบนิ่งของเขาไม่เคยหายไป หวังหลินไม่แม้แต่จะไปตรวจสอบค่ายกลเคลื่อนย้ายลึกลับที่อยู่ด้านล่างเป็นครั้งที่สอง

ก่อนที่เขาจะมีความแข็งแกร่งเพียงพอนั้น ความอยากรู้อยากเห็นคือสิ่งร้ายกาจที่สามารถฆ่าทุกผู้คนได้

หวังหลินกำลังรอคอยให้ถึงวันที่พลังดึงดูดข้างนอกรอยร้าวอ่อนแอลง

ไม่มีกฏดึงดูดอะไรอยู่ในหลุมนี้ หากแรงดึงดูดสามารถเพิ่มขึ้นในสองปีก่อนได้ เช่นนั้นมันก็สามารถลดลงได้ในไม่กี่ปีเช่นกัน เขาเพียงแค่ต้องรอ!

เสียงร้องดังขึ้นด้านข้างหวังหลิน เขาก้มศีรษะลงและดวงตาส่องสว่าง ด้านข้างเป็นเจ้าคางคกสีฟ้าขนาดเท่าฝ่ามือ

มันคือคางคกสายฟ้า!

หนึ่งปีก่อนคางคกสายฟ้าได้ตื่นขึ้นจนร่างกายมันเหลือขนาดเท่านี้ คางคกสายฟ้าสามารถสัมผัสการเปลี่ยนแปลงในตัวหวังหลินได้มากที่สุด หลังจากมันตื่นขึ้นมันจึงไม่อยากกลับเข้าไปในกระเป๋าและเพียงแค่พักรออยู่ข้างๆหวังหลิน

หวังหลินยิงลำแสงสายฟ้าออกมาจากนิ้วเข้าใส่เจ้าคางคกสายฟ้า มันลืมตาขึ้นและยื่นลิ้นออกมาทันทีและดึงสายฟ้าเข้าไปในปาก เสียงดังสนั่นออกมาจากท้องเจ้าคางคกและเผยสีหน้าสุขสบาย

หวังหลินหลับตาและจมความคิดไปในเต๋าของตนเอง

เต๋าของเขามีอยู่สองส่วน ส่วนแรกคือแม่น้ำอเวจีและส่วนที่สองเป็นการสร้างวิญญาณของแม่น้ำอเวจี

อย่างไรก็ตามการเรียกวิญญาณของแม่น้ำอเวจีเป็นเพียงแค่เศษวิญญาณจากธงวิญญาณหลายล้านตนเพื่อควบแน่นเข้าด้วยกันเท่านั้น มันยังขาดจิตสังหาร

แม้ว่าภูติสวรรค์จะมีความชั่วร้ายแต่การเป็นวิญญาณให้กับแม่น้ำอเวจีของหวังหลินถือว่ายังไม่เพียงพอ เพราะมันชั่วร้ายอย่างเดียวแต่ขาดจิตสังหาร!

“วิญญาณของแม่น้ำอเวจีความจริงแล้วไม่จำเป็นต้องทรงพลัง ส่วนใหญ่จะเรียบง่ายและอ่อนแอ แต่มีความดุร้ายและจิตสังหารมากที่สุด!” หวังหลินขบคิด

“หากข้าสามารถออกไปจากที่นี่ไีด้ ข้าจะต้องไปเยี่ยมโลกคนทั่วไปเพื่อแยกจิตสังหารและความชั่วร้ายออกมาหลอมให้เป็นวิญญาณของข้า เพื่อแม่น้ำอเวจี!”

หวังหลินลืมตา มองออกไปนอกรอยร้าวและยืดมือขวาออกไป ปลายนิ้วค่อยๆยื่นเข้าหาเส้นแบ่งข้างในรอยร้าว

แม้ว่าเส้นแบ่งนี้จะยังอยู่ภายในถ้ำ เมื่อปลายนิ้วหวังหลินข้ามผ่านเส้นนี้เขาก็ยังรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากร่างกายถูกดึงออกไป

ระลอกคลื่นเริ่มปรากฏอยู่บนผิวหนังและแม้แต่เล็บมือก็รู้สึกเหมือนกำลังหลุดลอกออกไป

“ข้าถูกขังอยู่ที่นี่แต่ข้ากลับมีโอกาสรู้แจ้งพลังอำนาจแห่งฟ้าดิน โอกาสในการบรรลุเต๋าขั้นที่สามของข้า!” แม้ดวงตาหวังหลินจะสงบนิ่งแต่กลับแฝงความเย็นเยียบอยู่ภายใน

