ตอนที่ 1007 : 5 หมื่นปีที่เดินเล่นในจักรวาล
ร่างเผ่าโมชานของหลัวเฟิงได้ทำการเคลื่อนย้ายไปยังจักรวาลที่ห่างไกลผ่านจักรวรรดิเทพจากตำแหน่งที่ได้จากทาสอมตะของเขา
หลัวเฟิงทำการเดินเที่ยวชมจักรวาล
จักรวาลนั้นช่างลึกลับ หลัวเฟิงกำลังมองไปยังดาวเคราะที่ถูกทำด้วยทองคำขาวทั้งหมด เขาเห็นดวงดาวที่ถูกเชื่อมต่อกันทั้ง 108 ดวง
ตอนที่หลัวเฟิงไปพักอยู่ในดาวเคราะห์ เขาก็พบกับของล้ำค่าที่ถูกทิ้งไว้โดยนักสู้อมตะ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจมัน
นอกจากนี้เขายังพยายามสำรวจหลุมดำ แต่เมื่อเขาพยายามจะเข้าไปในนั้นก็รู้สึกถึงแรงที่จะฉีกเขา ซึ่งร่างเผ่าโมชานก็ไม่สามารถทนรับมันได้ แต่นับว่ายังโชคดีที่ร่างเผ่าโมชานของเขามีเทคนิคพรสวรรค์ จึงทำการหลบหนีออกมาได้
มีบางครั้งหลัวเฟิงทำการนอนบนอุกาบาตที่บินผ่านจักรวาล
หลัวเฟิงยังคงลอบเข้าไปยังดินแดนเผ่าพันธุ์ต่างๆ ด้วยร่างเผ่าโมชานของเขา
หลัวเฟิงที่ทำการเปลี่ยนเป็นเผ่าพันธุ์อื่นได้ทำตัวเป็นเหมือนกับนักท่องเที่ยว
เขามองสภาพแวดล้อมและการใช้ชีวิตของเผ่าพันธุ์ต่างๆ
ประสบการณ์ในการเดินทางท่องเที่ยวในจักรวาลได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับหลัวเฟิง สามหมื่นปี ที่ผ่านมาหลัวเฟิงแทบไม่ได้พัฒนาพลังจิต แต่มันถูกพัฒนาไปตามธรรมชาติขณะที่เขาได้เดินทางในจักรวาล
“ในอดีตที่ผ่านมาข้ารู้จักแต่เพียงการต่อสู้และการฆ่า ทำทุกอย่างเพื่อความแข็งแกร่ง” หลัวเฟิงคิด
“ความงดงามมีอยู่มากมายในจักรวาล มีเผ่าพันธุ์ที่มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์กับตัวเองแม้ว่าจะแตกต่างจากตัวของข้า วัฒนธรรมเหล่านี้อยู่รอดมาได้หลายชั่วอายุ”
“พวกเขาหล่านี้ช่างน่าชื่นชม แล้วในทุกครั้งที่เข้าใจวัฒนธรรมเผ่าพันธุ์ต่างๆ ได้ทำให้จิตวิญญาณของข้าได้เปลี่ยนไป”
จิตสำนึกของหลัวเฟิงครึ่งหนึ่งถูกส่งไปเพื่อการฝึกฝน ส่วนอีกครึ่งได้รับรู้สิ่งมหัศจรรย์ที่อยู่ในจักรวาล ด้วยการแบ่งจิตสำนึกทำให้เขามีประสิทธิภาพในการฝึกมากขึ้น
ในอดีตเขาได้รับแรงบันดาลใจจากการมองดูประติมกรรมสัตว์เทพ แต่ตอนนี้หลัวเฟิงรู้แล้ว่ากฎต้นกำเนิดจักรวาลนั้นอยู่ทุกที่ ตั้งแต่การเกิด ในสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ แม้แต่ในพื้นดิน ต้นหญ้า
ในบางครั้งหลัวเฟิงได้รับแรงบันดาลใจมากจนก้าวกระโดด บางครั้งเขาก็แพ้คู่ต่อสู้ในการฝึกอยู่ตลอด แต่เขายังกลับรู้สึกสงบ จิตของหลัวเฟิงได้ผสานเข้าไปกับจิตวิญญาณ โดยที่ไม่ได้คิดถึงการพ่ายแพ้คู่ต่อสู้
