Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 863

Cover Renegade Immortal 1

863. บิดาเจ้าเถอะ ข้ายอมแพ้

ราวกับว่าเขาคือเด็กคนที่เห็นจักรพรรดิเทพป๋ายฟ่านยกแขนขึ้นอัญเชิญมังกรดำเก้าตัว ฟ้าดินเปลี่ยนสีสัน สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต้องตายเบื้องหน้าเสียงคำรามทั้งเก้าของมังกร

แววตาหวังหลินเผยแสงลี้ลับ แขนสองข้างสร้างผนึก ดวงตาของมังกรดำสองตัวเรืองแสงชั่วร้าย!

แสงนี้สุดล้ำลึก ราวกับว่าตอนนี้เจ้ามังกรดำสองตัวได้รับวิญญาณและตื่นจากการหลับใหล พ่นสายลมทมิฬทรงพลังพร้อมกับกลิ่นอายโบราณพุ่งเข้าใส่คมมีดสวรรค์ทั้งสี่!

คมมีดสวรรค์แหลมคมพอที่จะตัดทุกสิ่งทุกอย่างในโลกได้ แต่ไม่อาจตัดวิญญาณของมังกรดำได้!

คมมีดแรกหล่นลงไปพร้อมเกิดการระเบิดสั่นสะเทือนสวรรค์ ผู้สังเกตการณ์ทั้งหมดต่างก็ให้ความสนใจ ตอนที่มันตกลงไปราวกับสามารถกลืนกินทุกสิ่งอย่างได้ อวกาศบิดเบี้ยวดุจฉีกขาด!

หนึ่งในสองมังกรดำเงยศีรษะมันขึ้นมาร้องเสียงคำรามเข้าใส่คมมีดสวรรค์ที่กำลังพุ่งเข้าหา!

คมมีดแรกที่ตกลงไปเกิดรอยร้าวตรงปลายและแผ่กระจายตัวไปเรื่อยๆ ตามมาด้วยแรงสนั่นต่อเนื่อง จากนั้นคมมีดก็แตกสลายทั้งด้าม!

วินาทีนั้นคมมีดที่สองก็ตกลงมาจากฟากฟ้า ก่อเกิดเป็นพายุทรงพลังลูกหนึ่ง ขณะตกลงมามันก็สร้างรอยร้าวอวกาศขึ้นรอบตัวเอง ชิ้นส่วนของคมมีดแรกทั้งหมดถูกคมมีดที่สองดูดซับไป

คมมีดสองหล่นลงมาพร้อมกับเสียงหวีดหวิวลี้ลับ

ทันใดนั้นภายในระยะหมื่นลี้ก็เกิดเสียงกึกก้องไม่มีที่สิ้นสุดสะท้อนถึงหูของเซียนทั้งหมด เซียนบางคนที่อ่อนแอถึงกลับสายตาพร่ามัวทันที

คมมีดที่สองดูดซับคมมีดแรกและเข้าปะทะกับทังกรดำ! เจ้ามังกรร้องคำรามบ้าคลั่ง ทั้งร่างสั่นเทา เหวี่ยงศีรษะเข้าใส่และจากนั้นคมมีดที่สองก็แตกสลาย!

คมมีดที่สามและสี่ตามเข้ามาติดๆกัน ดูดซับสองคมมีดก่อนหน้านี้ไว้ทั้งหมด คมมีดที่สามสลายตัวมันเองและผสานเข้ากับคมมีดที่สี่ ก่อเกิดเป็นพลังเหนือจินตนาการ!

เจ้ามังกรดำแตกสลายกลายเป็นสายลมทมิฬและร้องคำรามพร้อมๆกับคมมีดที่สี่แตกสลายไปด้วยเช่นเดียวกัน!

ม่านแสงแตกสลายไปด้วยเนื่องจากไม่สามารถทนรับแรงต้านทานไหว แตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย สนามประลองไม่มีม่านป้องกันอยู่อีกแล้ว!

