999. ความเกลียดของเหยาซีเชว่ 2
ณ ขณะนี้หวังหลินเดินออกมาจากวังวนกลางท้องฟ้า พลันมองแคว้นปิศาจวายุตรงหน้าด้วยความคิดสั่นเทา เขารู้สึกถึงความเคียดแค้นมหาศาลส่งตรงเข้ามาหาอย่างเลือนลาง
เป็นความรู้สึกเพียงชั่วครู่เดียวก่อนที่มันจะหายวับไปราวกับไม่เคยมีมาก่อน ด้านหลังเขามีซือถูหนานและพรรคพวกพึ่งปรากฏตัวลอยอยู่กลางอากาศและมองลงด้านล่าง
นอกจากจ้าวสายลมหวนแล้ว สำหรับคนอื่นนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขามาที่นี่ แม้สามพี่น้องเฉินจะอยู่ในแคว้นระดับเจ็ด ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ไม่ได้สนใจดินแดนวิญญาณปิศาจ
เมื่อมาถึงก็อดไม่ได้ที่จะมองไปรอบๆ
หลังจากกลับมายังสถานที่อันคุ้นเคย หวังหลินรู้สึกเศร้าใจ ความคิดแรกไม่ได้จะไปหาถ้ำเทพแต่เพื่อตรวจสอบเผ่าหลอมวิญญาณ ตอนนั้นเขาต้องรีบหลบหนี พอมาคิดถึงตอนนี้จึงรู้สึกเสียใจ
“เผ่าหลอมวิญญาณถูกสร้างขึ้นเพื่อเติมเต็มความต้องการสุดท้ายของอาจารย์ตุ้นเทียน สงสัยว่ามันยังอยู่ดีหรือไม่ ทั้งยังฉือซานด้วย” หวังหลินไม่ลืมฉือซานผู้ซื่อสัตย์ที่ติดตามเขา
ในชีวิตเขาพบเจอคนที่ซื่อสัตย์เพียงคนเดียวเท่านั้นคือฉือซาน พอคิดถึงฉือซาน อีกคนหนึ่งก็ปรากฏในความคิด
ฮัวเป่า!
ความภักดีของฉือซานและการทรยศของฮัวเป่ากลายเป็นสองขั้วที่สลักไว้ในใจหวังหลิน
หวังหลินไม่อาจลืมเลือนตอนที่เขาเข่นฆ่าสังหารเข้าไปในกองทัพของเมืองแม่ทัพปิศาจที่มีทหารมากกว่าแสนคนเพื่อช่วยสองคนนั้น! ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าฮัวเป่าทรยศเขาไปแล้วแต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นหวังหลินก็ยังทำอยู่ดี
หวังหลินไม่ลืมว่าพูดอะไรไปในวันนี้ขณะที่มองท้องฟ้าราวกับพยายามยืนยันเต๋าของตนเอง!
“มีหลายสิ่งในโลกนี้ที่มีความหมายและบางส่วนก็ไม่มีความหมาย เหล่าเซียนค้นหาความเป็นอมตะและหลบหนีจากโชคชะตา โดยปกติจะหลีกเลี่ยงภัยพิบัติและต้อนรับสวรรค์! ฉือซานและฮัวเป่าไม่มีความสัมพันธ์อันใดกับข้า ข้าสู้กับแม่ทัพปิศาจ นั่นหมายความว่าข้าสู้กับแคว้นปิศาจ!”
“ไม่คู่ควรให้คนพวกนั้นสนใจแต่ผลประโยชน์! ข้าไม่ใช่สุภาพบุรุษหรืออันธพาล ข้าไม่ใช่คนจริงใจหรือหลอกลวง เพียงแต่มีบางอย่างในโลกนี้ที่ข้าต้องทำ!”
“อย่างไรก็ตาม ข้าหวังหลินเดินภายในโลกนี้ไม่ได้เพื่อตามทางเต๋าแห่งสวรรค์ ข้าพยายามไม่ให้ตัวเองเสียใจ”
“จากมุมมองนี้ ข้าไม่เหมาะที่จะเป็นเซียน!”
