Skip to content

Swallowed Star 1092

ตอนที่ 1092 : รากฐานที่ถูกสร้าง

ด้านบน ร่างมหาสมุทร นั้นมีน้ำวนห้าสีที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่าหมื่นล้านไมล์ มันปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าด้านบน ร่างมหาสมุทร พลังกฎทอง, ไม้, น้ำ, ไฟ และดิน กฎทั้งห้าต่างก็หลอมรวมกันได้อย่างสมบูรณ์ ที่ใจกลางน้ำวนแห่งนี้ มันคือมิติและมันกำลังแผ่กระจายพลังแห่งการกำเนิดกฎอวกาศที่ไม่รู้จบออกมา!

หวืด! หวืด! หวืด!

พลังงานอมตะที่ไม่รู้จบได้ไหลออกมาจากอวกาศและทะลักเข้ามายังร่างมหาสมุทร

“ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ตอนที่พลังต้นกำเนิดจักรวาลได้มาถึง” หลัวเฟิง เงยหน้าขึ้นมองและแปลกใจ

สิ่งมีชีวิตมากมายได้กลายเป็นอัศวินอวกาศจากในประวัติศาสตร์และมันมีเรื่องราวเบื้องหลังมากมาย หลัวเฟิง ได้มองดูเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ และทุกครั้งที่ใครทำการยกระดับขึ้นได้ น้ำวนห้าสีของทะเลต้นกำเนิดอวกาศนั้นก็จะปรากฏตัวขึ้น

แต่น้ำวนห้าสีนี้โดยทั่วไปแล้วมีขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 60 ไมล์ แต่น้ำวนด้านบนหัวเขาตอนนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่าหมื่นล้านไมล์!

หวืด! หวืด!

พลังงานอมตะไม่รู้จบไหลทะลักออกมา

หวืด! หวืด!

พวกมันไหลลงมายัง ร่างมหาสมุทร ราวกับน้ำตกพร้อมกับที่ ร่างมหาสมุทร ยังคงทำการดูดซับพลังงานอมตะเพื่อช่วยให้เขาเปลี่ยนร่างจากระดับอมตะ มาเป็นอัศวินอวกาศ

“ฉากที่ข้าสร้างขึ้นมาตอนข้ากลายเป็นระดับอมตะนั้นดูยิ่งใหญ่กว่าสิ่งมีชีวิตมากมายที่กลายเป็นอัศวินอวกาศ จากฉากตอนนี้นั้นจึงไม่ได้ลึกลับเหมือนกับพวกอัศวินอวกาศคนอื่น มันยังคงแข็งแกร่งเหมือนกับที่สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งได้กลายเป็นอัศวินอวกาศ”

หลัวเฟิง ตื่นเต้นอย่างมาก ฉากในการยกระดับขึ้นมานั้นบ่งบอกถึงพลังของคน ร่างอมตะนั้นแข็งแกร่งกว่าเดิม 100 เท่า ตอนที่ใครได้ขึ้นเป็นอัศวินอวกาศจากระดับอมตะ!

ปกติแล้วพลังของมนุษย์จะเพิ่มขึ้นมาเป็น 10 ล้านเท่าของระดับห้วงมิติ แต่มันไม่มีสิ้นสุด ร่างมหาสมุทร และร่างอสูรเขาทอง ต่างก็มียีนส์ชีวิตที่สมบูรณ์แบบและพลังอมตะในสถานะปกตินั้นก็สูงถึง 10,081 เท่า!

อสูรเขาทอง และร่างมหาสมุทร นั้นสามารถกลืนกินพลังงานพวกนี้ได้!

“คว้าโอกาสตอนนี้! ข้าต้องใช้ทุกนาทีและวินาทีในการกลืนกินพลังงานอมตะและทำการเปลี่ยนร่างอมตะของข้า!”

หลัวเฟิง เงยหน้าขึ้นมองฟ้า พลังงานอมตะอันไร้ขีดจำกัดได้ทะลักลงมาจากประตูที่กว้างนับหมื่นล้านไมล์

“ดูดซับมัน! ดูดซับ! ดูดซับ!”

คลื่นนั้นสั่นสะเทือนภายใน ร่างมหาสมุทร มันกลืนกินพลังอมตะและกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเขา

โดยทั่วไปแล้วหากใครที่ไม่มีร่างกายอื่นอย่าง อัศวินทรูหยัน ได้เป็นอัศวินอวกาศ ต้นกำเนิดจักรวาลจะมายังด้านบนสุดเพื่อให้เขาจะสามารถกลืนกินพลังงานอมตะได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม!

