ตอนที่ 1083 นายแห่งป้อมฟานนู่และหลัวเฟิง
“อะไรคือกระแสอวกาศที่สับสน” อัศวินปีศาจกบถาม
พันธิมิตรวงแหวนหนามไม่มีจักรวาลของตนเอง อัศวินกบปีศาจจึงไม่รู้ว่ามันคืออะไร
นางแห่งป้องฟานนู่ได้บอกให้กับเขา “นั่นคือพลังงานดั้งเดิมของจักรวาล มันคือมารดาผู้ให้กำเนิดของพลังงานทั้งหมดที่เรารู้จัก”
“มารดาของพลังงานทั้งหมด?” อัศวินกบปีศาจตกใจ
“ไม่จำเป็นต้องรู้อีกต่อไป เจ้าพบการไหลของอวกาศนั้นบนดวงดาวต้นกำเนิดได้ยังไง บอกรายละเอียดทุกสิ่งทุกอย่างกับข้า”
นายแห่งป้อมฟานนู่เป็นอัศวินชั้นยอด สถานะที่สูงของเขาได้รู้ความลับมากมายของจักรวาล แล้วเขาก็รู้ดีว่าการไหลของอากาศสับสนนี้จะควรเกิดขึ้นบนดวงดาวต้นกำเนิด
“ข้ากำลังเฝ้าดูการต่อสู้ของอัศวินเทียนหยางกับอสูรเขาทองจากระยะไกล แล้วจู่ๆ ข้าก็ตกลงไปสู่ความมืด”
“มันเหมือนกับได้ไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง รอบตัวมีการไหลของอวกาศที่มืดมิด ข้าที่รู้ว่ากำลังอยู่ในอันตรายจากศัตรู ข้าเลยขอความเมตตาอย่างรวดเร็ว ข้าหวังว่าเขาจะปล่อยข้าไป”
“แต่การกระทำนั้นมันก็ไร้ความหมาย…การไหลเวียนของอวกาศได้ถูกแบ่งเป็นสองส่วน มันเป็นเหมือนกับเครื่องบดที่บดข้าที่อยู่ตรงกลาง ร่างกายของข้าได้ถูกทำลายอย่างรวดเร็ว”
“ข้าที่หมดหนทางเลือกจึงต้องทำลายตัวเอง”
นายแห่งป้อมฟานนู่ที่ตั้งใจฟังได้พยักหน้าเล็กน้อย เขารู้สึกกลัวอย่างช่วยไม่ได้ การไหลเวียนของอวกาศที่สับสนนั้นจะต้องถูกใช้จากสมบัติแท้จริงที่พิเศษ
ตามความรู้ของนายแห่งป้อมฟานนู่ สมบัติที่พิเศษบางอย่างนั้นทรงพลังคล้ายกับเทคนิคที่ถูกสร้างโดยเจ้าแห่งจักรวาล
“นั่นคือการต่อสู้กันของอสูรเขาทองกับอัศวินเทียนหยาง ไม่มีเจ้าแห่งจักรวาลมาเกี่ยวข้อง” นายแห่งป้อมฟานนู่คิด
“ถ้ามีเจ้าแห่งจักรวาล การฆ่าอัศวินกบปีศาจก็ไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคทรงพลังระดับนี้ มีความเป็นไปได้ทางเดียวเท่านั้นคือการใช้สมบัติพิเศษ”
นายแห่งป้อมฟานนู่ที่มีความรู้มากก็ไม่รู้ว่าใครที่มาถึงระดับยีนชีวิตที่สมบูรณ์แบบจะได้รับสืบทอดเทคนิค แล้วสิ่งนี้ถือเป็นความลับสูงสุดของจักรวาล เขาจึงคิดถึงความเป็นไปได้ทางเดียวเท่านั้น
นายแห่งป้อมฟานนู่จ้องมายังอัศวินกบปีศาจ “สมบัติแท้จริงประเภทพื้นที่ที่อสูรเขาทองใช้เป็นรูปแบบใด”
