Skip to content

Swallowed Star 1008

ตอนที่ 1008 หลัวเฟิงระดับอมตะ

ภายในแม่น้ำพันสมบัติที่อยู่ในดินแดนลับปฐมกาลของเผ่าพันธุ์มนุษย์

หลัวเฟิงได้กลับมายังดินแดนของมนุษย์ มายังบ้านของเขาในแม่น้ำพันสมบัติ

“นี่คือบ้าน” หลัวเฟิงกล่าว

ร่างมนุษย์โลกกำลังนั่งไขว้ขาอยู่ในที่พักก็ลุกขึ้นเดินออกจากที่พักไปยังแม่น้ำพันสมบัติ ขณะที่หลัวเฟิงทำการเดินผ่านหมู่วังในแม่น้ำพันสมบัติ เขาก็คิดถึงเรื่องราวที่เขาได้เดินทางผ่านจักรวาลในช่วง 5 หมื่นปี เขาก็รู้สึกตกใจเหมือนมันกับเป็นเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้

ข้ารับใช้ที่อยู่หน้าวังได้มองดูหลัวเฟิงเดินผ่าน

“ดูนั่น หลัวเฟิงไม่ใช่เหรอ”

“มันพบยากมาก ที่หลัวเฟิงจะเดินออกมาจากวัง”

มีเพียงบางคนเท่านั้นที่กล้าจะส่งผ่านข้อความในใจของพวกเขา พวกเขาไม่กล้าที่จะส่งเสียง เพราะพวกเขาเป็นเพียงแค่ข้ารับใช้เท่านั้น ส่วนหลัวเฟิงเป็นศิษย์ของผู้นำเมืองที่เป็นเจ้าของพื้นที่

“นั่นหลัวเฟิงที่สามารถฆ่าจักรพรรดิระดับขีดจำกัด แต่มันก็ผ่านมาแล้วกว่า 8 หมื่นปี ข่าวเกี่ยวกับเขาที่ได้เลื่อนขึ้นมาระดับอมตะยังไม่มี ทำไมเขาไม่ยอมเลื่อนเป็นอมตะมาเป็นเวลานาน ทำไมเขาถึงอยู่ในระดับห้วงมิตินานขนาดนั้น”

“มันแน่นอนว่าเขาจะต้องทำเช่นนั้น เพื่อทำความเข้าใจกฎอวกาศ เพราะในระดับห้วงมิตินั้นสามารถทำความเข้าใจกฎได้ง่ายกว่า”

“ใครจะรู้ว่าเขามีอะไรอยู่ในใจ เขาเป็นผู้ที่มีพรสรรค์ที่หาใครเทียบไม่ได้”

“ท่านหลัวเฟิง”

ข้ารับใช้ทำการทักทายหลัวเฟิง หลัวเฟิงตอบกลับด้วยรอยยิ้มบนหน้า เขาสามารถอ่านใจข้ารับใช้ได้เพราะประสบการณ์ที่ได้รับจากการเดินทางในจักรวาล หลัวเฟิงทำการยิ้มกลับแต่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดถึงตัวเองอยู่ ถึงพวกเขาจะเป็นอมตะ พวกเขาก็เป็นข้ารับใช้มาแล้วนับพันล้านปี มันอาจจะเป็นผลมาจากจิตใจของพวกเขาถึงยังไม่เป็นอัศวิน

ความคิดต่างๆ ได้ไหลผ่านเข้ามาในใจของหลัวเฟิงขณะที่เขาเดินผ่านแม่น้ำพันสมบัติ

ในวังหลักภายในแม่น้ำพันสมบัติ

ผู้นำเมืองรู้ว่าหลัวเฟิงได้ปลีกตัวมานานกว่า 8 หมื่นปี ก็ได้ออกมานอกวังของตัวเอง เขาได้เห็นหลัวเฟิงออกมาจากวัง และแสดงรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติและจิตใจที่เงียบสงบ

ผู้นำเมืองจ้องไปที่หลัวเฟิง “ดูเหมือนเขาจะเปลี่ยนไป”

ผู้นำเมืองสามารถที่จะบอกได้แล้วว่าหลัวเฟิงได้มีแรงบันดาลใจจากการฝึกฝนที่ผ่านมา 5 หมื่นปี มันได้กระตุ้นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญให้กับหลัวเฟิง

จากประสบการณ์ต่างๆ ใน 5 หมื่นปี ของหลัวเฟิง ทำให้เขาได้เห็นถึงการทำงานต่างๆ ของกฎจักรวาลผ่านดวงตาของเขา

