Skip to content

Swallowed Star 1133

ตอนที่ 1133 : ข้าพูดไปแล้ว

ในตอนที่ หลัวเฟิง สงสัยเรื่องความสัมพันธ์ของ โหลจู กับ ผู้สร้างขวานยักษ์ นั้น ผู้สร้างขวานยักษ์ ก็มองไปยัง เจ้าแห่งจักรวาล รอบๆ และยิ้มออกมา “เราไม่ได้เจอกันมาสักพักแล้ว วันนี้ เจ้าแห่งจักรวาล ทุกคนได้มารวมตัวกันที่นี่”

เจ้าแห่งจักรวาล ทั้ง 19 คนต่างก็พากันหัวเราะ

“เรามาที่นี่วันนี้ก็เพราะเราต้องการจะต้อนรับ หลัวเฟิง อย่างเป็นทางการ” ผู้สร้างขวานยักษ์ มองไปที่ หลัวเฟิง “จากนี้จะมี เจ้าแห่งจักรวาล อีกคนในเผ่ามนุษย์ หลัวเฟิง มีเทคนิคร่างโคลนและความสามารถในการเอาตัวรอดอยู่ 1 ใน 10 ของจักรวาล…โชคดีที่มนุษย์มีเขาอยู่ด้วย”

ฮัวะ

เจ้าแห่งจักรวาล มองไปที่ หลัวเฟิง และบางคนถึงกับส่งสัญญาณเสียงเพื่อพูดคุยกัน ปรากฏว่าคำพูดที่ว่าความสามารถในการเอาตัวรอดของ หลัวเฟิง อยู่หนึ่งในสิบของจักรวาลทำให้พวกเขาตกใจ

ดูเหมือนว่า ผู้สร้างขวานยักษ์ นั้นรู้ถึง ร่างมหาสมุทร ของข้า หลัวเฟิง คิด

เจ้าแห่งจักรวาล จากที่อื่นยังไม่รู้เรื่องนี้ ไม่งั้นแล้วพวกเขาคงไม่แปลกใจกัน!

“ตามกฎของมนุษย์” ผู้สร้างขวานยักษ์ พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ใครที่กลายเป็น เจ้าแห่งจักรวาล ได้จะได้รับสมบัติที่แท้จริงชั้นยอด จากเผ่า หลัวเฟิง เจ้าต้องการอะไร?”

หลัวเฟิง อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา นี่คือหนึ่งในความต่างระหว่างเผ่าที่แข็งแกร่ง กับเผ่าที่อ่อนแอ แม้แต่พันธมิตรแดนเหนือ ซึ่งถือว่าเป็นขุมกำลังชั้นนำทั้งเก้าแล้ว เจ้าแห่งจักรวาล ก็จะไม่ได้ของมีค่าแบบนี้เพราะมีหลายเผ่าพันธุ์ และ ผู้ที่แข็งแกร่ง มากมาย…นอกซะจากว่า เจ้าแห่งจักรวาล ที่แข็งแกร่งนั้นเสนอตัวเพื่อเข้าร่วมพันธมิตร

“บอกสิ่งที่เจ้าต้องการมา หลัวเฟิง” ผู้สร้างขวานยักษ์ มองไปที่ หลัวเฟิง

เจ้าแห่งจักรวาล ทุกคนต่างก็มองไปที่ หลัวเฟิง ด้วย

หลัวเฟิง หันไปหา ผู้สร้างขวานยักษ์ และยิ้มออกมา “ข้าไม่ได้ต้องการสมบัติที่แท้จริง แต่ข้าต้องการอาณาเขตของข้า ทางช้างเผือกนั้นต้องทำการปรับปรุง และข้าต้องการจะอยู่ที่นั่นไปตลอด ข้าต้องการอยู่ที่บ้านของข้าไปตลอดกาลและทำให้มันมั่นคงขึ้น”

“อยู่ในทางช้างเผือกตลอดกาล?” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้น

เจ้าแห่งจักรวาล คนอื่นๆ เองก็แปลกใจเล็กน้อย

ปกติแล้ว เจ้าแห่งจักรวาล จะเลือกเขตลับอย่างจักรวาลลับ มันเป็นเรื่องปกติที่ เจ้าแห่งจักรวาล จะอยู่ประจำการในกาแล็กซี่หนึ่ง แต่ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลไม่ได้ขัดขวางอะไรเพราะเขารู้ว่า หลัวเฟิง ให้ความสำคัญกับบ้านเกิดตัวเองแค่ไหนโดยเฉพาะชื่อที่เขาตั้งขึ้นมา ผู้นำกลุ่มทางช้างเผือก

“หลัวเฟิง ต้องการประจำอยู่ในทางช้างเผือกไปตลอด?”

