76. กระบี่ประหลาด
หลิวซานรั้งศีรษะกลับมา เขากัดฟันกรอด “เจ้าเป็นสายลับจริงๆ!”
สายตาหยางเสินที่มองหวังหลินเต็มไปด้วยโทสะรูม่านตาของชายใบหน้าคล้ำหดลีบลงเขารู้ว่าวิธีที่หวังหลินได้กล่องมาไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปทำได้
ผู้หยั่งรู้ตกตะตลึง เขามองไปที่หวังหลินด้วยสีหน้าซับซ้อนและถอนหายใจออกมา
ซ่งซิงตะโกนขึ้น (宋行 Sòng xíng) “เจ้ากล้า?!” จากนั้นเขาก็กระโดมาข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อตะครุบศีรษะหวังหลิน
ซ่งซิงเคลื่อนไหวเพราะกลุ่มของหลิวซานกำลังงุนงง แต่หลิวซานไม่ได้หยุดซ่งซิง ทุกคนต่างเคลื่อนไหวออกห่างไป เปิดทางให้สู่หวังหลิน
หวังหลินไม่ได้ยกศีรษะหันไปมอง เขาเปิดกล่องและมองดูโสมที่หดเหี่ยวโสมนี้มีขนาดเล็กมากแต่มีจำนวนรากนับไม่ถ้วน มียันต์เซียนสีเหลืองแปะไว้หลงเหลือพลังปราณบนนั้น
ซ่งซิงเข้ามาใกล้เรียบร้อยแล้วเขายิ้มเมื่อพร้อมที่จะกระแทกศีรษะหวังหลินจากนั้นร่างกายเขาสั่นเมื่อมีพลังงานที่มองไม่เห็นหยุดเขาไว้ซ่งซิงถูกโยนไปด้านข้างและไม่อาจกลับมาได้อีก
เหตุการณ์แปลกประหลาดนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงหวังหลินไม่ได้ฉีกยันต์เซียนออกจากโสมแต่มองมันชั่วครู่จากนั้นก็ถอนหายใจออกมา “เจ้าเห็นสหายเก่าแล้วทำไมถึงไม่ออกมาทักทายกันเล่า?”
เสียงเหยียบใบไม้ดังขึ้นภายในป่าชายหนุ่มบรรยากาศเยือกเย็นเดินออกมาจากป่านั้นมีพลังงานที่มองไม่เห็นรอบร่างกายเขาชายชุดคลุมดำทั้งหมดต่างดันออกด้านข้างเมื่อเขาเดินเข้ามานอกจากนั้นบอลอัคคีสามลูกที่ลอยอยู่ในอากาศได้กลับไปหาชายหนุ่มและหมุนเป็นวงกลมรอบตัวเขา
ขณะที่ชายชุดดำเห็นชายหนุ่ม เขาพูดอย่างเคารพ “พวกเราทักทายท่านหัวหน้า!”
ชายหนุ่มไม่ได้มองไปที่ซ่งซิงที่กำลังไอออกมาเป็นเลือดแต่มองไปที่หวังหลินและพูดขึ้น “คนที่ข้ารู้จักไม่ได้เจอกันมาสิบปี!แล้วเจ้าเป็นใคร?”
หวังหลินมองไปที่ชายหนุ่มแต่กลับไร้คำพูด เขาหยิบกระดาษสีเหลืองจากกระเป๋าถือออกมา
ขณะที่ชายเยือกเย็นได้เห็นกระดาษใบนั้น เขาตกตะลึงชั่วครู่มองไปที่หวังหลินขึ้นอีกจากนั้นก็ขมวดคิ้ว “สหาย นี่มันอะไร? โปรดให้โสมนั่นกับข้าเถอะ มันสำคัญต่อข้ามากๆ”
หวังหลินตกตะลึงและมองไปที่ชายหนุ่มด้านหน้าเขาชั่วครู่ความสงสัยเกิดขึ้นในใจเขากระจายสัมผัสวิญญาณออกมาและพบอะไรผิดปกติบางอย่างบนท้องฟ้าหวังหลินยิ้มยะเยือกในใจ จากนั้นก็โยนโสมออกไป “ลืมไปซะ ข้าจำผิดคน”
ความรู้สึกมากมายอันซับซ้อนได้ผ่านสายตาของชายหนุ่มเขาจับโสมมาและพูดขึ้น “ขอบคุณมาก! ลาก่อน” เช่นนั้นเขาก็หันจากไปเมื่อเห็นเมฆสีดำปรากฎกายขึ้นขณะที่เมฆสีดำปรากฎขึ้นนั้นสายลมกรรโชกแรงสายหนึ่งได้พัดทุกคนในกองกำลังคุ้มกันให้ถอยไปหลายก้าว
เมฆสีดำได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและลดต่ำลงมา ยิ่งเมฆต่ำลงเรื่อยๆสายลมกรรโชกอันแปลกประหลาดก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นชายวัยกลางคนสวมชุดสีขาวได้ก้าวออกมาเข้าสู่สายลมนั้นและลงมาเรื่อยๆ
ขณะที่เขาปรากฎตัว ผู้คุ้มกันได้ระเบิดออกมาเป็นหมอกเลือด จากนั้นผู้คุ้มกันคนอื่นก็ระเบิดตามกันมาจนสร้างเป็นหมอกสีเลือดทันที
หมอกเลือดอันพิสดารในอากาศนี้ได้รวมตัวเข้าด้วยกันและกลายเป็นหยดเลือดเงาวับหยดหนึ่ง
ชายวัยกลางคนเปิดปากและดูดมันเข้าไปหยดเลือดเมื่อเข้าสู่ปากของเขาและใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดง “จางฮู่เจ้าเจอคนที่เจ้ารู้จัก ทำไมถึงไม่กล้ายอมรับ?”
