Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 727

Cover Renegade Immortal 1

727. สายฟ้าแห่งกฏ

“มีเพียงการเข้าไปดูดซับในส่วนลึกเท่านั้นถึงจะเพิ่มความเร็วขึ้นได้ หากข้าอยู่ที่ชายขอบ แม้ว่าจะดูดซับสายฟ้าไปสิบเท่า ผลที่ได้ก็เท่ากัน ซึ่งความจริงมันแตกต่างมาก” หวังหลินไตร่ตรองอย่างเงียบๆขณะที่เขาเดินไปใจกลางทะเลสาปสายฟ้า

การก้าวนี้ทำให้เกิดระลอกคลื่นเมื่อเหยียบไปบนทะเลสาปสายฟ้า มันดึงดูดสายฟ้าเข้ามานับไม่ถ้วน

จิตใจของหวังหลินมีสมาธิจดจ่อ ดวงตาแผ่สายฟ้าออกมา วิญญาณดั้งเดิมตอนนี้เหมือนกับหัวใจ แม้ว่ามันไม่เต้นเร็ว แต่มันมีชีพจรสายฟ้าเต็มไปทั่วร่างกาย

ร่างกายหวังหลินสร้างขึ้นจากสายฟ้า ดังนั้นสายฟ้าที่ปกคลุมนี้จะไร้การต่อต้านอันใดเมื่อวิญญาณดั้งเดิมปลดปล่อยออกมา สายฟ้าเคลื่อนผ่านร่างกายเขาและสร้างระเบิดดังขึ้นต่อเนื่อง

สายฟ้าดังสะท้อนอยู่ในร่างกาย หวังหลินเคลื่อนตัวไปข้างหน้าและก้าวเข้าไปอีก

พายุสายฟ้าปรากฏขึ้นในทะเลสาปสายฟ้าทันที มันดึงดูดสายฟ้าจำนวนมาก เกลียวคลื่นสายฟ้าอันน่ากลัวทำให้มันดูเหมือนคุกสายฟ้าของจริง กีดกันทุกชีวิตไม่ให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า!

ข้างในสายฟ้านี้มีพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ เทียบกับพลังของสายฟ้าภายในวิญญาณดั้งเดิมของหวังหลินเปรียบเสมือนหิ่งห้อยปะทะดวงจันทรา

“สถานที่แห่งนี้แปลกมาก ความแข็งแกร่งของสายฟ้าช่างน่าทึ่ง!” ฝ่าเท้าของหวังหลินเหยียบลงทำให้เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วทะเลสาปสายฟ้า

เขายังคงเดินต่อไปอีกสิบก้าวโดยไม่หยุด ทุกย่างก้าวก่อให้เกิดการระเบิดรุนแรงยิ่งกว่าเสียงฟ้าร้อง ราวกับว่าทั้งโลกกำลังสั่นสะเทือน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหวังหลินใช้ความเร็วขึ้นมาก เขาก้าวไปอีกสิบก้าวแทบในเสี้ยววินาที เสียงสายฟ้าคำรามสนั่นดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ การสั่นสะเทือนนี้ปลดปล่อยคลื่นสายฟ้ากระแทกขนาดยักษ์ออกมา ดูเหมือนว่าโลกจะถูกปกคลุมไปด้วยสายฟ้าและเป็นฉากที่น่าตกใจยิ่ง

หวังหลินไม่สามารถก้าวต่อไปได้อีก ตำแหน่งปัจจุบันของเขายังคงอยู่ที่ชายขอบทะเลสาปสายฟ้าแต่วิญญาณดั้งเดิมไม่สามารถทนได้อีกต่อไป มันให้ความรู้สึกราวกับหากเขาก้าวไปอีกเพียงก้าวเดียววิญญาณดั้งเดิมจะได้รับบาดเจ็บ

“วิญญาณต้นกำเนิดของข้ากลืนกินมังกรสายฟ้าโบราณไปครึ่งส่วนและร่างกายข้าสร้างขึ้นจากสายฟ้า ทั้งร่างแทบไม่ต่างอะไรกับสายฟ้าของจริง แต่ถึงกระนั้นข้าก็ต้องมาหยุดอยู่ตรงนี้ สายฟ้าที่นี่ทรงพลังเกินไป!” หวังหลินรู้สึกไม่เต็มใจและเริ่มครุ่นคิด