“แต่มีบางอย่างที่ข้าต้องทำ! หากข้าไม่ช่วยฉือซาน เช่นนั้นข้ากำลังค้นหาเต๋าไปเพื่ออะไร?”
หวังหลินถอนหายใจพลางมองโลกอันคุ้นเคย เขาตบกระเป๋านำเข็มทิศขนาดเท่าฝ่ามือออกมา มันคือของที่จำเป้นในการเข้าไปในถ้ำที่สี่
หลังจากส่งของสิ่งนี้ให้ซือถูหนานและอธิบายรายละเอียดเพื่อปลดปล่อยกฏเกณฑ์บางอย่าง ซือถูหนานก็มองหวังหลิน เขาเข้าใจหวังหลินพอจนรู้ว่าหวังหลินกำลังจะไปพบสหายเก่า
ซึ่งทำให้เขาไม่อยากเสียเวลาอันใด ด้วยระดับบ่มเพาะของเขา จ้าวสายลมหวน สตรีชุดเงิน สามพี่น้องเฉินและหัวโต การทำลายกฏเกณฑ์พวกนั้นคงไม่ใช่เรื่องยาก!
สิ่งที่ยากจริงๆคงจะอยู่ที่กฏเกณฑ์สุดท้าย
ซือถูหนานเปิดทางตามวิธีของหวังหลิน พวกเขาหายตัวไปและเข้าสู่ถ้ำเทพเพื่อเริ่มการทำลายกฏเกณฑ์
ข้างในถ้ำเทพมีกฏเกณฑ์อยู่นับไม่ถ้วน มีเพียงการทำลายทั้งหมดเท่านั้นจึงจะเข้าสู่แกนกลางได้และนั่นคือเป้าหมาย!
ไม่เหมือนเทียนหยุนและหลิงเทียนโฮวที่ทำลายกฏเกณฑ์ทั้งหมดนั้นไปแล้ว กระบวนการของหวังหลินจึงขาดแคลนอยู่บ้าง
ยิ่งไปกว่านั้นหวังหลินยังมีป้ายสิทธิ์เข้าถ้ำอยู่ในมือ ตราบใดที่เขาอยู่ในดินแดนวิญญาณปิศาจ เขาก็สามารถเข้าสู่ถ้ำเทพได้เวลาไหนก็ได้
ด้วยระดับบ่มเพาะในปัจจุบัน เขาเพียงแค่ต้องเปลี่ยนอะไรเล็กน้อยกับป้ายสิทธิ์เพื่อให้ซือถูหนานและพรรคพวกไม่โดนวิญญาณถ้ำโจมตี
หลังจากแก้ไขปัญหานี้ หวังหลินขบคิดเล็กน้อยจากนั้นค่อยๆแพร่กระจายสัมผัสวิญญาณออกมา ด้วยระดับบ่มเพาะขั้นส่องสวรรค์ เขาสามารถปกคลุมทั้งดินแดนวิญญาณปิศาจได้ง่ายๆ!
ขณะที่หวังหลินแพร่กระจายสัมผัสวิญญาณ สัมผัสวิญญาณเขาที่อยู่ในรูปปั้นหินสีดำซึ่งกำลังถูกเผ่าหลอมวิญญาณสักการะพลันปลดปล่อยแสงสีดำ แสงสีดำนี้เต็มไปด้ววยความหนาวเหน็บเยือกเย็นและมีพลังลึกลับพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า พอจับกับสัมผัสวิญญาณหวังหลินก็ผสานเข้าด้วยกัน
แสงสีดำจากรูปปั้นค่อยๆรุนแรงขึ้นจนกระทั่งปกคลุมน่าฟ้าแคว้นปิศาจอัคคีไปครึ่งนึง สมาชิกเผ่าหลอมวิญญาณจ้องมองรูปปั้นบรรพชนอย่างตกตะลึง
ไม่รู้ว่าใครตอบสนองเป็นคนแรก แต่หลายคนคุกเข่าลงบนพื้นทันที จากนั้นสมาชิกเผ่าหลอมวิญญาณทั้งหมดก็คุกเข่าลงด้วยสายตาตื่นเต้น
“วิญญาณบรรพชนสำแดงเดช! วิญญาณบรรพชนสำแดงเดช!” เสียงร้องแพร่กระจายดังกึกก้องไปทั่วเมือง
โฮวหยางฮัวมองด้วยความไม่เชื่อและพลางมองฉือซาน ตอนนี้ฉือซานสั่นสะท้านมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความรู้สึกเลือนลาง
“บรรพชนกลับมาแล้ว!!”
