Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 728

Cover Renegade Immortal 1

728. สงสัย

กระบี่ไม้สีม่วงปลดปล่อยกลิ่นอายเยือกเย็นและดุร้าย กระบี่เล่มนี้ทั้งยังทิ้งทางเรืองแสงสีม่วงเป็นแนวยาวไว้ด้านหลัง

แสงสีม่วงหยุดลงด้านนอกทะเลสาปสายฟ้า บนกระบี่เป็นบุรุษอายุสามสิบปี ใบหน้าขาวเนียนไร้เส้นขนและหล่อเล็กน้อย ทว่าดวงตาคมกริบดุจฟินิกซ์เผยความรู้สึกหวนคำนึงอย่างประหลาด

เขาสวมชุดคลุมสีม่วงทองซึ่งดูเหมือนจะล่องไปด้วยสายลมที่มองไม่เห็น สายตากวาดผ่านเฉินกงฮู่และตกลงบนหวังหลิน

สิ่งที่เขาเห็นทำให้รูม่านตาหดลงและรูขุมขนทั้งหมดในร่างเปิดขึ้นทันที

เมื่อคนผู้นี้ปรากฏตัว สีหน้าเฉินกงฮู่ก็เปลี่ยนเป็นมืดมัว อสูรสายฟ้าด้านข้างเขายืนขึ้นและร้องคำรามส่งสายตาไม่เป็นมิตร

ส่วนอสูรสายฟ้าเขาเงินถอนสายตาออกมาจากหวังหลินและชำเลืองไปที่บุรุษคล้ายหญิง มันมองด้วยความดูถูกขณะนอนลงที่เดิมและเล่นกับสายฟ้ารอบๆ

สายฟ้าพวกนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของมันอย่างเชื่อฟัง พวกมันล้อมรอบร่างกายเหมือนกับมือเล็กๆที่กำลังเกาจุดที่คันบนร่าง

ห่างออกไปไม่ไกลบนดาวเคราะห์น้อย องครักษ์เทพพึ่งจะนั่งอยู่ตรงนั้นและไม่ได้มองข้ามมา หากคนผู้นี้เป็นภัยคุกคามต่อเจ้านาย มันจะโจมตีทันทีแม้จะต้องแลกชีวิตก็ตาม อย่างไรเสียหากไม่มีภัยคุกคามต่อเจ้านาย เมื่อนั้นคนตรงหน้าเพียงแค่ใช้พลังสังหารหนึ่งแสนเส้นก็จัดการได้แล้วและมันไม่ต้องเคลื่อนไหวแม้เพียงนิ้วเดียว

เฉินกงฮู่เอ่ยออกมา “จางกงเล่ย!”

บุรุษคล้ายหญิงถอนสายตาออกมาจากหวังหลินเพราะเขากลัวว่าจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด ในสายตาของเขาแม้ว่าระดับบ่มเพาะของคนผู้นี้จะเป็นขั้นเทวะระดับปลาย แต่การเข้าไปในวงแหวนชั้นในของทะเลสาปสายฟ้าได้นับว่าเป็นสิ่งน่าประหลาดเกินไป เขาต้องซ่อนระดับบ่มเพาะจริงของตัวเองเอาไว้หรือเว้นแต่จะมีสมบัติทรงพลังที่จะสามารถซ่อนเอาไว้ได้

เขาทั้งยังเห็นอสูรสายฟ้าเขาเงินที่ปลายขอบทะเลสาปสายฟ้าและหุ่นเชิดด้วย ความสงสัยยิ่งมีมากขึ้น

เขาคิดขึ้นมา ‘เขาต้องมีสมบัติซ่อนเอาไว้ ไม่เช่นนั้นเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปกปิดระดับบ่มเพาะ! เพียงแต่ทำไมถึงมีอสูรสายฟ้าสองตัวอยู่ที่นี่? หรือว่าคนผู้นี้ก็เป็นผู้ส่งสาส์นของอารามเทพอัสนีด้วย?’ นอกจากนั้นการเข้าไปในวงแหวนชั้นในของทะเลสาปสายฟ้านับว่าเป็นโอกาสที่น่าหวาดกลัว แม้แต่เซียนขั้นรูปธรรมหยางสูงสุดเช่นเขาก็ยังไม่สามารถเข้าไปในวงแหวนชั้นในได้เลย

“นั่นเฉินกงฮู่แห่งตระกูลเฉินกง ก่อนหน้านี้ข้าจำท่านไม่ได้ ระดับบ่มเพาะของท่านตกลงไปเยอะมาก!” บุรุษคล้ายหญิงเพ่งความคิดของตัวเองและมองไปที่เฉินกงฮู่

เฉินกงฮู่ถอนหายใจอยู่ในใจแต่สีหน้าดังเดิม ทว่าดวงตาเขาหมองลงเล็กน้อยพร้อมกับเอ่ยขึ้นมา “ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับเจ้า ทำไมยังไม่จากไปอีก?”