ห่างออกไปไม่ไกลนัก เฉินกงฮู่ขมวดคิ้วขึ้นเป็นปมเผยความผิดหวัง ความเคารพนับถือในสายตามลายหายไปหมดสิ้นขณะมองหวังหลินและคิดขึ้นว่า “นี่มันไม่ถูกต้อง ด้วยระดับการบ่มเพาะของผู้อาวุโส เหตุใดเขาจึงหยุดอยู่ตรงนั้น เป็นไปได้ว่า…” ดวงตาส่องสว่างออกมา

แม้กระทั่งอสูรสายฟ้าด้านข้างเขาก็เฝ้าดูอย่างใกล้คิด ความหวาดกลัวในสายตามันหายไปเล็กน้อย

อสูรสายฟ้าเขาเงินยังคงนิ่งเฉยไม่ขยับและบ่มเพาะต่อไปราวกับว่ามันรู้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้แล้ว

ยิ่งหวังหลินยืนนิ่งอยู่ที่นั่นนานเท่าใด ความผิดหวังของเฉินกงฮู่ก็ยิ่งมากขึ้น เขาถอนหายใจ ต้องการเห็นวิชาทรงพลังของคนที่เขาให้คำสัตย์ปฏิญาณด้วย แต่น่าเสียดายที่เขาไม่เห็นอะไรเลย

ข้อเปรียบเทียบรุนแรงนี้ได้ทำให้ความเคารพนับถือต่อหวังหลินลดลงไปมาก จิตใจแห่งเต๋าที่มอดดับไปของเขาค่อยๆฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ

“แม้ระยะหนึ่งร้อยก้าวเป็นช่องว่างที่ข้าไม่สามารถก้าวข้ามได้ตอนนี้ เมื่อระดับบ่มเพาะของข้าทะลวงขั้นไปถึงระดับส่องสวรรค์ ข้าจะสามารถบรรลุเพิ่มได้อีกร้อยก้าวแน่นอน อย่างไรเสียสำหรับผู้อาวุโส เขาจะแข็งแกร่งได้เท่านี้ได้อย่างไร…” ใบหน้าเฉินกงฮู่เปลี่ยนเป็นมืดมนและเริ่มสังเกตการณ์อย่างละเอียด

หวังหลินมองทะเลสาปสายฟ้าเบื้องหน้า ตอนนี้ราวกับเขาได้ลืมเลือนทุกสิ่งอย่าง ทุกสิ่งรอบตัวหายไป ราวกับทะเลสาปสายฟ้าเป็นเพียงสิ่งเดียวที่คงอยู่

ดุจตอนที่เขาอยู่ด้านนอกประตูและมองเข้าไปในช่องว่าง เข้าไปในมิติของลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า เหมือนตอนนั้นที่เขากระทั่งลืมเลือนร่างกายตนเองและเพียงมองไปที่ทะเลสาปสายฟ้าไร้ที่สิ้นสุด

หลังผ่านไปไม่รู้เวลา หลังการลืมเลือนเวลา ลืมเลือนทุกสิ่ง ร่างกายหวังหลินก็เคลื่อนไหว

เขาเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไม่สนใจ การก้าวเป็นไปอย่างเรียบง่ายแต่ดูเหมือนจะฟุบลงได้ทุกขณะ ลำแสงสายฟ้าหนึ่งเส้นปรากฏขึ้นมาตรงจุดที่หวังหลินวางเท้าเอาไว้ได้อย่างพอเหมาะพอดี

คล้ายกับเขาได้ก้าวเดินไปบนลำแสงสายฟ้า!

เดิมทีความนับถือของเฉินกงฮู่ได้ลดลงไปแล้วแต่ใบหน้ามืดมนของเขาก็ตกตะลึง ดูเหมือนเขาจะรับรู้เข้าใจบางอย่างแต่ก็ไม่อาจเข้าใจมันได้

อสูรสายฟ้าสวมเกราะตกตะลึงเช่นเดียวกัน ดวงตาของมันหรี่แคบมองหวังหลิน

หวังหลินไม่มีสีหน้าท่าทางอันใด เขาทำไปอย่างเป็นธรรมชาติ ดวงตาว่างเปล่าเดินเข้าไปอีกก้าว เช่นเดียวกับครั้งก่อนหน้า ขณะที่เท้ากำลังร่อนลงกลับเกิดประกายสายฟ้าขึ้นมาให้เขาเหยียบ

ไม่นานหลังจากนั้นหวังหลินก็ก้าวเท้าอีกข้างออกไป…

ตั้งแต่เริ่มจนจบเขาทำไปอย่างเป็นธรรมขาติราวกับไม่ใช่การเดินเข้าหาทะเลสาปสายฟ้าแต่เป็นการเดินไปในสวนหลังบ้าน ทุกก้าวย่างที่เขาเหยียบจะมีสายฟ้าหนึ่งเส้นโผล่ขึ้นมาใต้ฝ่าเท้า

