Skip to content

Swallowed Star 1093

ตอนที่ 1093 : การจากลา

เมืองปฐมนครแห่งความโกลาหล นั้นเป็นดินแดนสำหรับมนุษย์ในการฝึกฝน เมื่อมองไปยังตึกโบราณจะพบมนุษย์มากมายที่นั่งด้านบนหลังคาตึก ฝึกฝนพลังกฎต่างๆ บรรยากาศนั้นมักจะเต็มไปด้วยออร่าของการฝึกฝน

“ระดับจักรวาล?” หลัวเฟิง ดำดิ่งลงไปและพบมนุษย์ที่นั่งอยู่บนตึกแห่งหนึ่ง มันมีบางคนที่ขึ้นมาถึงระดับจักรวาลได้

“แค่พลังระดับนี้แต่พวกเขาได้รับอนุญาตให้เข้ามายัง เมืองปฐมนครแห่งความโกลาหล งั้นรึ? เป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกเขาเข้าร่วม การแข่งขันในครั้งที่แล้ว?”

ผู้ฝึกฝนบางคนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองบนฟ้าเพื่อทำการศึกษาความลับของกฎจักรวาลและได้เห็น หลัวเฟิง ก่อนจะจำเขาได้ทันที

“ดูนั่น นั่น ท่านหลัวเฟิง”

“นั่นคือ ท่านหลัวเฟิง”

ด้วยการมีชื่อเสียงในเวลาอันสั้นนั้น หลัวเฟิง อาจจะเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในหมู่มนุษย์ในรอบ 100,000 ปี มันคล้ายกับการที่ผู้ฝึกฝนมากมายไม่สามารถทำได้ ผู้นำ วังทลายสวรรค์ และคนอื่นๆ ถ้าเป็นล้านล้านปี ก่อนแต่ละคนได้ตายหรือไม่ก็ถูกกำจัดไปแล้ว และทุกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ หลัวเฟิง นั้นก็ถูกตั้งไว้ให้แต่พวกระดับสูงที่เข้าถึงได้ เป็นธรรมดาที่คนมากมายจะไม่รู้จัก หลัวเฟิง มากที่สุดพวกเขาอาจจะได้ข้อมูลที่จำกัดเกี่ยวกับเขาแต่สำหรับตอนนี้ หลัวเฟิง ถือว่าเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว

“นั่นใช่ ท่านหลัวเฟิง ที่ปรากฎตัวจากการแข่งขันเมื่อ 110,000 ปี ก่อนรึเปล่า?”

“ใช่ นั่นคือ ท่านหลัวเฟิง”

“ระหว่างการแข่งขันที่เกิดขึ้นเมื่อ 110,000 ปี ก่อน มันมีอัจฉริยะสามคนที่ซึ่ง โบแลน และโหลจู ได้ขึ้นเป็นระดับอมตะ และตอนนี้พวกเขาก็ได้เป็นจักรพรรดิ! ท่านหลัวเฟิง ถูกพูดถึงว่าได้ขึ้นมาอยู่ระดับห้วงมิติ และกลายเป็นอัศวินอวกาศก่อนคนอื่นๆ”

“น่าประทับใจจริงๆ ข้าได้ยินมาว่าแม้แต่อัศวินอวกาศก็ยังถูก ท่านหลัวเฟิง กำจัด”

พวกคนหนุ่มสาวที่ซึ่งอยู่เพียงระดับจักรวาล เริ่มที่จะตื่นเต้น พวกเขาได้มอง หลัวเฟิง ด้วยความันบถือมากกว่าตอนที่ หลัวเฟิง และเพื่อน มองอัศวินเก้าดาบ ตอนนั้นอีก!

