ตอนที่ 1102 การมาถึงของผู้แข็งแกร่งที่สุด
บนดาวเคราะห์ชีวิตภายในอาณาเขตของมนุษย์
ผู้สูงอายุที่ดูอารมณ์ดีมีผิวสีเขียวหลังค่อมและหนวดบนหัว เขายืนอยู่ภายในตรอกหนึ่งของเมือง เขากำลังพูดคุยอยู่กับชายหนุ่มที่กำลังเมา
ชายชราผิวเขียวพูดด้วยเสียงแหบ “เจ้าลูกชาย เจ้ายังคงเด็กและเต็มไปด้วยพละกำลัง เจ้ายังคงมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า ผลการต่อสู้ของเจ้าไม่สำเร็จจึงต้องดื่มให้เมางั้นรึ”
ชายหนุ่มขี้เมาได้กระแทกกับกำแพงและไหลลงมายังพื้น ตาของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เขาส่ายหัวก่อนที่จะพูด “หมดหวัง เป็นไปไม่ได้เลย ข้าคิดถึงวิธีที่ดีที่สุดสาหรับข้า แต่พวกเขาก็แข็งแกร่งเกินไป ถึงพวกเขาจะไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดในเมืองนี้ พวกเขาก็ยังคงแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาที่ไร้ที่พึงอย่างข้า พวกเขาล้อเล่นกับความรู้สึกของข้าแต่ไม่ยอมฆ่าข้า ข้ามันเป็นได้เพียงของเล่นสาหรับพวกเขา”
“ชีวิตนั้นเต็มไปด้วยปาฎิหาริย์ ไม่มีอะไรไม่เปลี่ยนแปลง จักรวาลนั้นลึกลับและคาดเดาไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเป็นไปได้”
“มันยังเป็นอย่างงั้นได้ยังไง” เด็กหนุ่มมองอย่างสูญเปล่าที่ชายชรา จากนั้นหัวของเขาก็ก้มลงเพื่อดื่ม
ชายชรายิ้มและพยักหน้า “ใช่ ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้”
ชายหนุ่มผงะจากรอยยิ้มเต็มใบหน้าของชายชรา เขานำขวดเหล้าที่อยู่ในมือออกห่าง
ช่วง 5 วินาทีสั้นๆ ชายหนุ่มที่ดูสายตาว่างเปล่าและมึนเมาได้หายไป
เขามองรอบๆ ราวกับสายตาแหลมคมของอินทรี เขาที่ดูไร้พลังก่อนหน้านี้ได้หายไป ในตัวเขากำลังเต็มไปด้วยพลัง
ชายหนุ่มได้ตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวเขาอย่างระมัดระวัง เขาเห็นตรอกด้านหลังกับชายชราที่อยู่ตรงหน้า การแสดงออกของเขาเหมือนกับไม่เชื่อสิ่งที่เห็น
“ขะขะข้า…ข้าได้กลับมายังจุดที่ตัวเองอยู่เหมือน 1 แสนปี ก่อนตอนเป็นระดับห้วงมิติ ตะตะแต่ว่ามัน…มันคือภาพลวงตาใช่ไหม ภาพลวงตานั้นรู้สึกเหมือนความจริงได้ยังไง”
“เจ้าลูกชาย…”
“คุณ คุณคือชายชราที่ให้คำแนะนำกับข้าก่อนหน้านี้”
“ก่อนหน้านี้งั้นรึ ไม่ใช่เมื่อสักครู่นี้?” ชายชราหลังค่อมยิ้มและหายตัวไปในอากาศ
ชายหนุ่มได้ยืนนิ่งเป็นเวลานาน เขาจัดการความคิดและใช้อาณาเขตกฎ พลังงานวิญญาณของเขาอาจไม่แข็งแกร่ง แต่ก็เทียบได้กับระดับห้วงมิติ ภายใต้คำแนะนำ จากในจิตใจ เขาสามารถที่จะสร้างอาณาเขตกฎไฟที่อ่อนแอได้