เมื่อไม่มีอะไรขัดขวางแรงปะทะอันรุนแรงนี้ได้มันจึงแพร่กระจายออกไปทำให้สีหน้าเซียนรอบด้านต้องเปลี่ยนไป ผู้อาวุโสทั้งหมดของแต่ละตระกูลถึงกับรีบใช้วิชาตัวเองปกป้องสมาชิก

อย่างไรก็ตามก้อนหินสีฟ้าทั้งหมดก็ถูกผลักออกไป อันไหนที่โดนตรงๆพลันระเบิดกลายเป็นฝุ่นผง ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างภายในระยะแสนลี้ดูเหมือนจะเข้าสู่ภัยพิบัติ

ชายชุดดำนั่งอยู่บนก้อนหินแดงมีสีหน้าซีดขาว ดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้า ก้อนหินใต้ที่นั่งแตกสลายและเขากระโดดขึ้นไปกลางอากาศ คมมีดที่เหลือทั้งห้าลอยขึ้นตามเขาไปด้วย

ชายชุดดำรีบล่าถอยด้วยใบหน้าซีด

สี่คมมีดสามารถทำลายมังกรดำได้หนึ่งตัว แค่นั้นก็เป็นการต่อสู้ที่น่าตกตะลึงพอแล้ว ดวงตาหวังหลินเย็นเยียบพลางให้มังกรตัวที่สองพุ่งออกไป

“เจ้าไม่ต้องการต่อสู้หรือไร? ทำไมถึงล่าถอยเสียเล่า!” หวังหลินก้าวเท้า ผสานเข้ากับมังกรดำ จากนั้นพุ่งเข้าหาชายชุดดำ

แววตาอีกฝ่ายส่องประกายเผยเจตนาต่อสู้เข้มข้น ฝ่าเท้าหยุดชะงัก สองแขนเคลื่อนไหวเบื้องหน้าและร้องตะโกน “คมมีดสวรรค์สังหารปิศาจ!”

ห้าคมมีดรอบกายเริ่มสั่นไหวและปลดปล่อยเสียงหึ่งแหลมคม พวกมันเริ่มหมุนเป็นวงกลมก่อตัวเป็นลำแสงสีเงินห้าเส้นพุ่งใส่หวังหลิน ลำแสงทั้งห้าเปลี่ยนกลายเป็นคมมีดสวรรค์ห้าสายและเข้าปะทะหวังหลินทันที

มังกรดำร้องคำราม ดวงตาส่องสว่างพุ่งออกไป หวังหลินจ้องคมมีดสวรรค์เหล่านั้น ภาพวาดจากตำหนักของสะสมชั้นเก้ายิ่งชัดเจนในใจ

‘เรียกขานสายลม อัญเชิญสายฝน ไสยเวท…’ คำพูดบนภาพวาดปรากฏในความคิดหวังหลิน

ดวงตามังกรดำยิ่งโหดเหี้ยมมากขึ้นและอ้าปากออกมา ทว่าคราวนี้ไม่ได้พ่นเพียงแค่ลมหายใจเย็น! มันยังมีสายฝนด้วย!

แม้จะไม่ได้มีสายฝนมากนัก แต่มันก็มีเม็ดฝนจริงๆ!

วินาทีนั้นสายลมทมิฬกวาดผ่านพื้นที่ไปทั่วโดยมีหยาดน้ำฝนราวๆร้อยเม็ดผสมปนเป พื้นที่เปียกชิ้นและหนาวเย็นทันที ในไม่นานนักห้าคมมีดสวรรค์ก็เกิดเสียงแตกร้าว

มังกรดำร้องคำรามโกรธเกรี้ยวพุ่งเข้าเผชิญหน้ากับห้าคมมีดสวรรค์!

ตู้มมม ตู้มมม ตู้มมม…เกิดการระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้อวกาศสั่นไหว แรงกระทบรุนแรงแผ่กระจาย เซียนนับพันล่าถอย มีเพียงคนที่แข็งแกร่งพอจะทนรับไหวถึงคงอยู่ได้ที่เดิมและเป็นผสานการปะทะกันของสองวิชาทรงพลัง!

