Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 786

Cover Renegade Immortal 1

786. ใครก็ไม่อาจออกไปได้!

หวังหลินคว้าหลี่หยวนและลากเขาถอยหลังทันที ดวงตาดุจสายฟ้าเมื่อเขาจ้องมองที่ลำแสงสีแดงนั้น

แขนข้างในลำแสงสีแดงถูกปกคลุมไปด้วยเลือด นิ้วทั้งห้าลีบจนหนังหุ้มกระดูก อย่างไรก็ตามเมื่อมีคนเห็นมันพวกเขาจะรู้สึกเย็นเยียบภายในจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเล็บที่แหลมคมจนน่ากลัวเหล่านั้นราวกับมันสามารถฉีกเปิดช่องว่างได้ทีเดียว

ในขณะที่หวังหลินมองไปยังแขนที่ถูกตัด ดูเหมือนมันจะสังเกตเห็นหวังหลินและหันมาหาเขา เมื่อมันกวาดผ่านช่องว่างทั้งที่ยังคงอยู่ห่างออกไป เกิดเสียงดังกึกก้องและรอยแตกแยกอวกาศทั้งห้าพุ่งเข้าหาหวังหลิน

ราวกับว่ารอยแตกทั้งห้าปรากฏขึ้นบนแผ่นกระดาษสีขาว หากมันสัมผัสกับร่างหวังหลินคงทำให้วิญญาณดั้งเดิมและร่างกายถูกฉีกออกจากกันในทันที

ทันใดนั้นแววตาหวังหลินก็หรี่แคบและล่าถอยทันที ฝ่ามือสร้างเป็นผนึกยิงสายฟ้าม่วงพุ่งออกไปจากวิญญาณดั้งเดิมเข้าหาแขนที่ถูกตัดขาด

แขนข้างนั้นไม่ได้หลบหลีกและคว้าจับสายฟ้าม่วงในทันที มันบีบสายฟ้าม่วงสลายกลับพลังดั้งเดิมและดูดกลืนทันที

ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้หวังหลินขมวดคิ้ว เขาถอนหายใจพลันเขาอ้าปากพ่นเมล็ดทรายออกมากลายเป็นชิ้นส่วนตราประทับ มันพุ่งกระแทกใส่แขนข้างนั้นทันที

ชิ้นส่วนตราประทับตกใส่เสียงดังปัง พลันเกิดลำแสงสีแดงออกมาจากแขนอย่างฉับพลัน มันจึงหลบหลีกตราประทับได้

หวังหลินยังคงหลบหนีด้วยใบหน้ามืดมน แขนข้างนั้นเข้ามาใกล้และยื่นมืออกไป รอยแตกทั้งห้าปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหวังหลิน ต้องการฉีกร่างเขาให้เป็นชิ้นๆ

หยดเลือดจากแขนที่ถูกตัดขาดเริ่มแพร่กระจายและดูเหมือนว่ามันจะมีพิษรุนแรง หวังหลินรู้สึกทันทีว่าร่างกายถูกคุกคามด้วยกลิ่นอายและทำให้รู้สึกราวกับถูกไฟเผา

เขาล่าถอยอีกครั้งด้วยความตกใจ แขนข้างนั้นปรากฏขึ้นอย่างกระทันหันกลับประหลาดเกินไป นี่คือการต่อสู้ที่อันตรายที่สุดตั้งแต่หวังหลินบรรลุขั้นรูปธรรมหยาง

รอยแยกทั้งห้าแผ่สายลมหนาว เมื่อพัดไปบนร่างเขาทำให้วิญญาณดั้งเดิมหวังหลินแข็งค้าง เมื่อเห็นว่ารอยแยกทั้งห้าใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว หวังหลินเปิดดวงตาที่สามโดยไม่ลังเล

ลำแสงสีแดงเปิดขึ้นมาดุจใบพัดและครอบคลุมรอยแยกทั้งห้าทันที ในสายตาของหวังหลินรอยแยกดูคล้ายจะกลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิมและแตกสลายไปอย่างรวดเร็ว ท้ายในที่สุด จึงเหลือหยดเลือดแดงเข้มเพียงห้าหยด

หลังจากนั้น หวังหลินชี้ไปข้างหน้าพร้อมกับร้องตะโกน “หยุด!”