อัศวินกบปีศาจนึกขึ้นมาแล้วบอก “มันเป็นแม่น้ำสีทอง ใช่แล้วมันมีสัตว์ประหลาดอยู่นิดหน่อย ข้าจำได้ว่าเห็นสัตว์ประหลาดชนกับก้อนหินขนาดใหญ่ที่น่าจะเป็นของอัศวินเทียนหยาง สำหรับจำนวนของสัตว์ประหลาดข้าไม่แน่ใจเพราะเห็นไม่ชัด”
“แม่น้ำสีทอง กับสัตว์ประหลาด” นายแห่งป้อมฟานนู่ยกคิ้วขึ้น
“นั่นมันคือมนุษย์หลัวเฟิง”
“หลัวเฟิง?” อัศวินกบปีศาจงงงัน
“เจ้าไปได้แล้ว” นายแห่งป้อมฟานนู่สั่ง
อัศวินกบปีศาจถอยหายใจออกมาเล็กน้อย เขาไม่พอใจอยู่เล็กน้อย
นายแห่งป้อมฟานนู่ส่งเสียงกระแอมและจ้องมองที่อัศวินกบปีศาจอย่างเย็นชา
อัศวินกบปีศาจได้แต่กัดฟันเพื่อข่มความไม่พอใจแล้วจากไป การติดตามสถานการณ์ของอัศวินเทียนหยางให้ทำให้เขาถูกฆ่า สมบัติที่เขามีก็หายไปด้วย ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจกับการสูญเสียของเขา
นายแห่งป้อมฟานนู่มองดูร่างของอัศวินกบปีศาจด้วยสายตาเลือดเย็น “ข้าจ่ายการคืนชีพให้แล้ว เจ้ายังคงต้องการจะได้อีกงั้นเรอะ”
มนุษย์…หลัวเฟิง…สมบัติประเภทพื้นที่นั้นจะต้องเป็นแม่น้ำเก้าเสือของเผ่าพันธุ์มนุษย์ แล้วมันอยู่ในมือของหลัวเฟิง” นายแห่งป้อมฟานนู่ตกอยู่ในความคิด
แม่น้ำเก้าเสือไม่ได้เป็นของมนุษย์ในตอนแรก ด้วยการต่อสู้หลายครั้งก็มาจบลงที่เผ่าพันธุ์มนุษย์
ชื่อเสียงของหลัวเฟิงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะเขาได้ทำลายสิ่งมีชีวิตไปจำนวนมากมาย
นายแห่งป้อมฟานนู่ได้รับการเตือนจึงทำให้เขารู้เรื่องเกี่ยวกับหลัวเฟิง
อัศวินกบปีศาจเป็นเพียงแค่อัศวินธรรมดาทำให้เขารู้เพียงแค่หลัวเฟิงได้ทำลายอัศวินที่เข้ามาโจมตีด้วยความโลภ
ก่อนหน้านี้อัศวินกบปีศาจบอกว่าอสูรเขาทองได้ต่อสู้กับอัศวินเทียนหยาง แล้วมีแม่น้ำเก้าเสือปรากฎขึ้นมา แสดงว่าผู้ช่วยเหลือของเขาคืออสูรเขาทอง
ความสามารถที่จะฆ่าอัศวินจำนวนมากทำให้อัศวินเทียนหยางจำเป็นต้องหนีเป็นธรรมดา แต่สมบัติที่ทำให้กระแสอวกาศสับสนนั้นต้องเป็นสิ่งที่อสูรเขาทองเป็นคนทำ ถ้าอัศวินเทียนหยางรู้ถึงสมบัตินั้น เขาจะต้องหนีทันทีจากการที่เจอในครั้งก่อน สมบัติของเขาก็ต้องอยู่ในมือของอสูรเขาทอง
“หลัวเฟิง กับ อสูรเขาทองงั้นรึ”
“ข้าควรจะต้องไปพบกับหลัวเฟิงเป็นการส่วนตัว” นายแห่งป้อมฟานนู่ได้ตัดสินใจหลังจากใช้ความคิด เขาได้เปลี่ยนเป็นเส้นแสงและหายไปด้วยความเร็วสูง
———-
บนดวงดาวต้นกำเนิด
เผ่าพันธุ์อื่นที่เห็นหลัวเฟิงก็จะทำตัวหลบซ่อนในทันที
“นั่นมันหลัวเฟิง”
“รีบออกห่างจากเขาเร็วเข้า”
“ปีกคู่สมบัติเขาเพิ่มเป็นสี่ปีกตั้งแต่เมื่อไรกัน?”
