Skip to content

Swallowed Star 118

ตอนที่ 118 น้องใหม่

เวลา 2 ทุ่ม…

บนชั้นสองของร้านอาหารหมายเลข 1 ภายในค่ายฝึกหัวกะทิ นักเรียนชาวจีนทั้ง 21 คนรวมตัวกันอยู่ที่นี่ พวกเขามาเพื่อรอยินดีต้อนรับหลัวเฟิงผู้มาใหม่! ผู้คนในต่างแดนมักจะตื่นเต้นที่ได้เห็นคนอื่นๆ ที่มาจากประเทศเดียวกันกับตน ดังนั้นจึงมีรุ่นพี่หลายคนที่รอคุยและดื่มร่วมกับหลัวเฟิงอย่างยินดี

1 ชั่วโมงผ่านไป

“เฮ้อ…ปล่อยเราซะที” หลัวเฟิงยืนถือแก้วของตนอยู่ที่มุมๆ หนึ่ง

“งานเลี้ยงนี้จัดขึ้นเพื่อนาย นายเป็นตัวหลักของงาน ฉะนั้นแน่นอนว่าทุกคนก็จะต้องเข้ามาหาเพื่อคุยและดื่มกับนาย” จ้าวรั่วเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เริ่มแดงเล็กน้อย ภายใต้แสงของไฟในห้องเธอดูดีทีเดียว “อ่อหลัวเฟิง รุ่นพี่ฉู่เฉียงเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงคืนนี้นะ นายรู้ไหมว่างานเลี้ยงคนนี้ราคาเท่าไหร่?”

หลัวเฟิงส่ายหน้า “อาหารทุกจานอร่อยสุดๆ แต่ผมเดาไม่ถูกหรอกว่าพวกมันราคาเท่าไหร่ แต่ต่อให้มันจะแพงหูฉี่ซักแค่ไหนก็น่าจะอยู่ราวๆ ซัก 1 ล้านหยวนล่ะมั้ง?”

ราคาอาหารและเครื่องดื่มจะแพงได้ซักแค่ไหนกัน?

“1 ล้านหยวน? ตลกแล้ว!” จ้าวรั่วทำเสียงต่ำ “พ่อครัวของที่นี่เป็นมือยอดเยี่ยมระดับโลก แล้วก็…อาหารทุกอย่างล้วนทำมาจากส่วนต่างๆ ของสัตว์ประหลาดทั้งนั้น ฉะนั้น งานเลี้ยงสำหรับ 21 คนนี้…ราคาอย่างน้อยต้องราวๆ 10 ล้านหยวน”

หลัวเฟิงกะพริบตาปริบๆ

“อย่าไปพูดถึงเรื่องราคาเลย! นายไม่สามารถกินอะไรก็ได้ในโลกนี้เพียงเพราะมีเงินหรอก!” จ้าวรั่วส่ายศีรษะ “แต่นี่เป็นเงินเล็กน้อยเท่านั้นสำหรับรุ่นพี่ฉู่เฉียง ในค่ายของเรา ถ้านักเรียนระดับท็อป 10 ยอมเข้าร่วมองค์กร พวกเขาก็จะรับเงินมหาศาลเลยทีเดียว!”

“รุ่นพี่ฉู่เฉียงเข้าร่วมกับองค์กรเหรอครับ?” หลัวเฟิงถามอย่างประหลาดใจ

ตอนเขามาถึงที่นี่เมื่อวานนี้ ชื่อฉู่เฉียงปรากฏอยู่ที่อันดับ 2 ของอันดับมังกรดำ คนที่สามารถไต่ขึ้นไปถึงอันดับ 2 ได้…แม้จะเป็นการชั่วคราว ยังไงเขาก็ยังดูน่ากลัวอยู่ดี

“ฉู่เฉียงถูกดึงตัวโดยกองทัพชาติจีนของพวกเรา ทุกคนรู้เรื่องนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว” จ้าวรั่วกระซิบ “และฉันก็เคยได้ยินมาว่าสำนักขีดสุดเคยพยายามดึงตัวเขาอยู่เหมือนกัน ขนาดองค์กรใหญ่ๆ ในจีนก็ยังพยายามต่อสู้ดึงตัวเขาทุกวิถีทาง พวกหน่วยพิเศษของกองทัพเตรียมพร้อมดึงตัวเขาไว้แล้ว หลังจากที่เขาเรียนจบเขาจะต้องได้เป็นหัวหน้าหน่วยแน่ๆ!”

