Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 952

Cover Renegade Immortal 1

952. เบาะแสของชำระสวรรค์

กระบี่เล่มนี้ยาวเจ็ดฟุตและกว้างสามนิ้ว ลำแสงเงินเรืองรองดุจแสงจันทรา ลอยในมือหวังหลินและร้องเสียงหึ่งๆ

หวังหลินใช้แขนขวาเข้าสัมผัสและประทับร่องรอยสัมผัสวิญญาณเอาไว้

กระบี่ยาวร้องหึ่งเสียงดัง จากนั้นปราณกระบี่พุ่งออกมาล้อมรอบหวังหลินเป็นวงกลม

‘มันเป็นกระบี่ที่ดีเยี่ยมจริงๆ!’ แววตาหวังหลินเต็มไปด้วยความสุข เขาลอยเข้าหากระบี่เล่มถัดไป เหล่าเซียนรอบด้านไม่มีทางหยุดหวังหลินได้ง่ายๆ วิชาไสยเวทย์อัญเชิญดวงวิญญาณออกมามากมายเพื่อต่อสู้กับพวกเขา ทั้งยังมีสายฟ้ามหาศาลตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

หวังหลินก้าวเท้าและยื่นมืออกไป กระบี่อีกเล่มถูกเขาจับไว้ในฝ่ามือและเริ่มดิ้นรนขัดขืนราวกับกำลังพยศในฝ่ามือหวังหลิน ขณะที่มันดิ้นรน ลำแสงกระบี่ก็พุ่งขึ้นไป

วินาทีนั้นกระบี่เหินที่เหลือเก้าเล่มต่างส่งเสียงร้องหึ่งๆและเพิ่มความเร็วขึ้น

พวกมันรวมกันเป็นกระบี่หนึ่งสายแทงเข้าใส่หวังหลิน

ในแววตาหวังหลินกระพริบเย็นเยียบ กระบี่ในฝ่ามือเริ่มดิ้นรนหนักขึ้น เขาพ่นลมหายใจเย็นและล้มเลิกระงับมันเอาไว้ ฝ่ามือซ้ายสร้างผนึกปรากฏกฏเกณฑ์ขึ้นมาร่อนลงใส่กระบี่ หลังจากกระบี่โดนผนึกเอาไว้หวังหลินก็โยนมันเข้าไปในกระเป๋า

วินาทีนี้กระบี่ที่ก่อขึ้นจากกระบี่เก้าเล่มก็เข้ามาใกล้ รอบด้านพวยพุ่งไปด้วยปราณกระบี่ทรงพลัง หวังหลินรู้สึกถึงสายลมเสียดแทงเข้าไปในร่างกายได้ทันทีและยังจมดิ่งเข้าไปในวิญญาณดั้งเดิมโดยตรง

เสี้ยววินาทีนี้สีแดงเข้มกระพริบออกมาจากดินแดนสังหารไกลๆ มันคือชายวัยกลางคนชุดแดงพุ่งออกมา

ร่างกายกระพริบวูบวาบเคลื่อนไหวดุจสายฟ้าเข้าสู่ใจกลางการต่อสู้ มือขวาเคลื่อนไหวไปมา ภายใต้การควบคุมของเขา ร่างสี่คนที่เกิดขึ้นจากน้ำเต้าพุ่งผ่านสิ่งกีดขวางทั้งหมดเข้าหาหวังหลิน

ชายวัยกลางคนติดตามด้านหลังไปอย่างใกล้ชิด พุ่งเข้าหาคล้ายจะเปลี่ยนกลายเป็นเมฆหมอกสีแดง

เขาซ่อนตัวมานาน รอคอยโอกาสโจมตี เขาไม่กล้าไปตอแยฉิงชุ่ยและหวาดกลัวซิ่วมู่เล็กน้อย เมื่อมองวงแหวนเหล่าเซียนตรงหน้าจึงเยาะเย้ยและคิดขึ้นมา ‘ดูเหมือนจ้าวเทพปิศาจจะมีความคิดแบบเดียวกับข้า อย่างไรเสียหากข้าอัญเชิญเหล่าเซียนขั้นส่องสวรรค์ทั้งหมดมา ข้าคงไม่ต้องหวาดกลัว’

ความคิดหวังหลินสั่นสะท้านและก้าวออกไปโดยไม่ลังเลข้ามผ่านกระบี่เก้าเล่มที่ผสานกลายเป็นหนึ่ง ฝ่ามือขวาสร้างผนึกและชี้ไปด้านหลัง “เรียกขานสายลม!”