ยังไงซะ หลัวเฟิง ก็ได้ปรากฏตัวมาเมื่อ 110,000 ปี ก่อนระหว่างการแข่งขัน บวกกับชื่อเสียงและข่าวลือมากมายเกี่ยวกับเขานั้น

มีมากกว่าอัศวินเก้าดาบ แต่พวกระดับอมตะ ระดับห้วงมิติ ระดับขอบเขต และระดับจักรวาลนั้นถือว่าเป็นตัวตนเล็กจ้อย…ดังนั้นเรื่องของ หลัวเฟิง ที่ได้ฆ่าเจ้าแห่งจักรวาล พวกนั้นจึงไม่รู้เรื่องนี้ ถ้าพวกเขารู้ข่าวนี้เข้า พวกเขาคงพูดอะไรกันไม่ออก

ข้อมูลระดับสูงแบบนี้มีแค่อัศวินอวกาศเท่านั้นที่รู้ อีกอย่างแล้วอาจมีพวกจักรพรรดิ บางคนที่ซึ่งปกติแล้วจะได้รับข้อมูลมาบ้างอาจจะพอรู้เรื่องนี้

“แต่ละรุ่นของคนที่เข้าร่วมการแข่งขัน จะเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จำนวนของผู้ที่แข็งแกร่งในบรรดาเผ่าพันธุ์มนุษย์เองก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วย”

หลัวเฟิง ก้มหน้าลงไปมองและเผยรอยยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็ได้เร่งความเร็วขึ้นมามุ่งหน้าไปยังพระราชวังของเจ้าเมือง

หลัวเฟิง ได้เข้ามายังพระราชวัง และได้เชื่อมต่อไปยังจักรวาลเสมือนด้วยจิตของเขา เพราะข่าวของเขาที่ออกมาก่อนหน้านี้ เขาจึงทำการปิดการเชื่อมต่อจักรวาลเสมือน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ทำการเชื่อมต่อมันหลังจากที่ทำการเชื่อมต่อจักรวาลเสมือน

ในตอนที่เขาเชื่อมต่อไปนั้น ผู้ช่วยบาบาต้า…ก็ได้แจ้งข้อมูลการติดต่อกับ หลัวเฟิง “มีข้อความ 882,901 ข้อความ! 9,010 สาย! 106 ข้อความสำคัญ! 11 สายสำคัญ!”

“จดหมายมากขนาดนั้นเชียว!” หลัวเฟิง เดินเข้ามาในพระราชวัง พร้อมกับเริ่มตรวจสอบจดหมายโดยใช้ความคิดของเขา เขาเปิดจดหมายหนึ่งดูแล้วอ่านมันอย่างรวดเร็ว เขาตรวจดูจดหมายทั้งหมดได้เสร็จในเวลาอันสั้น

“นอกจาก เจ้าเมืองปฐมนครแห่งความโกลาหล ก็ยังมี เจ้าแห่งจักรวาลสามคนติดต่อข้ามา โดยเฉพาะ ผู้ก่อตั้งขวานยักษ์…เขาติดต่อมาหาข้าจริงๆ ด้วย”

ตาของ หลัวเฟิง แสดงความแปลกใจออกมา เจ้าแห่งจักรวาล สามคนและผู้ก่อตั้งขวานยักษ์ ได้ส่งจดหมายมาหาเขาและจดหมายเหล่านั้นต่างก็เหมือนกันหมดซึ่งคือจดหมายแสดงความยินดี

ข้อความนั้นดูเรียบง่ายแต่มันมาจากคนที่มีฐานะ เจ้าแห่งจักรวาล และเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงสุด!

การได้รับจดหมายจากพวกนี้…แน่นอนว่าต้องพิเศษ

“ข้าควรตอบกลับไป เพื่อขอบคุณพวกเขา”

หลัวเฟิง ตอบกลับจดหมายเหล่านั้นทันที

หลังจากที่จัดการเรื่องพวกนี้แล้ว หลัวเฟิง ก็ได้กรอกคำร้องเกี่ยวกับการบริจาคสมบัติที่แท้จริงให้กับเผ่าพันธุ์ เพื่อที่จะได้เข้าไปยังวังข้างของพระราชวังของเจ้าเมือง วิธีเดียวคือต้องกรอกใบสมัครพวกนี้

******

ประตูทองแดงค่อยๆ เปิดออกช้าๆ และ หลัวเฟิง ก็ได้ก้าวเข้าไป หลังจากนั้นประตูก็ปิดลงอีกครั้ง

“มาเริ่มกันเลย” หลัวเฟิง โบกมือ

ฮัว!