หลัวเฟิงอึ้งไป

กองทัพจัดตั้งหน่วยพิเศษขึ้นเพื่อต้อนรับฉู่เฉียงเลยงั้นเหรอ?

“ก็อย่างว่า มันก็ช่วยไม่ได้ ฉู่เฉียงเขาแข็งแกร่งจริงๆ นี่นะ” จ้าวรั่วถอนหายใจ “เขาสามารถอยู่ในระดับท็อป 5 ได้อย่างสบายๆ ในค่ายฝึกนี้ มีอยู่ 10 คนที่สามารถขึ้นถึงอันดับท็อป 5 ได้ด้วยพลังล้วนๆ! แต่มีเพียงหนึ่งหรือสองคนเท่านั้นที่สามารถติดอันดับท็อป 5 ได้อย่างคงเส้นคงวามาตลอด”

หลัวเฟิงพยักหน้าเพื่อแสดงว่าเข้าใจ

อันดับมังกรดำจะจัดอันดับตามฐานคะแนนต่อสู้ ถึงแม้ว่าจะมีผู้ที่ทรงพลังถูกจัดอันดับให้สูงกว่า แต่ว่าอันดับนั้นก็ไม่อาจบอกถึงความแข็งแกร่งได้ 100% ซะทีเดียว ถ้าสามารถพุ่งขึ้นสู่ท็อป 5 ได้ในเดือนนี้ คนที่มีทักษะสูสีก็อาจเข้ามาแทนที่ได้ในเดือนหน้า เพราะทุกคนในที่นี้มีคะแนนไม่ได้แตกต่างกันมากนัก

ดังนั้น ถึงเป็นเหตุว่าทำไม…จึงมีคนถึง 10 คนที่วนเวียนขึ้นท็อป 5 ได้

ใครก็ตามที่สามารถแทรกตัวขึ้นไปติดอันดับท็อป 5 ได้ คนๆ นั้นถือว่าน่ากลัวมาก

“รัฐบาลจะคอยจ่ายเงินให้กับฉู่เฉียงเป็นจำนวนมากในทุกๆ ปี” จ้าวรั่วถอนหายใจ “ในค่ายฝึกของเรามีคนอยู่ 3 ประเภทที่มีเงินมหาศาล…อย่างแรกก็คือคนแบบฉู่เฉียงที่ทรงพลังมากๆ และเข้าร่วมกับองค์กรพิเศษ อย่างที่สองก็คือคนที่ยอมเข้าร่วมกับหนึ่งในตระกูลหลักของพันธมิตรใต้ดิน และอย่างที่สามก็คือพวกนักอ่านจิต! แต่คนประเภทที่สองที่ยอมเข้าร่วมกับทางตระกูลใหญ่ของพันธมิตรใต้ดินจะถือว่าไม่ฉลาดนัก ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีเงินมาก แต่พวกเขาเมื่อเปรียบเทียบกับรัฐบาล สำนักขีดสุด สำนักสายฟ้าแล้วพวกตระกูลก็เหมือนกับไม่มีอำนาจอะไรเลย และสำหรับประเภทที่สาม นักอ่านจิต…เฮ้อ ไม่รู้จะพูดยังไง ด้วยพลังจิตของพวกเขา การฆ่าสัตว์ประหลาดนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการเกี่ยวข้าวสาลี! วัตถุดิบจำนวนมากมายที่พวกเขาสามารถหาได้ในทุกๆ วัน ด้วยสิ่งนี้ พวกเขาจะสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาล! จำนวนเงินที่นักอ่านจิตคนเดียวสามารถทำได้นั้นมากกว่าพวกเรารวมกันนับสิบเท่า!”

