716. ความโกรธเกรี้ยวอสรพิษ ดัชนีเทพโบราณ
ในความทรงของเทพโบราณตู่ซือ มีอยู่หนึ่งประโยคที่เขาใช้อธิบายอสรพิษพิฆาตจันทร์
“หากสวรรค์มีจิตวิญญาณ เช่นนั้นเทพโบราณก็จะมีพิฆาตจันทร์!”
จิตวิญญาณถือได้ว่าเป็นวิญญาณ อธิบายสั้นๆได้ว่าส่วนแรกของประโยคนั้นสวรรค์ยังมีชีวิต มันมีตัวตนของมันเองหรือเป็นสัมผัสแห่งจิตวิญญาณที่สิ่งมีชีวิตทั่วไปไม่สามารถตรวจจับได้
ส่วนที่สองอ้างถึงอสรพิษพิฆาตจันทร์ แม้แต่เทพโบราณตู่ซือก็ไม่รู้ว่าอสรพิษพิฆารจันทร์มีมาได้อย่างไร ดูเหมือนมันจะมีตัวตนอยู่มานานมากแล้ว
มันเหมือนกับสวรรค์และจิตวิญญาณของมัน ทั้งสองเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถอธิบายได้
“ความโกรธเกรี้ยวอสรพิษ ดัชนีเทพโบราณ” คือคำอธิบายของอสรพิษพิฆาตจันทร์ในความทรงจำของเทพโบราณตู่ซือ และเป็นหนึ่งสิ่งที่หวังหลินประทับใจมากที่สุดอย่างลึกซึ้ง
การอ่านแต่ละบรรทัดนี้มันหมายความว่าเมื่ออสรพิษพิฆาตจันทร์โกรธขึ้นมาและอยู่ในร่างที่สาม มันมีพลังอำนาจเท่าดัชนีของเทพโบราณ พลังนี้แตกต่างกันไปแต่เพียงแค่ดัชนีของเทพโบราณเก้าดาวก็เพียงพอทให้ดาวเซียนล่มสลายได้แล้ว
หากเพียงแค่เทพโบราณหนึ่งดาว คงทำให้ศิษย์หัวเราะเยาะ
อย่างไรก็ตามอสรพิษพิฆาตจันทร์ตัวใหญ่ยักษ์เบื้องหน้าหวังหลินไม่ใช่เรื่องล้อเล่น!
ทั้งร่างกายหวังหลินเรืองแสงเย็นขึ้นมาเมื่อเขาและองครักษ์เทพใช้ความเร็วขีดสุดพาเอากระดูกหลบหนีไป เขาพยายามดูดซับมันด้วยลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าแต่ด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบบางอย่าง มันช้ามากและไม่สามารถเสร็จสิ้นในช่วงเวลาอันสั้น
ตอนนี้เกิดเสียงดังสนั่นรุนแรงกึกก้องไปทั่วทั้งดาวหยุนเซีย เสียงดังสนั่นนี้หากเรียกว่าสายฟ้าฟาดก็คงกล่าวด้อยกว่าความเป็นจริง มันคือเสียงคำรามโกรธเกรี้ยวไปทั่วหมู่ดาวและดังออกไปไกล
หนังตาหวังหลินบิดเบี้ยว เขาไม่ได้หันกลับมาและรีบหนีให้เร็วไว อสรพิษพิฆาตจันทร์คงไม่ตายหากมันเสียกระดูกไป มันเพียงแค่ต้องใช้เวลาปลูกถ่ายกระดูกให้เติมเต็ม
ทว่ากระดูกชิ้นนี้เติบโตมานานหลายปี ไม่สงสัยเลยว่าทำไมมันถึงโกรธเกรี้ยวขนาดนี้
ร่างอสรพิษค่อยๆยืดออกอย่างช้าๆจากรูปร่างกลมๆเมื่อก่อนจนทำให้พื้นดินสั่นเทาและแตกสลายอีกครั้ง คราวนี้แตกละเอียดมากยิ่งขึ้น
หนวดขนาดใหญ่มากมายยื่นออกมาอย่างต่อเนื่องและส่ายไปมารอบๆ กลิ่นอายเหนือจินตนาการค่อยๆแพร่กระจายออกมาจากร่างของมัน
เจ้ากรีดออกมาจากเตาหลอมยักษ์ ทว่านี่เป็นเวลาแย่มากที่มันออกมาเพราะเป็นตอนที่อสรพิษกำลังปลดปล่อยความโกรธ ตอนที่กรีดมองออกไปในรอยแยกที่ห่างออกไปไม่ไกลนั้น ดวงตาก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เขาส่งเสียงร้องคำรามและเร่งความเร็วอย่างบ้าคลั่ง ต้องการพุ่งตัวออกมา!