ดวงตาเฉินกงฮู่เปิดขึ้นอย่างดถดัน สายตาเต็มไปด้วยความตกตะลึงและสูดลมหายใจเย็นเข้าไป ความเคารพนับถือที่กำลังหายไปได้กลับมาอีกครั้งและความผิดหวังก่อนหน้าก็หายไปเช่นเดียวกัน ขณะที่จ้องหวังหลิน ความตกตะลึงยิ่งมีมากขึ้นและมากขึ้น

ในสายตาเขา ครั้งแรกอาจจะเป็นเหตุบังเอิญ เมื่อมีครั้งที่สองหรือครั้งที่สามยังนับได้ว่าเป็นความโชคดี! อย่างไรนั้นประกายสายฟ้าทุกเส้นขึ้นมาสนับสนุนทุกก้าวย่างของหวังหลิน

ไม่มีสิ่งใดที่คำว่า “บังเอิญ” และ “โชค” จะอธิบายได้ ในสายตาเขานี่เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิง มันเหนือเกินกว่าจินตนาการของเขาไปไกลมาก

ตอนนี้ในสายตาเขา หวังหลินคือปรมาจารย์แห่งสายฟ้าทั้งหมดในโลกนี้ พฤติกรรมประหลาดของทะเลสาปสายฟ้าเห็นได้ชัดว่ายินดีต้อนรับหวังหลิน!

“ยินดีต้อนรับ ใช่ มันกำลังต้อนรับเขา!” แววตาตกใจของเฉินกงฮู่ยิ่งมากขึ้นและเต็มไปทั่วร่างกาย ตอนนี้สัมผัสแห่งความตื่นเต้นพรั่งพรูไปทั่วร่างราวกับพายุโหมกระหน่ำ

เขารอคอยมาสองปีก็เพื่อเห็นวิชาเช่นนี้!

อสูรสายฟ้าสวมเกราะด้านข้างก้มหัวตัวเองลงทันที ความหวาดกลัวปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ความเข้าใจในสายฟ้าของอสูรสายฟ้าเหนือชั้นกว่าผู้เป็นเจ้าของ ในสายตาของมันทะเลสาปสายฟ้าแห่งนี้ไม่ได้ยินดีต้อนรับหวังหลิน แต่เป็นเพราะทุกก้าวย่างของหวังหลินได้ก้าวไปบนสายแร่ของทะเลสาปสายฟ้า!

ห่างออกไปไม่ไกล อสูรสายฟ้าเขาเงินที่ไม่เคยมองเข้ามาและดูเหมือนไม่ต้องการแม้แต่มองหวังหลินก็พลันยืนขึ้น ดวงตากลมโตของมันจ้องหวังหลินตรงๆ เต็มไปด้วยความเกรงกลัวแบบไม่เคยเห็นมาก่อน

ในสายตาหวังหลิน สิ่งที่เขาเห็นไม่ได้เป็นทะเลสาปสายฟ้าอีกแล้วแต่เป็นลำแสงหลายเส้นที่ปรากฏขึ้นมาและหายไป ทุกครั้งที่เขาย่างเท้าลง เขามักจะร่อนลงบนแสงที่กำลังส่องประกาย

ดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างได้ในใจ ราวกับนี่เป็นวิธีที่ถูกต้องมากที่สุด เขาก้าวเท้าอีกครั้งและอีกครั้งราวกับลืมเลือนทุกสิ่งทุกอย่าง

ร่างเฉินกงฮู่สั่นสะท้านและไม่กล้ากระพริบตา เขาไม่ต้องการพลาดสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นแม้แต่จังหวะเดียว ทั้งยังไม่แม้แต่จะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า หวังหลินเคลื่อนไหวเร็วขึ้นและเร็วขึ้นจนกระทั่งเหลือแต่เพียงภาพติดตา แต่สายฟ้ายังคงปรากฏขึ้นใต้ฝ่าเท้าเขาทุกครั้ง

ท้ายที่สุดร่างหวังหลินก็เกิดแสงสายฟ้ากระพริบสว่างและจากนั้นเกิดพายุสายฟ้ารุนแรงออกมารอบตัวเขา ราวกับเขาเป็นเรือที่โดดเดี่ยวกำลังล่องไปในธารสายฟ้าที่รุนแรงและเชี่ยวกราดโดยยังคงความสงบและมั่นคงได้

“น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว! นี่…นี่มันวิชาสายฟ้าของจริง!!! นี่มันสายฟ้าจริง!!” ความนับถือในตัวเฉินกงฮู่เพิ่มมากขึ้นและหัวใจเริ่มต้นกระดอนราวกับระเบิดออกมาจากหน้าอก

ความนับถือมีมากกว่าสองปีก่อนหลายเท่าตัว บรรลุเพดานใหม่ที่จนกล่าวได้ว่าเชื่อถือจนตาบอดไปแล้ว!

