991. กลับมาเจอกันใหม่ 1

ซือถูหนานมองดาวเคราะห์สีฟ้าคราม แผ่กระจายสัมผัสวิญญาณออกไปข้างหน้าดุจพายุพุ่งกวาดผ่านไป

ระดับบ่มเพาะขั้นชำระสวรรค์ของซือถูทำให้สัมผัสวิญญาณเขาแหลมคมยิ่ง เพิ่มเติมกับความโอหังและเขตแดนอันชั่วร้าย ทำให้เขามีพลังอำนาจไร้ขีดจำกัด

ขณะกวาดผ่านดาวเคราะห์ ทั้งดวงดาวสั่นเทาราวกับมีมือยักษ์หนึ่งคู่กำลังเล่นไปมา เสียงดังสนั่นหวั่นไหวออกมาจากพื้นและท้องฟ้าพลันเปลี่ยนสี!

สามพี่น้องเฉินกำลังบ่มเพาะอยู่พลันลืมตาขึ้นและเผยสีหน้ามืดมน ทั้งสามคนหายตัวไปในเวลาเดียวกันและปรากฏตัวกลางอากาศ

ทว่าสัมผัสวิญญาณนี้แข็งแกร่งเกินไป ชั่ววินาทีที่ทั้งสามคนปรากฏ พวกเขาก็ต้องถอยไปหลายพันฟุตและใช้พลังเต็มที่ต่อต้านเพื่อให้ตนเองยืนอย่างมั่นคง

หัวโตและเล่ยจีรู้สึกถึงสัมผัสวิญญาณนี้ได้เช่นกัน ระดับบ่มเพาะของเล่ยจีไม่ได้สูงส่งเพียงพอดังนั้นจึงกระอักโลหิตออกมาตรงๆ ทว่าเขาไม่ได้กลัวอันใดเลยแต่แค่เพียงรู้สึกมืดมน

หัวโตต่อต้านแรงกระทบของสัมผัสวิญญาณและมาถึงใกล้กับตำหนักหวังหลิน เขาปกป้องตำหนักหวังหลินไปพร้อมกับต้าซาน

ส่วนเซียนรุ่นเยาว์นั้นต่างหน้าซีดกันหมด คนที่บาดเจ็บเล็กน้อยจะกระอักโลหิต และคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจะสลบไป มีแค่เพียงจ้าวเฉว่และหลิงเอ๋อที่มีสมบัติปกป้องจึงจะสามารถทนไหว

สัมผัสวิญญาณอันโอหังยิ่งนี้แผ่กระจายไปถึงตำหนักที่หวังหลินอยู่ด้วย แต่หวังหลินกำลังปรับแต่งร่างศพสตรีและถึงจุดสำคัญยิ่ง

สัมผัสวิญญาณของหวังหลินแทบจะเชื่อมต่อกับร่างศพสตรีอย่างสมบูรณ์ ร่างศพสตรีเป็นถึงระดับขั้นชำระสวรรค์ เว้นแต่จะมีคนที่มีระดับสูงกว่านั้นถึงจะเห็นตัวตนที่แท้จริงของร่างศพ

สัมผัสวิญญาณหยุดชะงักหนึ่งจังหวะและจากนั้นกวาดผ่านไป จ้าวสายลมหวนดวงตาส่องประกายและขมวดคิ้ว ขณะที่สัมผัสวิญญาณแพรร่กระจาย ดวงตาเผยแสงดำมืด เขาสร้างผนึกและชี้ไปข้างหน้า

สัมผัสวิญญาณรวมกันดุจพายุพร้อมกับเสียงหัวเราะและล่าถอย

“อารมณ์ข้ากำลังดีเยี่ยม ดังนั้นข้าจะมอบโอกาสให้เจ้า จงส่งสตรีรากวิญญาณวารีและสาวน้อยจ้าวเฉว่มา ข้าไม่คิดจริงๆว่าพวกเจ้าสองเซียนครึ่งตายขั้นชำระสวรรค์จะเป็นภัยคุกคาม” น้ำเสียงแหบดังไปทั่วดาวดุจเสียงสายฟ้าคำราม แพร่กระจายไปทุกส่วนของดาววิญญาณวารีอย่างรวดเร็ว