หลัวเฟิงหัวเราะ

ในฐานะนักอ่านจิต เขารู้ชัดอยู่แล้วว่านักอ่านจิตสามารถทำเงินได้อย่างรวดเร็วแค่ไหน! แม่ทัพขั้นกลางเช่นเกาเฟิงสามารถทำเงินได้ 200-300 ล้านต่อปี และแม่ทัพขั้นสูงที่โชคดีหน่อยก็อาจทำได้ราวๆ 1,000 ล้านต่อปี แต่สำหรับหลัวเฟิงซึ่งเป็นนักอ่านจิตระดับแม่ทัพขั้นสูง ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เขาจะทำเงินได้ถึง 1 หมื่นล้านต่อปี

นี่อาจจะดีกว่านักสู้ระดับเทพสงครามขั้นต้นเสียอีก!

นักอ่านจิตระดับแม่ทัพขั้นสูงมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับนักสู้ระดับเทพสงครามขั้นต้น ด้วยพลังจิตของพวกเขา จะสามารถฆ่าสัตว์ประหลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงมาก

“คน 3 ประเภทนี้เป็นพวกที่มีเงินมากที่สุดในค่ายของเราแล้ว” จ้าวรั่วพึมพำ

“หลัวเฟิง” เสียงเรียกดังขึ้น

หลัวเฟิงและจ้าวรั่วหันไปมองพร้อมกัน สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือชายหนุ่มร่างสูงผู้มีใบหน้าราวกับถูกสลักด้วยคำขวาน เขาคือนักเรียนระดับตำนานที่ยังมีตัวตนของค่ายฝึก…ฉู่เฉียง!

“รุ่นพี่ฉู่เฉียง” จ้าวรั่วหัวเราะขณะที่ร้องทัก

“คุยกันเถอะค่ะ” เธอกล่าวพลางขยับหลบไปด้านซ้ายมือ

หลัวเฟิงและฉู่เฉียงต่างก็ยืนประจันหน้ากันอยู่ที่มุมนั้น

“หลัวเฟิง” ฉู่เฉียงชำเลืองดูคนอื่นๆ แล้วลดเสียงต่ำลง “กองทัพแห่งรัฐบาลจีนของเราให้ความสนใจนาย ว่าแต่นายสนใจจะเข้าร่วมกับกองทัพบ้างหรือเปล่า?”

“กองทัพ?” หลัวเฟิงอึ้ง

เขาเพิ่งจะเข้ามาร่วมกับทางค่ายฝึกและตอนนี้เขาก็กำลังถูกพยายามดึงตัวเหรอ?

“จริงๆ นะ!” ฉู่เฉียงยกไวน์ขึ้นจิบนิดหนึ่ง “ไม่ต้องกังวล กองทัพเนี่ยใจป้ำสุดๆ พวกเขาจะเลี้ยงดูนายตามความแข็งแกร่งจนกระทั่งนายเรียนจบจากที่นี่! เมื่อนายกลายเป็นคนแข็งแกร่งพวเขาก็จะยิ่งดูแลนายด้วยความเคารพ! สำหรับรายละเอียดอื่นๆ เดี๋ยวเราค่อยคุยกันหลังจากนี้ ถ้านายยอมตอบตกลง…ภายในเวลา 5 ปีในค่ายนี้ ทางกองทัพจะมีทุนให้นายใช้จ่ายถึง 5 พันล้านต่อปีทีเดียว”

หัวใจของหลัวเฟิงเต้นระทึกขึ้นเล็กน้อย

“5 พันล้าน?”

ถ้าเขาไม่ใช่นักอ่านจิต เขาก็คงไม่มีประสิทธิภาพในการล่าสัตว์ประหลาดมากนัก ยกตัวอย่างเช่น เทพสงครามขั้นต้นจะต้องเจอกับอุปสรรคอยู่มากหากต้องล่าสัตว์ประหลาดระดับจ่าฝูงขั้นต่ำให้สำเร็จ! ดังนั้น จึงดีมากสำหรับเทพสงครามขั้นต้นที่ได้รับเงิน 5 พันล้านต่อปี และเทพสงครามก็มีรายจ่ายมากเสียด้วย ฉะนั้น เงินจึงถือเป็นเรื่องจำเป็นมากสำหรับเทพสงคราม!