แม้เขาจะบาดเจ็บและระดับบ่มเพาะไม่ได้ฟื้นกลับมา เมื่อมีหวังหลินอยู่ที่นี่ แม้ผู้นำอารามเทพอัสนีมาด้วยตัวเองเขาก็ยังกล้าพูดแบบนี้

จางกงเล่ยขมวดคิ้วและมองหวังหลินอย่างไม่รู้ตัว เขาเอ่ยขึ้น “พูดอะไรยิ่งใหญ่ ที่นี่เป็นของตระกูลเฉินกงหรืออย่างไร? เจ้าจะไม่อนุญาติให้คนนอกมาที่นี่เพียงเพราะเจ้าพาผู้น้อยมาฝึกฝนอย่างนั้นหรือ?”

เฉินกงฮู่เยาะเย้ยแต่ไม่ได้อธิบาย เขากล่าวอย่างเยือกเย็น “หากเจ้าไม่ออกไปจากที่นี่ในสามลมหายใจ เจ้าอาจจะไม่ได้จากไปด้วยดี!” เขาไม่ชอบชายผู้มีพรสวรรค์จากตระกูลจางคนนี้เลยจริงๆ หากไม่ใช่ว่าเพราะความแข็งแกร่งของทั้งคู่ใกล้เคียงกัน พวกเขาคงต่อสู้กันไปแล้ว

หากจางกงเล่ยทำท่าทีไร้มายาทและขัดขวางการบ่มเพาะของผู้อาวุโส แม้ระดับบ่มเพาะของเขาได้รับความเสียหาย เขาก็ยังโจมตี ตราบใดที่ผู้อาวุโสมองจางกงเล่ยด้วยสายตาแบบนั้น มันก็เพียงพอให้จางกงเล่ยพังทลายได้แล้ว!

นอกจากนั้นคนผู้นี้ไม่ได้เป็นผู้ส่งสาส์นแห่งอารามเทพอัสนี แม้การฆ่าเขาจะทำให้เกิดปัญหา ตราบใดที่ผู้อาวุโสอยู่ที่นี่ มันถือเป็นเรื่องเล็กน้อย

จางกงเล่ยขมวดสายตาและล่าถอยทันที เขาเป็นคนระมัดระวังตัว ขณะที่ล่าถอยสายตาก็ตกลงบนหวังหลินที่อยู่ส่วนลึกของทะเลสาปสายฟ้า ความสงสัยในใจเพิ่มพูดขึ้น

“ทำไมเฉินกงฮู่ถึงพูดเช่นนี้? อาการบาดเจ็บของเขาเพียงแค่มองด้วยตาก็ดูออกได้ง่ายๆแล้ว หรือเขาแกล้งทำ? ถ้าไม่ได้แกล้งทำ เช่นนั้นเขาต้องมีเหตุผล…หรือเป็นเพราะผู้น้อยคนนี้?” จางกงลี่คิดหลายอย่างในครั้งเดียว

“สามลมหายใจผ่านไปแล้ว!” เฉินกงฮู่ยิ้มกว้างและยืนขึ้น สายฟ้าเต็มไปทั่วร่างกายปลดปล่อยเสียงปะทุออกมา เขาพุ่งตัวออกมาโดยมีอสูรสายฟ้าตามมาติดๆ ทว่าที่ต่างกันก็คือตอนที่มันก้าวออกมานั้น มันมองหวังหลินโดยไม่รู้ตัว สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและไม่มีข้อสงสัย

อสูรสายฟ้าทำให้ความคิดจางกงเล่ยสั่นสะท้าน แม้ว่าเฉินกงฮู่จะเป็นคนวางแผนน แต่กับอสูรสายฟ้านั้นถือว่าต่างกัน

สายตาของอสูรสายฟ้าที่เผยออกมาไม่อาจคิดลึกเกินไปได้ คำตอบที่มันเผยสายตาออกมานั้นได้สั่นสะเทือนจิตใจของจางกงเล่ย

เนื่องด้วยนิสัยระมัดระวังของเขา จึงถอยตัวกลับโดยไม่ลังเลและตะโกนออกมา “เฉินกงฮู่ ข้าเป็นคนมีน้ำใจ หากเจ้าและข้าต่อสู้กันที่นี่ มันย่อมรบกวนการบ่มเพาะของผู้น้อยคนนั้นแน่นอน หากเจ้าต้องการต่อสู้ ออกไปจากที่นี่และต่อสู้ข้างนอกกลุ่มดาวเคราะห์!” เขาเน้นคำว่า “ผู้น้อย” อยู่หลายคำ

สายตาเฉินกงฮู่เปลี่ยนเป็นเยือกเย็นพลันก้าวออกมานอกทะเลสาปสายฟ้าและเยาะเย้ย “จะออกไปสร้างปัญหาทำไมเล่า? อยู่ที่นี่ก็ดีอยู่แล้ว!”