น้ำเสียงนี้แฝงวิชาหนึ่งเอาไว้พร้อมกับระดับบ่มเพาะขั้นชำระสวรรค์ของซือถูหนาน เพียงแค่ฟังก็ทำให้สามพี่น้องเฉินกระอักโลหิตและล่าถอยอีกครั้ง

ปรมาจารย์ยี่เฉินสีหน้าท่าทางรุนแรง พลางร้องตะโกน “กระตุ้นค่ายกลป้องกันดวงดาว!” ไม่นานที่เขาเอ่ยจบ พลันสัมผัสกระเป๋าและป้ายสิทธิ์สีดำลอยออกมา

ขณะเดียวกันยี่ชิงและยี่หลงก็นำออกมาด้วยเช่นเดียวกัน

ทั้งสามคนยกป้ายสิทธิ์ของตัวเองขึ้นในเวลาเดียวกัน หนึ่งในนั้นแตกสลายเปลี่ยนกลายเป็นระลอกคลื่นสีดำกระจายออกมา เพียงแค่พริบตาเดียวมันก็ล้อมรอบทั้งดวงดาว

ขณะที่ป้ายสิทธิ์แรกแตกกระจาย ที่เหลืออีกสองชิ้นก็แตกกระจายไปด้วย จากนั้นระลอกคลื่นอีกสองแพร่ไปทั่วดวงดาว วินาทีนั้นระลอกคลื่นสามชั้นปกปักษ์รักษาดาวเคราะห์วิญญาณวารีอย่างเหนียวแน่น!

ปรมาจารย์ยี่เฉินหน้าซีด เขาไม่มั่นใจว่าม่านพลังสามชั้นนี้จะต้านทานอีกฝ่ายได้แต่ก็ไม่ได้ตื่นตระหนก พลันเยาะเย้ยในใจ ‘มีพี่หวังอยู่ที่นี่ ข้าอยากเห็นว่าเจ้าจะแกล้งดาววิญญาณวารีได้อย่างไร!’

“โอ้?” เมื่อซือถูหนานเห็นม่านแสงสามชั้น แววตากระพริยเย็นเยียบ ตอนที่เขาแพร่กระจายสัมผัสวิญญาณเข้าไปในดาว เขาสังเกตได้ว่ามีเซียนขั้นชำระสวรรค์ระดับต้นได้ทันที

สองเซียนขั้นชำระสวรรค์นี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่กระนั้นพวกเขาก็ไม่ได้สนใจและซือถูหนานก็ไม่สนด้วย เขาหัวเราะ จากนั้นหายวับไปจากเตียงยักษ์ ปรากฏตัวนอกดาววิญญาณวารี

“ต่อต้านถือเป็นเรื่องดี ยิ่งเจ้าต่อต้าน ข้าก็ยิ่งตื่นเต้น บัดซบ คราวนี้ข้ามาเอานางบำเรอไปให้น้องชาย ไม่ใช่เพื่อตัวข้าเอง ความตายจะยืนอยู่ฝั่งข้า!”

ซือถูหนานดวงตาประกายแสงประหลาดพลางเข้าไปใกล้ดาววิญญาณวารี จากนั้นใช้นิ้วชี้ออกไปข้างหน้า!

“ทำลายล้าง!”

วังวนปรากฏขึ้นบนนิ้วซือถูหนาน เสียงระเบิดดังสนั่นออกมาจากในวังวน พลังดั้งเดิมไร้ก้นบึ้งควบแน่นในวังวนทำให้มันหมุนเร็วยิ่งขึ้น ท้ายที่สุดแล้วมันก็มีความเร็วเหนือจินตนาการจนดูเหมือนไม่หมุน

‘ล่าสุดที่ข้าเข้าไปปิดด่านฝึกตน ข้าปรับแต่งดัชนีแห่งความตาย ดัชนีมารและดัชนีนรก อีกทั้งข้าก็เพิ่มเคล็ดดัชนีอีกสามวิชาขึ้นมาอีก ข้าสามารถทำลายค่ายกลป้องกันดวงดาวนี้ในเวลาแค่ไม่กี่ลมหายใจ!’ ซือถูหนานดวงตาส่องสว่าง