เจ้าแห่งจักรวาล คนอื่นๆ ต่างก็แปลกใจ แต่พวกเขาไม่ได้พูดออกมาด้วยท่าทีสับสนเพราะ เจ้าแห่งจักรวาล จากจักรวาลเสมือนนั้นไม่ได้พูดอะไรออกมามากนัก

“ได้ แน่นอน ได้” ผู้สร้างขวานยักษ์ พยักหน้า “ทางช้างเผือกนั้นเป็นเพียงแค่กาแล็คซี่ และสมบัติที่แท้จริงชั้นยอด ชิ้นหนึ่งก็มากพอที่จะทำให้มันมั่นคงได้”

“นั่นเพียงพอแล้วจริงๆ” หลัวเฟิง พูดขึ้น

มันต้องใช้ค่าใช้จ่ายจำนวนมากสำหรับ เจ้าแห่งจักรวาล ให้ประจำอยู่ที่ทางช้างเผือก และทำการปรับปรุงมัน แม้ว่ามันจะไม่ได้มีค่าเท่ากับสมบัติที่แท้จริงชั้นยอด แต่มันก็ไม่ได้ต่างกันมาก นอกจากนี้แล้ว หลัวเฟิง ก็มีสมบัติที่แท้จริงมากมายกับตัว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ต้องการสมบัติที่แท้จริงขั้นทั่วไปแต่อย่างใด

“ข้าจำได้ว่า หลัวเฟิง ต้องการดาวเคราะห์ซึ่งก็คือโลกกลับคืน” ผู้สร้างขวานยักษ์ พูดขึ้นมาอีกครั้ง

ตาของ หลัวเฟิง เป็นประกายขึ้นมา

เจ้าแห่งจักรวาล คนอื่นๆ พากันเงียบ และมองไปที่ ผู้สร้างขวานยักษ์

“เมื่อ หลัวเฟิง เป็น เจ้าแห่งจักรวาล แล้ว และมาอยู่กับเราแล้วด้วย ข้าควรคืนความเป็นเจ้าของให้กับ หลัวเฟิง” ผู้สร้างขวานยักษ์ พูดขึ้น

“ผู้สร้างขวานยักษ์” ยักษ์สามเขาพูดขึ้นมา “เจ้าแห่งจักรวาล ควรที่จะมีส่วนร่วมและสนับสนุนเผ่า หลังจากที่ได้สิ่งแรกไปแล้ว พวกเขาควรที่จะสร้างผลงานเพื่อให้ได้รับรางวัลมากกว่าเดิม! สมบัติที่แท้จริงนั้นต้องถูกแลกกับคะแนนสมบัติที่แท้จริง! และมันก็ควรใช้กฎเดียวกัน ผู้นำกลุ่มทางช้างเผือก ไม่ควรได้อะไรไปฟรีๆ ความเป็นเจ้าของโลกอีกครึ่งหนึ่งนั้นเป็นของเผ่าเรา และ ผู้นำกลุ่มทางช้างเผือก ควรที่จะสร้างผลงานที่มีค่าเทียบเท่ากับก่อน!”

“ใช่ เขาควรมอบสิ่งของที่มีค่าแลกเปลี่ยนกัน” เจ้าแห่งจักรวาล อีกคนที่เห็นด้วยพูดขึ้นมา

หลัวเฟิง มองไปที่ยักษ์สามเขา มันคือเจ้าแห่งจักรวาลหวางเจีย

เจ้าแห่งจักรวาลหวางเจียถึงกับพยักหน้าให้กับ หลัวเฟิง

หวางเจีย!

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้น “ความเป็นเจ้าของครึ่งหนึ่งของโลกนั้นอยู่ภายใต้จักรวาลเสมือนของข้าและสัญญาที่เซ็นระหว่างองค์กรจักรวาลเสมือนของข้ากับ หลัวเฟิง แม้ว่าพวกเจ้าจะมีลูกหลานที่โลก แต่องค์ประกอบผสม 5 หมื่นล้านนั้นถูกจ่ายโดยองค์กรจักรวาลเสมือนของข้า ข้าสามารถให้มันกับ หลัวเฟิง ทั้งหมดได้ ส่วนความเป็นเจ้าของอีกครึ่งหนึ่งนั้นเป็นขององค์กรของข้า”

“องค์กรจักรวาลเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของเผ่ามนุษย์” เจ้าแห่งจักรวาลหวางเจีย พูดขึ้น “องค์กรจะมาเสียทรัพย์สินง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง? เขาควรที่จะสร้างผลงานก่อนจะได้มันไป”

“ฮ่า ฮ่า! ข้าได้ซื้อโลกด้วยเงินจำนวน 5 หมื่นล้านองค์ประกอบผสม” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้น “หลัวเฟิง จ่ายเพียงแค่ 5 หมื่นล้านก็ซื้อความเป็นเจ้าของอีกครึ่งกลับไปได้”

5 หมื่นล้าน?

นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน?

สมบัติไม่ว่าชิ้นไหนก็มีค่ามากกว่านั้น สำหรับ เจ้าแห่งจักรวาล แล้ว 5 หมื่นล้านองค์ประกอบผสมนี้เหมือนกับหยดน้ำ แต่โลกนั้นคือทะเลที่กว้างไม่รู้จบ!

มันเทียบกันไม่ได้

“เราต่างก็รู้ว่าโลกมีค่าแค่ไหน” เจ้าแห่งจักรวาลหวางเจีย พูดพร้อมกับคิ้วขมวด “5 หมื่นล้านองค์ประกอบผสมนี้เทียบไม่ได้! อย่าพูดถึงการที่ท่านซื้อมันด้วย อย่างแรกเลยเราไม่รู้ถึงท่าทีการพัฒนาของโลก และอีกอย่างแล้วตอนนั้น หลัวเฟิง เองก็อ่อนแออย่างมาก 5 หมื่นล้านนั้นยังมากเกินไปสำหรับเขา”

“โอ้ หวางเจีย เจ้าคิดจะมายุ่งเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนขององค์กรจักรวาลเสมือนของข้ารึไง?” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้น “เจ้าไม่ใช่คนที่รับหน้าที่ในการดูแลมัน ข้าต่างหาก”

“ข้าไม่ได้ยุ่งเกี่ยว” เจ้าแห่งจักรวาลหวางเจีย พูดขึ้น “แต่เราต้องมีกฎ ถ้ามันเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคคล ท่านก็จัดการมันได้ตามต้องการแต่ หากมันเป็นทรัพย์สินขององค์กรและเป็นของอาจารย์ ต้นกำเนิด ท่านจะมาให้มันแบบนี้ได้ยังไง?”

พวกเขายังคงทำการเถียงกัน หนึ่งในนั้นรับหน้าที่ในการดูแลองค์กรจักรวาลเสมือน ส่วนอีกคนคือผู้ก่อตั้ง พันธมิตรทหารรับจ้างแห่งจักรวาล ทั้งสองนั้นต่างก็เป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด และมีฐานะเท่าเทียมกัน

เจ้าแห่งจักรวาลชิดง และ เจ้าแห่งจักรวาลเปกง นั่งอยู่เงียบๆ ยังไงซะพวกเขาก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับโลก

“เอาล่ะ” ผู้สร้างขวานยักษ์ พูดขึ้นมา

เจ้าแห่งจักรวาลหวางเจีย และ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ได้มองไปยังผู้สร้างขวานยักษ์

ผู้สร้างขวานยักษ์ ขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น “ข้าบอกแล้ว! ตอนที่ หลัวเฟิง มานั่งกับเราได้ ความเป็นเจ้าของอีกครึ่งหนึ่งจะคืนให้กับ หลัวเฟิง! ข้าควรทำตามคำพูด! เพราะความเป็นเจ้าของอีกครึ่งหนึ่งนั้นเป็นขององค์กรจักรวาลเสมือน ข้าจะมอบสมบัติที่แท้จริงระดับสูงสุดให้เป็นการชดเชย!”

“ขวานยักษ์!”

“ขวานยักษ์” เจ้าแห่งจักรวาลหวางเจีย พูดขึ้น

“ผู้สร้างขวานยักษ์!” แม้แต่ หลัวเฟิง ก็ยังตะโกนขึ้นมา

“เรื่องจบแล้ว” ผู้สร้างขวานยักษ์ พูดและมองไปยัง เจ้าแห่งจักรวาล ทั้งหลายก่อนที่พวกนั้นจะเงียบไป

******

เรื่องหลักคือการต้อนรับ หลัวเฟิง พวกเขายังได้คุยกันเรื่องดวงดาวดั้งเดิม และทะเลจักรวาลก่อนที่การประชุมจะจบลง เจ้าแห่งจักรวาล ของจักรวาลเสมือนต่างก็พากันแยกย้าย มีแค่ หลัวเฟิง ที่ถูก ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล เรียกตัวเอาไว้