รอยสักกระดูกอสูรหลังมือขวาปรากฏขึ้นล้อมรอบแขนขวาหวังหลิน ประกายแสงแวววับส่องประกายมาจากรอยสักอสูรจากนั้นกลิ่นอายความชั่วร้ายก็แผ่ออกมา

กลิ่นอายความชั่วร้ายมีมหึมาและลำแสงน่ากลัวเปล่งประกายอีกครั้ง หยดเลือดสีแดงเข้มห้าหยดราวกับผสานกับหมอกสีเทาจนกลายเป็นหยดสีเทาดูงดงามย่ง

ในทันใดนั้น หยดเลือดสามหยดก็กลายเป็นหินและอีกสองหยดรีบถอยกลับไปที่แขนอย่างรวดเร็ว แขนที่ถูกตัดหันกลับทันที หยุดไล่ล่าหวังหลินและจากไปอย่างรวดเร็ว

หวังหลินมองดูเลือดสามหยดที่กลายเป็นหิน คว้าพวกมันและเก็บใส่กระเป๋าทันที จากนั้นหยิบกระบี่สวรรค์ออกมาและไล่ตามแขนข้างนั้นด้วยสายตาเย็นเยียบ

แขนที่ถูกตัดนี้ก็ประหลาดเกินไป จังหวะที่เขาเห็นมัน อดไม่ได้ที่จะนึกถึงดวงตาภายในวังวนห้าสี ในสายตาของหวังหลิน พวกมันดูเหมือนจะมาจากแหล่งเดียวกัน!

‘แขนนั่นแข็งแกร่งมาก เทียบเท่ากับพลังของเซียนขั้นรูปธรรมหยางระดับสูงสุด ซึ่งใกล้เคียงกับเซียนส่องสวรรค์!’ ขณะที่เขาไล่ตามแขนทันจึงฟันฉับลงด้วยกระบี่สวรรค์!

กระบวนท่าตัดสวรรค์ทำให้ยิงปราณกระบี่พุ่งออกไป เมื่อมันตกลงไปก็ราวกับว่ามันกำลังผ่าเปิดอำนาจของโลกทำให้อวกาศสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง รอยแยกยาวปรากฏขึ้นและมุ่งตรงไปยังแขนที่ถูกตัด

แขนข้างนั้นหยุดกะทันหันกลางอากาศ เริ่มสร้างผนึกและกดลงใส่รอยแยกทำให้เกิดเสียงดังปัง ทุกสิ่งทุกอย่างภายในระยะพันลี้เริ่มแตกสลาย

สายตาหวังหลินกระพริบประกายแสงเย็นเยือก ชี้นิ้วอกไป ชิ้นส่วนของตราประทับก็ลอยออกมาอีกครั้ง คราวนี้มันกระแทกลงบนแขนข้างนั้นด้วยความรวดเร็ว

แขนสั่นสะท้าน มันเรืองแสงสีแดงราวกับได้รับบาดเจ็บและเริ่มหลบหนีเร็วขึ้น

ขณะนั้นเองกลุ่มเซียนเจ็ดถึงแปดคนจากตระกูลเซียนได้ผ่านมาและใบหน้าแต่ละคนเต็มไปด้วยความตกใจ ระดับบ่มเพาะของพวกเขาไม่สูงนัก ราวๆขั้นเทวะระดับปลายและระดับปลาย พวกเขารีบเหาะเหินมาที่นี่ราวกับว่าถูกศัตรูที่ทรงพลังไล่ล่ามา

แขนข้างนั้นหันไปทางตระกูลเซียนทันที มันเคลื่อนไหวรวดเร็วมากจนเข้าใกล้ตระกูลเซียนได้ในพริบตาและเริ่มฉีกกระชากพวกเขา บดขยี้วิญญาณดั้งเดิมของเหล่าเซียนและดูดซับพลังดั้งเดิม

หลังจากผ่านไปหลายลมหายใจ เซียนทั้งหมดในตระกูลนี้ถูกสังหารและวิญญาณดั้งเดิมถูกดูดซับไป ลำแสงสีแดงจากแขนยิ่งแข็งแรงขึ้น ไม่เพียงแต่อาการบาดเจ็บที่แขนจะหายไปแต่ดูเหมือนมันทรงพลังมากกว่าเดิมอีก