———-
ในดินแดนอันห่างไกลของจักรวาล ดาวเคราะห์ชีวิตที่อยู่ในดินแดน
เผ่าพันธุ์คุก ของ 6 เผ่าพันธุ์ชั้นยอด
ในอวกาศรอบๆ ดาวเคราะห์มีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ 1 พันเมตร 18 กรงเล็บ ร่างกายมีเกล็ดปกคลุม และหัวที่เหมือนทำจากโลหะ ดวงตาของมันเป็นไฟสีทอง
ดาวเคราะห์ชีวิตนี้กำลังเผชิญกับภัยพิบัติ พลังงานอมตะได้กระจายปกคลุมไปทั่วดาวเคราะห์ ทำให้ดาวเคราะห์ทั้งดวงอยู่ภายใต้การควบคุมของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่
สิ่งมีชีวิตคำรามเป็นเสียงหัวเราะ “เจ้าพวกแมลง จากวันนี้เป็นต้นไปดาวเคราะห์ดวงนี้จะอยู่ภายใต้จักรพรรดิเงา เจ้าพวกสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำต้องรับใช้จักรพรรดิเงา ใครที่กล้าจะต่อต้านจะต้องถูกฆ่า”
บนดาวเคราะห์ชีวิตมี 10 เผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกัน ผู้ที่อ่อนแอที่สุดอยู่ในระดับดวงดาว ส่วนแข็งแกร่งอยู่ที่ระดับห้วงมิติ
“ดินแดนนี้เป็นของจักรพรรดิเงาแล้ว ข้าผู้นำ กองทัพเทพ ยูโทวา”
หลัวเฟิงในร่างเผ่าโมชานได้เปลี่ยนตัวเองเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ระดับห้วงมิติของดาวเคราะห์ทำการเฝ้าดู
หลัวเฟิงทำการมองนักสู้อมตะที่บินออกไปในอวกาศ “เผ่าพันธุ์คุกพวกนี้แทนที่จะหยุดการฆ่ากัน แต่กลับทวีความรุนแรงที่ทำให้เกิดการสังหารที่มากมายขึ้น”
ในช่วง 5 หมื่นปีในการเดินทางในจักรวาลของหลัวเฟิง เขาได้ทำการไปเยือนดินแดนของเผ่าพันธุ์ต่างๆ ใน 6 เผ่าพันธุ์ชั้นยอด ทั้งเผ่าพันธุ์คริสตัล และเผ่าพันธุ์คุก
ภายใต้กฎของเผ่าพันธุ์คุก พวกเขาอนุญาตให้มีการฆ่ากันในเผ่าพันธุ์ บางครั้งพวกเขาได้ถูกทำลายไปจนสิ้น บางครั้งสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ก็เกิดมาภายใต้การล่าสังหารนี้ สิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ก็จะได้รับการยอมรับจากเผ่าพันธุ์คุก
รูปแบบชีวิตคริสตัลนั้นทำตรงกันข้ามกับเผ่าพันธุ์คุก สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในเผ่าพันธุ์คริสตัลถือเป็นตระกูลเดียวกัน พวกเขามีความผูกพันธุ์ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเผ่าพันธุ์หุ่นยุนต์ ในบางเวลาสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ของเผ่าพันธุ์คริสตัลจะทำการช่วยเหลือและฝึกฝน แล้วให้ความร่วมมือเพื่อช่วยเพิ่มพลังให้กับพวกเขา