สายลมทมิฬปรากฏขึ้นมาเปลี่ยนกลายเป็นมังกรดำสามตัว มันร้องคำรามและพุ่งออกไป สี่ร่างหญิงสาวพัวพันรอบมังกรดำหนึ่งตัว ในแววตาเยือกเย็นของมังกรมีร่องรอยความงุนงงสับสน

ทว่ามังกรดำอีกสองตัวไม่ได้หยุดชะงัก พุ่งเข้าใส่ควันสีแดงซึ่งชายวัยกลางคนสร้างขึ้น

เสียงหัวเราะดังออกมาจากหมอกสีแดงและสลายไป เปลี่ยนกลายเป็นชายวัยกลาง ดวงตาส่องประกายและเคลื่อนร่างดุตภาพมายา เขาข้ามผ่านระหว่างมังกรสองตัวโดยไม่คาดคิดและพุ่งเข้าหาหวังหลิน

“ซิ่วมู่ อย่าพยายามซ่อนระดับบ่มเพาะของเจ้าอีกเลย การไม่ได้รับอันตรายจากเหล่าเซียนขั้นมายาหยิน รูปธรรมหยางและขั้นส่องสวรรค์นั้น เจ้าต้องเป็นเซียนขั้นชำระสวรรค์!”

ดวงตาหวังหลินส่องสว่างชึ้น เขากำลังสงสัยว่าทำไมถึงไม่มีเซียนขั้นส่องสวรรค์ในดินแดนสังหารเลย แต่สัมผัสวิญญาณเขายังอยู่ในขั้นส่องสวรรค์ จึงไม่สามารถตรวจจับพวกเขาเหล่านั้นได้

อย่างไรก็ตามหลังจากเห็นชายวัยกลางคน หวังหลินสัมผัสถึงกลิ่นอายที่อ่อนแอกว่าพวกเซียนเฒ่าขั้นทลายสวรรค์แต่ก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าเซียนขั้นส่องสวรรค์!

“ขั้นชำระสวรรค์!” หวังหลินสูดหายใจลึก แววตาเต็มไปด้วยเจตนาต่อสู้ กล่าวให้ถูกก็คือนี่เป็นครั้งที่สองที่เขาเผชิญหน้ากับเซียนขั้นชำระสวรรค์ ครั้งแรกคือบรรพชนโลหิตและชายวัยกลางคนผู้นี้คือครั้งที่สอง!

‘กลิ่นอายเขาไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับของบรรพชนโลหิต ดังนั้นน่าจะเป็นขั้นชำระสวรรค์ระดับต้น!’

ขณะที่ชายวัยกลางคนเข้ามาใกล้ พลันโบกสะบัด กระบี่เก้าเล่มที่ผสานกลายเป็นหนึ่งพลันสั่นเทา หมุนวนรอบตัวเขาและปลดปล่อยเสียงหึ่งๆไม่ยอมแพ้

‘ใช้เขามาทดสอบความแข็งแกร่งที่แท้จริงของข้าดีกว่า!’ ดวงตาหวังหลินส่องประกายและไม่ล่าถอยอีกแล้ว ฝ่ามือขวากำหมัดและพุ่งตรงไปข้างหน้า

แม้สีหน้าชายวัยกลางคนจะสงบนิ่งแต่จิตใจกระวนกระวาย เขาไม่อาจมองคนตรงหน้าออกได้เลย มองผิวเผินซิ่วมู่คนนี้ก็คือเซียนขั้นส่องสวรรค์ระดับต้นเท่านั้น ความแตกต่างระหว่างเขาถือได้ว่าราวฟ้ากับเหว

อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าทำไมถึงกลัวซิ่วมู่ทันทีที่เห็น ราวกับมีกลิ่นอายทรงพลังที่ซิ่วมู่แพร่ออกมาจนเขาระแวง

‘เขาต้องซ่อนระดับบ่มเพาะแน่!’ ชายวัยกลางคนไม่ได้ประเมินหวังหลินต่ำเกินไปแต่คิดว่าหวังหลินเป็นคนที่มีระดับบ่มเพาะเท่าเทียมกับเขา แขนขวาสร้างผนึกและชี้ออกไป ละอองแสงนับไม่ถ้วนรวมกันในฝ่ามือ

‘การแยกพลังดั้งเดิม!’ รูม่านตาหวังหลินหดแคบ นอกเหนือจากการควบคุมกฏแล้ว เซียนขั้นชำระสวรรค์มีอีกความสามารถหนึ่งคือการแยกพลังดั้งเดิมจากโลกออกมาได้

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเหล่าเซียนขั้นชำระสวรรค์ถึงทรงพลัง ด้วยความสามารถในการแยกพลังดั้งเดิมจากโลกออกมาได้ พวกเขาจึงไม่เกรงกลัวว่าจะเสียพลังดั้งเดิมไปและสามารถใช้วิชาได้ทุกเมื่อ

ชายวัยกลางคนชี้นิ้วและร้องตะโกน “ทรายโดดเดี่ยว!” ละอองแสงรวมกันจากทุกทิศทางเปลี่ยนกลายเป็นทรายสีดำ มันไม่ใช่ทรายธรรมดาแต่เป็นทรายที่เกิดขึ้นมาจากวิชาที่ใช้พลังดั้งเดิม

ทรายทุกเม็ดบรรจุพลังดั้งเดิมจำนวนมาก ทั้งยังมีกฏเกณฑ์ทรงพลังอยู่ภายในด้วย

หวังหลินเคลื่อนเข้าหาพร้อมกำหมัดขวา ดวงดาวเทพโบราณภายใต้ดวงตาที่สามหมุนวนอย่างรวดเร็วจากนั้นเขาส่งหมัดออกไปอย่างรุนแรง!

เกิดการระเบิดสั่นสะเทือนสนั่น ขณะที่หวังหลินส่งกำปั้นนั้นออกไป พลันเกิดแขนเทพโบราณขนาดยักษ์ขึ้นมา ราวกับมันส่งกำปั้นออกไป

พลังอำนาจของเทพโบราณเข้าต่อกรกับพลังดั้งเดิมที่รวมกันด้วยเซียนขั้นชำระสวรรค์!

ทรายโดดเดี่ยวปกคลุมผืนโลก ขณะที่กำปั้นหวังหลินเข้าไปใกล้ ชายวัยกลางคนหัวเราะและร้องตะโกน “มายากลายเป็นจริง!”

ทรายมากมายรวมตัวกัน วินาทีที่หมัดของหวังหลินเข้าไปถึงมันจึงก่อตัวกลายเป็นหมัดขนาดเดียวกับของหวังหลิน

นี่คือวิชาของชายตัวประกอบ!

“กฏที่ข้ารู้แจ้งคือกฏแห่งมายา!” ชายตัวประกอบโบกสะบัดฝ่ามือ กำปั้นยักษ์ที่ก่อขึ้นจากผืนทรายพลันกระแทกเข้ากับกำปั้นของหวังหลิน

ดินแดนสังหารเกิดเสียงดังสะท้อนหวั่นไหว พายุแพร่กระจายออกไปทั่วทุกที่ เซียนบางส่วนไม่อาจหลบหนีได้เร็วพอจึงโดนพายุลากไป กรีดร้องเสียงโหยหวนเปลี่ยนกลายเป็นหมอกโลหิตและกลายเป็นส่วนหนึ่งของพายุไปเสีย