ทว่าขณะนั้น รอยร้าวก็ค่อยๆปิดลง
ดวงตากรีดหลั่งน้ำตาเป็นสีแดงโลหิตและกรีดร้องโหยหวน “ม่ายยยยยยยย!!”
อสรพิษพิฆาตจันทร์ปิดปากมันเองและร่างยักษ์ถูกเติมเต็มไปด้วยพลัง ทว่าการกระทำของมันยังคงเชื่องช้าและยังไม่ได้ควบคุมตนเองได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามหมอกผลทะยานสวรรค์ยังคงถูกชะล้างจากในระบบร่างกายซึ่งจะค่อยๆฟื้นฟูการควบคุมมาได้เรื่อยๆ
หวังหลินถือกระดูกพร้อมด้วยองครักษ์เทพอยู่ด้านหลัง ขณะที่พวกเขาเข้ามาในอวกาศ หวังหลินตบกระเป๋านำเข็มทิศดวงดาวออกมา พลันเปลี่ยนเป็นลำแสงสีเงินเหาะเหินออกไปไกลโดยไม่หันกลับมา
สายตาเย็นเยียบของอสรพิษพิฆาตจันทร์กำลังจ้องหวังหลินที่ห่างออกไปไกล หนวดขนาดใหญ่บนร่างเคลื่อนไหวเล็กน้อยปรากฏพายุรุนแรงขึ้น พายุนี้ทรงพลังจนสร้างคลื่นเสียงกระแทกหลายชั้น
คลื่นกระแทกทรงพลังแพร่กระจายออกไปทุกทิศทาง จากนั้นอสรพิษก็ขยับเคลื่อนไหว แทบในเสี้ยววินาทีนั้นระยะห่างจากหวังหลินก็ใกล้ขึ้นในพริบตา
ในเวลาเดียวกันอสรพิษก็อ้าปากและเอ่ยภาษาเทพโบราณ หนังศีรษะหวังหลินด้านชาเมื่อเขาเห็นอสรพิษตัวเล็กหลายร้อยตัวพุ่งออกมาจากปาก
กรีดก็อยู่ข้างในปากนี้ด้วย เมื่อเขาเห็นดวงดาว ความตื่นเต้นได้ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ความรู้สึกนี้ยอดเยี่ยมราวกับนานมากแล้วที่เขาไม่ได้เห็นดวงดาว เขาตื่นเต้นจนพูดไม่ออก
แต่เขารู้ตัวว่าไม่อาจหลบหนีได้อย่างแท้จริง ทันใดนั้นเขาเห็นเข็มทิศดวงดาวห่างออกไปไกลและจดจำหวังหลินได้ เจ้ากรีดจึงเข้าใจ ดวงตาเผยความเกลียดชัง
อย่างไรก็ตามเขาไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม มีอสูรดุร้ายพวกนี้ลำตัวยาวกว่าพันฟุตอยู่รอบตัวเขามากเกินไปและเขากลัวว่าการเคลื่อนไหวของเขาจะไปกระตุ้นความสนใจของพวกมัน
หวังหลินสูดลมหายใจหนาวเหน็บ สัมผัสกระเป๋านำน้ำทิพย์ออกมาจากกระเป๋า กัดฟันแน่นและดื่มไปหนึ่งหยด เหลือทิ้งไว้เพียงสองหยดเท่านั้น
พริบตาหลังจากนั้นพลังปราณสวรรค์ไร้ก้นบึ้งระเบิดออกมาภายในร่าง พลังปราณสวรรค์นี้หนาแน่นและมีมากมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นของเทพตัวจริง!
อดทนต่อความเจ็บปวดรุนแรงและปล่อยความรู้สึกออกไป หวังหลินยกมือขวาขึ้น ชี้ไปที่อสรพิษพิฆาตจันทร์พวกนั้นและตะโกน “หยุด!”