โอวหยางฮัวสูดหายใจลึก แววตาปิติยินดี เขาเคารพหวังหลินจากก้นบึ้งหัวใจ แต่ยิ่งกว่าเคารพยังมีความหวาดกลัวด้วย ถึงแม้เผ่าหลอมวิญญาณจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เขาก็ยังไม่กล้าทรยศเลย
หวังหลินดวงตาส่องสว่างเจิดจ้าและเผยแสงประหลาด เขาเห็นเผ่าหลอมวิญญาณด้วยสัมผัสวิญญาณของตนเองและพบว่ามันขยายออกไปมหาศาล
นี่ไม่สำคัญ สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่เชื่อก็คือพลังลึกลับที่พึ่งผสานเข้ากับสัมผัสวิญญาณของเขานั่น หวังหลินบ่มเพาะมามากกว่าพันปีและเผชิญกับพลังหลายรูปแบบแตกต่างกัน แต่เขาไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน
หวังหลินบอดไม่ได้ว่ามันเป็นความรู้สึกแบบไหน แต่วินาทีที่พลังลึกลับนั่นผสานเข้ากับเขา หวังหลินสัมผัสถึงรูปภาพนับไม่ถ้วนกระพริบผ่านความคิด
มันคือรูปภาพทุกรูปที่มีการสักการะรูปปั้นเผ่าหลอมวิญญาณโดยไม่มีข้อยกเว้น ทุกคนเต็มไปด้วยความคลั่งไคล้เหนือจินตนาการ ราวกับตราบใดที่รูปปั้นมีคำสั่ง ไม่ว่าจะจ่ายอะไรหรือต้องสูญเสียชีวิต พวกเขาก็จะไม่มีวันเสียใจ
ความบ้าดีเดือดแบบนี้เคลื่อนเข้าหาหวังหลิน
การสักการะของสมาชิกเผ่าหลายล้านคนต่อรูปปั้นหินในช่วงเวลาหลายร้อยปีได้สร้างพลังประหลาดที่แม้แต่หวังหลินก็ไม่เข้าใจ
หวังหลินขบคิดพลันก้าวเท้าและหายตัวไป ปรากฏตัวอีกครั้งเหนือเมืองหลวงของแคว้นปิศาจอัคคี พอยืนอยู่ที่นี่เขาจึงเห็นฉากเหตุการณ์ของคนหลายล้านกำลังคุกเข่า!
การพูดคุยของคนหลายล้านอาจจะทำให้เกิดเสียงดูไม่มาก แต่เขาเห็นทะเลผู้คนมากมายบนพื้นดิน พร้อมกับผืนธงปักอยู่ทุกที่พัดกระพือในสายลมพร้อมทั้งเสียงกรีดร้องของดวงวิญญาณเต็มไปทั่วโลก
เมื่อหวังหลินปรากฏตัว ดวงวิญญาณทั้งหมดกรีดร้องเสียงแหลมราวกับเผชิญหน้านายเหนือหัวที่แท้จริง!