ใจกลางพายุ กำปั้นยักษ์จากชายตัวประกอบแตกสลายกลายเป็นทรายและโดนเป่ากระเด็น

ร่างหวังหลินสั่นงึกเช่นเดียวกัน ท่อนแขนขวาด้านชา ตามมาด้วยความเจ็บปวดพุ่งพรวด ร่างกายถอยกลับไปหลายก้าวด้วยแรงกระแทก

‘นี่มันเซียนขั้นชำระสวรรค์!’ ดวงตาหวังหลินเย็นเยียบ

ชายตัวประกอบยิ่งมั่นใจว่าซิ่วมู่ซ่อนระดับบ่มเพาะของตัวเอง หากซิ่วมู่เป็นเซียนขั้นส่องสวรรค์จริงๆ ไม่มีทางที่จะต่อต้านมายาจริงของเขาได้

ชายตัวประกอบตีฝ่ามือเบื้องหน้า พลังดั้งเดิมในร่างพรั่งพรู ดินทรายที่ถูกผลักกลับไปพลันรวมตัวอีกครั้งก่อตัวเป็นกระเรียนทรายยักษ์ มันร้องเสียงสนั่นสวรรค์พุ่งเข้าใส่หวังหลินที่กำลังถอย

ชั่วขณะนั้นแสงสีขาวโผล่ออกมาจากพื้นดิน ชายชราชุดเขียวปรากฏตัวขึ้นมาเลียริมฝีปาก พุ่งออกไปพร้อมดวงตาส่องสว่าง

‘เหตุผลที่ข้ายอมแพ้ต่อการอัญเชิญของพันธมิตรเซียนและซ่อนตัวมานานขนาดนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ปกติแล้วหากมีฉิงชุ่ยอยู่ที่นี่ข้าคงไม่ต้องเผยตนเองภายใต้สถานการณ์เช่นนี้และคงหาโอกาสหลบหนี แต่ด้วยการที่จ้าวมายากำลังต่อสู้กับซิ่วมู่ ยิ่งมอบโอกาสให้ข้า จ้าวเทพปิศาจ ได้คุณงามความดี!’

ชายชราผู้อ้างตนเองเป็นจ้าวเทพปิศาจพุ่งเข้าหาหวังหลินอย่างรวดเร็ว ขณะหวังหลินล่าถอย ดวงตาเผยแสงชั่วร้าย ฝ่ามือสร้างผนึกควบแน่นเปลวเพลิงสีเขียวสองสายในฝ่ามือ

ชายชราระมัดระวังตัวอย่างยิ่งตลอดช่วงชีวิตและไม่เคยทำอะไรที่ตัวเองไม่มั่นใจ เช่นเดียวกับที่อยู่ในดินแดนสังหาร

ตอนที่อยู่บนดาวเคราะห์เซียน เขาใช้เวลาหลายพันปีสังหารเหล่าเซียนมากมาย ขโมยทั้งเม็ดยาและสมบัติ แม้หลังจากเขาจากไปแล้วก็ยังไม่มีใครรู้สิ่งที่เขาทำลงไปทั้งหมด

ในดินแดนสังหาร ความระมัดระวังของตัวเองก็พุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุด จังหวะเวลาคราวนี้เป็นช่วงประจวบเหมาะที่สุด! พริบตานั้นชายชราก็เข้าใกล้หวังหลิน

เขาไม่กลัวหวังหลินจะตรวจสอบเจอเขา พลังดั้งเดิมพุ่งพรวดขณะพุ่งไปข้างหน้า ทำให้รอบด้านสั่นเทาและบิดเบี้ยว

‘ข้าอยากจะเห็นจริงๆว่าเจ้าจะใช้บิดมิติได้อย่างไร!’ ในแววตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร ร่างกายดุจลูกธนูและแกว่งแขน

ทว่าในจังหวะนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงสั่นสะเทือนขึ้น!

เสียงกรีดร้องโหยหวนดังออกมาจากหมอกสีม่วง จากนั้นร่างสีม่วงเจ็ดคนหล่นลงมาจากฟากฟ้า เจ็ดร่างแตกสลายทีละคนจนกระทั่งเหลือเพียงคนเดียว!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version