Skip to content

Swallowed Star 1088

ตอนที่ 1088 : มิติของหลัวเฟิง

ในท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ ร่างมหาสมุทร มีลำแสงสีทองได้ส่องประกายขึ้นมาจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

หลัวเฟิงนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงหน้าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แต่ตาของเขานั้นมองไปยังจักรวรรดิเทพอันไร้ขีดจำกัดพร้อมกับภาพการประทับที่วนเวียนอยู่ในหัว การนึกย้อนนี้มักจะเกิดต่อเนื่องในหัวเขาและบางครั้งเขาก็นึกถึงความลึกลับที่วิเศษสามอย่าง ของเทคนิคการเทเลพอร์ท, การบีบรัด และการผนึกพื้นที่

ด้วยการศึกษาภาพประทับได้ทำให้การสร้างเทคนิคของเขานั้นมีกฎอวกาศที่สมบูรณ์ซึ่งเป็นเหตุผลว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาคิดถึงรูปปั้นเหล่านั้น…เขาจะมีอารมณ์โอนอ่อนไปตาม

“อีกนิดเดียว อีกนิดเดียว ความรู้สึกมันบอกว่าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ มันรู้สึกเหมือนข้าจะเข้าใจและสามารถฝ่าฟันมันไปได้ ข้าแค่ต้องการอีกแค่เล็กน้อยเท่านั้น “

คิ้วของหลัวเฟิง ขมวดเล็กน้อยพร้อมกับหยุดระหว่างการฝึก เขาได้เชื่อมต่อไปยังจักรวาลเสมือนด้วยการรับรู้ของเขาและรับข้อความที่สำคัญมาในกล่องจดหมายของเขา ข้อความจากเพื่อนนั้นถูกตั้งไว้ว่า ‘ห้ามรบกวน’ มีแค่จดหมายจากคนสำคัญอย่างภรรยา, ลูก และอาจารย์เท่านั้นที่ผ่านการตรวจสอบของระบบมาถึงเขาได้ แม้ว่ามันจะรบกวนการฝึกฝนของเขาก็ตาม

“อาจารย์อยากพบข้างั้นรึ ?” หลัวเฟิง พูดขึ้น “เขาต้องการพบข้า? เป็นไปได้รึไม่ว่า…?”

อยู่ๆ ความคิดหนึ่งก็โผล่ขึ้นมาในหัวของ หลัวเฟิง และเขาก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มกังวลขึ้นมา

******

ในจักรวาลเสมือน การไหลเวียนอากาศอันวุ่นวายไม่รู้จบได้ห่อหุ้มเกาะสายฟ้าเอาไว้ ที่ทางเดินด้านหลังวัง หลัวเฟิง ได้เดินไปเคียงข้างกับ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล

ไม่นาน หลัวเฟิง ก็ได้พูดขึ้นมา “อาจารย์ ท่านเรียกข้ามาที่นี่แต่กลับไม่ได้พูดอะไร นี่ทำให้ข้าร้อนรนอย่างมาก”

“ข้าไม่พูดอะไรเพราะข้าคิดว่าข้าควรจะปลอบเจ้ายังไง หลัวเฟิง เจ้าน่าจะเดาได้ว่าข้าพูดถึงอะไรอยู่” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล มองไปที่ หลัวเฟิง

หลัวเฟิง พยักหน้า “ข้าอยู่ใน ปฐมนครแห่งความสับสน และเมื่อระบบจักรวาลเสมือนตรวจจับหินกระจกได้…ข้ารู้ว่าท่านจะเรียกข้ามาในเรื่องนี้ ตอนแรกข้ายังหวังว่าระบบจักรวาลเสมือนนั้นจะเก็บความลับให้ข้า และไม่บอกข่าวนี้ให้กับคนอื่นรู้”

สำหรับเรื่องการตรวจจับ มันไม่มีทางที่จะเกินความคิดของ หลัวเฟิง เมื่อ นายแห่งป้อมฟานนู่ อยากได้หินกระจก ถ้าเขาเดาถึงระดับความสำคัญของของชิ้นนี้ งั้นผลก็คือไม่อาจซื้อมันได้ด้วยแค่คำพูด หลังจากกระบวนการตรวจสอบเสร็จสิ้น ในตอนที่ หลัวเฟิง พบว่ามันคือหินกระจก มันก็สายเกินไปแล้ว