ตอนนั้นสมบัติที่แท้จริงเริ่มปรากฏออกมาทีละชิ้นและลอยอยู่ในอากาศ จากนั้นพวกมันก็ลอยไปที่ถาดหินที่ใจกลางห้องโถง เส้นพลังสีเขียวนับไม่ถ้วนที่พุ่งขึ้นมาและครอบคลุมไปยังสมบัติเหล่านั้น สมบัติที่แท้จริงเหล่านี้คือของที่ หลัวเฟิง ได้มาจากการต่อสู้นับไม่ถ้วนของเขา มันมีสมบัติที่แท้จริงขั้นสูง ทั้งหมด 4 ชิ้น

“สมบัติที่แท้จริงขั้นสูง ทั้งหมด 4 ชิ้นจะถูกบริจาค แต่ข้าสงสัยว่ามันจะเพียงพอรึเปล่า” หลัวเฟิง ชั่งใจ

ก่อนหน้านี้ตอนที่ หลัวเฟิง ถูกโยนเข้าไปน้ำวนโดย เจ้าแห่งจักรวาลผู้สร้าง และสุดท้ายก็ได้ไปอยู่ที่ ดินแดนแห่งความตาย เขาได้ฆ่าอัศวินดาบปีศาจ และได้รับสมบัติที่แท้จริงสองชิ้นมา เมื่อเขากลับมาจากดินแดนสัตว์อสูร และเข้ามายังดวงดาวต้นกำเนิด ในเวลาเกือบปี เขาก็ได้ฆ่าอัศวินอวกาศระดับสูง ไปหลายคนและอัศวินอวกาศทั่วไปจำนวนมาก ดังนั้นจึงได้รับสมบัติที่แท้จริงขั้นสูงมาทั้งหมด 4 ชิ้น!

การฆ่าอัศวินเทียนหยางเองก็ได้รับรางวัลอย่างมาก ไม่ใช่แค่ได้รับปีกซื่อหวู๋ และหินกระจก แต่ยังได้รับสมบัติชุดที่แท้จริงประเภทโจมตี, เกราะสมบัติที่แท้จริงขั้นสูง และสมบัติที่แท้จริงประเภทขอบเขต แต่ร่างมหาสมุทร ของเขานั้นได้เอาสมบัติที่แท้จริงขั้นสูงไป ดังนั้นมันจึงเหลือสมบัติที่แท้จริงขั้นสูง เพียง 5 ชิ้น ซึ่ง หลัวเฟิง ไม่ต้องการมัน

ในตอนนี้ เขาเก็บมันไว้เพียงชิ้นเดียวนั่นคือเกราะ…หลัวเฟิง ได้บริจาคสี่ชิ้นที่เหลือให้กับเผ่าของเขา

“บริจาคสมบัติที่แท้จริงขั้นสูง 4 ชิ้นมีค่าแค่ 52.1 คะแนนสมบัติที่แท้จริง” หลัวเฟิง พูดขึ้น “มันยังคงห่างจากสมบัติที่แท้จริงชั้นยอด”

หลัวเฟิง ส่ายหน้าเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เริ่มทำการแลกเปลี่ยนสมบัติที่แท้จริง

สมบัติที่แท้จริงขั้นปกติประเภทวังบิน ยานวูดแกรน, สมบัติที่แท้จริงนี้ต้องใช้ 23 คะแนนสมบัติที่แท้จริง

สมบัติที่แท้จริงขั้นปกติประเภทพื้นที่ โลกนูบีรูส สมบัติที่แท้จริงนี้ต้องใช้ 18 คะแนนสมบัติที่แท้จริง

สมบัติที่แท้จริงขั้นปกติประเภทอาวุธ โบฮี ซึ่งคล้ายกับใบมีดวิญญาณ ต้องใช้ 9 คะแนนสมบัติที่แท้จริง

สมบัติที่แท้จริงทั้งสามชิ้นนี้คิดเป็น 50 คะแนนสมบัติที่แท้จริง

******

ใน เมืองปฐมนครแห่งความโกลาหล ที่ที่พักของอัศวินทรูหยัน

“ศิษย์พี่”

“ศิษย์พี่”

“ศิษย์พี่กลับมาแล้ว”

“ท่านพี่”

