903. ขจัดเวรกรรมทั้งหมด 3
บรรพชนโลหิตเป็นคนระมัดระวังตัวเอง เขาปลูกฝังผนึกควบคุมไว้กับศิษย์ทุกคน ดังนั้นร่างศิษย์สองคนจึงระเบิดกลายเป็นหมอกโลหิตพุ่งเข้าใส่หวังหลิน
ใช้โอกาสนี้หลบหนีด้วยความคิดอื้ออึง ความคิดเดียวตอนนี้คือต้องหนีเท่านั้น!
หนังศีรษะด้านชา จิตใจหวาดกลัว เขามีหนามแห่งหนึ่งในใจมาเสมอและหนามชิ้นนั้นคือตอนที่เขาไล่ล่าเซียนสตรีผู้หนึ่งใกล้กับชายแดนระหว่างทะเลปิศาจและแคว้นฮัวเฝิน เขาพบเซียนผู้น้อยคนหนึ่งช่วยชีวิตนางไว้ได้และหนีเข้าไปในทะเลปิศาจ
เดิมทีเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก แต่เมื่อเวลาผ่านเลยไปชื่อ “เซิ่งหนิว” ก็ดังมากขึ้น เขาสั่นเทาเมื่อจดจำได้ว่าเซิ่งหนิวคือเซียนน้อยที่ช่วยชีวิตสตรีคนนั้นได้และหลบหนีเข้าไปในทะเลปิศาจ!
สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงขึ้นไปอีกก็คือเหตุการณ์หลายอย่างติดตามมา เซิ่งหนิวเปล่งประกายระหว่างสงครามเผ่าละทิ้งอมตะและแคว้นซูซาคุ หลังจากนั้นเขาก็พบอีกว่าตำแหน่งซูซาคุคนปัจจุบันถูกเซิ่งหนิวยกให้โจวหวู่ไท่ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้เขาระมัดระวังมาก จนเมื่อหวังหลินออกไปจากดาวซูซาคุ ในที่สุดเขาก็ผ่อนคลายลง
ทว่าเขาไม่เคยคาดคิดจะมาเจอหวังหลินในวันนี้!
‘เขาไม่น่าจะจำข้าได้…’ ความคิดสั่นเทาแต่ก็หวังให้เกิดปาฏิหาริย์
“นั่นเจ้า!” หวังหลินกระพริบแสงเยือกเย็น ด้วยไหวพริบของเขาจึงมองเรื่องที่เกิดขึ้นออกได้ทันที คนที่เข้ามาฆ่าพี่ชายของลี่มู่หวานคนนี้ ความบาดหมางช่างคล้ายคลึงกับเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้น
แววตาหวังหลินกระพริบจิตสังหารวาบ โบกสะบักแขน หมอกโลหิตที่เกิดจากเซียนสองคนถูกผลักกลับไปหาชายชราทันที
ชายชราหวาดหวั่นและต้องการเคลื่อนที่พริบตา แต่สายเกินไปแล้ว เขาถูกหมอกโลหิตจับได้ทัน เสียงกรีดร้องดังออกมาจากภายใน หวังหลินโบกแขนขวา!
ตู้มมมมม!
ท้ายที่สุดโลหิตทั้งหมดก็สลายหายไปไม่เหลือสิ่งใด
ตั้งแต่ต้นจนจบ ลี่ฉีหลิงไม่ได้เงยศีรษะขึ้นมาเลย ราวกับไม่สนสิ่งใดรอบกาย ในสายตามีแต่เพียงลี่มู่หวานเท่านั้น
เวลาผ่านไปอีกสักพัก ลี่ฉีหลิงสูดลมหายใจลึกและโศกเศร้าหนัักกว่าเดิม เขามองลี่มู่หวานในโลงอย่างละเอียดราวกับต้องการสลักน้องสาวตัวเองไว้ในใจ จากนั้นยืนขึ้นเดินออกไปโดยไม่ได้มองหวังหลิน
เมื่อบรรพชนโลหิตตายลง เส้นสีแดงบนใบหน้าลี่ฉีหลิงจึงแตกสลาย
หวังหลินมองรูปร่างของลี่ฉีหลิงแต่ไม่ได้พูดสิ่งใด เขาเข้าใจความคิดอีกฝ่าย ท่าทีเฉยเมยของลี่ฉีหลิงนั่นหมายความว่าเขาไม่ต้องการผูกมัดอะไรกับหวังหลิน
หวังหลินถอนหายใจ เก็บโลงศพเลี่ยงสวรรค์ไว้ในกระเป๋าและลอยเหาะเหินเข้าไปในท้องฟ้า
‘เวรกรรมทั้งหมดจัดการไปแล้ว’ หวังหลินลอยตัวอยู่กลางอากาศ มองดาวซูซาคุเบื้องล่าง ดาวเคราะห์ดวงนี้ถือว่าเป็นดาวกึ่งร้าง พลังปราณอ่อนแอยิ่งนัก
‘โจวหวู่ไท่ เมื่อเจ้าคือซูซาคุ เช่นนั้นข้าจะใช้ดาวซูซาคุดวงนี้เพื่อให้เวรกรรมของข้าเสร็จสมบูรณ์พร้อมกับเจ้า!’ แววตาสงบนิ่ง ใต้ฝ่าเท้าปรากฏระลอกคลื่นและหายตัวไป
หวังหลินปรากฏร่างใกล้ๆกับดาวเคราะห์ร้างดวงหนึ่งในดาราจักรพันธมิตรเซียน ขณะมองดาวเคราะห์เบื้องหน้า หวังหลินยกแขนขวาขึ้นมา ใช้พลังขั้นส่องสวรรค์ระดับต้นโดยไม่ยั้งมือ ดวงตาส่องสว่าง แขนขวาขึ้นออกไปและดึงกลับมาอย่างรุนแรง!