ร่างโอวหยางฮัวสั่นเทาและเผยความตื่นเต้นที่ไม่มีมานานหลายร้อยปี เขาจ้องมองหวังหลินอย่างว่างเปล่าและเอ่ยขึ้น “โอวหยางฮัวขอคาระวะท่านบรรพชน! ยินดีต้อนรับการกลับมาของท่าน!”
หลังเขาเอ่ยออกมา บางคนมองขึ้นไปและเห็นหวังหลินทันที ทุกคนที่เห็นหวังหลินรู้สึกวิงเวียน พวกเขาจดจำคนผู้นี้ได้โดยไม่ต้องสงสัยเนื่องจากเป็นคนที่สักการะมานานหลายร้อยปี บรรพชนของตนเอง หวังหลิน!!
ทั้งหมดก็เพื่อสลักหวังหลินไว้ในใจ!
“ท่านบรรพชน!!”
“เป็นบรรพชนจริงๆ!!”
“บรรพชนกลับมาแล้ว บรรพชนไม่ได้ทอดทิ้งเรา บรรพชนกลับมา!”
เสียงตะโกนประหลาดใจปนความบ้าคลั่งค่อยๆดังสนั่นดุจสายฟ้า ผู้คนหลายล้านตื่นเต้นพร้อมกับ เสียงตะโกนถึงกับทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน แม้แต่ก้อนเมฆยังล่าถอย
“ยินดีต้อนรับท่านบรรพชน!” ไม่รู้ว่าใครพูดเป็นคนแรกแต่หลังจากนั้นสมาชิกเผ่าหลายล้านก็ร้องตะโกนออกมาพร้อมกัน แม้กระทั่งหูหวังหลินยังอื้ออึง ถึงจะมีความคิดแข็งแกร่งก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง เขามองเห็นควันสสีขาวโผล่ออกมาจากผู้คนและเข้าไปในรูปปั้นหินใจกลางเมืองหลวง รูปปั้นหินดูดซับไว้ทั้งหมดกลายเป็นความรู้สึกชั่วร้ายและลื่นไหล
สายตาสมาชิกเผ่าทุกคนมองหวังหลินด้วยความตื่นเต้นและตกตะลึง
ฉือซานพุ่งผ่านฝูงชนและคุกเข่าเบื้องหน้าหวังหลิน แม้ร่างกายจะสั่นเทาแต่เอ่ยดังสุดเสียงในรอบหลายร้อยปี
“ฉือซานยินดีต้อนรับการกลับมาของท่านบรรพชน!”
คำพูดของฉือซานจุดปะทุความศรัทธาของสมาชิกเผ่านับไม่ถ้วน ควันสีขาวลอยออกมาจากทุกคนและเข้าสู่รูปปั้นหินสีดำ
ธงวิญญาณเริ่มโบกสะบัดราวกับทะเลทมิฬปรากฏ ดวงวิญญาณลอยออกมาจากธงและห่อหุ้มแคว้นปิศาจอัคคีไว้ในสายหมอกสีดำ
จำนวนดวงวิญญาณนั้นเหนือเกินจินตนาการไปไกล
หวังหลินมองผู้คนของเผ่าหลอมวิญญาณและพบว่าบางคนดูคุ้นตา แม้จะจำชื่อไม่ได้แต่ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคือผู้อาวุโสที่อยู่แถวนั้นตอนที่หวังหลินอยู่ที่นี่ครั้งล่าสุด
“ข้ากลับมาแล้ว” น้ำเสียงหวังหลินแพร่กระจายออกไปจากท้องฟ้าและตกเข้าสู่หูทุกคน แม้จะเป็นเพียงคำพูดง่ายๆสามคำ ทว่าสามคำนี้ดุจสายฟ้าตกลงมาจากฟากฟ้า ทุกคนภายในเผ่าหลอมวิญญาณส่งเสียงกู่ร้อง
หวังหลินค่อยๆร่อนลงมาบนกำแพงเมืองของแคว้นปิศาจอัคคี
เขากลับมาที่นี่อีกครั้งแล้วหลังจากผ่านไปหลายร้อยปี!