พลังปราณสวรรค์ที่กำลังระเบิดออกมาจากร่างกายพลันพุ่งไปที่นิ้วหวังหลิน เปลี่ยนเป็นพลังงานไร้ขีดจำกัดล้อมรอบฟ้าดิน เพียงหนึ่งคำก็ดูเหมือนสามารถหยุดฟ้าดินไม่ให้เคลื่อนไหวได้แล้ว
โดยปกติหวังหลินคงไม่สามารถทำเช่นนี้ได้แน่นอน แต่เนื่องจากอาศัยน้ำทิพย์สวรรค์จึงสามารถใช้วิชาเทพยับยั้งในระดับนี้ได้
หวังหลินใช้โอกาสนี้พุ่งตัวออกไปโดยไม่ลังเล เคลื่อนไหวรวดเร็วและใช้วิชาหลบหนีหลายอย่างที่เรียนรู้จากชายชราแห่งดินแดนวิญญาณปิศาจ
หวังหลินหยุดอสรพิษตัวเล็กๆพวกนั้นแต่วิชายับยั้งไม่มีผลกระทบต่ออสรพิษตัวใหญ่ที่ก่อร่างเป็นดาวหยุนเซีย มันพุ่งตัวเข้ามาและความดุดันส่งผลให้เหล่าตัวเล็กๆฟื้นคืนอิสระ
อย่างไรก็ตามโชคของกรีดก็ยังแย่จริงๆ เขาได้ถูกหยุดไปด้วยและฟื้นตัวได้ช้าเล็กน้อย แต่เนื่องจากอสรพิษพิฆาตจันทร์ตัวใหญ่พุ่งออกมา เจ้ากรีดก็ตกลงไปในปากมันอีกครั้ง
กรีดรู้สึกวิสัยทัศน์กลับไปเป็นสีดำและในวินาทีต่อจากนั้นเขาก็พบว่าตัวเองกลับเข้าไปในรอยร้าวอีกแล้ว
เกิดความหมดหวัง แววตาเผยความบ้าคลั่งขึ้นมา เขากัดลิ้นตัวเองเล็กน้อยและพ่นโลหิตไปบนเตาหลอม เตาหลอมปลดปล่อยกลิ่นอายโบราณและเกิดระลอกคลื่นแพร่กระจายออกมา ดวงตากรีดกระพริบวาบและเปลี่ยนตำแหน่งตัวเองกับอสรพิษตัวเล็กที่เร็วที่สุดทันที
ใบหน้าพลันซีดเผือด กระอักโลหิตอีกครั้ง จากนั้นชี้ไปที่หวังหลินพร้อมตะโกน “หวังหลิน จะหนีไปไหน!”
หวังหลินรับรู้ถึงกรีดมานานแล้ว เขาไม่ได้หันศีรษะกลับไปพลันชี้เบื้องหลังตัวเองโดยใช้พลังปราณสวรรค์พรั่งพรูออกมาดุจพายุ
หยุด!
กรีดกำลังจะใช้ความสามารถของเตาหลอมอีกครั้งเพื่อสับเปลี่ยนตัวเองกับหวังหลิน ทว่าวิชาหยุดตกลงมาและทำให้ร่างกายแข็งค้าง
สายตาอสรพิษพิฆาตจันทร์ตกลงบนกรีด ดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้า มันสัมผัสถึงกลิ่นอายที่ทำให้รู้สึกสะดวกสบายอย่างยิ่งออกมาจากเตาหลอมยักษ์นั่น
ตอนนั้นที่อสรพิษไม่ได้ตื่นขึ้นมา เหตุผลที่มันไม่ฆ่ากรีดก็เป็นเพราะเตาหลอมนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อมันไม่ได้ตื่นขึ้นจึงได้ส่งกรีดและเตาหลอมไปที่จุดขับถ่ายโดยไม่รู้ตัว
แม้ว่าจะเป็นจุดขับถ่ายของอสรพิษแต่มันก็เป็นจุดดูดซึมด้วยเช่นเดียวกัน มันต้องการดูดซับเตาหลอมนี้อย่างไม่รู้ตัวและด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้กรีดทุกข์ทรมานมากว่าร้อยปี
ขณะที่ร่างกรีดถูกแช่แข็ง อสรพิษพิฆาตจันทร์รีบตะครุบ
สายตาหวังหลินเผยประกายแสงประหลาด เขาใช้โอกาสนี้เพิ่มระยะทางให้ไกลยิ่งขึ้น
เจ้ากรีดรู้สึกเพียงแค่วิสัยทัศน์มืดดำ ตอนที่รู้สึกตัวก็ถูกกลืนเข้าไปอีกครั้งแล้วและตกอยู่ที่ปลายรอยร้าว การขึ้นมาและตกไปต่อเนื่องเช่นนี้ทำให้ใบหน้ากรีดขมขื่นและทำให้ความเกลียดชังต่อหวังหลินมีมากขึ้นไปอีก
“ทั้งหมดมันเป็นเพราะเจ้า!!”