วังวนลอยเข้าหาค่ายกลรอบดาวอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตามันก็กระแทกเข้าใส่ชั้นแรกอย่างจัง

วังวนปะทะกับม่านแสงสีดำจนเกิดเสียงดังสะท้อนสั่นสะเทือนสวรรค์ คลื่นกระแทกแผ่กระจายใส่ทุกคนอย่างรุนแรง ซือถูหนานไม่ได้รับผลกระทบแต่เซียนสตรีด้านหลังทั้งหมดต้องล่าถอย

ระลอกคลื่นชั้นแรกสั่นอย่างรุนแรงและระเบิด! จากนั้นเกิดพายุรุนแรงขึ้นมาร่อนลงใส่ชั้นที่สอง

เพียงชั่ววินาทีนั้นซือถูหนานชี้เข้าไปอีกและร้องตะโกน “หนึ่งดัชนีชี้ใส่สวรรค์ โลกและจักรวาลจงเงียบ!”

เพียงชี้นิ้ว วังวนขนาดใหญ่กว่าปรากฏ พลังดั้งเดิมในโลกรวมกันอย่างบ้าคลั่งราวกับมันกลายเป็นหลุมดำที่ดูดซับพลังทั้งหมดในโลก

พริบตาเดียววังวนก็มีขนาดกว้างร้อยฟุต ขณะที่มันหมุนวน ลำแสงโค้งอยู่ภายในก่อเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น

ซือถูหนานเผยแววตาแสงลึกลับ “เปลี่ยนการทำลายล้าง!”

การระเบิดในวังวนพุ่งขึ้นถึงขีดสุด แสงข้างในเส้นโค้งรุนแรงมากขึ้น ทว่าทั้งหมดมีความสำคัญเป็นรอง ส่วนสำคัญที่สุดคือพลังดั้งเดิมข้างในวังวนพุ่งผ่านไปเกิดการเปลี่ยนแปลงน่าตกตะลึง!

เซียนชั้นชำระสวรรค์สามารรถดูดซับพลังดั้งเดิมจากโลกและฉีดเข้าใส่วิญญาณตนเองได้ ทำให้การโจมตีแต่ละคนทรรงพลังยิ่งกว่าเซียนขั้นส่องสวรรค์

อย่างไรก็ตามมันก็ถือว่าเป็นกรรมวิธีที่ด้อยค่าที่สุดเนื่องจากมันง่ายเพียงแค่ดูดซับและควบแน่น!

แต่หากเข้าใจกฏ ก็จะสามารถใช้การรเปลี่ยนแปลงไปเป็นดูดซับและควบแน่นได้!

ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงลักษณะของพลังดั้งเดิมที่ดูดซับและควบแน่นไปเรื่อยๆจนกระทั่งเปลี่ยนกลายเป็นพลังลึกลับที่เซียนขั้นชำระสวรรค์เรียกกันว่า “พลังแห่งกฏ!”

ความจริงแล้ววิชาที่หวังหลินสร้างขึ้นมาด้วยตัวเองก็มีพลังแห่งกฏ! พลังแห่งกฏเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งในเหล่าเซียนขั้นชำระสวรรค์ ซึ่งทำให้จ้าวสายลมหวนตกตะลึงยิ่งไปอีก!

ซือถูนานรร้องตะโกน วังวนร้อยฟุตเบื้องหน้าควบแน่นจนกระทั่งเหลือเพียงขนาดเท่าฝ่ามือและจึงค่อยเข้าไปใส่ค่ายกลปกป้องดาวอย่างตรงๆ

“ทำลายให้ข้าซะ!” ซือถูหนานก้าวเข้าหาวังวน

วังวนเข้าไปใกล้ทันทีอย่างรวดเร็ว ม่านชั้นที่สองสั่นไหวและเมื่อวังวนเข้าสัมผัส ม่านชั้นสองก็บิดเบี้ยวอย่างคาดไม่ถึงและถูกวังวนดูดซับเข้าไปอย่างไร้การต่อต้าน

วังวนไม่หยุดแค่นั้นและตรงเข้าใส่ระลอกคลื่นสีดำชั้นสุดท้าย

จังหวะที่มันสัมผัสม่านพลังชั้นสุดท้าย ม่านแตกสลาย ค่ายกลป้องกันดวงดาวถึงสามชั้นจึงแตกสลายไปเช่นนี้เอง

วังวนพุ่งเข้าใส่ดาววิญญาณวารี ซือถูหนานตะโกน “ข้ามาที่นี่เพื่อหาเตาหลอมเซียนสตรีให้น้องชาย ข้าจะทำลายทุกคนที่กล้าหยุดข้า!”

