Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 854

Cover Renegade Immortal 1

854. เจ้าไม่มีคุณสมบัติ

ขณะเจ้ามารปรากฏตัวขึ้นมา ร่างเทพโลหิตหยุดชะงัก

หวังหลินใช้โอกาสนี้รีบถอยร่น แขนทั้งสองสร้างผนึกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ใช้เตาหลอมเทพโบราณเคลื่อนตัวเองไปด้านข้างหนึ่งพันฟุต หลบเลี่ยงสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์!

สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์พวกนี้สูญเสียเป้าหมายแต่ไม่ได้หายไป ราวกับพวกมันมีสติปัญญาและเปลี่ยนทิศทางโดยทันที ระยะทางหนึ่งพันฟุตนั้นสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ใช้เวลาข้ามผ่านเพียงเสี้ยววินาที

แม้มันจะเร็วมากสำหรับหวังหลิน เขาก็ยังมีเวลาเพียงพอให้ใช้วิชา!

“เรียกขานสายลม!” ในช่วงจังหวะวิกฤต ดวงตาหวังหลินยังคงสงบนิ่ง คราวนี้เขาสามารถพึ่งทัณฑ์สวรรค์เท่านั้นแม้โอกาสหนีรอดจะต่ำมาก!

“ปล่อยให้ทัณฑ์สวรรค์รุนแรงมากขึ้น!” หวังหลินกัดฟันแน่น สายลมทมิฬปรากฏออกมาจากแขนขวา มันหนาแน่นและขดรอบตัวหวังหลิน ขณะที่สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์เข้ามาใกล้ สายลมทมิฬเปลี่ยนกลายเป็นมังกรและพ่นสายลมเย็นเยียบออกมา

สายลมนี้สามารถดับได้แม้กระทั่งเพลิงชีวิตทั้งหมด หลังถูกตีเข้าใส่ สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์หลายเส้นสายก็แตกสลาย ทว่ายังมีบางส่วนผ่านมาได้และพุ่งเข้าหาหวังหลิน

หวังหลินเผยสายตามีไหวพริบ วิญญาณดั้งเดิมโผล่ออกมากลืนกินสายฟ้าเข้าไป หลังจากกินไปได้สามเส้นเขาก็ต้องล่าถอย

จังหวะที่วิญญาณกลับเข้ามาในร่าง สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ที่เหลือก็มาถึง คราวนี้ผีเสื้อและกลืนโลหิตพุ่งออกมาขวางทัณฑ์สวรรค์ที่เหลือ

เกิดการระเบิดดับสนั่นไปทั่วอวกาศ สายฟ้าสามเส้นผ่านแนวป้องกันมาได้และเข้ามาใกล้หวังหลิน

ดวงตาหวังหลินเผยประกายแสงลึกลับ ฝ่ามือสร้างผนึก ตราประทับผนึกเทพปรากฏออกมาเบื้องหน้าและหวังหลินพุ่งเข้าไปในตราประทับ

ขณะที่เขาเข้าไปข้างใน สายฟ้าสามเส้นก็มาถึง!

ตู้มมม ตู้มมม ตู้มมม!

“ผนึกสายฟ้า!” เสียงดังอู้อี้ออกมาจากภายในตราประทับผนึกเทพ ในเวลาเดียวกันตราประทับก็สั่นไหวรุนแรง สายฟ้าเคลื่อนผ่านตราประทับราวกับมันเปลี่ยนกลายเป็นทะเลสายฟ้า หวังหลินบังคับตัวเองออกมาและกระอักโลหิต ยื่นแขนขวาออกไปคว้าตราประทับและรีบชิ่งหนี

สายฟ้าข้างในตราประทับพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุด ทว่าหวังหลินถอยตรงเข้าหาก้อนเมฆทัณฑ์สวรรค์ เขาโบกแขนและผนึกสีทองส่องสว่างเจิดจ้า

หวังหลินรู้ตัวว่าเขาไม่สามารถหนีรอดจากเทพโลหิตไปได้ แม้อีกฝ่ายจะได้รับบาดเจ็บจากการสลายดาวของเทพโบราณ เทพโลหิตไม่ใช่คนที่เขาสามารถต่อสู้ได้ อย่างไรเสียถ้าเขายืมพลังอำนาจของทัณฑ์สวรรค์ เขาอาจจะมีโอกาสหนีรอด!