สำหรับพวกที่มีร่างอื่นอย่าง หลัวเฟิง ต้นกำเนิดจักรวาลจะมายังด้านบนของร่างกายที่ใหญ่ที่สุดที่มีพลังงานที่มากที่สุดเพื่อที่มันจะสามารถกลืนกินพลังงานได้มากกว่าเดิม

ร่างเดิมของ หลัวเฟิง, ร่างอสูรเขาทอง และร่างเผ่าโมชาน ได้กระจายไปทั่วจักรวาล ในตอนที่เขากลายเป็นอัศวินอวกาศ ต้นกำเนิดจักรวาลจะแสดงตัวขึ้นมาด้านบน ร่างมหาสมุทร ซึ่งสามารถดูดซับพลังงานอมตะได้รวดเร็วกว่าร่างอสูรเขาทอง หรือร่างมนุษย์โลก จักรวาลมักจะมาพร้อมกับตัวเลือกที่ดีที่สุด

ต้นกำเนิดจักรวาลอยู่นิ่งอยู่สักพัก แค่เพียงคนที่กลายเป็นระดับอมตะเท่านั้นที่สามารถดูดซับพลังงานได้มากมายเมื่อพวกเขาต้องการที่จะเปลี่ยนร่างอมตะของพวกเขา ในทางกลับกันเมื่อขึ้นเป็นอัศวินอวกาศหรือเจ้าแห่งจักรวาล เวลาในการดูดซับพลังอมตะนั้นจะสั้นอย่างมาก มันหมายความว่าปริมาณพลังที่คนเราดูดซับได้นั้นขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่ง

หลังจากนั้นไม่นานทุกอย่างก็ได้กระจายตัวออกไป ร่างมหาสมุทร ได้กลับคืนความสงบอีกครั้ง แต่พลังอมตะนั้นได้ทำการเปลี่ยนไปแล้ว หลัวเฟิง, อสูรเขาทอง และร่างเผ่าโมชาน ได้ก้มหน้าลงมามอง ทั้งสามร่างของ หลัวเฟิง นั้นสามารถเปลี่ยนร่างได้ง่ายๆ ร่างอมตะของพวกเขาตอนนี้แข็งแกร่งกว่าเดิมถึง 100 เท่า

ร่างมหาสมุทร นั้นมีขนาดใหญ่ หลัวเฟิง คิด แม้ว่ามันจะพยายามดูดซับพลังงานให้มากที่สุดแต่มันก็เปลี่ยนร่างได้แค่ 12%

หลังจากผ่านไปเกือบ 20,000 ปี ร่างมหาสมุทร ที่ไม่รู้จบได้เพิ่มเส้นผ่านศูนย์กลางมาเป็น 12 พันล้านไมล์ ถึง ร่างมหาสมุทรได้ดูดซับพลังงานมหาศาลเอาไว้แต่มันก็เปลี่ยนร่างได้เพียง 12%

“ตอนที่อาจารย์ทรูหยัน ได้กลายเป็นอัศวินอวกาศ เมื่อพลังเพิ่มขึ้น 92% ของพลังอมตะของเขาก็เปลี่ยนร่างได้แล้ว” หลัวเฟิง พึมพำ “ปกติแล้วเมื่อพลังเพิ่มขึ้น 90% ของร่างอมตะของมนุษย์ก็เปลี่ยนร่างได้แล้ว และจะเกิดขึ้นทันทีที่มันถึง 100% สำหรับ อสูรเขาทอง จากพันธมิตรอสูรอวกาศ แล้วเมื่อพลังเพิ่มขึ้น 50% ก็สามารถเปลี่ยนร่างได้แล้ว”

แม้ว่าจะเป็นเพียง 50% แต่พลังของร่างอมตะของสัตว์อสูรเขาทองนั้นก็มากกว่ามนุษย์นับล้านล้านเท่า และ 12% ของพลังอมตะของร่างมหาสมุทร นั้นเองก็มากกว่าสัตว์อสูรเขาทองกว่าล้านล้านเท่า

“ด้วย ร่างมหาสมุทร ที่ไม่รู้จบนี้ ข้าอาจจะสามาถฆ่าแม้แต่เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูง หากข้าใช้เทคนิค ‘ข้าคือจักรวาล’ ”

หลัวเฟิง ตื่นเต้นขึ้นมา มันยากแม้แต่ เจ้าแห่งจักรวาล ที่จะฆ่า เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูง มันคงยากสำหรับเขาด้วย แต่มันน่าจะทำได้หากเขาใช้ข้าคือจักรวาล แม้ว่าเขาจะไม่เคยสู้กับ เจ้าแห่งจักรวาล มาก่อน แต่เขาก็ตระหนักได้ว่าเขานั้นไม่ได้อ่อนแอกว่า เจ้าแห่งจักรวาล มากนัก

“มันยากสำหรับ เจ้าแห่งจักรวาล ที่จะฆ่า เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูง” เขาพูดขึ้น “ข้าแข็งแกร่งขึ้น 100 เท่า หากข้าได้พบ เจ้าแห่งจักรวาล…แน่นอนว่าข้าต้องสู้กับพวกเขา”

หลัวเฟิง ก้มหน้าลงไปมอง ร่างมหาสมุทร และรู้สึกได้ถึงพลังอมตะที่ไหลวนอยู่ในตัว

******

จักรวรรดิเทพนั้นคือรากฐานของพลังอมตะ!