ใบหน้าจางอู่เปลี่ยนเป็นหนาวเหน็บและพูดอย่างเคารพ “ท่านอาจารย์ ศิษย์ไม่รู้จักชายคนนี้”
หวังหลินสงบเยือกเย็น เขาส่งสัมผัสวิญญาณออกไปก็พลันได้ตกตะลึง ชายวัยกลางคนนี้ได้เข้าถึงจุดสูงสุดของระดับสิบห้าแล้ว
ชายวัยกลางคนยิ้มและพูดกับหวังหลิน “สหายผู้ฝึกเซียน เจ้ารู้จักศิษย์ของข้าด้วยหรือ?”
สีหน้าหวังหลินไม่ได้เปลี่ยน “ข้ารู้หรือไม่รู้จักเขาแล้วจะเกี่ยวอะไรกัน?”
ชายวัยกลางคนตะลึงเล็กน้อย เขามองไปที่หวังหลินจากนั้นยิ้มขึ้นมา “ไม่แตกต่างเท่าไหร่ แม้ว่าเจ้าจะเพียงระดับแปด หากข้าดื่มเลือดเจ้ามันก็ยังเพิ่มระดับการบ่มเพาะข้าเล็กน้อยเท่านั้น”
ใบหน้าจางฮู่เปลี่ยนไปทันที เขารีบเข้าไปข้างหน้าชายวัยกลางคนและพูดขึ้น “ท่านอาจารย์ เขาเป็นเพื่อนวัยเด็กของข้าเองได้โปรด…ได้โปรดไว้ชีวิตเขาด้วย”
แสงเยือกเย็นได้ฉายผ่านดวงตาชายวัยกลางคน “ออกไปซะ ไปเก็บเลือดมนุษย์ที่นี่ทั้งหมด เจ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว”
จางฮู่กำลังจะพูดแต่กลับได้รับใบหน้าเย้ยหยันแทนคำพูดของเขา ใบหน้าของจางฮู่กลายเป็ฯขาวซีดและเริ่มจะมีเหงื่อผุดออกมาบนหน้าผาก
หวังหลินยกคิ้วขึ้น เขากระตุ้นวิชาแรงโน้มถ่วงและจับเข้าหาชายวัยกลางคนใบหน้าเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยขณะที่พ่นพลังปราณเป็นแสงสีเขียวออกมาจากปากแสงสีเขียวกลายเป็นกระบี่เหินและตวัดไปที่แขน
วิชาเซียนแรงโนน้มถ่วงของหวังหลินได้เข้าถึงระดับที่ไม่อาจจินตนาการได้มือนั้นแยกออกเป็นสอง หนึ่งข้างจับไปที่จางฮู่และอีกข้างจับไปที่กระบี่เหิน
กระบี่สีเขียวเล็กเริ่มสั่น แสงที่กระบี่เปล่งประกายออกมาได้ติดๆดับๆชายวัยกลางคนท่าทีเปลี่นไป เขาโยนฝักกระบี่สีดำออกมาจากระเป๋าถือโดยไร้คำพูด เขายิงแสงสีแดงหลายเส้นออกจากฝ่ามือ
เมื่อฝักดาบปรากฎขึ้นกระบี่สีเขียวที่ถูกจับไว้โดยวิชาแรงโน้มถ่วงได้หายไปเมื่อมันปรากฎตัวอีกครั้ง มันก็อยู่ถัดไปจากฝักดาบและรวมทั้งสองเข้าด้วยกัน
ใบหน้าหวังหลินยังเผยแววสงบนิ่งแต่ในใจได้ตะลึงค้างนี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้วิชาแรงโน้มถ่วงและล้มเหลวประกายแสงเยือกเย็นได้ก้าวผ่านสายตาเขาตบกระเป๋าข้างเดวและไม้สีดำหลายชิ้นได้ปรากฎตัวออกมาพวกมันรวมกันเป็นแส้และลอยออกมาอย่างรวดเร็ว
เสียงของซือถูหนานดังขึ้นในหูหวังหลิน “หวังหลิน กระบี่นั่นมีบางอย่างแปลกประหลาด!”
ขณะที่กระบี่เหินได้เข้าสู่ฝักดาบมันก็เริ่มส่งเสียงหึ่งราวกับกำลังเผชิญแรงต้านอย่างมากหลังจากจมลงไปหนึ่งในห้าส่วน มันก็ไม่อาจลึกลงไปได้อีกกระบี่เขียวได้กลายเป็นสีน้ำเงินและมันกระชากตัวเองออกมาจากฝักดาบเฉือนไปที่แส้
แส้นี้เขาได้มันมาจากจางขวง เมื่อเขาปิดประตูฝึกฝนเขาได้ขัดเกลามันจากคำแนะนำของซือถูหนาน
หวังหลินควบคุมแส้ให้ไปรอบๆกระบี่เหินและพุ่งตรงเข้าหาชายวัยกลางคน
ชายวัยกลางคนเยาะเย้ย เขาเมินแส้นั้นและชี้ไปที่กระบี่เหินเขาพึมพำไม่กี่คำจากนั้นกระบี่เหินได้สั่นสะเทือนและหายไปมันโผล่มาที่หน้าชายวัยกลางคนอีกครั้งและตวัดกระบี่ลงมา
ชายวัยกลางคนยิ้มขึ้นและถ่มหยดเลือดสีทองออกมา หยดเลือดสีทองได้กลายเป็นเส้นดายบางทันทีและมุ่งเข้าหากระบี่เหิน