895. กริ้วโกรธ
ต้าซานโบกสะบัดแขนลวกๆด้วยสีหน้าเย็นชา ก่อเกิดสายลมรุนแรงพัดปลิวปราณกระบี่ออกไปและกระบี่พวกนั้นแตกสลายทันที สองคนนำหน้าพลันรู้สึกถึงแรงกระทบที่มิอาจจินตนาการได้
ทั้งคู่กระอักโลหิต กระเด็นออกไปไกล
ส่วนจอมยุทธ์ที่พุ่งเข้ามาดุจกระแทกร่างใส่กำแพง ทั้งหมดกระอักโลหิตและถูกผลักกลับไป
ไม่มีใครสู้ได้!
ต้าซานไม่ได้ฆ่าใครสักคน แค่สะบัดแขนก็ทำให้เซียนสองคนและคนพวกนี้ได้รับบาดเจ็บแล้ว
ยิ่งเด็กหนุ่มเห็นฉากเหตุการณ์นี้ เขาตกตะลึงทันที ว่าใบหน้ายิ่งดุดันและร้องตะโกน “ข้าเป็นคนตระกูลหวัง เจ้ากล้าทำร้ายคนของข้าได้อย่างไร? เจ้าสมควรตายทั้งหมด!”
หวังหลินยกแขนขึ้นมาตบเด็กหนุ่ม เขาไม่ได้ใช้พลังปราณหรือพลังการฝึกเซียนและเป็นแค่การตบคนธรรมดาเท่านั้น อีกทั้งเด็กหนุ่มไม่ใช่เซียน หากเขาใช้พลังอันใดคงทำให้แตกสลายไม่เหลือแม้แต่กระดูก
กระนั้นเด็กหนุ่มก็ลอยละล่องขึ้นกลางอากาศ ใบหน้าบิดเบี้ยว ฟันทั้งหมดแตกหัก ที่เขาตบไม่ใช่แค่เด็กหนุ่มแต่เป็นอสรพิษสีดำด้วย
อสรพิษประหลาดยิ่ง เมื่อหวังหลินตบไปถึงมันก็หายตัวไป แต่จากนั้นก่อตัวขึ้นมาใหม่ ทิ้งร่างเด็กหนุ่มออกมาและพยายามกลืนกินหวังหลิน
มีเพียงต้าซานและเด็กหัวโตที่เห็นมัน ทุกคนด้านหลังหวังหลินรู้สึกเพียงสายลมหนาวเย็นพัดผ่าน
“ข้าอยากเห็นว่าใครกันที่กล้าใช้ตระกูลหวังของข้าหล่อเลี้ยงวิญญาณอาฆาต!” ดวงตาเย็นเยียบและโกรธเกรี้ยวขึ้น เพียงแค่หวังหลินชำเลืองมองก็เห็นแล้วว่าวิญญาณเด็กหนุ่มถูกกลืนกินและถูกแทนที่ด้วยวิญญาณอาฆาต ขณะอสรพิษพุ่งเข้ามาหา หวังหลินยกแขนชี้ออกไป
แววตาเจ้าอสรพิษเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและต้องการหนี ทว่ามันสายเกินไปแล้ว อสรพิษระเบิดเสียงดังปัง เปลี่ยนกลายเป็นหมอกดำถูกหวังหลินจับเอาไว้ เขาบดขยี้มันให้กลายเป็นอักขระรูนสีดำ
หลังอสรพิษดำหายไป ร่างเด็กหนุ่มสั่นเทาและกระอักโลหิตคำโต ใบหน้าไม่ดุร้ายอีกแล้วและเต็มไปด้วยความงุนงงสับสน วิญญาณเขาถูกกลืนกินไปแล้วดังนั้นแววตาจึงสลัวและสูญเสียตัวตน
รอบด้านเงียบสนิท แต่ความเงียบนี้กินเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจและถูกแทนที่ด้วยเสียงกรีดร้อง ฝูงชนตื่นตระหนกและหลบหนีให้เร็วที่สุด เพียงเวลาไม่นานก็ไม่มีใครเหลืออยู่ที่นี่อีก
หวังหลินแววตาเย็นเยียบ ตอนที่เขาแพร่กระจายสัมผัสวิญญาณออกไปกลับไม่สังเกตถึงความผิดปกติ ทว่าเมื่อมองเข้าไปใกล้ๆเขาจึงเข้าใจว่ามีคนกำลังใช้ชีวิตคนตระกูลหวังเพื่อหล่อเลี้ยงวิญญาณอาฆาต!