เจ้ามารที่โผล่ออกมาจากเทพโลหิตกลับจ้องหวังหลินอย่างเย็นชา มันหดกลับเข้าไปในร่างต้นและเรืองแสงชั่วร้าย เพียงก้าวเดียวก็เคลื่อนมาข้างหน้ายื่นเข้าหาศีรษะหวังหลิน!

เห็นได้ชัดว่ามันคิดจะใช้การแยกวิญญาณหวังหลินเพื่อค้นหาความทรงจำ!

ดวงตาหวังหลินส่องประกายเจิดจ้า ยกแขนขวาขึ้นมาและร้องตะโกน “เรียกขานสายลม!”

วิชาที่ทรงพลังที่สุด เรียกขานสายลม ได้ถูกใช้อีกครั้ง สายลมทมิฬคราวนี้ทรงพลังยิ่งและก่อตัวเป็นมังกรดำสองตัวเบื้องหน้า!

ก่อนที่จะบรรลุขั้นส่องสวรรค์ หวังหลินสามารถสร้างมังกรดำได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น หลังจากระดับบ่มเพาะเพิ่มสูงขึ้น เขาสามารถเรียกมันออกมาได้สองตัวด้วยพลังทั้งหมดที่มี มังกรสองตัวขดรอบตัวหวังหลินพร้อมกับอ้าปากพ่นสายลมเย็นออกมา!

เสียงปริแตกออกมาจากรอบด้าน ทรงพลังยิ่งจนอวกาศรอบๆเริ่มร้าว ในเวลาเดียวกันหวังหลินก็ใช้ฝ่ามือสร้างผนึก ตราประทับผนึกเทพส่องแสงสว่าง สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์สายหนึ่งสร้างขึ้นมาและพุ่งเข้าหาเทพโลหิตอย่างรวดเร็ว

หวังหลินตบกระเป๋านำกระบี่สวรรค์ไว้ในมือ ตอนนี้เขาไม่สนใจว่าจะใช้พลังดั้งเดิมไปแค่ไหน เขาเพียงแค่ใช้ตัดสวรรค์ต่อเนื่องกัน ไม่รู้ว่าใช้ออกไปกี่ครั้งเพราะเขาส่งมันออกไปอย่างรวดเร็วยิ่ง

เทพโลหิตใบหน้าสงบนิ่งและเข้ามาใกล้อย่างไม่ใส่ใจนัก ชี้ใส่ท้องฟ้าและสายฟ้าที่ตราประทับสร้างขึ้นมาพลันแตกสลาย

หลังจากเทพโลหิตชี้ออกไป พลังโจมตีจากการรวมกันของตัดสวรรค์มากกว่าร้อยสายก็ได้รับผลกระทบไปด้วยและพังทลายไปเช่นกัน!

ท้ายที่สุดเทพโลหิตชี้ไปข้างหน้า สายลมเย็นที่มังกรดำสองตัวพ่นออกมากลับสลายไปสิ้น แม้กระทั่งมังกรดำสองตัวยังร้องโหยหวนและถูกตัดขาดครึ่งด้วยพลังเหนือจินตนาการ

“วิชาเรียกขานสายลมของจักรพรรดิเทพป๋ายฟ่านแข็งแกร่งเท่านี้เองน่ะหรือ?” แววตาเทพโลหิตเรืองแสงชั่วร้ายรุนแรงมากกว่าเดิม แขนขวายื่นเข้าหาหวังหลิน

ทว่าในจังหวะนั้น!

“ข้า ขุนนางเทพฉิงชุ่ย เจ้ากล้าดียังไงถึงกล่าวชื่อของอาจารย์ข้าอีก!” จิตสังหารแข็งแกร่งจนสามารถแบ่งแยกโลกได้พลันปรากฏขึ้นมา

วินาทีนั้นเสียงสายฟ้าคำรามก็โผล่ออกมาและอวกาศจำนวนมากแตกสลาย ราวกับไม่สามารถทนรับต่อพลังของเสียงนี้ได้

ไม่ใช่เพียงแค่อวกาศ แม้กระทั่งก้อนเมฆทัณฑ์สวรรค์ก็ยังล่าถอย!

เห็นได้ชัดว่าคำพูดแฝงกฏที่เทพโลหิตใช้มาก่อนหน้านี้กลับด้อยกว่าน้ำเสียงนี้ กลิ่นอายกฏที่มันสร้างขึ้นพลันพังทลายลง!