“ปกติแล้วระบบจักรวาลเสมือนนั้นจะรักษาความลับ เจ้ามั่นใจได้เสมอ” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้นมา “หลังจากที่มีคำตัดสิน มันยังต้องได้รับการยืนยันขั้นสุดท้าย….เรื่องนี้จะส่งผลต่อทั้งเผ่าพันธุ์ ดังนั้นมันจึงเลือกที่จะส่งต่อข้อมูลนี้ไปกับทุกคนที่เป็น เจ้าแห่งจักรวาล”

หลัวเฟิง พยักหน้า

“ตอนนี้สถานการณ์ก็เรียบง่ายอย่างมาก” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลพูดขึ้นมา เขาเดินไปที่โต๊ะกินข้าวแล้วเรียกคนรับใช้ของเขา ไม่นานคนรับใช้สองคนก็เข้ามาในห้องพร้อมกับนำอาหารมาวางไว้ที่โต๊ะ

“หลัวเฟิง นั่งก่อนสิ เราจะได้คุยกันไปด้วย”

หลัวเฟิง นั่งลงไปตามคำเชิญ ในตอนที่เขาเห็นว่ามันมีอาหารและเครื่องดื่มวางไว้บนโต๊ะเขาก็รู้ว่าอาจารย์ของเขานั้นถือว่าเรื่องนี้จริงจังอย่างมาก อย่างน้อยๆ อาจารย์ก็ได้จัดแจงการนัดเจอครั้งนี้เอาไว้ ในอดีตเมื่ออาจารย์และศิษย์จะพูดคุยกัน มันก็มักจะเป็นการคุยที่หน้าผาตรงหน้าวังหรือภายในห้องโถงวัง ครั้งนี้มันอยู่ที่สวนด้านหลัง…และถึงกับต้องเรียกให้นั่งเพื่อพูดคุยกันด้วย?

นี่มันเกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้

“สถานการณ์ตอนนี้เรียบง่ายเพราะเมื่อเจ้าอยู่ที่ปฐมนครแห่งความโกลาหล เพื่อยืนยันของมีค่า ระบบจักรวาลเสมือนจะส่งข้อมูลไปยังผู้ก่อตั้งขวานยักษ์ และเจ้าแห่งจักรวาล คนอื่นๆ ของเผ่ามนุษย์เรา”

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล มองไปที่ หลัวเฟิง แล้วพูดต่อ “ซึ่งหมายความว่า…ทุกสิ่งมีชีวิตชั้นสูงของมนุษย์จะรู้เรื่องนี้ เราจะรับมือกับเรื่องนี้ยังไงดี? มาตัดสินใจกัน”

แก้มของ หลัวเฟิง กระตุกเล็กน้อย ตัดสินใจ?

เขามองไปที่อาจารย์ของตน

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล เห็นท่าทีของเขาและพูดขึ้น “ข้าเชื่อว่าเจ้าเดาผลลัพธ์ที่ออกมาได้”

“ผลลัพธ์คืออะไร?” หลัวเฟิง อดไม่ได้ที่จะถามออกมา

“เผ่าของเราต้องการหินกระจกนี้” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “หินกระจกนี้เกี่ยวข้องกับ สมบัติแท้จริงชั้นยอด วิหารแห่งการแจกแจง นั้นคือหนึ่งในคลังสมบัติชั้นสูงสุดที่ได้โผล่มาระหว่างการเปิดดวงดาวดั้งเดิม มันสำคัญต่อเผ่าเรา! เผ่ามนุษย์อาจจะแข็งแกร่งและทรงพลังแต่เราไม่ได้มีสมบัติแท้จริงชั้นยอดเพื่อที่จะเหนือกว่าเผ่าอื่น ด้วยสมบัติที่แท้จริงประเภทขอบเขตอีกชิ้นในระดับชั้นยอด…มันจะส่งผลดีต่อเผ่าเราอย่างมาก”

“ไม่มี สมบัติแท้จริงชั้นยอด ที่จะทำให้เหนือกว่าผู้อื่นงั้นรึ?” หลัวเฟิง อึ้งไปสักพัก

เผ่ามนุษย์…ไม่มีสมบัติแท้จริงชั้นยอด

“มนุษย์นั้นไม่ได้มีสมบัติแท้จริงชั้นยอดจริงๆ รึ?” หลัวเฟิง อดไม่ได้ที่จะถาม

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ลังเลไปสักพักจากนั้นก็ส่ายหน้าแล้วตอบกลับ “ไม่ เราเคยมีแต่ตอนนี้ไม่แล้ว”

“เคยมี?”