“มันเป็นการเปลี่ยนไปของสภาพจิตใจ ศิษย์ของข้าคืออัฉริยะ…” ผู้นำเมืองชม

———-

มันเป็นเวลา 5 ชั่วโมงในการทบทวนเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ ในจักรวาลจาก 5 หมื่นปี เขาหลุดเสียงหัวเราะออกมาตอนนึกถึงการช่วยชีวิตเผ่าไทคี

ในช่วงเวลา 5 ชั่วโมงที่รำลึกถึงประสบการณ์เดินทางทำให้จิตใจของหลัวเฟิงได้เข้าไปอยู่ในสภาพที่พิเศษ

เขาไม่จำเป็นต้องสร้างความแข็งแกร่งให้กับสภาพจิตใจ จิตใจของเขาเหมือนกับท้องฟ้าที่เงียบสงบที่เต็มไปด้วยดวงดาว เขาไม่จำเป็นต้องต่อต้านภาพลวงตาใดๆ เพราะมันเทียบไม่ได้กับภาพความอัศจรรย์ของจักรวาล

ผู้นำเมืองในตอนนี้ก็บอกไม่ได้ว่าหลัวเฟิงมีสภาพจิตใจเปลี่ยนไปแบบไหน

จาก 5 หมื่นปี ในการเดินทางทำให้สภาพจิตใจของหลัวเฟิงแข็งแกร่งขึ้นเทียบเท่ากับเจ้าแห่งจักรวาล

“ได้เวลาที่จะได้เป็นอมตะ”

หลัวเฟิงรู้สึกตื่นเต้นจากความคิดที่ว่าจะต้องเป็นอมตะในตอนนี้เท่านั้น เขาได้เดินกลับไปวังของตัวเองและทำการนั่งลง สภาพจิตใจของเขากำลังดิ่งลึก

หลัวเฟิงยืนอยู่ที่หน้าแกนกลางพลังชีวิตหลักของตัวเอง

หลัวเฟิงทำการจู่โจมแกนกลางผ่านสายตา ราวกับดาบที่คมและรุนแรง

“ถูกทำลายไปซะ ข้าจะเป็นอมตะ”

หลัวเฟิงโบกมือขวา ดวงดาวทั้ง 16,000 ชิ้นที่มีลวดลายแกะสลักกฎซับซ้อนลอยขึ้นมา เส้นแสงได้สร้างเป็นสัตว์เทพขึ้นมาตั้งแต่โครงกระดูก

“ดาวทะยานฟ้า บดปฐพี” หลัวเฟิงกล่าว

สัตว์เทพที่ลอยขึ้นมาบนฟ้าได้ทำการเคลื่อนไหวที่บ้าคลั่ง เปลวเพลิงได้ลุกไหม้อยู่บนผิวของสัตว์เทพ การแสดงออกถึงความพร้อมที่จะทำลายแกนกลาง ด้วยการฝึกฝนมานับ 8 หมื่นปี ได้ทำให้พลังของสัตว์เทพของเขามีอำนาจมหาศาล

สัตว์เทพได้ทำการพุ่งเข้าในผนังของแกนกลางราวกับจะทำลายมันให้พินาศ

“พังไปซะ”

การเคลื่อนไหวรูปแบบที่สามของเทคนิคแผนที่ดวงดาว บดปฐพี

ผนังด้านในเกิดการสั่นสะเทือนจนเสียงดังน่ากลัวกระจายออกมา

ผนังของแกนกลางถูกทำลาย

———-

หลังจาก 8 หมื่นปี และท่าเทคนิคที่สามสำเร็จ หลัวเฟิงได้ทำลายแกนกลางแล้วทำการเชื่อมต่อกับมหาสมุทรกฎแห่งทองในดินแดนต้นกำเนิดจักรวาล

พลังงานกฎแห่งทองได้ใหลท่วมเข้ามาถึงยังวังของหลัวเฟิง

มันเป็นเรื่องปกติสำหรับระดับห้วงมิติที่ก้าวมายังระดับอมตะ พวกเขาต้องการพลังที่จะสร้างร่างกายอมตะ

เมื่อระดับห้วงมิติที่มีประสิทธิภาพจะกลายเป็นระดับจักรพรรดิ เมื่อเขาได้ก้าวเข้าสู่ระดับอมตะ แล้วพวกเขาจำเป็นต้องการพลังงานอมตะจำนวนมาก อาจจะมากถึง 1 แสนเท่าของระดับห้วงมิติ