ยิ่งเฉินกงฮู่เป็นเช่นนี้ ยิ่งทำให้จางกงเล่ยรู้สึกสงสัยกว่าเดิม เขาอยากถอยมากกว่าโจมตี ชัดเจนแล้วว่าเฉินกงฮู่พยายามบังคับให้เขาโจมตีอยู่

เมื่อคิดถึงสายตาของอสูรสายฟ้า ความคิดบ้าๆก็โผล่ขึ้นมาในใจจางกงเล่ย ดวงตาส่องสว่างขึ้น ฝ่ามือสร้างผนึกและปรากฏลำแสงสายฟ้าสีม่วงในฝ่ามือ กระบี่ไม้สีม่วงข้างใต้เขาปลดปล่อยปราณกระบี่ทรงพลัง พลังสองสายผสานเข้าด้วยกันจนเกิดแรงกดดันยิ่งใหญ่

แรงกดดันนี้บรรจุพลังดั้งเดิมเอาไว้ด้วย เพียงแค่วิชาแรกเขาก็ใช้วิชาพลังดั้งเดิมแล้ว เห็นได้ชัดว่าจางกงเล่ยระมัดระวังต่อการต่อสู้ครั้งนี้ยิ่ง

การต่อสู้ที่อยู่ห่างออกไปกำลังจะเริ่มต้น เฉินกงฮู่ก้าวเท้าออก ฝ่ามือชี้ไปที่ท้องฟ้าราวกับกำลังจะเรียกสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ อสูรสายฟ้าด้านข้างเขาร้องคำราม สายฟ้าหลายเส้นสายนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหาร่างมัน ทั้งสองคนสร้างฉากเหตุการณ์ที่ตกตะลึงอย่างยิ่ง

อย่างไรเสียในวินาทีนี้ หวังหลินลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆและเอ่ยสงบนิ่ง “เฉินกงฮู่ ข้าจะไม่ช่วยเจ้าในการต่อสู้นี้ ปล่อยให้เป็นการทดสอบคำสัตย์ปฏิญาณที่อยู่ใต้ข้า หากเจ้าแพ้ข้าจะคืนวิญญาณแห่งเต๋ากลับไปให้!”

หวังหลินใบหน้าปกติแต่ลอบลำบากใจ เขาไม่มีโอกาสยืนต่อต้านเฉินกงฮู่หรือจางกงเล่ยได้ เมื่อเฉินกงฮู่พ่ายแพ้ เขาจะตอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่

เดิมทีเขาต้องการหาสถานที่เงียบๆบ่มเพาะ แต่ดูเหมือนจะไม่สามารถทำได้ หลังจากเจ้าตัวปัญหาจางกงเล่ยปรากฏขึ้น หวังหลินจึงคิดขึ้นมาได้และพูดประโยคนั้นออกไป

ร่างเฉินกงฮู่สั่นเทา เจตนาต่อสู้บรรลุถึงขีดสุด เขาจ้องจางกงเล่ยแต่ก็ตอบหวังหลินอย่างเคารพ

“นายท่านมั่นใจได้เลย เฉินกงฮู่จะไม่พ่ายแพ้!” เฉินกงฮู่สูดหายใจลึก สัมผัสกระเป๋าและนำขวดเม็ดยาออกมา

สีหน้าของจางกงเล่ยเปลี่ยนไปมหาศาล ขณะที่หวังหลินเอ่ยประโยคนั้นเขาได้เห็นความเคารพที่ซ่อนอยู่ในตาเฉินกงฮู่ ตอนที่เขาเห็นท่าทางเช่นนั้นจึงคิดได้ว่าสายตาเขาช่างแย่นัก

อีกทั้งตอนที่คนคนนั้นพูดขึ้นมา ร่างกายอสูรสายฟ้ากลับสั่นเทา ดูเหมือนมันกำลังหวาดกลัว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่คนผู้นั้นพูดถึงเรื่องคำสัตย์ปฏิญาณ ข้อมูลนี้ทำให้ความคิดจางกงเล่ยต้องสั่นสะท้านรุนแรง

ถ้าเรื่องเหล่านี้ทำให้เขาสงสัย เช่นนั้นการตอบสนองของเฉินกงฮู่กลับทำให้จางกงเล่ยตกใจ นั่นเพียงพอที่จะทำให้เส้นขนทุกเส้นในร่างเขาตั้งชูชันแล้ว

“นายท่าน!” คำพูดนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะพูดได้ง่ายๆเลยในดาราจักรทุกชั้นฟ้า โดยเฉพาะสำหรับเซียนที่จะก้าวสู่ระดับสองเช่นพวกเขา

เพียงการให้คำสัตย์ปฏิญาณตนต่อผู้แข็งแกร่งทรงพลังเท่านั้นถึงจะเรียกอีกฝ่ายว่า “นายท่าน!”