“อาจารย์ ทำไมสุดท้าย ผู้สร้างขวานยักษ์ ต้องส่งสมบัติที่แท้จริงระดับสูงสุด ให้กับองค์กรจักรวาลเสมือนด้วย?” หลัวเฟิง อดไม่ได้ที่จะถามออกมาเพราะเขารู้สึกว่าเขาติดค้าง ผู้สร้างขวานยักษ์

“อย่าคิดมาก” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ส่ายหน้า “ผู้สร้างขวานยักษ์ นั้นเป็น เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ในเผ่ามนุษย์ของเราและเขาก็มีสมบัติที่แท้จริงมากมาย! เขาแค่มอบสมบัติที่แท้จริงให้กับเผ่า! สมบัติที่แท้จริงที่ทรงพลังหลายชิ้นที่ต้องทำการแลกเปลี่ยนนั้นได้มาจากผู้สร้างขวานยักษ์! มันไม่ได้สลักสำคัญอะไรกับการที่เขาให้อีกชิ้นมา หลังจากที่จบเรื่องนี้แล้วข้าจะส่งมันคืนให้กับเผ่าเรา”

หลัวเฟิง พยักหน้า มันไม่ง่ายที่จะทำการสนับสนุนทั้งเผ่า!

คนที่อ่อนแอจะเสียเปรียบหากอยู่เพียงลำพังแต่ เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด นั้นสามารถใช้ชีวิตผู้เดียวได้อย่างสบายใจ พวกเขาคือพวกที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล และสามารถที่จะได้สมบัติที่แท้จริงมามากมาย แต่พวกเขาต้องการเพียงไม่กี่ชิ้น ของอย่างอื่นนั้นไร้ประโยชน์สำหรับพวกเขา ในทางกลับกัน หาก เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด เกี่ยวข้องกับเผ่า พวกเขาไม่ใช่แค่ต้องระวังแต่ยังต้องบริจาคให้กับเผ่าอีกด้วย

“ข้าเข้าใจแล้ว” หลัวเฟิง พยักหน้า เขารู้ว่าเขาต้องตอบแทนบุญคุณให้กับ ผู้สร้างขวานยักษ์

“อย่าโทษ เจ้าแห่งจักรวาลหวางเจีย ที่แย้งเรื่องนี้” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้น “มันเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ ดู เจ้าแห่งจักรวาล คนอื่นๆ สิ เจ้าสงสัยไหมว่าทำไมพวกเขาถึงไม่พูดอะไร? เพราะมันเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ขององค์กรอื่นๆ ด้วย โดยพื้นฐานแล้ว เจ้าแห่งจักรวาลหวางเจีย พูดแทนพวกเขาแล้ว…เกือบทุกเรื่องในจักรวาลเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นส่วนตัวหรือเผ่าก็ตาม”

หลัวเฟิง พยักหน้า

“ใช่สิ” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล มองไปที่ หลัวเฟิง “เจ้ามีแผนที่จะอยู่ในทางช้างเผือกไปตลอดเลยรึ?”

“ใช่” หลัวเฟิง พยักหน้า “ตลอดไป!”

“เจ้าแห่งจักรวาล ในเผ่ามนุษย์นั้นปกติแล้วจะประจำอยู่ในสถานที่สำคัญในอาณาเขตมนุษย์” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้น “เพราะบางอย่าง มีอัศวินอวกาศ, นักสู้อมตะ และผู้มีพรสวรรค์มากมายที่ต้องการการปกป้องจากผู้แข็งแกร่ง และสำหรับที่อื่นๆ แล้วมี เจ้าแห่งจักรวาล หลายคนที่อยู่ในสถานที่สำคัญ พวกเขาสามารถช่วยเหลือกันได้หากมีภัย ถ้ามีเจ้าเพียงคนเดียวที่อยู่ในทางช้างเผือก คนอื่นต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะไปที่นั่นหากเผ่าอื่นเข้าโจมตี แน่นอนว่ามี เจ้าแห่งจักรวาล ที่เลือกจะให้ร่างหนึ่งของตัวเองปกป้องบ้านเกิด เจ้าไม่คิดเปลี่ยนใจงั้นรึ?”

หลัวเฟิง ยิ้มและพูดขึ้น “ไม่ ข้าจะปกป้องทางช้างเผือกไปตลอดกาล”

เขาได้สู้เพื่อสิ่งนี้มานาน…และถึงกับต้องเสี่ยงชีวิต…เพื่ออะไร?

เพื่ออยู่จุดสูงสุดของจักรวาลและปกป้องบ้านตัวเอง!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version