หลัวเฟิงในร่างมนุษย์โลกมีระดับยีนชีวิตที่ 3 พันเท่า ได้แข็งแกร่งแกร่งกว่าระดับห้วงมิติ 3 ร้อยล้านเท่า เมื่อเขาได้เป็นระดับอมตะ ทำให้ร่างของเขามีพลังงานมากกว่าอัศวินที่มีระดับยีนชีวิต 10 เท่าที่มีความแข็งแกร่งกว่าระดับห้วงมิติ 100 ล้านเท่า

พลังงานอมตะสีทองอันไม่สิ้นสุดได้เทลงมาจนทำให้ระดับห้วงมิติแข็งแกร่งกว่าระดับห้วงมิติ 300 ล้านเท่า มันคือพลังงานที่มากจนไม่น่าเชื่อ

แต่ร่างเผ่าโมชานนั้นไม่ต้องการพลังงานอมตะ

ร่างอสูรเขาทองของเขาแข็งแกร่งกว่าระดับห้วงมิติ 600 ล้านเท่า แล้วยังมีขนาดยาวถึง 600 กิโลเมตร ทำให้ต้องการพลังงานอมตะจำนวนมากยิ่งกว่าร่างมนุษย์โลก

ความต้องการที่มากที่สุดเป็นด้านของทะเลเลือดที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 พันล้านกิโลเมตรกับระดับยีนชีวิตในจุดสมบูรณ์แบบ

ทะเลเลือดในตอนนี้ได้แข็งแกร่งกว่าระดับห้วงมิติถึง 1 พันล้านแล้ว ความต้องการพลังงานอมตะมากกว่าอสูรเขาทองถึง 1 ร้อยล้านเท่า

———–

มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ใครสักคนได้เป็นระดับอมตะ หรือแม้แต่อัศวิน มันไม่ใช่เหตุการณ์ใหญ่โตอะไร แต่กับหลัวเฟิงที่ได้เป็นอมตะกลับเป็นสิ่งที่น่าประทับใจ มันเป็นปรากฎการณ์ที่ยิ่งกว่าระดับจักรพรรดิที่ได้เป็นอัศวิน เป็นเพราะว่าเจ้าภาพของพลังงานที่ได้มานั้นสูงกว่าอัศวินนับร้อยล้านเท่า นั่นเพราะทะเลเลือด

ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ได้แต่ถามกันว่าเกิดอะไรขึ้น

“มันเกิดอะไรขึ้น”

“พลังกฎแห่งทองได้ปรากฎตัวออกมา ต้องมีใครบางคนได้เป็นอมตะ แต่แค่การเลื่อนขั้นเป็นอมตะ ทำไมถึงได้เกิดสถานการณ์แบบนี้”

ภายในแม่น้ำพันสมบัติ อัศวินและอมตะจำนวนมากได้มองไปยังท้องฟ้าเหนือวังของหลัวเฟิงด้วยอาการตกใจ

แสงสีทองได้ปกคลุมทั้งแม่น้ำพันสมบัติ พวกเขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เลย แม้แต่อัศวินก็แสดงความตื่นเต้นออกมา

“การเข้าถึงระดับอัศวิน ยังไม่อาจเทียบกับสิ่งนี้ได้”

ทว่า…อัศวินและข้ารับใช้ระดับอมตะเห็นมันได้เพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลที่กำลังยืนอยู่ในพระราชวังหลัก เขาได้ทำการจับราวจับขณะที่มองไปยังท้องฟ้า

กฎต้นกำเนิดทองได้ทำการล้อมรอบทั้งแม่น้ำพันสมบัติ มันเป็นพลังที่มาก…มันมากเกินกว่าผู้ที่จะได้ก้าวไปยังระดับอัศวินเสียอีก

อัศวินและอมตะไม่อาจจะเห็นถึงสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของมัน แต่กับผู้นำเมืองที่เห็น เขาได้รับรู้ว่าพลังงานมากจนไม่น่าเชื่อนี้ถูกเทลงมายังแม่น้ำพันสมบัติ

พลังอันรุนแรงที่ถูกเทลงมานี้ได้ถูกดูดซับโดยหลัวเฟิง

“หลัวเฟิงกำลังเข้าสู่ระดับอมตะ…”

แม้กระทั่งผู้นำเมืองก็ต้องมึนงงเมื่อได้เฝ้าดูเหตุการณ์ตรงหน้า เขาได้ทำการเฝ้าดูช่วงเวลานี้เงียบๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version