เมื่อระดับอมตะแข็งแกร่งขึ้น จักรวรรดิเทพนั้นเองก็ยกระดับขึ้นด้วย หลัวเฟิง ได้ขึ้นไปถึงระดับยีนส์ที่สมบูรณ์แบบในตอนที่เขาเป็นเพียงระดับห้วงมิติ และเส้นผ่านศูนย์กลางของโลกภายในของเขาก็สูงถึง 6 ล้านล้านไมล์ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจักรวรรดิเทพของเขาถึงได้แข็งแกร่งกว่าอัศวินอวกาศหลายคนเมื่อเขาเป็นเพียงระดับอมตะ

หลังจากที่ผ่านมากว่า 20,000 ปี ร่างมหาสมุทร ก็ยังคงขยายขึ้นอีกเรื่อยๆ จักรวรรดิเทพเองก็แข็งแกร่งขึ้น แต่มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากมายอะไรในทีเดียว

ตอนนั้นเมื่อ หลัวเฟิง ได้กลายเป็นอัศวินอวกาศ แต่จักรวรรดิเทพของเขาเปลี่ยนแปลงในระดับรากฐานด้วย

หวืด!! ! ล่ง!

ท้องฟ้าและผืนดินสั่นครอน จักรวรรดิเทพนั้นได้ทำการเปลี่ยนแปลง พร้อมกับทำการดูดซับพลังงานอมตะจาก ร่างมหาสมุทร ร่างมหาสมุทร นั้นได้ปล่อยพลังอมตะของเขาออกมาช้าๆ เพื่อให้มั่นใจว่ามันจะสามารถฟื้นฟูได้ แน่นอนว่าจำนวนพลังอมตะที่มันปล่อยออกมานั้นถือว่าอยู่ระดับน่ากลัวหากนับถึงขนาดของ ร่างมหาสมุทร

“มันคงที่แล้ว!” หลัวเฟิง พูดขึ้น “ข้าสามารถควบคุมมันได้ดีกว่าเดิม!”

เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและผืนดินอันไม่รู้จบและมันเหมือนกับการมองกลับมาที่บ้านของเขา จักรวรรดิเทพก่อนหน้านี้สามารถที่จะได้รับความเสียหายหรือถูกทำลายได้ง่ายๆ หาก เจ้าแห่งจักรวาล พยายามโจมตี แต่จักรวรรดิเทพของเขาตอนนี้อาจจะไม่ได้รับความเสียหายแม้ว่า เจ้าแห่งจักรวาล จะพยายามอย่างสุดตัวก็ตาม

หลังจากผ่านไป 3 วัน ทุกอย่างก็กลับสู่ความปกติ ในท้องฟ้าด้านบน ร่างมหาสมุทร ได้มีหอคอยวิหาร ที่ถูกล้อมรอบด้วยมิติอันมืดมืด ที่แผ่พลังงานกฎอวกาศอันไม่รู้จบออกมา

หลัวเฟิง ยืนอยู่ที่หน้าวิหารของตนแล้วมองออกไป ตอนนั้นก็มีบางอย่างบินเข้ามาหาเขา

ร่างมหาสมุทร อยู่ที่นี่ หลัวเฟิง คิด

หลังจากจักรวรรดิเทพของเขาได้สิ้นสุดในการปรับตัว เขาก็ได้เรียก ร่างมหาสมุทร ที่ซึ่งยุ่งอยู่กับการคุ้มกันโลกกลับมา

หวืด!

ร่างมหาสมุทร ได้แตกสลายตัวไปและพลังอมตะก็ได้หลอมรวมเข้ากับร่างมหาสมุทร เกราะและดาบของเขาได้ลอยอยู่บนท้องฟ้า หลังจากนั้นไม่นาน ร่างมหาสมุทร อีกร่างก็ถูกสร้างขึ้นโดยการใช้เทคนิคสืบทอด ‘การสร้าง’ ของ หลัวเฟิง จำนวนพลังอมตะของร่างมหาสมุทร อันใหม่นี้เทียบได้กับ นายแห่งป้อมฟานนู่…อัศวินอวกาศที่ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตพิเศษที่มียีนส์ระดับ 1,000 เท่า!