ดาวเคราะห์สั่นเทารุนแรง วินาทีต่อมากลิ่นอายหนึ่งโผล่ออกมาจากดวงดาวราวกับแขนยักษ์ที่มองไม่เห็นดึงมันออก
แยกวิญญาณดวงดาว!
หวังหลินไม่ได้แยกออกมาทั้งหมดแต่เอามาแค่หนึ่งในสามส่วน แม้การเสียไปหนึ่งในสามจะส่งผลกระทบต่อดวงดาว มันไม่ได้รุนแรงนัก
ระหว่างทางหวังหลินก็แยกวิญญาณดาวเคราะห์ไปหลายดวง แม้จะมีระดับบ่มเพาะในปัจจุบันเขายังรู้สึกเหน็ดเหนื่อย น่าเสียดายที่เด็กหัวโตไม่สามารถผสานตัวเข้ากับโลกได้ ดังนั้นเขาจึงทำแบบนี้เพียงคนเดียว
หนึ่งวันต่อมา หวังหลินผสานตัวเข้ากับโลกถือดวงวิญญาณหลายดวงที่แยกออกมาและกลับสู่ดาวซูซาคุ
วินาทีที่เขาปรากฏตัวเหนือซูซาคุ กลิ่นอายโบราณโผล่ออกมาจากแขนขวา ในฝ่ามือมีดวงแสงเจ็ดดวง แต่ละดวงปลดปล่อยกลิ่นอายโบราณ
หลังสูดหายใจลึก หวังหลินใช้แขนซ้ายหยิบขึ้นมาหนึ่งดวงและสบัดมันออกไป ดวงแสงลอยด้วยความรวดเร็วและผสานเข้ากับดาวซูซาคุทันที
ดาวซูซาคุสั่นเทา ไม่ใช่ดาวเคราะห์ที่สั่นเทาแต่เป็นวิญญาณดวงดาวของมันเอง!
ณ ขณะนั้นสายแร่วิญญาณจำนวนมากปรากฏขึ้นในส่วนลึกของดาวซูซาคุ มันเริ่มค่อยๆฟื้นฟูพลังชีวิตของตัวเองจากสภาวะครึ่งขยะ
หวังหลินไม่หยุดแค่นั้น หยิบวิญญาณดวงที่สองขึ้นมาและสะบัดมันไป วิญญาณดาวซูซาคุสั่นสะท้านอีกครั้ง สายแร่วิญญาณเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ภูเขาที่คงอยู่แล้วพลันเต็มไปด้วยพลังปราณ
คนธรรมดาทั้งหมดเพียงรู้สึกถึงความร้อนออกมาจากพื้นดิน พวกเขารู้สึกสดชื่นและความเจ็บไข้ได้ป่วยทั้งหมดหายไป
หวังหลินส่งวิญญาณดวงที่สาม ดวงที่สี่และดวงที่ห้าเข้าไปในดาวเคราะห์ วินาทีนี้นั้นเสียงร้องฟินิกซ์ตัวหนึ่งซึ่งมีเพียงเซียนไม่กี่คนจะได้ยิน พลันดังออกมาจากดาวซูซาคุ
ราวกับซูซาคุฟื้นคืนพลังชีวิต ข้างในพื้นดิน พลังปราณปรากฏขึ้นมาอีกครั้งในสายแร่วิญญาณที่เหือดแห้ง วินาทีนั้นพลังปราณจำนวนมากบนดาซูซาคุบรรลุระดับขึ้นใหม่!