ในเผ่าพันธุ์คุกจะเป็นความแข็งแกร่งเพียงคนเดียว ส่วนเผ่าพันธุ์คริสตัลจะเป็นความแข็งแกร่งรวม ทั้งสองเผ่าพันธุ์นั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทำให้พวกเขามีข้อพิพาทระหว่างกันอย่างรุนแรง
สี่เผ่าพันธุ์ชั้นยอดที่ต่อสู้กันเพราะดินแดนอยู่ใกล้กัน แต่เผ่าพันธุ์คุกกับเผ่าพันธุ์คริสตัลเป็นเพราะความเกลียดชังตามธรรมชาติของพวกเขา
หลัวเฟิงทำการเฝ้าดูดาวเคราะห์ที่กำลังเกิดความวุ่นวายอยู่เงียบๆ เขาได้เห็นดาวเคราะห์จำนวนมากในเผ่าพันธุ์คุกที่ถูกพิชิต และเขาก็ทำเพียงแค่เป็นผู้เฝ้าดูเท่านั้นก่อนที่จะออกไปจากดาวเคราะห์
“สิ่งมีชีวิตทั้งหมดจากเผ่าพันธุ์ ไทคีจะต้องตาย” เสียงดังมาจากนักสู้อมตะไปทั่วทั้งดาวเคราะห์
“ฆ่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดของเผ่าพันธุ์ไทคี”
มีนักสู้ระดับห้วงมิติมากกว่า 10 คนกำลังเดินเล่นอยู่ภายในดาวเคราะห์ แล้วมีมากกว่าสิบเผ่าพันธุ์ในดาวเคราะห์ แล้วเผ่าพันธุ์ไทคีก็เป็นหนึ่งเผ่าพันธุ์ในนั้น พวกเขาคือเผ่าพันธุ์เดียวที่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้
มีเสียงร้องมาจากเผ่าพันธุ์ไทคี “จักรพรรดิเงาเป็นปีศาจที่มาทำลายบ้านของข้า แล้วยังทำการไล่ล่าพวกข้า สู้มัน”
“ฆ่าเจ้าสารเลวนั้น”
“ฆ่าพวกมัน”
“เด็กๆ วิ่งเร็วเข้า”
“เอาเด็กๆ ไป พวกเขาคืออนาคต พาพวกเขาหนีไปเร็ว”
สิ่งมีชีวิตเผ่าไทคีมีจำนวนราว 1 แสนที่อยู่ในดาวเคราะห์ บางส่วนในพวกเขาพยายามหลบหนี อีกส่วนก็พยายามที่ต่อสู้
ยานอวกาศลำแรกที่นำสมาชิกเผ่าพันธุ์ไทคีหลบหนี ที่ออกจากดาวเคราะห์ได้ถูกทำลายโดยพลังอมตะของ ยูโทวา ทำให้พวกเขารับรู้ว่าไม่มีทางที่จะสู้กับนักสู้ระดับอมตะได้
“ฆ่ามัน”
เผ่าพันธุ์อื่นๆ ที่อยู่บนดาวเคราะห์ไม่เข้ามารบกวน มีนักสู้ระดับห้วงมิติเพียง 6 คนในเผ่าพันธุ์ไทคี ส่วนผู้บุกรุกมีระดับห้วงมิติกว่า 1 ร้อยคนและยังมีผู้นำระดับอมตะ
“เผ่าไทคีจบสิ้นแล้ว” หลัวเฟิงคิด
หลัวเฟิงทำการเฝ้าดูเงียบๆ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์แบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกนาทีในจักรวาล
“หืม” หลัวเฟิงกล่าว
เขาสังเหตุเห็นเงาสีดำจากไกลๆ เขาคือวัยรุ่นจากเผ่าพันธุ์ไทยคีที่เพิ่งฆ่าระดับห้วงมิติไปสองคน เขาเพียงคนเดียวได้รับมือกับนักสู้นักสู้ระดับ ห้วงมิติ 10 คน