ร่างมหาสมุทร แข็งแกร่งขึ้นมากว่า 100 เท่า หลัวเฟิง คิด ข้าพนันว่าข้าสามารถก้าวข้ามได้แม้แต่ต้นไม้โลกที่แข็งแกร่ง! เขาเหมาะสมกับการป้องกันโลกและข้าสามาถกลับไปที่นั่นได้ทันทีหากข้าพบบางอย่างผิดปกติ

“ฮ่า ฮ่า…สี่ร่าง” หลัวเฟิง พูดขึ้น “ร่างมหาสมุทร ที่ไม่รู้จบนั้นคือน้ำพุที่ให้พลังงานอมตะอันไร้ขีดจำกัด หอคอยดวงดาว, เกราะพลัง และเกราะสัตว์เทพ…ทุกอย่างล้วนแต่เป็นสมบัติที่แท้จริง และร่างอมตะของข้าก็ไปถึงระดับที่สมบูรณ์ของ เจ้าแห่งจักรวาล ข้าสำเร็จในการสร้างพื้นฐานของตัวเอง ข้าไม่ต้องกลัวอีกต่อไปหลังจากที่ได้หอคอยดวงดาวมา”

ตาของ หลัวเฟิง แสดงท่าทีโหดเหี้ยมออกมา มันรุนแรงซะจนทั้งจักรวรรดิเทพต้องสั่นคลอน เขาไม่ได้ปกปิดตัวตนของเขาในตอนที่เขาฆ่าอัศวินพาลา และ อัศวินโฮลไลท์ เพราะเขารู้ว่ามันเกือบได้เวลาที่เขาจะแสดงพลังที่แท้จริงออกมาให้ทั้งจักรวาลได้รู้

“ข้า หลัวเฟิง จะไม่กลัวใครอีกหลังจากที่ขึ้นเป็นอัศวินอวกาศ ข้าได้สร้างรากฐานของตัวเองขึ้นมาแล้ว เผ่าอื่น มันสายเกินไปแล้วที่พวกเจ้าจะฆ่าข้าได้”

หลัวเฟิง หันกลับก่อนจะหายไปในจักรวรรดิเทพของเขา

******

ด้านในยานอวกาศที่เดินทางไปยังจักรวาลต้นกำเนิด

“ท่านหลัวเฟิง”

ในตอนที่ หลัวเฟิง ได้เข้ามาในยาน กัปตันระดับจักรพรรดิก็ต้องอึ้ง เขารับหน้าที่ในการเดินทางระหว่างสำนักงานจักรวาลเสมือนและจักรวาลต้นกำเนิด ดังนั้นเขาจึงรู้ว่า หลัวเฟิง ได้กลายเป็น ผู้แข็งแกร่งที่ซึ่งมีพลังมากกว่าอัศวินอวกาศทั่วไป มันมีสิ่งมีชีวิตมากมายของเผ่าอื่นที่ซึ่งต้องตายหากต้องการฆ่าเขา

“อย่าบอกใครเรื่อง ท่านหลัวเฟิง…เพื่อเผ่าของเรา”

นี่คือคำสั่งของพวกระดับสูงของเผ่ามนุษย์และกัปตันก็รู้เรื่องนี้ดี

“ไปซะ” หลัวเฟิง พูดขึ้น “ข้าไม่ต้องการคนรับใช้”

“ได้ ท่านหลัวเฟิง” กัปตันได้ออกจากห้องไปและสั่งการออกมา “ได้เวลาไปแล้ว!”

ระดับอมตะ และระดับห้วงมิติ บางคนที่ต้องการไปยังจักรวาลต้นกำเนิดต่างก็เริ่มกังวลกันขึ้นมา

“เรายังไม่ได้ขึ้นยานเลย!”

“รอเราด้วย!”

“ทำไมยานถึงได้ออกไปก่อนที่เราจะได้ขึ้น?”

กัปตันได้พูดขึ้นมา “บอกไปที่สำนักงานว่ายานจะไปส่ง หลัวเฟิง ที่จักรวาลต้นกำเนิด บอกให้พวกเขาจัดเตรียมยานอีกลำสำหรับระดับอมตะ และระดับห้วงมิติ! ท่านหลัวเฟิงเป็นข้อยกเว้นและห้ามใครเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการพบเขา ระดับอมตะ และระดับห้วงมิติ มันดีกว่าที่พวกเขาจะไม่ได้พบ ท่านหลัวเฟิง”

“ได้ครับ” ลูกเรือได้ไปรายงานที่สำนักงานทันที

ยานได้มาถึง เมืองปฐมนครแห่งความโกลาหล ในเวลาเพียงไม่นาน

กัปตันและลูกเรือต่างก็พากันทักทาย หลัวเฟิง

เขาเดินออกมาและมองไปยัง เมืองปฐมนครแห่งความโกลาหล ซึ่งไม่ได้แตกต่างจากครั้งที่แล้วที่เขามา

ซู่!

หลัวเฟิง ได้ก้าวออกมาและเข้าไปยังเมือง เมืองปฐมนครแห่งความโกลาหล

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version