หลัวเฟิง เริ่มสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ มันดูเหมือนว่าเป็นมากกว่าการพบหน้ากัน

ตามข้อมูลที่เขาเจอในเครือข่ายจักรวาลเสมือน…โดยเฉพาะฐานะของเขาตอนนี้ทำให้เขาสามารถเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญได้มากกว่าเดิม…เขาตระหนักได้ว่า สมบัติแท้จริงชั้นยอดนั้นถือว่าหาได้ยากในจักรวาล

จากที่อาจารย์ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ได้บอกเขา แม้แต่สำหรับ สมบัติแท้จริงชั้นยอด มันก็มีไม่กี่คนที่เป็นเจ้าของ สมบัติแท้จริงชั้นยอด! จะทำให้เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงสุดคลั่งไคล้กับมัน สมบัติที่โดดเด่น อำนาจที่โดดเด่นในจักรวาลของโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล…ก็มี สมบัติแท้จริงชั้นยอด ไม่เกินหนึ่งชิ้น

จากการค้นพบและข้อมูลเหล่านี้ หลัวเฟิง ได้กังวลถึงความหายากของสมบัติแท้จริงชั้นยอด แต่เขาไม่คิดว่าแม้แต่เผ่ามนุษย์ก็ไม่มี สมบัติแท้จริงชั้นยอด เลยสักชิ้น

“ใช่ จริงๆแล้วไม่มีเลย” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล มองไปที่หลัวเฟิง และพูดขึ้น “จากขุมพลังทั้ง 9 ในจักรวาล 5 พวกนั้นมี สมบัติแท้จริงชั้นยอด แต่แน่นอนว่ามนุษย์เรานั้นไม่มี”

หลัวเฟิง รู้สึกกังวลขึ้นมา นี่ไม่ใช่หนึ่งในข้อเสียของเผ่ามนุษย์

“สมบัติที่แท้จริงที่เกี่ยวข้องกับหินกระจกนั้นควรที่จะเทียบได้กับสมบัติที่แท้จริงที่สำคัญที่สุดที่มนุษย์ครอบครองอยู่” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล มองไปที่ หลัวเฟิง “และ เจ้าแห่งจักรวาล ทุกคนต่างก็เห็นพ้องว่า…หินกระจกนั้นอยู่ในมือเจ้า เจ้าน่าจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปในวิหารแห่งการแจกแจง แต่ผลลัพธ์นั้นอาจจะไม่เป็นแบบที่คาด ถ้าเอามันให้กับ ผู้ก่อตั้งขวานยักษ์ แทน โอกาสที่จะสำเร็จก็จะเพิ่มสูงขึ้น”

“ผู้ก่อตั้งขวานยักษ์?” ใจของ หลัวเฟิง เต้นรัว นั่นมัน เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงสุด!

“แน่นอน ข้าจะไม่บังคับเจ้า” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล รินไวน์ให้กับ หลัวเฟิง พร้อมกับพูดต่อ “การตัดสินใจนั้นขึ้นอยู่กับเจ้า”

จากนั้นเขาก็มองไปที่ตาของ หลัวเฟิง และพูดขึ้น “ข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยเผ่าของเราสักครั้ง”

หลัวเฟิง ถึงกับผงะ ช่วย?

เขาไม่ได้โง่เมื่อมีระดับการฝึกฝนในตอนนี้ นอกจากนี้เขายังได้ใช้ชีวิตอยู่ในจักรวาลมากกว่า 50,000 ปี ซึ่งเปิดมุมมองของเขาและทำให้เขาเข้าใจเรื่องต่างๆ ในจักรวาลได้ มันมีหลายอย่างที่เขาคิดออกด้วยตัวเอง เขาเดาได้ว่าทำไมอาจารย์ถึงได้เรียกเขามาที่นี่

การเจรจากับ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล นั้นคิดถึงเรื่องเกียรติและความสูงส่ง มันไม่มีวิธีอื่นที่จะมาสั่งความคิดของ หลัวเฟิง ได้ งั้นความสามารถของเขาในฐานะเจ้าแห่งจักรวาล และยังฐานะแห่งอาจารย์ของ หลัวเฟิง เขาก็จะขอให้ หลัวเฟิง ช่วยเผ่าพันธุ์สักครั้ง!

นี่ทำให้ หลัวเฟิง ต้องอึ้ง เขาไม่ได้เตรียมใจมากับเรื่องนี้ เขาพบว่ามันยากที่จะปฏิเสธได้

“อาจารย์…” หลัวเฟิง เริ่มพูดขึ้นมา

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ยังคงมองไปที่ หลัวเฟิง

“ครั้งนี้” หลัวเฟิง พูดต่อ “มันมีหินกระจก 36 อันกระจายอยู่รอบดวงดาวดั้งเดิมแต่เผ่ามนุษย์ไม่ได้มันมาเลยสักชิ้นงั้นรึ?”