หวังหลินเคยได้ยินวิชาแบบนี้มาก่อน มันเหมือนการหลอมกระบี่ขึ้นมาหนึ่งเล่ม คนที่ถูกใช้เป็นวิญญาณจะดูดซับแรงอาฆาต หากมีแรงอาฆาตเพียงพอ พลังของมันไม่มีสิ่งใดให้หัวเราะเยาะ
รวมกับแรงไม่พอใจมหาศาลเหนือเมืองหลวง หวังหลินเดาว่ามีใครสักคนกำลังควบคุมมันอยู่ ยิ่งมีความไม่พอใจมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งมีวิญญาณอาฆาตทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น
หวังหลินโกรธขึ้นมา แววตายิ่งเยือกเย็นสุดขั้ว โยนอักขระรูนไปข้างหน้า มันเริ่มลอยไปด้วยตัวเอง
หวังหลินไพล่มือด้านหลังพร้อมกับเดินตามอักขระรูน ต้าซานและเด็กหัวโตติดตามเขาไปอย่างใกล้ชิด
ข่าวองค์ชายถูกฆ่าสังหารในเมืองหลวงเป็นเรื่องใหญ่โต หลังจากนั้นไม่นานปราณกระบี่จำนวนมากก็พุ่งออกมาเข้าปกคลุมเมืองหลวง
เซียนจากหลายสำนักบนดาวซูซาคุกำลังขับขี่ปราณกระบี่ แววตาแต่ละคนดุจแสงไฟและโจมตีด้วยสมบัติวิเศษของตนเองโดยไม่แม้แต่จะพูดคุยหวังหลินก่อน
หวังหลินสะบัดแขนเสื้อ สมบัติวิเศษทั้งหมดถูกพัดปลิวออกไป เหล่าเซียนบนกระบี่หวาดหวั่นและถูกสายลมพัดปลิว พริบตาเดียวพวกเขาก็ถูกส่งออกไปห้าพันลี้
“นี่…นี่มันวิชาอะไรกัน!?!”
“คนผู้นั้นดูคุ้นๆ…”
สีหน้าเซียนที่ถูกส่งออกไปห้าพันลี้กลับเปลี่ยนไปมหาศาล พวกเขาทั้งหมดตื่นตระหนกและไม่มีใครกล้าเคลื่อนไปข้างหน้า ทั้งหมดขับขี่กระบี่เหินเข้าหาสำนักตัวเอง
หวังหลินแววตาเย็นชา เขาโกรธเกรี้ยวที่สุด! เดินเข้าหาพระราชวังโดยมีทหารมากมายพุ่งเข้าหา หวังหลินไม่ต้องการทำร้ายพวกเขาจึงแค่โบกสะบัดแขน ส่งออกไปนับหมื่นลี้
เขาเข้าไปใกล้พระราชวังมากขึ้น ตอนนี้ในโถงหลักมีชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมมังกร ใบหน้ามืดมน ด้านข้างเป็นขุนนางผู้หนึ่งและหญิงสาวสวมชุดราตรีหลากสี ทว่าในแววตานางมีหมอกสีดำ ร่องรอยตื่นตระหนกกระพริบวาบผ่านสายตา
ในเวลาเดียวกันสมาชิกตระกูลหวังสวมเสื้อผ้าไหมจ้องมองตรงหน้านอย่างมืดมน
นอกห้องโถงมีกองทหารนับไม่ถ้วนกำลังเตรียมตัวเผชิญหน้ากับศัตรูยิ่งใหญ่ กลิ่นอายสังหารเต็มไปทั่วบริเวณ
ชายวัยกลางคนโยนแผ่นหมึกอย่างรุนแรงและร้องตะโกน “คนแบบไหนกันถึงกล้าสังหารคนของราชวงศ์หวัง เจ้ารู้ไหมว่ามันมาจากสำนักอะไร?”