เมื่อหวังลินเข้ามาใกล้นั้นจนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ท่าทีก็ยิ่งมืดมน เขาเห็นลำแสงสีแดงอีกเส้นหนึ่งเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว คราวนี้เป็นขาหนึ่งข้างอยู่ภายในลำแสงสีแดง

หวังหลินหันกลับและจากไปโดยไม่ลังเล แขนเหมือนจะลังเล แต่ก็ตัดสินใจที่จะไม่ตามหวังหลินไป มันพุ่งทะยานไปพร้อมกับขาอีกข้างและหายเข้าไปในความว่างเปล่า

แม้ว่ามันจะออกไปแล้วกลิ่นคาวเลือดยังคงไหลเวียนอยู่ในบริเวณนั้น

ทั้งแดนสวรรค์อัสนีทั้งหมดวุ่นวายมาก ชิ้นส่วนที่ถูกตัดออกทั้งแปดแต่ละอันมีพลังของเซียนขั้นรูปธรรมหยางระดับสูงสุด ไม่เพียงแต่วิชาเซียนจะไม่มีผลกับพวกมันเท่านั้น หากพวกเขาเจอมันมีแต่จะถูกสังหาร วิญญาณดั้งเดิมถูกบดขยี้และถูกกลืนกิน

เฉพาะสมบัติวิเศษเท่านั้นที่มีผลกระทบบางอย่างแต่ก็ไม่มากนัก เพิ่มเติมพิษทรงพลังในลำแสงโลหิตทำให้ชิ้นส่วนที่ถูกตัดเหล่านี้อาละวาดไปทั่วแดนสวรรค์

พวกมันยังไม่หยุดทั้งยังเดินทางผ่านช่องว่างอวกาศอย่างรวดเร็ว พวกมันใช้เวลาไม่นานก่อนที่ลำแสงสีแดงแปดสายจะมาถึงใจกลางแดนสวรรค์ เมื่อพวกมันผสานตัวเข้าด้วยกัน เสียงคำรามก็เกิดขึ้นดังสะท้อนไปทั่วแดนสวรรค์

ชิ้นส่วนที่ถูกตัดผสานเข้าด้วยกันก่อตัวเป็นร่างกายที่สมบูรณ์ คนผู้นี้มีผมสีขาว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นน่ากลัว ร่างกายได้รับความเสียหายไปททั่ว ตาขวาหายไปเหลือเพียงตาซ้ายที่มีแววเย็นชา

“ขุนนางเทพฉิงชุ่ย ไม่ว่าผนึกของเจ้าจะแข็งแกร่งแค่ไหนมันก็ไม่สามารถเอาชนะกาลเวลาได้ เจ้าไม่กล้าฆ่าข้า หากต้องการฆ่าข้าจริงๆ ทำไมถึงวางค่ายกลฟื้นคืนด้านนอกผนึก!? อย่างไรก็ตาม ข้าก็ต้องขอบคุณเจ้าเพราะถ้าเจ้าไม่ได้ผนึกค่ายกลไว้ กลัวว่าชีวิตข้าคงไม่รอดจากการล่มสลายของแดนสวรรค์!”

“ฉิงชุ่ย เมื่อข้าไม่ตาย เจ้าก็ยังไม่ตายเช่นกัน เจ้าก็จะไม่อาจผนึกข้าได้อีก เว้นแต่เจ้าจะไปเจอผนึกวังวนอีกแห่งที่ถูกแดนสวรรค์โบราณทิ้งเอาไว้!” บุรุษผมขาวสีหน้าชั่วร้าย หัวเราะอย่างบ้าคลั่งและพุ่งเข้าไปในความว่างเปล่า

เขาเร็วมากและเพราะรู้จักแดนสวรรค์อัสนีเป็นอย่างดี จึงปรากฏขึ้นเหนือชิ้นส่วนแดนสวรรค์แห่งหนึ่ง ชิ้นส่วนนี้เป็นที่ที่หวังหลินและหลี่หยวนเปิดผนึกและเข้าทางเดินไปในหลุมดำ

บุรุษลอยอยู่ด้านบนของชิ้นส่วนแดนสวรรค์ กดฝ่ามือลงและทั้งชิ้นส่วนก็พังทลายลงทันที นี่คือตำแหน่งที่ผนึกชิ้นที่เก้าตั้งอยู่