เสียงคำรามมังกรดำยังคงกึกก้องแต่ร่างกายมันหายไปและสายลมทมิฬก็หายไปด้วย ใบหน้าหวังหลินซีดจางเล็กน้อยพลางก้าวถอยแต่ดวงตาสว่างเจิดจ้า

‘คนผู้นี้มีระดับบ่มเพาะพอๆกับข้า แต่เขาเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง!’ ดวงตาหวังหลินส่องสว่างวาบ ร่างกายกระพริบและผสานตัวเข้ากับโลก

ชายชุดดำรีบถอย ใบหน้าซีดขาว ห้าคมมีดสวรรค์ทั้งหมดกำลังโดนทำลายส่งผลกระทบต่อจิตใจเขา ทว่าแววตาไม่มีความหวาดกลัวแต่กลับมีเจตนาต่อสู้ยิ่งขึ้น

เอ่ยเสียงหัวเราะบ้าคลั่ง เท้าขวาก้าวไปข้างหน้าและร่างกายหยุดชะงัก เมื่อเท้าร่อนลงพลันเกิดเสียงดังสนั่นออกมาจากอวกาศด้านหลังและมีรอยร้าวจำนวนมากเกิดขึ้น

“ยินดียิ่งนัก! ตั้งแต่ที่ข้า หนานกงหาน สำเร็จวิชาคมมีด นอกจากผู้อาวุโสแล้วไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ข้าได้เลยสักคน ตอนที่ข้ายังอยู่ที่ขั้นเทวะ ข้าเป็นอันดับหนึ่งใต้ขั้นมายาหยิน ตอนที่ข้าบ่มเพาะในขั้นรูปธรรมหยาง ข้าเป็นอันดับหนึ่งใต้ขั้นส่องสวรรค์ เจ้ามีคุณสมบัติที่จะเป็นคู่แข่งของข้า!”

หนานกงหานหัวเราะบ้าคลั่งพร้อมกับใช้สองฝ่ามือสร้างผนึก พริบตานั้นอวกาศเบื้องหน้าบิดเบี้ยวและเก้าคมมีดมายาปรากฏขึ้นมา

อย่างไรก็ตามขณะที่เก้าคมมีดมายาปรากฏ ระลอกคลื่นแห่งหนึ่งเกิดขึ้นด้านข้างเขา หวังหลินเดินออกมาใช้สองดัชนีก่อรูปกระบี่แทงเข้าใส่โดยไม่ลังเล!

กระบวนท่านี้บรรจุเต๋าและพลังดั้งเดิมขั้นส่องสวรรค์เข้าไปด้วย ปลาสีขาวดำหมุนเป็นวงกลมก่อตัวเป็นพลังผนึกลอยเข้าหาหนานกงหาน!

หนานกงหานพลันหันกลับมาและรีบถอย รีบสร้างผนึกขึ้นมาส่งเข้าใส่หวังหลิน ทว่าหวังหลินปรากฏตัวทันทีและใกล้เกินไปจึงทำให้มีแค่สองคมมีดเท่านั้นที่ขัดขวางการโจมตีของหวังหลินไว้ได้ หวังหลินเผยแววตาไม่แยแสและสองคมมีดมายาก็แตกสลาย!

หวังหลินหยิบยืมการแตกสลายของคมมีด ใช้สองดัชนีชี้ระหว่างคิ้วของหนานกงหาน

รูม่านตาหนานกงหานหดเล็กลง สัมผัสวิกฤตความเป็นความตายที่ไม่เคยรู้สึกได้มาก่อน ขณะนั้นฝ่ามือกระพริบสีเงินวาบเข้าปะทะกับดัชนีหวังหลินโดยไม่ลังเล!

พลังดั้งเดิมทรงพลังพุ่งเข้าใส่ร่างหนานกงหานเสียงดังปัง! ร่างกายสั่นเทาและถูกโยนกลับไป โลหิตไหลรินออกมาจากหน้าอกแต่เขาบังคับอาการบาดเจ็บเอาไว้ ที่เขาหวาดกลัวก็คือพลังดั้งเดิมของอีกฝ่ายมีสองเส้น หนึ่งขาวและหนึ่งดำ พลังสองสายเกิดการทำลายในร่างเขาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีความผันผวนจากเขตแดนออกมาด้วย!