ในตอนที่ หลัวเฟิง ได้เดินเข้าไปในบ้าน เขาได้พบกับพี่น้องมากมายที่ทักทายเขาด้วยความเคารพ…แต่ด้วยความระมัดระวัง พวกนั้นระวังเพราะสองเหตุผล หนึ่ง หลัวเฟิง ไม่ได้ใช้เวลากับพวกเขามาก สองในฐานะศิษย์ของทรูหยัน พวกเขาต่างก็ต้องทำตัวกันให้ดี พวกเขารู้ว่ามี อัศวินอวกาศจำนวนมากที่โดน หลัวเฟิง กำจัดไป

หลัวเฟิง ยิ้มตอบรับและทักทายกลับ ในตอนที่เขาเดินออกไป พวกคนอื่นๆ ต่างก็เริ่มซุบซิบกัน

“ท่านพี่หลัวเฟิง นั้นแข็งแกร่งเกินไปแล้ว! แม้แต่อัศวินอวกาศระดับสูง ยังโดนเขากำจัด ไม่ใช่หมายความว่าเขาเกือบจะเป็น เจ้าแห่งจักรวาล แล้วรึ?”

“อืม เขานั้นก้าวข้ามอาจารย์ของเราได้! ข้าเชื่อว่า พระราชวังในพันธมิตรหง….ต้องมีที่สำหรับ พี่หลัวเฟิง ในอนาคต”

******

หลัวเฟิง ได้ยินเนื้อหาที่พวกนั้นพูดคุยกันแต่เขายังคงใจเย็นอยู่ดั่งน้ำที่ไม่สั่นไหวพร้อมกับเดินไปยังที่ที่ ทรูหยัน พักอยู่

“อาจารย์” หลัวเฟิง พูดขึ้น เขายืนอยู่ด้านนอกประตูและรอที่นั่น

“เข้ามา”

ประตูได้เปิดออกเอง ทรูหยัน นั่งอยู่ที่ปลายสุดของโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารและไวน์

“ชิชิ อาจารย์” หลัวเฟิง พูดขึ้น “นี่เป็นไวน์ชั้นดีที่ท่านมีอยู่ ท่านต้องใช้เงินไปค่อนข้างมากแน่”

หลัวเฟิง เดินไปที่โต๊ะและนั่งตรงข้ามกับ ทรูหยัน เขาเอื้อมมืออกมาจับไปที่ขวดไวน์แล้วนำมาดูใกล้ๆ “ นี่ใช่ ‘ไวน์ชาแกง’ รึเปล่า?”

“ศิษย์ข้า เจ้าได้มีชื่อเสียงมากมายในหมู่ 100 ล้านเผ่าในจักรวาล ที่จนไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อเจ้า” ทรูหยัน พูดขึ้น “ทุกคนเห็นว่าเจ้าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่แข็งแกร่ง หากเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าอื่นๆ เจ้าคงอาจได้นำทั้งเผ่าด้วยพลังของเจ้า เจ้าสามารถที่จะเดินทางอาละวาดไปทั่วจักรวาลแล้ว”

ทรูหยัน ลูบเคราสีทองของตน ด้วยน้ำเสียงฟังดูยินดี เขาได้พูดต่อ “แม้แต่อัศวินอวกาศระดับสูง ก็ยังโดนศิษย์ข้ากำจัด! มันจะไม่คู่ควรกับการฉลองได้เช่นไร? เมื่อเป็นแบบนั้นข้าจะมางกแค่ไวน์ได้ยังไง?”

หลัวเฟิง ขยิบตาให้และพูดขึ้น “อาจารย์ หากท่านชมข้าเกินไป ข้าอาจจะลอยขึ้นบนฟ้าแล้ว”

“เจ้ามีความสามารถในการบินแล้ว!”– ทรูหยัน หยอกขึ้นมา

นี่ทำให้ หลัวเฟิง รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา เขารู้สึกว่าเหมือนได้กลับไปในอดีต ทรูหยัน มักจะพูดออกมาตรงๆ และเขามักจะเป็นกันเองกับศิษย์ เขาไม่ได้ถือตัวแต่อย่างใด

“เจ้าจะไม่ดื่มรึ?” ทรูหยัน เติมแก้วของตัวเอง

“แน่นอน ข้าดื่มแน่” หลัวเฟิง ตอบกลับทันที

“ฮ่า ฮ่า…! มา ให้ข้าเติมให้เจ้าเอง”