รอบด้านเงียบกริบ หลังจากนั้นสักพักเซียนผมขาวคนหนึ่งก้าวออกมาท่าทีลังเลและเอ่ยตอบ “สามคนนั้นแข็งแกร่งยิ่ง อาจจะเป็นผู้อาวุโสระดับบ่มเพาะสูงส่ง ส่วนสำนักนั้นเรายังค้นหาอยู่”
ชายวัยกลางคนใบหน้ามืดมัวและเยาะเย้ย “ดูเหมือนตระกูลหวังของข้าจะเงียบสงบเกินไปบนดาวซูซาคุ แม้กระทั่งคนไร้ชื่อยังกล้ากลั่นแกล้งเรา! อาจารย์ต่างแดนอยู่ไหน!?”
สิ้นคำพูด เสียงหัวเราะหนึ่งดังสะท้อนในพระราชวัง
“นายข้าไม่ต้องกังวล ลูกศิษย์ของข้าจัดการเรื่องนี้ได้!”
ควันสีดำรวมตัวกันเหนือพื้นที่จัตุรัส พริบตาเดียวก็ก่อตัวเป็นคนสามคน แม้จะปกคลุมอยู่ในหมอกสีดำแต่เห็นได้ชัดว่าเป็นชายสองหญิงหนึ่ง ไม่มีใครแก่ชราสักคนเดียว
หลังจากทั้งสามปรากฏตัว พวกเขาไม่ได้มองไปยังพระราชวัง แต่เปลี่ยนกลายเป็นควันสีดำสามสายพุ่งออกไป
ขณะหวังหลินเดินมา แววตาเยือกเย็นยิ่งกว่าเดิม อักขระรูนเบื้องหน้าหนาแน่นขึ้นไปอีกและตอนนี้เขามาถึงนอกประตูราชวังแล้ว ทหารนับไม่ถ้วนด้านในจ้องไปที่กลุ่มของหวังหลินด้วยสีหน้าดุดัน
ขณะนั้นควันสีดำสามสายเข้ามาถึงและพุ่งใส่หวังหลิน แรงกดดันระเบิดออกมา เสียงกรีดร้องโหยหวนแพร่กระจายไปทั่วฟ้าดิน
หวังหลินบอกได้ทันทีว่าเซียนสามคนนี้ไม่ได้มีระดับบ่มเพาะสูงส่งนัก พวกเขาเป็นเพียงแค่ขั้นแปลงวิญญาณ ทว่าการโจมตีแต่ละคนแข็งแกร่งเกือบเท่าขั้นเทวะ
ในร่างทั้งสามไม่มีสายเลือดตระกูลหวัง มีแต่เพียงความอาฆาตมหาศาล เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคือวิญญาณอาฆาตที่ถูกหล่อหลอมมาได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว
ดวงตาหวังหลินเต็มไปด้วยจิตสังหาร ขณะเดินออกมาเขาก็มาถึงเบื้องหน้าทั้งสามในทันที สองดัชนีก่อรูปกระบี่และชี้ใส่หนึ่งในสามคนนั้น ดัชนีรวดเร็วยิ่งและร่อนลงเข้าบนไหล่ วินาทีนั้นพลังดั้งเดิมขั้นส่องสวรรค์ระดับต้นก็พุ่งเข้าใส่ร่างอีกฝ่าย
ร่างสั่นเทาและแตกสลายโดยไม่มีการต่อต้านอันใด เปลี่ยนกลายเป็นควันสีดำและกำลังหลบหนี แต่สายเกินไปแล้ว