จางกงเล่ยไม่สงสัยแล้วว่าเฉินกงฮู่กำลังกุเรื่องชึ้นมาเพราะไม่มีอะไรคุ้มค่า เฉินกงฮู่เป็นคนเย่อหยิ่งทรนงตนและเป็นคนแบบที่ยอมตายมากกว่าถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม!

ยิ่งไปกว่านั้นแม้ทั้งสองจะต่อสู้กัน ยากยิ่งที่อีกฝ่ายจะตายได้ อย่างมากก็แค่บาดเจ็บสาหัส

แม้แต่จางกงเล่ยเองก็ไม่ได้เรียกคนอื่นว่า “นายท่าน” ได้ง่ายๆ การหลีกเลี่ยงการต่อสู้นั้นไม่ได้ตัดสินความเป็นตายของเขา

หลังจากรวบรวมการคาดการณ์จากก่อนหน้านี้ ความคิดบ้าๆนั้นก็ผุดขึ้นมาในใจอีกครั้ง ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวราวกับยังไม่เชื่อ

“หรือว่า…หรือว่าคนผู้นั้นไม่ได้พึ่งสมบัติวิเศษเพื่อเข้าสู่วงแหวนชั้นในของทะเลสาปสายฟ้าแต่เขาปกปิดระดับบ่มเพาะไว้? หากมันไม่ใช่แบบนั้น เขาจะทำให้เฉินกงฮู่จอมโอหังยอมให้คำสัตย์และเรียกเขาว่า ‘นายท่าน’ ได้อย่างไร?” จางกงเล่ยสูดลมหายใจหนาวเหน็บเข้าปอดและรีบล่าถอยอย่างรวดเร็ว เขาเปลี่ยนความคิดอย่างรวดเร็วและรีบเอ่ยขึ้น “น้องเฉินกงไม่ควรรีบร้อน!”

ดวงตาเฉินกงฮู่เปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ เขาบดขยี้ขวดเม็ดยาในมือ ข้างในเป็นเม็ดยาสีแดงหนึ่งเม็ดและเขากลืนมันลงไปทันที หลังจากนั้นกลิ่นอายเผด็จการและรุนแรงก็เพิ่มขึ้นมหาศาล

“จางกงเล่ย ต่อสู้กับข้า!” เฉินกงฮู่ชี้มือขวาไปที่ท้องฟ้าพร้อมกับเอ่ยเสียงคำราม พลังดั้งเดิมในร่างกายพุ่งพล่านออกมาและพริบตานั้นสายฟ้าดุจมังกรก็โผล่ลงมาจากความว่างเปล่า

การเคลื่อนไหวนี้ส่งผลกระทบต่อทะเลสาปสายฟ้า สายฟ้านับไม่ถ้วนรวบรวมกันเข้าหาเฉินกงฮู่

ตอนที่หวังหลินเห็นวิชาพลังดั้งเดิมของเฉินกงฮู่ สายตาเขาเผยแสงประหลาด วิชานี้แข็.แกร่งมาก มันสัมพันธ์กับพลังดั้งเดิมของผู้ใช้เพื่อเรียกสายฟ้าสวรรค์ออกมา ซึ่งมันไม่ได้อ่อนแอไปกว่าวิชาเตาหลอมดั้งเดิมเลย

แม้ว่ามันไม่ยิ่งใหญ่เท่าวิชาเตาหลอมดั้งเดิม มันกลับทรงพลังมากกว่า!

สีหน้าจางกงเล่ยเปลี่ยนไปและเขาล่าถอยอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันฝ่าเท้าเริ่มขยับ กระบี่ไม้พลันลอยขึ้นไป เขาชี้ไปที่กระบี่ไม้และส่งมันออกไป กระบี่ไม้ปกคลุมอยู่ในแสงสีม่วงพร้อมกับเกิดเสียงดังสนั่นรุนแรง

สายตาเฉินกงฮู่เต็มไปด้วยเจตนาต่อสู้ เขาต้องการแสดงความแข็งแกร่งทั้งหมดของตัวเองในการต่อสู้ครั้งนี้เพราะผู้อาวุโสกำลังเฝ้าดูอยู่!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version