“ใครจะรู้ เขาอาจจะเปลี่ยนรูปแบบสมบัติของเขา หรือเปลี่ยนเป็นสมบัติอีกชิ้นหนึ่ง”
หลัวเฟิงเป็นเหมือนกับอัศวินผู้ยิ่งใหญ่ชั้นยอด การปรากฎตัวของเขาทำให้อัศวินทั่วไปต้องถอยหนี
ถ้าเจ้าแห่งจักรวาลได้มาถึงบนดวงดาวต้นกำเนิดเดียวกับหลัวเฟิงก็จะเป็นตาของเขาที่ต้องหลบหนี แล้วเขาต้องรับรองว่าตัวเองอยู่ห่างจากเจ้าแห่งจักรวาล 600 ล้านกิโลเมตร
“นี่คือความรู้สึกของสิ่งมีชีวิตชั้นเยี่ยมใช่ไหม ในดวงดาวต้นกำเนิดที่ว่ากันว่าเต็มไปด้วยอันตราย แค่ข้าหลบเลี่ยงเจ้าแห่งจักรวาล ใครก็ไม่มีกล้าเข้ามากระตุ้นข้า”
ดวงดาวต้นกำเนิดนั้นอันตรายจากพื้นฐานข้อมูล แต่กับอัศวินทั่วไปนั้นถือว่าอันตรายมาก
สำหรับอัศวินระดับสูงนั้นจะมีอันตรายที่เล็กกว่ามาก แต่ถ้าหากใครก็ตามที่เข้าไปยังดวงดาวต้นกำเนิดหลบเลี่ยงเจ้าแห่งจักรวาลและเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงก็ไม่น่าจะมีอันตรายเลย
อัศวินชั้นยอดนั้นอยู่ในระดับที่ปลอดภัยในดวงดาวต้นกำเนิดถ้า…ถ้าไม่มีการยั่วยุเจ้าแห่งจักรวาล หากเป็นสถานการณ์ที่อัศวินชั้นยอดกับเจ้าแห่งจักรวาลต้องการเป็นเจ้าของสมบัติพร้อมกัน อาจจะต้องมีคนใดคนหนึ่งต้องตาย แล้วการหลบทางให้กับเจ้าแห่งจักรวาลก็ไม่ถือว่าปลอดภัยแน่นอน
หลัวเฟิงหันไปมองทิศทางหนึ่งจากระยะไกล “ในดวงดาวต้นกำเนิดนี้มีอัศวินทำการหลีกเลี่ยงข้า แต่กลับมีผู้ที่กล้าเข้ามาหาจากระยะ 6 ล้านกิโลเมตร”
หลัวเฟิงมองแสงสีฟ้าที่พุ่งเข้าหา
หลัวเฟิงตั้งใจมองร่างขนาดยักษ์ที่เต็มไปด้วยพลังสีเขียวใกล้เข้ามา เขาตัดสินจากรูปลักษณ์และออร่าที่เห็น “นายแห่งป้อมฟานนู่จากพันธมิตรวงแหวนหนาม”
หลัวเฟิงยิ้มให้กับนายแห่งป้อมฟานนู่ที่เข้ามาใกล้ เขาไม่มีความกลัวผู้ที่เป็นอัศวินชั้นยอด
“มนุษย์ หลัวเฟิง” เสียงดังขึ้น
“นายแห่งป้อมฟานนู่” หลัวเฟิงยืนมองเขาจากบนยอดเขา
นายแห่งป้อมฟานนู่ได้เข้ามาใกล้หลัวเฟิงทำการยิ้มและกล่าว “ข้าได้ยินชื่อเสียงของเจ้ามานานมนุษย์หลัวเฟิง นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกัน”
“เหตุผลที่ทำให้เราพบกันครั้งนี้น่าจะเป็นเพราะการเข้ามายังดวงดาวต้นกำเนิดของข้าจะไปกระตุ้นความสนใจเจ้า” หลัวเฟิงกล่าว
“ผู้นำ อัศวินจากเผ่าพันธุ์อื่นได้เลี่ยงข้า แต่เขาเห็นว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพราะความสามารถของข้า แต่ต่างจากนายแห่งป้อมฟานนู่ที่ดูน่าหวาดกลัวจากพลังของเขาจริงๆ”
เผ่าพันธุ์อื่นสรุปว่าหลัวเฟิงมีตัวช่วย แล้วไม่มีใครเชื่อแม้ว่าเขาจะพูดอย่างอื่น
“เจ้าก็มีความสามารถเช่นกัน เจ้ามีความหวังสูงที่จะได้เป็นเจ้าจักรวาลเช่นกัน”
“ตอนนี้ข้าได้พบตัวจริงแล้ว ข้ามีสิ่งที่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า”
“กรุณาบอก” หลัวเฟิงกล่าว
นายแห่งป้อมฟานนู่ทำไมถึงต้องการความช่วยเหลือจากเขา?