ด้วยระดับบ่มเพาะของหวังหลินยามโจมตีจากความโกรธเกรี้ยว เขาไม่เพียงแต่ทำลายร่างวิญญาณอาฆาตแต่ยังลงไปถึงระดับรากด้วย ขณะที่วิญญาณอาฆาตหลบหนีมันก็ระเบิดออกมาไม่เหลือซาก แรงไม่พอใจนั้นค่อยสลายไป
ทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตา จากมุมมองของวิญญาณอาฆาตตัวอื่น หวังหลินเพียงก้าวเท้า ยกแขนและพวกพ้องตัวเองถูกสังหารทันที เมื่อเห็นเช่นนี้สายตาแต่ละคนเผยความตื่นตระหนก
หลังฆ่าไปหนึ่ง แขนซ้ายหวังหลินกระแทกเข้าใส่ความว่างเปล่า แรงสั่นสะเทือนเหนือจินตนาการแตกออกมาและก่อตัวเป็นพายุ ขณะที่พายุกวาดไป วิญญาณอาฆาตอีกตัวถูกดึงเข้ามา ร่างกายแตกสลายและตายในทันที
ฆ่าสองคนในครั้งเดียว หวังหลินหันตัวกลับมา ดวงตาเต็มไปด้วยสายฟ้า หญิงคนสุดท้ายสั่นเทาพลางสายฟ้าปรากฏในร่างกายและระเบิดออก
หวังหลินก้าวเท้าไปบนอากาศ เคลื่อนตัวเข้าหาพระราชวังตรงเข้าไปในราชสำนัก
เขาเห็นทหารวังหลวงตรงลานจัตุรัสและลูกหลานตระกูลหวังในห้องโถงหลัก
เซียนอีกหลายคนอยู่ด้านข้าง แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารแต่ไม่มีใครกล้าโจมตี
พวกเขาไม่สามารถมองเห็นระดับบ่มเพาะของหวังหลินได้แต่ทั้งหมดรู้ดีว่าพวกเขาไม่สามารถสังหารศิษย์สามคนของอาจารย์ต่างแดนได้ง่ายๆ ซึ่งทำให้พวกเขากวาดกลัวผู้บุกรุกคนนี้เป็นอย่างยิ่ง
หวังหลินยืนเหนือลานจัตุรัส จ้องมองคนด้านล่างและเอ่ยอย่างเย็นชา “เยี่ยมมาก เจ้าทำได้เยี่ยมจริงๆ!” เขามองเห็นสมาชิกตระกูลหวังนับร้อย แต่ไม่ใช่ทั้งหมดในนี้
ท่ามกลางพวกเขา ส่วนใหญ่มีควันสีดำระหว่างคิ้ว ทว่าสิ่งที่น่าสนใจคือชายวัยกลางคนชุดคลุมมังกรไม่ได้มีควันสีดำระหว่างคิ้วด้วย
ส่วนสตรีด้านข้างเขา หมอกสีดำหายไปแล้ว ไม่มีสัญญาณการบ่มเพาะฝึกเซียนในตัวนาง ไม่ว่าจะมองอย่างไรนางก็คือคนธรรมดา
น้ำเสียงหวังหลินดังสะท้อนดุจสายลมฤดูหนาว ขณะที่ผ่านไปจึงทำให้ความคิดทุกคนสั่นเทา
เมื่อชายวัยกลางคนเห็นหวังหลิน เขาตกตะลึง สายตาเต็มไปด้วยความตกใจ ทว่าความตกใจถูกแทนที่ด้วยจิตสังหารทันทีและร้องตะโกน “ขอสั่งการจากตระกูลหวัง ฆ่าคนผู้นี้ซะ!”