อสูรสายฟ้าด้านข้างสั่นสะท้านรุนแรงและหวาดกลัวขึ้นอย่างมาก ความต่อสายฟ้าของมันลึกซึ้งกว่าของเฉินกงฮู่ มันคิดว่าหวังหลินเป็นสายฟ้าต้นกำเนิดและความหวาดกลัวจากส่วนลึกของวิญญาณได้ทำให้มันยอมจำนนอย่างไร้ข้อกังขา

ตอนนี้หากหวังหลินขอให้มันโจมตีเฉินกงฮู่ มันจะทำโดยไม่มีความลังเล

อสูรสายฟ้าเขาเงินของหวังหลินยิ่งตกตะลึงหนักเข้าไปอีก มันจ้องมองหวังหลินโดยไม่เชื่อสายตา ร่างกายสั่นสะท้านจากความทรงจำที่มันสืบทอด!

ตอนนี้หวังหลินหยุดลงและฉากเหตุการณ์ประหลาดเบื้องหน้าเลือนหายไป สถานะที่โผล่ออกมานี้ไม่มีร่องรอยและเลือนหายไปโดยไม่มีร่องรอยเช่นกัน เมื่อร่างหวังหลินหยุด หวังหลินก็ตื่นขึ้น

ดวงตาเต็มไปด้วยความงุนงงสับสน เขาใช้เวลานานกว่าจะฟื้นฟูขึ้นมาได้ ซึ่งทำให้ความเข้าใจต่อสายฟ้าของเขายิ่งลึกซึ้งขึ้นอีก เขารู้ว่าทุกสิ่งที่เขาเห็นเกี่ยวข้องกับความเข้าใจที่เขามีต่อหนทางระดับสาม แม้พลังอำนาจของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้น มันกลับสำคัญมากกว่าวิชาเทพหรือสมบัติวิเศษชิ้นใดเสียอีก

ราวกับมดตัวหนึ่งที่เห็นโลกมนุษย์และเห็นเมืองอันงดงาม หลังจากเห็นฉากเหตุการณ์อันน่าเหลือเชื่อและกลับไปในถ้ำแล้ว มดตัวนั้นก็รับรู้ได้ถึงความคล้ายคลึงระหว่างโลกสองใบ

สถานะของหวังหลินตอนนี้เป็นเช่นนี้

เมื่อเขาตื่นขึ้น เขาพบว่าตัวเองอยู่ส่วนด้านในของทะเลสาปสายฟ้า แม้ว่าจะยังอยู่ไกลจากจุดตรงกลาง ระยะห่างนั้นไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นก้าวได้

สายฟ้ารอบๆที่นี่หนาแน่นมากกว่าชายขอบมาก สายฟ้าทั้งหมดบรรจุพลังดั้งเดิมจำนวนมาก หวังหลินนั่งลงและดูดซับไปหนึ่งสาย

สายฟ้าเส้นนี้เข้าสู่ร่างกายหวังหลินและทำให้เขาสั่นสะท้านทันทีราวกับมีพลังแข็งแกร่งให้เขาตกตะลึง ทั้งร่างหวังหลินด้านชาและแม้แต่วิญญาณดั้งเดิมก็เริ่มชะลอตัวลงราวกับอยู่ในน้ำ

เฉินกงฮู่ถอนสายตาออกมา ความเคารพนับถือต่อหวังหลินพุ่งขึ้นถึงขีดสุด เขาได้รับความเข้าใจบางอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ดังนั้นจึงตื่นเต้นมาก ขณะที่กำลังจะนั่งลงและศึกษาความเข้าใจ เขากลับขมวดคิ้วทันที แววตาเยือกเย็นมองออกไปยังกลุ่มดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกล

หลังจากนั้นไม่นานลำแสงสีม่วงเส้นหนึ่งลอยข้ามผ่านมา มีกระบี่ไม้หนึ่งเล่มอยู่ในแสงเส้นนี้และมีคนกำลังยืนอยู่บนกระบี่ไม้!

“ที่นี่ช่างมีชีวิตชีวา!” น้ำเสียงเยาะเย้ยเข้ามาถึงอย่างช้าๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version