แม้กระทั่งเหยาหยุนที่อยู่ห่างออกไปไกลยังกระอักโลหิต ร่างกายเศร้าซึม ดวงตาหวาดกลัวและรีบถอยร่น

ทั่วพื้นที่เต็มไปด้วยจิตสังหารเหนือจินตนาการ นอกจากนั้นแล้วเหล่าเซียนทั้งหมดในเขตทิศใต้ยังรู้สึกถึงจิตสังหารออกมาจากภายในพลังดั้งเดิมของโลกด้วย ทำให้เซียนหลายคนกระอักโลหิต แม้จะไม่ได้เข่นฆ่าพวกเขาแต่ก็ได้รับบาดเจ็บ

และตอนนี้เทพโลหิตซึ่งอยู่ใจกลางพายุกลับรู้สึกถึงมันได้ชัดเจน รูม่านตาหดลงทันที

มังกรดำเบื้องหน้าหวังหลินที่ถูกตัดขาดครึ่ง มันร้องคำรามและฟื้นฟูตัวเอง ชายหนุ่มสวมชุดสีขาวองอาจ เรือนผมสีดำค่อยเดินออกมาท่ามกลางดวงดาว!

สีหน้าท่าทางของเทพโลหิตเปลี่ยนไปเป็นครั้งแรก!

“ขุนนางเทพฉิงชุ่ย!!” เทพโลหิตถอนแขนออกมาและก้าวถอยหลัง มองชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามา ใบหน้ามืดมนขึ้น

ฉิงชุ่ยเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเย็นเฉียบ กล่าวขึ้นด้วยความรู้สึกเย่อหยิ่งจองหอง “เจ้ากล้าย้ำประโยคนั้นเบื้องหน้าข้า?”

ดวงตาฉิงชุ่ยมีแสงสีแดงเข้มข้นจนถึงจุดที่แสงโผล่ออกมาได้ มันบรรจุกลิ่นอายทำลายล้างจนทำให้ใครที่เห็นมันรู้สึกหวาดกลัวในใจ

แววตาเทพโลหิตเปล่งแสงมารร้ายและเอ่ยขึ้น “ขุนนางเทพฉิงชุ่ย ระหว่างเราไม่มีความบาดหมางกัน หากเป็นเพราะสิ่งที่ข้าพูดไป ข้าจะขอคืนคำ! ต่อจากนี้เราจะมุ่งหน้าไปดาราจักรพันธมิตรเซียนด้วยกัน จากนั้นก็สุดแล้วแต่คำพูดท่าน!”

“อย่างไรเสีย เจ้าเด็กคนนี้มีเรื่องบาดหมางกับตระกูลข้า ข้าหวังว่าขุนนางเทพจะไม่แทรกแซง ไม่เช่นนั้นมันจะเป็นการทำร้ายความสามัคคีของเรา!”

ฉิงชุ่ยยังเดินเข้าหาเทพโลหิตด้วยใบหน้าไม่แยแส และเอ่ยขึ้นมา “วิชาของศิษย์น้องคนนี้ยังขาดตกบกพร่องอยู่และเขาไปล่วงเกินตระกูลเหยาของเจ้า แต่กระนั้นแล้วยังไงเล่า?”

“ศิษย์น้อง!?” เทพโลหิตตกตะลึง ใบหน้าท่าทางเปลี่ยนอีกครั้ง

ดวงตาขวาของฉิงชุ่ยกระพริบวาบ ยกแขนขวาขึ้นมาชี้ขึ้นไปเบื้องบน สายลมทมิฬทรงพลังมากกว่าของหวังหลินหลายเท่าพลันปรากฏขึ้นมา สายลมทมิฬนี้หนาแน่นเกินจินตนาการและมันร้องคำรามท่ามกลางหมู่ดาว พริบตาเดียวมังกรดำหกตัวก็ก่อตัวขึ้นจากสายลมทมิฬ

มังกรดำทั้งหกตัวมีร่างกายยาวมากกว่าแสนฟุตและดูเหมือนจะครอบคลุมไปทั้งโลก สร้างพลังกดดันแข็งแกร่งและภายใต้แรงกดดันนี้ ก้อนเมฆทัณฑ์สวรรค์ยังถูกดันกลับ อย่างไรก็ตามกลับมีก้อนเมฆรวมกันอีกมากเพื่อควบแน่นเป็นการโจมตีที่ทรงพลังที่สุด

เพียงแค่ชำเลืองดูก็เพียงพอให้ทุกคนตกตะลึงได้แล้ว!