“แต่เบื้องหน้าข้านี้ ข้าต้องกำจัดปัญหาในร่างกายให้เสร็จสมบูรณ์!” หวังหลินถอนมือออกมา ฝ่ามือด้านชาและไร้ความรู้สึกอย่างสิ้นเชิง

เพื่อความปลอดภัย หวังหลินต้องกักเก็บศาสตร์สังหารเทพทั้งหมดไว้ในหุ่นเชิด ศาสตร์สังหารเทพเป็นวิชาสำคัญมากสำหรับหวังหลิน เขาเพียงต้องทิ้งมันเท่านั้นหลังจากเลือกตัดสินใจอยู่พักใหญ่

ก่อนหน้านั้นตอนที่เขากำลังฝึกฝนศาสตร์สังหารเทพ หวังหลินได้มีจิตใจแห่งการฆ่าฟัน ตอนเริ่มแรกจิตใจแห่งการฆ่าฟันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแม้หวังหลินจะใส่พลังสังหารทั้งหมดเข้าไปในหุ่นเชิด แต่ว่าสามปีต่อมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน หวังหลินได้รู้สึกว่าจิตใจแห่งการฆ่าฟันได้เปลี่ยนไป

การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ทำให้หวังหลินเริ่มบ้า ราวกับตอนที่เขาดูดซับผลทะยานสวรรค์ทั้งหมดไป(ผลไม้ที่หวังหลินกินแล้วทำให้บ้าคลั่ง) ซึ่งมันทำให้เขาเกิดแรงกระตุ้นให้นำพลังสังหารทั้งหมดกลับมาทันที

ดวงตาหวังหลินส่องสว่างขึ้นจากนั้นตัดสินใจแน่วแน่และก้าวเท้า การก้าวเท้านี้พาให้เขาเลื่อนผ่านเส้นแบ่ง

พลังดึงดูดอันทรงพลังได้ฉีกกระชากร่างกายหวังหลินจนนำเขาออกมาจากรอยร้าว

หวังหลินกระตุ้นพลังปราณสวรรค์ในร่างกายและค่อยๆนั่งลง ขณะที่กำลังต่อต้านพลังดึงดูดนั้น เขาก็ค่อยๆสัมผัสการเปลี่ยนแปลงของพลังดึงดูด

ข้างในพลังดึงดูดมีพลังงานเย็นที่เข้ามาในร่างกายหวังหลิน ความเย็นไม่ได้รุนแรงและสามารถขัดออกไปได้ด้วยพลังปราณสวรรค์ หลังจากนั่งอยู่ที่นี่ไม่กี่วันหวังหลินก็ก้าวเท้าอีก

คราวนี้เขาอยู่ในตำแหน่งที่เกิดแรงดึงดูดมากขึ้นมหาศาล โลหิตในร่างช้าลงราวกับกำลังถูกดึงออกจากร่างกาย

“ยังไม่เพียงพอ!” ดวงตาหวังหลินส่องสว่างขึ้น

อสูรยุงนับไม่ถ้วนอยู่เต็มอากาศข้างๆกับทางเข้าสู่หลุมลึกไร้ก้นบึ้ง พวกมันไม่กล้าเข้ามาใกล้เกินไปเพราะพลังดึงดูดทรงพลังอย่างยิ่ง หากพวกมันเข้ามาใกล้เกินจะถูกดูดเข้าไปในหลุม

ท่ามกลางฝูงอสูรยุงเหล่านี้มีอสูรยุงตัวหนึ่งที่มีแสงสีม่วงเรืองรอง ไม่ว่ามันจะบินไปทางไหน ยุงตัวอื่นก็จะหลบทางให้มันและยังสามารถทำให้ยุงตัวอื่นสั่นเทาเพียงแค่ส่งเสียงออกมา

แต่ว่าเจ้ายุงตัวนี้กลับมีท่าทางกระวนกระวาย มันบินเคว้งคว้างไปรอบๆทางเข้าสู่หลุมไร้ก้นบึ้งอยู่สามปี มีหลายครั้งที่มันต้องการเข้าไปในหลุม แต่เมื่อมองไปยังเพื่อนๆของมันก็จึงหยุดความคิดนั้น

เสียงร้องระเบิดออกมาจากปากมันและดังสะท้อนไปทั่วบริเวณ…ราวกับคนที่แยกจากครอบครัวกำลังเรียกขานชื่อพี่น้อง…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version