หวังหลินรู้สึกนิ้วด้านชา แม้การลอบโจมตีของเขาจะสำเร็จ อีกฝ่ายสามารถป้องกันไว้ได้ พลังดั้งเดิมของศัตรูเข้ามาในร่างกายเขาด้วย แม้หวังหลินจะสามารถต่อต้านได้แต่พลังดั้งเดิมของหนานกงหานดุจคมมีดแหลมคมที่ต้องการฉีกร่างกายเขาให้เป็นชิ้นๆ

แววตาหวังหลินกระพริบเย็นเยียบ หวังหลินไม่ได้ล่าถอยแต่ก้าวเท้าไปข้างหน้า ผสานตัวเข้ากับโลก

เมื่อหนานกงหานเห็นหวังหลินหายตัวไปอีกครั้ง รูม่านตาหดเล็กลงทันที สองฝ่ามือรีบสร้างผนึกและตะโกน “ค่ายกลคมมีดเก้าบทเพลง!” พริบตานั้นสองคมมีดมายาที่แตกสลายไปพลันก่อร่างขึ้นอีกครั้งและก่อตัวเป็นค่ายกลพร้อมกับอีกเจ็ดคมมีดที่เหลือ ทั้งหมดหมุนเป็นวงกลมอย่างรวดเร็วกลายเป็นด้านสีเงินนับไม่ถ้วนโคจรรอบหนานกงหานและจากนั้นก็กระจัดกระจายทันที

หวังหลินปรากฏร่างห่างจากหนานกงหานไปสามสิบฟุตพร้อมกับค่ายกลคมมีดเข้ามาใกล้ กระดูกอสูรบนหลังมือส่องสว่างและปรากฏทันที เส้นด้ายสีเงินเรืองแสงสีเทา หวังหลินใช้วินาทีนั้นระงับอาการบาดเจ็บของตัวเองเอาไว้และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

หนานกงหานสูดลมหายใจเย็น รีบถอยร่นและร้องตะโกน “หยุด หยุด! ข้ายอมรับความพ่ายแพ้! ข้าไม่สู้อีกแล้ว เจ้ารู้จักบิดมิติ ข้าจะต่อสู้ได้อย่างไรเล่า!? หยุดดดดด!” เขาหันกลับมาและรีบถอยร่น

“ข้ายอมแพ้แล้ว เจ้ายังไล่ล่าข้ามาอีก ข้ายอมแพ้ ข้าไม่สู้กับเจ้าอีกแล้ว!” หนานกงหานยิ้มอย่างขมขื่น เขาไม่ต้องการให้จบลงเช่นนี้แต่การต่อสู้กับเซียนขั้นส่องสวรรค์ที่รู้จักบิดมิตินั้นทำให้เขาเสียเปรียบมากเกินไป

หลังกล่าวเช่นนั้น ภาพที่เขากุมอำนาจของรุ่นนี้พลันแตกสลาย หวังหลินปรากฏตัวห่างออกไปสองร้อยฟุต ขมวดคิ้วมองหนานกงหาน

เขาใช้ทั้งชีวิตต่อสู้กับผู้คน แต่ไม่คาดคิดว่าจะมาเจอคนแบบนี้…

“ข้าไม่ต่อสู้ ข้าไม่ต่อสู้ ไม่สายเกินไปหรอกที่จะสู้กันอีกครั้งเมื่อข้ารู้แจ้งบิดมิติได้ ตอนนี้มันไม่คุ้มค่าสำหรับข้า ข้าไม่สามารถเอาชนะเจ้าได้” หนานกงหานใบหน้ามืดมนและในพริบตาเดียวเขาก็พุ่งเข้าหาก้อนหินแดงก้อนหนึ่ง เดิมทีมีคนหนึ่งนั่งอยู่บนหินก้อนนั้นแต่เมื่อหนานกงหานจ้องไป อีกฝ่ายก็หนีหายไปทันที

หวังหลินขบคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะมองไปรอบๆและเอ่ยถาม “มีใครจะท้าประลองอีกไหม?”

รอบด้านเงียบสนิทโดยสิ้นเชิง เฉินกงฮู่มองเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อย่างเงียบๆ สายตาที่มืดมนค่อยๆส่องสว่างขึ้น แม้สายตาที่จ้องมองหวังหลินนี้จะมีความรู้สึกบ้าคลั่งมานานแล้ว ความเคารพยกย่องพลันกลับคืนมา

เซียนรอบด้านทั้งหมดมองหวังหลิน แต่ท้ายที่สุดก็ไม่มีใครเดินออกมาสักคน

ชายชราชุดม่วงเอ่ยขึ้น “ซิ่วมู่ อันดับหนึ่งในร้อยแปดคนที่ถูกเลือกจากเขตใต้ อีกเจ็ดวันตามข้ามาที่อารามเทพอัสนีพร้อมกับคนที่ถูกเลือกอีกร้อยเจ็ดคน!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version