วินาทีที่ซือถูหนานและวังวนปรากฏเหนือดาววิญญาณวารี สามพี่น้องเฉินกระอักโลหิตอีกครั้ง ค่ายป้องกันดวงดาวถูกเชื่อมกับพวกเขา ดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะล่าถอย

ด้านหลังซือถูหนาน เหล่าเซียนสตรีแห่งตำหนักชมพูติดตามไปอย่างรวดเร็วและเต็มทั่วท้องฟ้า กลิ่นหอมที่พวกนางปลดปล่อยออกมาเพียงพอจะให้ผู้คนหลงระเริง ชายวัยกลางคนชุดฟ้าก็มาถึงเช่นเดียวกัน เขามองสามพี่น้องเฉินอย่างตื่นเต้น ‘แม้เจ้าพวกสามเฒ่ามีชีวิตได้จนตอนนี้!’

ปรมาจารย์ยี่เฉินใบหน้ามืดมนพลางจ้องซือถูหานาน “สหายเซียนมีระดับบ่มเพาะอันน่าอัศจรรย์ ข้าเดาว่าเจ้าไม่ใช่คนไร้ชื่อ!”

ซือถูหนานจ้องมองและหัวเราะ

“สหายเซียนซือถูมีระดับบ่มเพาะน่าอัศจรรย์เช่นนี้ ทำไมถึงบังคับพวกเรากันเล่า? ยิ่งไปกว่านั้นหลิงเอ๋อและจ้าวเฉว่ก็เป็นเพียงผู้นั้น โปรดปล่อยพวกนางไป แล้วเราเหล่าเฉินจะชดเชยให้”

ซือถูหนานส่ายศีรษะ “ข้ามีสตรีสาวและเตาหลอมเซียนมากมายก่ายกอง ข้าไม่ได้สนใจผู้น้อยของเจ้า แต่น้องชายข้ายังหนุ่มยังแน่น ดูสิ…เพียงแค่อายุพันปี เขายังหนุ่มมาก สบายใจได้น้องชายข้าเป็นคนหล่อเหลายิ่ง สองผู้น้อยของเจ้าอาจจะไม่ทำให้น้องชายข้าสนใจ อย่าเสียเวลาเลย นำพวกนางออกมาหรือไม่ข้าก็จะฆ่าพวกเจ้าทั้งหมดและพานางไป!”

“ผู้อาวุโส จ้าวเฉว่สามารถไปกับท่านได้แต่ได้โปรดเว้นน้องสาวข้าเถิด!” ห่างออกไปไกล สองลำแสงมาถึงและเผยตัวเองเป็นสตรีสองคน หนึ่งในนั้นคือจ้าวเฉว่ และด้านข้างคือหลิงเอ๋อที่มีท่าทีสงบนิ่งอย่างสิ้นเชิง

ซือถูหนานหรี่สายตากวาดผ่านจ้าวเฉว่และยกย่องนางอยู่ในใจ ข่าวลือบอกว่าจ้าวเฉว่คนนี้เป็นคนน่ารักเยือกเย็นและเป็นวัตถุดิบดีพอจะเป็นนางน้อย

จากนั้นมองหลิงเอ๋อที่อยู่ข้างจ้าวเฉว่ ดวงตาเรืองแสงประหลาดลี้ลับ

‘นางมีรากวิญญาณวารีจริงๆ!’

จ้าวเฉว่ไม่แม้แต่กระทั่งมองชายวัยกลางคนใกล้ซือถูหนาน ท่าทางโอหังและเยือกเย็นอย่างเห็นได้ชัด

ซือถูหนานขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจคำพูดของจ้าวเฉว่ เพียงแค่โบกแขนเสื้อ สายลมรุนแรงพัดพาจ้าวเฉว่และหลิงเอ๋อทันที “ข้าจะพาเจ้าสองคนไปด้วย!”