“ไม่เลย” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล เงยหน้าขึ้นมาจิบไวน์ จากคำถามของ หลัวเฟิง เขาได้รู้สึกถึงความไม่เต็มใจของอีกฝ่ายได้ เมื่อวางแก้วลงไปแล้วเขาก็ได้พูดขึ้น “จำนวนของ ผู้ที่แข็งแกร่ง ในเผ่ามนุษย์นั้นน้อยที่สุดในจักรวาล เราได้สร้างองค์กรขึ้นมา เอา พันธมิตรแดนเหนือ เป็นตัวอย่าง มันคือพันธมิตรที่มีจำนวน ผู้ที่แข็งแกร่ง มากที่สุดในจักรวาล จำนวนของอัศวินอวกาศที่พวกเขามีนั้นมากกว่าพันธมิตรหง เป็นร้อยเท่า! ยิ่ง ผู้ที่แข็งแกร่ง หายไปในดวงดาวดั้งเดิมต่างๆ มากเท่าไหร่ มันยิ่งมีโอกาสสูงที่จะได้หินกระจกนั้นไป ตามการคาดการณ์ของข้าเกี่ยวกับสถานการณ์ตอนนี้ว่า พันธมิตรแดนเหนือ คงได้หินกระจกไปหนึ่งหรือสองก้อน ยังไงซะหากเทียบกับทั้งจักรวาลแล้วพันธมิตรแดนเหนือ ก็เป็นแค่ส่วนน้อย ถ้าแม้แต่พวกเขายังไม่ได้มันมา

งั้นเรามนุษย์จะได้มันมาสักเท่าไหร่กันเชียว?”

“น้อยขนาดนั้นเลยรึ?” หลัวเฟิง อึ้ง

จำนวนคนและอัศวินอวกาศของ พันธมิตรหง นั้นน้อยกว่า พันธมิตรแดนเหนือ อย่างมาก ครั้งนี้ในดวงดาวดั้งเดิม จำนวนของอัศวินอวกาศ จาก พันธมิตรแดนเหนือ ที่ตายไปนั้นเกิน 20 คน

“มันยังมีพวกกลุ่มอำนาจชั้นสูงกลุ่มใหญ่ภายในจักรวาลที่นำเรื่องนี้ อย่าง พันธมิตรเก้าดินแดน และ พันธมิตรวงแหวนหนาม อีกทั้งยังมีขุมกำลังพันธมิตรที่อ่อนแอกว่า…แม้ว่าพวกเขาจะอ่อนแอแต่จำนวนของพวกเขาก็มีมากมายซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมหินกระจกทั้ง 36 ก้อนนั้นถูกเอาไปโดยพวกนี้ เมื่อเวลามาถึง พวกนั้นจะเข้าไปยัง วิหารแห่งการแจกแจง ผ่านเส้นทางทั้ง 36… พวกนั้นจะได้โอกาสในการได้รับสมบัติที่แท้จริงมากกว่าเดิม บางที่นี่อาจจะเป็นวิธีปรับสมดุลของจักรวาล”

หลัวเฟิง พยักหน้าในตอนที่ฟังไปด้วย

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล มองมาที่ หลัวเฟิง และพูดขึ้น “ให้คำตอบข้า เจ้าเต็มใจหรือไม่?”

หลัวเฟิง ตอบกลับออกมาตรงๆ “อาจารย์ ข้าไม่เต็มใจ”

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล คิ้วขมวดเล็กน้อยแต่สีหน้าของเขาก็ยังคงดูเอ็นดูลงหลังจากนั้นและพูดขึ้น “เจ้าไม่เต็มใจ? จากเจ้าแห่งจักรวาลทั้ง 36 ที่เข้าไปใน วิหารแห่งการแจกแจง ครั้งนี้ มันมีเจ้าแห่งจักรวาลไม่กี่คนที่ได้รับหินนกระจกนั้น เราไม่รู้จัก แต่พวกที่เข้าไป…กว่าครึ่งนั้นอยู่ระดับตั้งแต่ เจ้าแห่งจักรวาลขั้นสูงไปจนถึงเจ้าแห่งจักรวาลขั้นสูงสุด พวกอื่นส่วนมากก็เป็น อัศวินระดับสูงสุด หรือเจ้าแห่งจักรวาลทั่วๆ ไป หากเจ้าไม่ได้มีความสามารถของเจ้าแห่งจักรวาล งั้นเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไป! นี่คือกฎที่สร้างขึ้นจากการสังเกตเมื่อดวงดาวดั้งเดิมเปิด และคนที่ได้ สมบัติแท้จริงชั้นยอด…ก็เกือบจะเป็น เจ้าแห่งจักรวาล หรือ เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงสุด เสมอ!”