หลัวเฟิง และ ทรูหยัน ดื่มและพูดคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นภายนอกโลก ในตอนที่ หลัวเฟิง ใช้เวลาในการฝึกฝน โลกด้านนอกนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย

“แน่นอนว่าเจ้าได้ทำให้หลายเผ่าในจักรวาลต้องกลัว” ทรูหยัน วางแก้วตัวเองลงแล้วถอนหายใจออกมา “อัตราการเติบโตของเจ้านั้นรวดเร็วที่แม้แต่ข้าที่เป็นอาจารย์เจ้าก็ยังต้องตกใจ นี่ไม่ต้องนับเผ่าอื่นๆ มันมีข่าวทุกแบบที่กระจายไปทั่วจักรวาลโดยบอกว่าอัตราการเติบโตของเจ้าก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ เจ้าน่าจะขึ้นถึงระดับเดียวกับ เจ้าเมืองปฐมนครแห่งความโกลาหล ได้ในอนาคต สายลับจากเผ่าอื่นนั้นถูกกำจัดแล้ว! เราได้จับและฆ่าพวกสายลับจำนวนมาก บางคนพยายามแทรกซึมเข้ามายัง เมืองปฐมนครแห่งความโกลาหล หรือแม้แต่เข้ามาที่นี่ด้วยซ้ำ”

ทรูหยัน มองไปที่ หลัวเฟิง แล้วพูดต่อ “เราได้ฆ่าพวกสายลับมากมายแต่การฆ่านั้นไม่มีวันจบได้ ดูเหมือนว่าเผ่าอื่นนั้นไม่กังวลเรื่องราคาที่พวกเขาต้องจ่ายไป พวกนั้นยอมเสียสละพวกตัวเองมากมายเพื่อให้ได้ข่าว…และยังคงหาข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าอยู่”

“โอ้?” หลัวเฟิง พยักหน้าเล็กน้อย

“พวกสายลับทุกคนคอยโอกาสในการซุ่มโจมตี” ทรูหยัน พูดขึ้น “จำนวนที่พวกมันเสียไปถือว่าเยอะ แต่ตอนนี้หลายเผ่ายอมเสียสละพวกสาย ข้าคาดว่าเผ่าอื่นคงรู้เรื่องการฝึกฝนของเจ้าในจักรวรรดิเทพแล้ว พวกมันกำลังหาว่าจักรวรรดิเทพของเจ้าอยู่ที่ไหน เผ่าแมลง, เผ่าหุ่นยนต์, ปีศาจ,…ทุกพวกต่างก็หาทางที่จะเข้ามายังอาณาเขตมนุษย์เพื่อที่จะฆ่าเจ้า”

ทรูหยัน หยุดไปเล็กน้อยก่อนจะเตือนขึ้นมา “หากมันไม่ได้มาจากพวกนี้ มันก็ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบอะไร เจ้าต้องระวังตัวให้ดี”

“ฮ่า…!” หลัวเฟิง หัวเราะขึ้นมา “อาจารย์ อย่าพูดคุยเรื่องนี้เลย ข้าได้เตรียมตัวสำหรับเรื่องนี้อย่างดีแล้ว เป้าหมายของข้าในการมาที่นี่เพื่อพบท่านเพราะบางเรื่อง”

ด้วยการโบกมือของ หลัวเฟิง สมบัติที่แท้จริงสามชิ้นก็ได้ปรากฏขึ้นมาและลอยอยู่กลางอากาศ พวกมันคือ ยานวูดแกรน , บอลคริสตัลและชิ้นส่วนเกราะดำ

ยานวูดแกรน นั้นเป็นสมบัติที่แท้จริงประเภทบิน บอลคริสตัลนั้นเป็นสมบัติที่แท้จริงประเภทพื้นที่ชื่อโลกนูบีรูส และชิ้นส่วนเกราะดำ นั้นเป็นเกราะสมบัติที่แท้จริงขั้นสูง!