“จริงๆ แล้วมันคือของจริงหรือ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับข้ามันคือความจริง ข้าได้ฝึกฝนจนเป็นระดับห้วงมิติแล้วไม่ใช่หรือไง แต่ทำไมถึงย้อนกลับมายังเวลาที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต ข้าจะย้อนกลับไปได้ไหม”
ชายหนุ่มได้แตกต่างไปจากเดิม
“แม้ว่าจะย้อนเวลากลับไปได้ ข้าก็ไม่สามารถเดินทางไปยังอดีตได้ พูดได้ว่า…มันคือประสบการณ์มายา แต่ภาพลวงตาอะไรที่ทำให้ข้าใช้ชีวิตไปนับ 1 แสนปี และได้เป็นระดับห้วงมิติ ยังเข้าใจถึงส่วนหนึ่งของกฎจักรวาล”
ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างจากความกลัว เขามองไปรอบๆ และตะโกนซ้ำๆ ว่า “ผู้อาวุโส ผู้อาวุโส…”
แต่ก็ไม่มีใครอยู่รอบๆ
ชายหนุ่มส่ายหัว “น่าเสียดายอะไรแบบนี้ ข้าพลาดโอกาสอันยอดเยี่ยม ถ้าข้าได้ติดติดผู้อาวุโสคนนั้น ข้าน่าจะกลายเป็นอมตะได้ง่าย นี่เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ…”
“ข้าสามารถชนะมันได้เจ้าพวกบ้านั้น…ข้าสามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมด ตอนที่อยู่ในภาพลวงตานั้น ข้าจะทำให้พวกเจ้าเผชิญกับความสิ้นหวังอีกครั้ง”
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ออกไปจากตรอก
ชายชราหลังค่อมนั้นยังคงอยู่ในจุดเดิม เมื่อเขาเห็นชายหนุ่มเดินออกมาเขาก็หัวเราะและยิ้ม
ชายชราไม่ได้ขยับไปจากตรงนั้นเลยแม้แต่น้อย หากเขาต้องการเขาก็สามารถที่จะทำให้ตัวเองปรากฎออกมาได้ หากเขาไม่ต้องการก็ไม่มีใครที่จะเห็น
พลังที่แข็งแกร่งจัดผ่านกาลอวกาศมาจากตรอกด้านหลัง พื้นที่รอบๆ เกิดการบิดเบี้ยว วงรีรูปไข่ปรากฎตัวขึ้นมาที่ด้านหลังของตรอก
“ท่านคือเจ้าแห่งจักรวาลปีศาจที่แม้แต่กับเจ้าแห่งจักรวาลต้องกลัว แต่ท่านกลับช่วยเหลือชายหนุ่มคนหนึ่ง”
ชายชรายิ้มแย้ม “ถ้าต้องการให้ฆ่าคนที่เจ้าต้องการฆ่า ข้าจะฆ่าให้ ข้าจะช่วยหากเจ้ามีรางวัล”
“เรื่องก่อนนี้ ถ้าเจ้าหนุ่มนั้นคุกเข่าอ่อนวอนข้าอย่างจริงจังเพื่อที่จะพบข้า ข้าก็จะฆ่าเขาทันที”
“เผ่าหุ่นยนต์ นี่คือดินแดนของมนุษย์ เจ้าต้องการอะไรถึงส่งจิตสำนึกมายังที่นี่”
“ข้ามีบางอย่างที่ต้องให้ท่านทำ…ข้าต้องการให้ท่านฆ่าคนๆ หนึ่ง”
“เขาแข็งแกร่งงั้นหรือ” ชายชรากล่าว
“มนุษย์ หลัวเฟิง”
“หลัวเฟิงสินะ ข้ารู้เกี่ยวกับเด็กนั้น เมื่อข้ากลับมาจากมหาสมุทรจักรวาล ข่าวเกี่ยวกับเขาก็แพร่กระจายไปอย่างกว้างขวาง ข้าคิดว่าไม่แปลกที่เจ้าจะมาที่นี่ เผ่าหุ่นยนต์ของเจ้า เผ่าแมลง เผ่ามารก็คงเฝ้าตามเขา”
“บอกมาว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”
“บนเกาะโบฮีเนียลของโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล” วงรีสีดำกล่าว
“โรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล” ชายชราไม่ได้มีท่าทีสงบเหมือนเดิม เขาจ้องไปยังวงรีสีดำ
“หุ่นยนต์ ข้าไม่ได้สนใจอะไรขวานยักษ์ ข้าจะฆ่าเด็กนั้นให้ตามขอ ขอให้ข้าฆ่าเขาที่อยู่ศูนย์กลางของโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล มันก็เหมือนภารกิจฆ่าตัวตาย”
“ข้าได้ยินมาว่าทางโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาลได้มอบของล้ำค่าให้กับเขา แสดงว่าทางนั้นจะต้องเห็นคุณค่าของเขา”
“ข้าเคยช่วยท่านมาก่อน เราถือว่าหมดหนี้ของเราต่อกันในคราวนี้” วงรีสีดำกล่าว
“บอกสิ่งที่เจ้ารู้เกี่ยวกับเขาทั้งหมดมา” ชายชราหลังค่อมพูดเสียงแหบ
“มีพลังเท่ากับเจ้าแห่งจักรวาล ในระดับเดียวกับสิ่งมีชีวิตรูปแบบพิเศษที่หายาก เขายังมีเทคนิคหลายร่าง”
“การทำลายร่างกายของเขาไม่มีประโยชน์ ท่านจะต้องทำลายวิญญาณของเขา หรือใช้การควบคุมวิญญาณ หิน ท่านคือเจ้าแห่งจักรวาลสูงสุดจากโรงเรียนมายะ ถ้าท่านทำมันไม่สำเร็จก็ไม่มีใครในจักรวาลดั้งเดิมนี้ทำมันได้อีกแล้ว”
“เอาละ ข้าจะออกเดินทางแล้ว ข้ารู้ดีว่าพวกเจ้ากังลังร้อนใจ” ชายชรากล่าว
ทั้งสองสิ่งมีชีวิตได้หายตัวไปพร้อมกัน เกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้นโดยรอบ จากนั้นทุกอย่างก็กลับเป็นปกติ ผู้คนทั่วไปในเมืองไม่มีใครซักคนที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ภายในดินแดนลับบรรพบุรุษเทพ มีสิ่งมีชีวิตสีดำทั้งหมดกำลังยืนอยู่ในช่องว่างของอวกาศ ออร่าสีดำที่ล้อมรอบมีการบิดเบี้ยว มีเพียงดวงตาสีดำคู่เดียวที่สามารถเห็นได้ชัดเจนจากมัน ส่วนที่เหลือไม่ชัดเจน
“มนุษย์หลัวเฟิง ได้รับเกรียรติที่ถูกฆ่าโดยเจ้าแห่งจักรวาลสูงสุด…เจ้าควรจะภูมิใจที่ได้รับมัน”
———-
บนเกาะโบฮีเนียล
หลัวเฟิงอยู่ในศาลาที่อยู่ในที่พักบนเกาะโบฮีเนียล เขานั่งจิบไวน์อยู่บนโต๊ะตัวหนึ่งขณะคิดเกี่ยวกับเส้นทางสัตว์เทพ เขากำลังสนุกอยู่กับช่วงเวลาสงบสุขของเขาและการเรียนรู้ เขารู้เกี่ยวกับชื่อเสียงความปลอดภัยของโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล
แต่เมื่อเวลาผ่านไป สามเผ่าพันธุ์ชั้นยอดหมดความอดทนที่จะเฝ้ามองดูเขาเติบโต พวกเขาจะต้องหาวิธีจัดการกับหลัวเฟิงอย่างแน่นอน ด้วยเทคนิคหลายร่างของหลัวเฟิง การโจมตีวัตถุเพื่อทำลายร่างคงไม่ประสบความสาเร็จ หากต้องการโจมตีต้องเน้นไปที่วิญญาณ หรือการควบคุมวิญญาณ