เลือดมังกร ยาอายุวัฒนะ ชุดต่อสู้เกรด SS…

ของพวกนี้ล้วนแต่แพงหูฉี่ทั้งนั้น!

เทพสงครามหลายคนไม่อาจซื้อของพวกนี้ได้

ตัวอย่างเช่น ชุดต่อสู้ที่หลัวเฟิงได้มาจากตอนที่ไปขโมยไข่มังกรเกราะเหล็ก มีเฉพาะเกราะด้านนอกเท่านั้นที่เป็นเกรด SS ชัดเจนว่าเทพสงครามผู้ล่วงลับคนนั้นไม่อาจซื้อชุดต่อสู้เกรด SS ได้ในทุกส่วน เขาจึงซื้อเฉพาะส่วนที่สำคัญที่สุดเท่านั้น

“รุ่นพี่ ผมเพิ่งจะเข้ามาร่วมค่าย ผมเลยยังไม่มีแผนที่เข้าร่วมกับทางองค์กรใดเลย อีกซักปีสองปีผมถึงจะเริ่มคิดเรื่องนี้ครับ” หลัวเฟิงกล่าว

“โอ้?” ฉู่เฉียงประหลาดใจ “เอาล่ะ อย่างที่นายคิดก็ถูก 5 ปีในค่ายนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการเพิ่มความแข็งแกร่ง ถ้านายอยากจะเข้าร่วมกับทางกองทัพก็บอกฉันละกันนะ”

……….

ในคืนนั้น หลัวเฟิงได้รับคำเชิญจากองค์กรถึง 6 องค์กร! ซึ่ง 3 องค์กรมาจากภายในประเทศจีน หลังจากที่เขาได้รับคำเชิญเหล่านั้นแล้วหลัวเฟิงก็ได้รู้ว่า…นอกจากกองทัพแล้ว ยังมีองค์กรพิเศษอื่นๆ อีกมาก แต่อย่างไรก็ตาม กองทัพถือว่ามีพลังอำนาจมากที่สุดในบรรดาองค์กรเหล่านั้น

สำหรับอีก 3 คำเชิญที่เหลือ 2 คำเชิญมาจากตระกูลใหญ่ของพันธมิตรใต้ดิน ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งมาจากกลุ่มทหารรับจ้างที่เรียกตัวเองว่า ‘กลุ่มเปลวอัคคี’

มีกลุ่มทหารรับจ้างอยู่ไม่กี่กลุ่มในโลกนี้

แต่อย่างไรก็ตาม มีหลายกลุ่มที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับทั่วๆ ไป แต่ก็มีบางกลุ่มที่ทรงพลังสุดๆ เช่นกัน!

ทั้งอาจารย์หงและเทพสายฟ้า ต่างมีนครของตนและได้ขยายสาขาสำนักออกไปทั่วโลก พลังของพวกเขาไม่มีวันลดลงเลย

พวกเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ระดับโลก

แต่ก็มีคนอื่นๆ ที่ทะเยอทะยานปรารถนาจะก่อตั้งพลังอำนาจของตนขึ้นมาเองอยู่บ้าง อย่างเช่น กลุ่มเปลวอัคคี ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นจากสิ่งมีชีวิตผู้เหนือเทพสงคราม 2 คน กลุ่มทหารรับจ้างของพวกเขาแข็งแกร่งมาก และพวกเขายังได้เชิญนครต่างๆ ของชาวแอฟริกันให้เข้าร่วมสนับสนุนด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม…

หลัวเฟิงก็ได้ปฏิเสธทั้ง 6 คำเชิญนั้น!

………..