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล มองไปที่ หลัวเฟิง แล้วพูดต่อ “เจ้ารู้หรือไม่ว่า…อะไรคือ เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงสุด? แม้แต่คนระดับข้า การเจอกับเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงสุด นั้นหมายถึงภัยพิบัติได้มาถึงแล้ว พวกเขาแข็งแกร่งและเป็นร่างที่น่ากลัวในจักรวาล”

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลนั้นเริ่มพูดอย่างกังวล “และเจ้ายังคงอยากไปอยู่ดีรึ?”

หลัวเฟิง พยักหน้า “ใช่”

มันเป็นแบบนี้เพราะเขารู้รายละเอียดสถานการณ์ทั้งหมดและเขายังรู้ด้วยว่าหินกระจกนั้นไม่ได้แบ่งไปตามความสามารถหรือความแข็งแกร่งของ ผู้แข็งแกร่ง แต่เป็นการสุ่มมากกว่า ดังนั้นพวกที่แข็งแกร่งและอ่อนแอ ยังมีโอกาสที่จะได้รับหินกระจกมา นอกจากนี้ทุกคนก็จะเข้าไปตามเส้นทางที่ต่างกัน ดังนั้นนี่ก็คือการเดิมพัน

จากประวัติศาสตร์ตั้งแต่หลายๆ รุ่น ระหว่างที่ทุกคนมายังดวงดาวดั้งเดิม สมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด…ตามที่ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล รู้มา…ส่วนมากแล้วจะได้ไปโดย เจ้าแห่งจักรวาล หรือ เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงสุด

หากข้าเข้าร่วมในระดับอัศวินอวกาศ หลัวเฟิง คิด ร่างอมตะของข้าก็จะใหญ่และแข็งแกร่งขึ้น งั้นเกราะพลัง ก็จะสามารถที่จะรวบรวมร่างสามของมันได้! ข้าอาจจะได้รับกระดานเหล็กดำชิ้นที่ห้ากลับมา จากที่ข้าได้ยินมาจากอาจารย์ท่านผู้ยิ่งใหญ่ กระดานเหล็กดำชิ้นที่ห้านั้นอาจจะโผล่มาตรงหน้า ตอนนั้นข้าคงสามารถควบคุม หอคอยดวงดาว ได้แล้ว แม้ว่าข้าจะเผชิญหน้ากับ เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงสุด ข้าก็สามารถที่จะซ่อนใน หอคอยดวงดาว ได้และอีกฝ่ายก็ไม่อาจที่จะทำอะไรข้าได้! ยังไงซะ หอคอยดวงดาว…ก็เป็น สมบัติแท้จริงชั้นยอด!

เผ่ามนุษย์ไม่ได้เป็นเจ้าของ สมบัติแท้จริงชั้นยอด หอคอยดวงดาว นั้นไม่ได้มีเจ้าของในการควบคุมมันและมันอยู่นอกเหนืออาณาเขต และยังเป็นสนามรบ นี่ทำให้เกิดสงครามระหว่างสี่เผ่าพันธุ์ชั้นสูงที่ซึ่ง เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงสุด คลั่งไคล้ในของชิ้นนี้แต่ไม่อาจจะได้มันมา นี่คือพลังที่แข็งแกร่ง!

หลัวเฟิง มั่นใจกับ หอคอยดวงดาว…เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะไม่กลัวสิ่งมีชีวิตใดๆ เขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ

วิหารแห่งการแจกแจง…แน่นอนว่าเขาจะไป!

ถ้าเขาแข็งแกร่งขึ้นได้ เผ่าของเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วย

“เจ้าไม่รู้สึกรึว่าความสามารถของเจ้ายังไม่อาจจะทำแบบนั้นได้?”

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล อดไม่ได้ที่จะถาม “การไปที่นั่นนั้นอันตรายสำหรับเจ้าเกินไป”

“อาจารย์” หลัวเฟิง พูดพร้อมกับมองไปยังฝ่ายตรงข้าม “ศิษย์คนนี้มีพลังของเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงแล้ว”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version