“ตั้งแต่เขาเรียนรู้ศึกษาเรียกขานสายลมได้ เขาก็คือผู้สืบทอดข้ามรุ่นของอาจารย์ข้า ด้วยสถานะปัจจุบันของเขา จงลืมเรื่องตระกูลเหยาของเจ้าไปซะ แม้กระทั่งบรรพชนตระกูลเหยาก็จงอย่ากล้าไปทำร้ายแม้แต่เพียงเส้นผม!” ฉิงชุ่ยเอ่ยอย่างเย็นเยียบ ชี้ใส่เทพโลหิต มังกรดำหกตัวร้องคำรามและอ้าปากพ่นสายลมเย็นเยียบที่น่าหวาดกลัวยิ่ง

ใบหน้าเทพโลหิตมืดมนยิ่งขึ้น ครานี้สายลมเย็นพุ่งเข้าหาเขา แม้จะมีระดับบ่มเพาะในปัจจุบันยังรู้สึกหนาวเหน็บ แม้มันจะเหมือนกันกับวิชาของหวังหลิน ทว่าพลังแตกต่างกันดุจฟ้าดิน!

เทพโลหิตอ้าแขนออกโดยไม่ลังเล หมอกโลหิตจำนวนมากปรากฏออกมา กลืนกินโลหิตก่อตัวขึ้นทีละตนจนกระทั่งมีทั้งหมด 99 ตน พวกมันก่อตัวเป็นพายุโลหิตเข้าปะทะกับสายลมอันหนาวเหน็บ

เกิดเป็นการระเบิดสั่นสะเทือนสวรรค์พร้อมกับอวกาศระหว่างเทพโลหิตและชิงฉุ่ยแตกสลาย รอยร้าวในอวกาศขยายตัวออกกลายเป็นทางยาว

เทพโลหิตร่างกายสั่นเทาพร้อมกับรีบถอยร่น เขาจ้องฉิงชุ่ยและตะโกนเร่งรีบ

“ฉิงชุ่ย ข้าเคารพท่านเพราะท่านเป็นขุนนางเทพ แต่อย่าผลักดันข้าเช่นนี้! ท่านหลับไหลมานานเกินไป ท่านสับสนอะไรหรือไม่? แม้ซิ่วมู่คนนี้จะศึกษาเรียนรู้เรียกขานสายลมได้ เขาจะกลายเป็นศิษย์น้องท่านไปได้อย่างไร!?! นอกจากนั้นเขายังสังหารคนตระกูลเหยารุ่นที่สามไปมากมาย ข้าจึงมาฆ่าเขาเป็นเรื่องธรรมดา ฉิงชุ่ย ข้าไม่ได้กลัวท่าน อย่ามาบังคับข้า!”

เทพโลหิตไม่รู้ว่าฉิงชุ่ยนั้นรู้สึกผิดอย่างยิ่งต่ออาจารย์ ความรู้สึกนี้รุนแรงมากแต่ไม่มีโอกาสชดใช้

หลังจากตื่นขึ้นมา เมื่อเขาเห็นหวังหลินใช้เรียกขานสายลมและฟื้นคืนความทรงจำมาได้ระหว่างการต่อสู้ครั้งแรกกับปรมาจารย์จงเฉิน อารมณ์ความซับซ้อนต่อหวังหลินก็พัฒนาขึ้นข้างใน

“แม้เขาจะผิด มันขึ้นอยู่กับข้าที่จะสั่งสอนเขาแทนอาจารย์ เจ้าไม่มีคุณสมบัติ!” ขุนนางเทพฉิงชุ่ยกล่าวเย็นเยียบ มังกรดำหกตัวพลันร้องคำราม

คราวนี้มังกรทั้งหกผสานเข้าด้วยกันกลายเป็นหนึ่ง มังกรดำขนาดใหญ่ร้องคำรามออกมาแต่ไม่ได้ปลดปล่อยความเย็นอันใด มันสลายกลายเป็นฝนแทน ในวินาทีนั้นทุกสิ่งทุกอย่างภายในระยะห้าพันลี้ถูกห่อหุ้มอยู่ในสายฝน

“อัญเชิญสายฝน!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version