สิ่งมีชีวิตในเผ่าพันธุ์ไทคีจำนวนมากส่งเสียงร้องออกมา “พานาหนีไปซะ หนีไปเดี๋ยวนี้”
เขาคงเป็นผู้มีชื่อเสียงในเผ่าพันธุ์ แล้วอาจจะได้เป็นผู้นำของเผ่าพันธุ์
“พานา…ฮ่า ฮ่า ท่านจักรพรรดิเงา กำลังตามหาเจ้าอยู่” ยูโทวากล่าว
ยูโทวาได้เข้าหาเด็กหนุ่ม
“หนีไป” เด็กหนุ่มส่งเสียงออกคำสั่ง
“ไป” สิ่งมีชีวิตในเผ่าพันธุ์ไทคีคว้าโอกาสหลบหนี
ยูโทวาไม่ใส่ใจกับคนอื่นๆ เขาให้ความสนใจไปยังเด็กหนุ่ม
“เข้ามา ยูโทวา” เด็กหนุ่มกล่าว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง แต่ก็มีความพอใจอยู่ในนั้น
“ข้าขอแรงหนึ่งหมื่นคนสำหรับมัน”
หลัวเฟิงในร่างเผ่าโมชานแสดงความประหลาดใจ เขานึกถึงผู้ที่ร่วมต่อสู้กับอสูรเขาทองร่วมกับเขาในอดีต พวกเขาที่หมดหวังแต่ก็เต็มไปด้วยความสงบ
“ย้อนเวลากลับไป” ร่างเผ่าโมชานกล่าว
———-
พานาที่หมดหวัง เขาไม่สามารถที่จะหนีหรือต่อต้านกรงเล็บของยูโทวา เขารู้ดีว่าจะต้องถูกจัดการโดยกรงเล็บที่น่าเกลียดของยูโทวา ทว่าในตอนนั้น…มีหยดฝนได้ร่วงหล่นมาจากท้องฟ้า
“ฝนนั่นอะไร” พานา สับสน
เม็ดฝนได้หายไปพร้อมกับนักสู้ระดับห้วงมิติที่มารุกราน และยูโทวา
ทุกคนบนดาวเคราะห์ต่างแข็งค้าง…เสียงดังขึ้นจากพลังงานอมตะของยูโทวาหายไปจากดาวเคราะห์ และชั้นบรรยากาศ นักสู้ระดับห้วงมิติได้ถูกแรงระเบิดจากภายในร่างกาย
พานาได้มองรอบๆ ด้วยความตกใจ เขามองไปยังชิ้นส่วนร่างกายที่กระจัดกระจายรอบๆ มองไปที่อาวุธและชุดเกราะที่ว่างเปล่าของยูโทวาที่ถูกทำลาย
เงาของสิ่งนั้นเหมือนกับดาบที่อยู่ในปลอกดาบของพานา
“ดาบนี้…เม็ดฝนนั้นคือดาบ”
พานาได้ค้นพบสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในระยะไกล ด้วยความที่ไม่อยากเชื่อว่าเขาเป็นเพียงแค่ระดับห้วงมิติเท่านั้น ระดับห้วงมิติสามารถที่จะฆ่าระดับอมตะได้ง่ายๆ ได้ยังไงกัน
ร่างเผ่าโมชานได้หันมามองพานา เขายิ้มก่อนที่จะหายไปตัวไป
ความทรงจำเก่าได้ไหลเข้ามาในใจของหลัวเฟิงเมื่อเขาได้เห็นหน้าของเด็กหนุ่ม มันเป็นสิ่งที่ทำให้หลัวเฟิงช่วยเขา มันได้สร้างความแตกต่างขึ้นมา เพราะทำให้เขาเปลี่ยนใจ
ดาวเคราะห์ดวงนี้ได้เป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายในการเดินทางของหลัวเฟิง เพราะครึ่งเดือนก่อนที่เขาจะเดินทางมาถึงดาวเคราะห์ เขาก็สามารถสร้างเทคนิคที่สามได้สำเร็จแล้ว
“ถึงเวลาที่จะได้เป็นอมตะ”
หลังจากการเดินทางผ่านจักรวาลมา 5 หมื่นปี ร่างเผ่าโมชานของหลัวเฟิงก็กลับจากการเดินทางในจักรวาลสู่ดินแดนของมนุษย์