ไม่เพียงแค่นี้แต่เซียนทั้งหมดบนดาวต่างก็สัมผัสถึงพลังปราณกระตุ้นขึ้นมา แม้กระทั่งพลังปราณในร่างของตนยังกระตุ้นขึ้นมาด้วยตัวเอง
เมื่อสัมผัสถึงพลังปราณโดยรอบ หวังหลินโยนดวงแสงลูกที่หกเข้าไปในดาวซูซาคุ วินาทีนั้นภูเขาจำนวนมากเขียวชอุ่ม แม่น้ำใส่ขึ้นกว่าเดิม กลิ่นหอมๆออกมาจากดาว ระลอกพลังชีวิตกึกก้องไปทั่วดาวซูซาคุ
เมื่อดวงแสงสุดท้ายถูกโยนเข้าไป วิญญาณดาวซูซาคุสั่นเทาถึงขีดสุด กระทั่งพวกคนธรรมดากลับมีพรสวรรค์ฝึกฝนเซียนมากขึ้น
อีกทั้งพวกเซียนระดับต่ำนับไม่ถ้วนสามารถทะลวงผ่านคอขวดได้ทันทีเนื่องจากพลังปราณที่เพิ่มขึ้นมหาศาลบนดาวเคราะห์!
เซียนจำนวนมากจากหลายสำนักยกเลิกการทำงานทุกอย่างตัวเองและเริ่มจมดิ่งไปในการบ่มเพาะ พวกเขาดูดซับพลังปราณจากดาวเคราะห์อย่างบ้าคลั่ง
แม้ดาวซูซาคุไม่ได้มีคุณภาพระดับดาวชั้นยอด มันไม่ได้เป็นดาวกึ่งขยะอีกแล้ว พลังปราณบรรลุถึงจุดสูงสุดของมัน
โจวหวู่ไท่ยืนอยู่เหนือภูเขาซูซาคุ มองออกไปบนท้องฟ้าด้วยสายตาซับซ้อน เขาหายใจลึกและพึมพำ “ขอบคุณมาก น้องหวัง!”
ณ แคว้นซูซาคุเบื้องหน้าสำนักแห่งหนึ่ง เซียนชราใบหน้าคล้ายฮวงหลงยิ้มขึ้นมาและส่ายศีรษะ “การใช้วิญญาณดาวเจ็ดดวงเพื่อเติมเต็มพลังชีวิตหนึ่งดวงนับว่าไม่คุ้มค่านัก แต่อย่างไรเสียนี่ก็แสดงให้เห็นว่าเด็กคนนี้ใส่ใจแผ่นดินเกิดของตัวเองมากแค่ไหนซึ่งถือเป็นเรื่องดี ข้าไม่รู้ว่าเขาจะเลือกข้างไหนระหว่างดาราจักรทุกชั้นฟ้าและพันธมิตรเซียน”
หวังหลินมองแผ่นดินเบื้องหน้าก่อนจะก้าวเท้าและหายตัวไป ปรากฏตัวบนหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งแทบจะเหมือนเดิมตอนที่เขาจากไป
‘เวรกรรมจัดการหมดแล้ว ถึงเวลาที่จะจากไป…ก่อนออกไปข้าต้องไปสถานที่แห่งนั้นในเผ่าละทิ้งอมตะ โชคร้ายนักที่ข้ายังไม่สามารถหาทางเพิ่มพูนพลังต้นกำเนิดเทพในร่างได้…ไม่เช่นนั้นข้าคงเรียนไสยเวทย์ได้แล้ว’ หวังหลินมองออกไปไกลด้วยสายตาสงบนิ่ง
ในดาราจักรพันธมิตรเซียนมีระบบแยกออกมาซึ่งมีสิ่งก่อสร้างสีดำนับไม่ถ้วน สิ่งก่อสร้างทั้งหมดนี้มีรูปแบบแตกต่างกันออกไปและดูเหมือนกระบี่เล่มยักษ์แทงเข้าสู่ความว่างเปล่า
ตรงกลางเป็นหอคอยแห่งหนึ่งสูงนับหมื่นฟุต โซ่ตรวนสีดำทั้งหมดเหนือหอคอยกำลังเชื่อมต่อกับสิ่งก่อสร้างรอบๆ
พันธมิตรเซียนแบ่งออกเป็นสองสำนัก สี่อารามและแปดดินแดน ที่นี่คือดินแดนสังหาร!
ร่างภูติพรายหนึ่งปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า เคลื่อนไหวดุจสายฟ้าและมาถึงเหนือสิ่งก่อสร้างแห่งหนึ่ง ร่างนั้นคุกเข่าลงเผยเป็นชายชราผู้หนึ่ง เขาโค้งตัวเข้าหาหอคอยตรงกลางและเอ่ยขึ้น “พบร่องรอยซิ่วมู่ เทพสายฟ้าคนใหม่ของพวกเซียนทุกชั้นฟ้าแล้ว!”
“คู่หูล่าวิญญาณ จงนำหัวซิ่วมู่กลับมาให้ข้า! นี่จะเป็นของขวัญจากดินแดนสังหารให้กับพวกเซียนดาราจักรทุกชั้นฟ้า!” น้ำเสียงน่าขนลุกเย็นยะเยือกดังออกมาจากหอคอย