ด้วยสมบัติที่แท้จริงสามชิ้นนี้ความสามารถในการเอาตัวรอดของ ทรูหยัน ก็จะเพิ่มระดับขึ้นไปอีก สิ่งเดียวที่น่าเสียดายคือสมบัติที่แท้จริงประเภทวิญญาณนั้นต้องใช้ 36 คะแนนสมบัติที่แท้จริง หลัวเฟิง ไม่อาจจะซื้อมันมาได้

“เจ้า นี่มัน…” ทรูหยัน ลุกขึ้นและมองไปยังสมบัติที่แท้จริงทั้งสามชิ้นพร้อมกับพูดตะกุกตะกัก

“อาจารย์ ข้าจะออกจากเขตมนุษย์เพื่อการผจญภัย” หลัวเฟิง พูดขึ้น “หากทุกอย่างเกิดขึ้นในตอนที่ข้าไป มันต้องมีการนองเลือดขึ้น ท่านเป็นอาจารย์ของข้า ดังนั้นข้ากลัวว่าอาจจะมีปัญหามาถึงตัวท่าน สมบัติที่แท้จริงทั้งสามชิ้นนี้อาจจะมีประโยชน์กับท่าน ดังนั้นข้าหวังว่าท่านจะรับมันไว้”

หลัวเฟิง กังวลว่า ทรูหยัน อาจจะไม่รับพวกมันไว้เพราะพวกมันมีค่าเกินไป!

ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เผยถึงราคาของสมบัติทั้งสามชิ้น

“เจ้าต้องการออกจากเขตมนุษย์งั้นรึ?” ทรูหยัน ผงะ

หลัวเฟิง พยักหน้า “ใช่”

เขาต้องไปเอาหอคอยดวงดาวและชิ้นส่วนเหล็กดำชิ้นที่ห้า แน่นอนว่าเขาต้องไป

“แต่เจ้ารู้ว่าเผ่าหุ่นยนต์, ทหารแมลงและปีศาจเป็นยังไง…พวกมันกำลังหาทางกำจัดเจ้าอยู่” ทรูหยัน พูดขึ้น “แม้ว่าเจ้าจะยังอยู่ในเขตมนุษย์แต่มันก็ยังมีโอกาสที่เจ้าจะโดนลอบสังหารแล้วทำไมเจ้ายังต้องการจะออกไปอีก? เมื่อเจ้าออกไป มันจะไม่มีมนุษย์คนไหนที่ปกป้องเจ้าได้ทัน เจ้าจะตกอยู่ในอันตราย”

ทรูหยัน เริ่มลนลานเมื่อคิดแบบนั้น

“ใช่ ข้ารู้เรื่องนี้ดี” หลัวเฟิง พูดขึ้น “ครั้งนี้ตอนที่ข้าออกไป มันจะมีการนองเลือดขึ้นแน่”

หลัวเฟิง ยิ้ม “แต่อาจารย์ ท่านสบายใจได้”

เขาโค้งเล็กน้อย “งั้นข้าขอตัว”

เมื่อหันกลับมา หลัวเฟิง ก็ก้าวออกไปก่อนจะหายไปทันที

อัศวินทรูหยัน มองไปยังที่ที่ หลัวเฟิง หายตัวไป เขาเงียบอยู่นาน เขาเข้าใจ…หลัวเฟิง ได้ยกระดับตัวเองขึ้นมาได้แล้ว

“สมบัติที่แท้จริงสามชิ้น สมบัติที่แท้จริงสามชิ้นนี้คือสิ่งที่เขาได้มันมา!”

อัศวินทรูหยัน คิดว่าของพวกนี้คือสมบัติที่แท้จริงทั่วๆ ไป ดังนั้นด้วยการเหยียดนิ้วออกไปเขาก็ได้ส่งเส้นพลังอมตะของเขาเข้าไปในสมบัติทั้งสามชิ้น ตอนนั้นเองข้อมูลก็ถูกแสดงออกมา….ประเภทบิน, พื้นที่ และเกราะขั้นสูง…ข้อมูลนี้ทำให้ อัศวินทรูหยัน ต้องนิ่งไปพักใหญ่

“เขาไม่ได้บอกข้า” เขากระซิบขึ้นมา “เขาได้ออกไปทันทีเพราะเขากังวลว่าข้าอาจจะไม่รับมันหากข้ารู้ ศิษย์คนนี้ของข้า…”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version