เมื่อชิ้นส่วนพังทลายลง เปลวไฟมหึมาก็พุ่งออกมาจากข้างใน มีลำแสงสีแดงกะพริบวาบจากนั้นมีดวงตาหนึ่งข้างลอยออกมา เขาคว้าดวงตาและวางใส่เบ้าตาขวาของตนเอง

‘ขอบเขตจวี่ถูกผนึกไว้ในตาขวา แต่มันถูกใช้มากเกินไปในสงครามแดนสวรรค์ ยากที่จะเสริมพลังกลับมาใหม่แต่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้! แต่ข้าเพิ่งปลดผนึกออกมา ระดับการบ่มเพาะจึงเหลืออยู่หนึ่งในสิบส่วน ข้าต้องฟื้นคืนพลังสวรรค์ดั้งเดิมของข้าโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้! ‘มีลำแสงสีแดงกระพริบจากดวงตาและเขาก็เผยเสียงหัวเราะน่ากลัว

‘ดูเหมือนว่าเซียนรุ่นหลังจำนวนมากพัฒนามาหลายปีแล้ว เยี่ยมมาก แม้การดูดกลืนพวกมันไม่อาจฟื้นฟูระดับบ่มเพาะได้สมบูรณ์แต่ก็ฟื้นฟูได้เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ข้าจะเริ่มดูดกลืน ข้าจะต้องปิดประตูสวรรค์เสียก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกมันไม่อาจหลบหนีได้!’ เขาแสยะยิ้มออกมาจากนั้นร่างก็หายไปภายในความว่างเปล่า

หวังหลินคว้าลี่หยวนและมุ่งตรงไปที่ประตูทางฝั่งตะวันตกของแดนสวรรค์ พวกเขาเงียบไปตลอดทาง หวังหลินมองไปข้างหน้าอย่างมืดมน เขามีลางสังหรณ์ว่าแดนสวรรค์อัสนีจะยิ่งวุ่นวายมากขึ้น!

‘เราต้องออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด!’ แววตาหวังหลินสว่างขึ้นและเร่งความเร็วขึ้น

ระหว่างทางพวกเขาเห็นเซียนจำนวนมากและเป้าหมายเหมือนกันทั้งหมดคือ ประตูสวรรค์!

เห็นได้ชัดว่าหลายคนมีความคิดเช่นเดียวกับหวังหลิน!

ลำแสงหลายเส้นเคลื่อนไหวดุจอุกกาบาตไปทางทิศตะวันตก พวกเขาไม่มีแม้แต่เวลาที่จะพูดคุยกันและเคลื่อนไหวเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

พวกเขาค่อยๆขยับเข้าใกล้กับประตูสวรรค์ ในไม่นานพวกเขาก็เห็นสายฟ้าสีแดงขนาดยักษ์ตกลงมาจากฟากฟ้า

ขณะนี้ เซียนหลายคนเริ่มใช้เคลื่อนที่พริบตาเนื่องจากต้องการออกไปให้เร็วขึ้น

แต่ขณะนั้น หมอกสีแดงพุ่งทะยานข้ามมาราวกับคลื่นทรงพลังและเสียงแหบดังสะท้อนกึกก้องระหว่างฟ้าดิน

“ใครหน้าไหนก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้น!”

คนผู้หนึ่งเดินออกมาจากหมอกแดง เขามีผมสีขาว ร่างกายทั้งหมดเหมือนถุงกระดูก ดวงตาสีแดง ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า ฝ่ามือก็ยื่นออกมาเกิดพลังอันมหาศาลจนเต็มทั่วบริเวณ

เซียนขั้นเทวะหลายคนความหวาดกลัว ร่างกายแตกสลายลงกลายเป็นหมอกโลหิต ทั้งหมดถูกเขาดูดกลืน แม้แต่วิญญาณดั้งเดิมก็ไม่สามารถหลบหนีได้และถูกกลืนกินไปด้วย

“ทำไมเซียนฉีวันนี้ถึงมีพลังดั้งเดิมน้อยขนาดนี้? หลังจากเปลี่ยนพลังดั้งเดิมเป็นพลังสวรรค์ดั้งเดิมมันก็แทบไม่เหลืออะไรแล้ว!” ชายผมขาวขมวดคิ้วและพุ่งเข้าหาประตูสวรรค์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version