ร่างมนุษย์โลกของเขามีเกราะพลังและหอคอยมุกอยู่กับเขาเสมอ เกราะพลังสามารถที่จะช่วยลดการโจมตีวิญญาณได้ หอคอยมุกเป็นแกนกลางในการควบคุมหอคอยดวงดาว และมีการป้องกันวิญญาณ
หลัวเฟิงคิดว่าตัวเองมีเกราะพลัง หอคอยมุก แล้วยังมีอำนาจจิตในระดับเจ้าแห่งจักรวาล
หลัวเฟิงมีความมั่นใจในอำนาจจิตที่ผ่านการฝึกฝนจากการสืบทอดแห่งชีวิตและความตายจานวนมาก และการฝึกฝนผ่านช่วงเวลา 180 ล้านปีจนอำนาจจิตมาถึงระดับเจ้าแห่งจักรวาล
หลัวเฟิงที่กำลังถือแก้วไวน์อยู่ได้รู้สึกถึงบางอย่างที่อยู่บนท้องฟ้าจึงมองขึ้นไปด้านบน
ทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้นมองไปยังท้องฟ้า เขาก็ถูกห่อหุ่มด้วยทะเลสาบออโรร่าห้าสี รูปร่างที่ล้อมรอบไปด้วยอากาศสีดำ ได้ปรากฎตัวขึ้น
“ร่างที่ปกคลุมไปด้วยอากาศที่สับสน มีเพียงตาคู่เดียวที่มองเห็นได้ ตานั่นมันอะไรกัน” หลัวเฟิงคิด หลัวเฟิงเพียงแค่มองก็เกิดอาการสั่น
“นี่มันไม่ดีแล้ว…”
อาการสั่นของเขาลึกเข้าไปถึงวิญญาณ เขาได้รู้สึกได้ถึงความไร้อำนาจในตอนที่ได้พบกับขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ที่นั่งบนภูเขา
“นั่นมันเจ้าแห่งจักรวาลสูงสุด” หลัวเฟิงรับรู้
เหนือหลัวเฟิงในระยะ 300 เมตร มีรอยแตกขนาดใหญ่ปรากฎบนท้องฟ้า มันเป็นรอยแตกจากการชนกันของสองกาลอวกาศ
ร่างของสิ่งมีชีวิตที่มีอากาศสีดำ ไหลเวียนรอบๆ ได้ทำการควบคุมกาลอวกาศและเวลาที่อยู่รอบๆ กฎของจักรวาลที่ล้อมรอบนั้นถูกผลักดันให้หายไป ราวกับร่างสีดำได้ทำการควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง
กาลอวกาศด้านล่างที่หลัวเฟิงอยู่ก็เช่นกัน มันมีช่องว่างห่างจากหลัวเฟิง 300 เมตร การปะทะกันของสองกาลอวกาศในแต่ละครั้งทำให้เกิดรอยแตก มันน่ากลัวยิ่งกว่าการชนกันของดาวเคราะห์
“นี่มันอะไรกัน” หลัวเฟิงอ้าปากค้าง
หลัวเฟิงตกตะลึง ถึงเขาจะมีพลังเท่ากับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด แต่เขาก็สรุปว่าอีกฝ่ายเป็นเจ้าแห่งจักรวาลสูงสุด
“นี่มันเป็นต่อสู้กันของสองเจ้าแห่งจักรวาลสูงสุดใช่ไหม”
ท้องฟ้าเหนือทะเลสาบ 5 สีโหมกระหน่ำ มันเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นความวุ่นวายขนาดนี้ของทะเลสาบ
รัศมีแสงจำนวนมากบินตรงมายังพื้นที่ด้านล่างของกาลอวกาศร่างหมอกสีดำ
ร่างหมอกสีดำไม่ขยับเลยแม้แต่นิ้วเดียว แต่กลับมีเสียงของความโกรธออกมาแทน
“บรรพบุรุษเทพ เจ้าหยุดข้าทำไม”
“เจ้าแห่งจักรวาลปีศาจเสมือนจริง ที่นี่เป็นอาณาเขตโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาลของข้า” มีเสียงดังขึ้นมาจากที่ไหนซักแห่ง