“ข้าต้องการทำสมบัติที่แท้จริง ข้ายังขาดวัสดุจำนวนมาก ข้ายังขาดวัสดุที่สำคัญอยู่บ้าง อัศวินคนอื่นเมื่อเห็นข้าก็จะรีบหนีไปทางอื่น ข้าไม่มีทางได้พูดกับพวกเขาได้เลย”
หลัวเฟิงหัวเราะ มันคือความจริงที่อัศวินจากเผ่าพันธุ์อื่นจะเลี่ยงพวกเขาตั้งแต่ระยะ 10 ล้านกิโลเมตรที่เห็น
“ข้าไม่แน่ใจว่าเจ้ามีโลหะนั้น หากถ้ามี ข้าเต็มใจที่จ่ายให้อย่างดีเพื่อแลกมัน” นายแห่งป้อมฟานนู่ยิ้ม
“โลหะอะไร มันไม่มีอยู่ในพันธมิตรวงแหวนหนามหรือ” หลัวเฟิงแสดงความอยากรู้
“น่าเสียดายจริงๆ ที่มันไม่มีเลย” นายแห่งป้อมฟานนู่แสดงท่าทางออกมา
“มีโหละมีค่ามากมายในจักรวาล สิ่งที่ข้าต้องการอาจเป็นสิทธิ์ของผู้อื่น”
หลัวเฟิงพยักหน้า
“ข้ามีวัสดุอยู่บ้าง แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นสิ่งที่เจ้าต้องการ” หลัวเฟิงกล่าว
หลังจากที่หลัวเฟิงได้ฆ่าอัศวินเทียนหยางได้นำสมบัติไปเก็บไว้ยังจักรวรรดิเทพของเขา หลัวเฟิงได้นำวัสดุที่ไม่เข้าใจแต่น่าจะมีราคาไปเก็บด้วย ส่วนที่หลัวเฟิงเข้าใจได้นำติดตัวมากับเขา
“มีโอกาสที่เจ้าจะมีมัน” นายแห่งป้อมฟานนู่ส่งเสียงหัวเราะ
“ลองเอามาให้ข้าดูสักหน่อย”
“ได้”
หลัวเฟิงพลิกมือ วัสดุต่างๆ นับร้อยได้ลอยขึ้นมาในอากาศ นายแห่งป้อมฟานนู่เริ่มต้นมองหาด้วยความตื่นเต้น แต่ไม่นานดวงตาของเขาก็จืดจางลง
“ไม่มีสิ่งที่ข้าต้องการ”
“โลหะชนิดใดที่พันธมิตรวงแหวนหนามขาด ข้าก็สงสัยว่ามีมันหรือไม่” หลัวเฟิงยิ้ม
นายแห่งป้อมฟานนู่ดูลังเลเล็กน้อย
“อย่าลังเล พูดสิ่งที่เจ้าต้องการ” หลัวเฟิงยิ้ม
นายแห่งป้อมฟานนู่กล่าว “มันเป็นโลหะที่สำคัญกับข้า เผ่าพันธุ์อื่นๆ รู้ว่าหลัวเฟิงมีผู้ช่วยเป็นอัศวินชั้นยอด ข้าเชื่อว่าเขาคนนั้นจะต้องมีโลหะมีค่าอยู่มาก ข้าต้องการดูสิ่งที่เขามีอยู่”
“ถ้าเขามีสิ่งที่ข้าต้องการ ข้ายินดีแลกมันกับสมบัติ เพื่อนของเจ้าจะไม่มีทางเสียเปรียบ”