กรีดกัดฟันแน่น จากนั้นฝ่ามือสร้างผนึกประทับลงบนเตาหลอม แสงสีขาวนวลออกมาจากศีรษะเขาและประทับลงเตาหลอม
กรีดร้องคำราม “แม้ข้าจะต้องสังเวยพลังชีวิต ข้าก็จะหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้!” เตาหลอมดูดซับพลังชีวิตของกรีดและขยายตัวออกมาใหญ่มากขึ้นทันที
พรบตาเดียวมันก็เริ่มเรืองแสง กลิ่นอายโบราณกระจายออกมาโดยที่เตาหลอมขยายขนาดต่อเนื่อง
อสรพิษพิฆาตจันทร์ร้องคำราม เสียงคำรามดังกึกก้องทำให้หวังหลินกระอักโลหิตอีกครั้ง ตอนนี้เขาบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว
ส่วนองครักษ์เทพมันกลับสั่นไหวรุนแรงเช่นกันและแสงสีทองรอบตัวพังทลายลง แม้แต่แสงในแววตาก็เปลี่ยนเป็นมืดมัว แต่เมื่อเทียบกับหวังหลินแล้วอาการบาดเจ็บของมันค่อนข้างน้อย
ขณะที่เตาหลอมขยายตัว หวังหลินตัดสินใจพุ่งออกไปอย่างมุ่งมั่น ปากของอสรพิษพิฆาตจันทร์กำลังอ้าออกเนื่องจากการขยายตัวของเตาหลอม
“ข้าไม่ได้ต้องการเตาหลอมนี้แล้ว!” หัวใจของกรีดเจ็บปวดขึ้นมาพร้อมกันหันตัวกลับและกำลังจะพุ่งออกห่าง
ทว่าขณะนั้นอสรพิษพิฆาตจันทร์พ่นเตาหลอมออกไป ดวงตาเผยประกายแสงลึกลับ หนวดนับไม่ถ้วนยื่นออกมาทันทีและห่อหุ้มรอบเตาหลอมเอาไว้ หนวดส่วนออื่นๆพุ่งเข้าหาเป้าหมายที่ใกล้ที่สุด…กรีด
กรีดใบหน้ามืดมัว เขาตบกระเป๋าพลันปรากฏม่านแสงขึ้น ฝ่ามือสร้างผนึกและบังคับแม่น้ำและลำธารออกมาท่ามกลางดวงดาว
ขณะที่หวังหลินกำลังหลบหนี สัมผัสวิญญาณของเขากระทั่งเกิดอาการหลอนไม่ได้อยู่ท่ามกลางดวงดาวแต่กลับอยู่เบื้องหน้าภูเขาและแม่น้ำที่สง่างามแทน!
“ภาพวาดภูเขาและแม่น้ำ!” เข็มทิศดวงดาวของหวังหลินชะลอตัวลง แววตาเผยความโลภมองไปที่ม่านนั้น หวังหลินจดจำสิ่งที่กรีดพูดเอาไว้ได้จึงไม่ได้มองหาภาพวาดภูเขาและแม่น้ำแต่พบกับม่านพลังป้องกันของมันแทน
สายตาอสรพิษพิฆาตจันทร์ยังคงเย็นเยียบและปรากฏสัญลักษณ์รูนประหลาดในดวงตา หวังหลินจดจำรูนนี้ได้ มันคือภาษาของเทพโบราณ!
สัญลักษณ์รูนกระพริบ ปรากฏนิ้วยาวหนึ่งพันฟุตเบื้องหน้าอสรพิษ นี่เป็นเนพียงนิ้วเดียวและผิวหนังของมันหยาบกร้านมาก อย่างไรก็ตามกลิ่นอายเบาบางนั้นกลับทำให้มึนเมา
แม้ดัชนีนี้จะเป็นเพียงภาพมายา ในสายตาหวังหลินมันคือของจริงอย่างเหลือเชื่อ!
“ความโกรธเกรี้ยวอสรพิษ ดัชนีเทพโบราณ!” หวังหลินสูดหายใจเข้า หน้าผากปกคลุมไปด้วยเม็ดเหงื่อ หัวใจเริ่มเต้นเร็วรัว ในที่สุดเขาก็เข้าใจความหมายของประโยคนี้