รุ่งเช้าวันที่ 30 มีนาคม อุณหภูมิค่อนข้างต่ำ…

นักเรียนจำนวนหนึ่งกำลังวิ่งและเดินอยู่ภายในค่าย หลัวเฟิงเป็นหนึ่งในนั้นด้วย

“หลัวเฟิง หลัวเฟิง”

ขณะที่กำลังเดินอยู่บนถนนที่ปูด้วยหิน หลัวเฟิงซึ่งอยู่ในชุดฝึกสีดำก็หันไปมองทางต้นเสียงด้วยความประหลาดใจ เขาเห็นเด็กหนุ่มผมสั้นสีบลอนด์ยิ้มให้และกำลังเดินเข้ามา สำเนียงภาษาจีนแปร่งๆ ที่พูดออกมาคำหนึ่งก็ทำให้รู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นน่าจะเป็นชาวต่างชาติ”

“ฉันชื่อวิลเลียม…วิลเลียม เอดิสัน จาก EU” เด็กหนุ่มกล่าวอย่างเป็นมิตร

วิลเลียม?

หลัวเฟิงพึมพำกับตนเอง ชื่อนี้ก็คงจะเหมือนกับ ‘อเล็กซานเดอร์’ ของรัสเซีย ‘เดวิด’ ของสหรัฐฯ และ ‘หวังเว่ย’ หรือ ‘จางเว่ย’ ของจีน ชื่อเหล่านี้ธรรมดามากๆ

“วิลเลียม? ยินดีที่ได้พบนาย” หลัวเฟิงกล่าว

“ฉันสนใจเรื่องเกี่ยวกับประเทศจีนมาตลอด” วิลเลียมพูดอย่างกระตือรือร้น “ในค่ายฝึกนี้ก็มีอัจฉริยะจากประเทศจีนตั้งหลายคน และหลัวเฟิง นายเข้ามาที่นี่เพียงลำพัง ฉันเลยอยากจะประลองกับนายดูเพื่อเป็นการทดสอบพลัง ฉันจะดีใจมากเลยถ้านายยอมรับคำขอร้องฉัน”

หลัวเฟิงอึ้ง “ประลอง?”

“ใช่ พวกเราสามารถทำได้ในห้องประลอง โอเคไหม?” วิลเลียมขอร้อง

“ห้องประลอง?”

เนื้อหาของคู่มือนักเรียน ที่หลัวเฟิงอ่านปรากฏขึ้นในหัวทันที ห้องประลองนี้เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ได้จากซากโบราณคดี หลังจากที่เข้าไปในห้องประลองแล้ว คนสองคนจะเข้าไปใน โลกเสมือนจริง ซึ่งจะเชื่อมต่อสมองเข้ากับคอมพิวเตอร์และเริ่มทำการต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย!

โดยปกติ การต่อสู้นี้จะมีเงินเดิมพัน!

“ไม่ต้องพนันกันมากก็ได้ เอาซัก 1 ล้านหยวนเป็นไง?” วิลเลียมยิ้มกริ่มดวงตาเป็นประกาย

“วิลเลียม!”

น้ำเสียงห้วนๆ ดังขึ้น

หลัวเฟิงหันไปดูก็เห็นจ้าวรั่วซึ่งบัดนี้อยู่ในชุดฝึกสีม่วงแจ่ม ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเดือดดาลขณะที่ตะโกนออกมา “วิลเลียม นายนี่หน้าไม่อายจริงๆ! หลัวเฟิงเพิ่งจะมาถึงที่นี่และยังเป็นน้องใหม่อยู่ แล้วนายก็จะมาท้าเขาประลองในห้องประลองงั้นเหรอ? นายจ้องแต่จะหาเด็กใหม่แล้วหลอกท้าประลองเพื่อเอาเงินพวกเขา! ถ้านายเจ๋งนักทำไมไม่มาท้าประลองกับฉันล่ะ!?”

“คุณจ้าวรั่ว นี่มันไม่เกี่ยวกับคุณนะ ใช่ไหม? ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันเชื่อว่าหลัวเฟิงเขาแข็งแกร่งพออยู่แล้ว บางทีฉันอาจจะแพ้เขาก็ได้นะ” วิลเลียมมองหน้าหลัวเฟิง

จ้าวรั่วหันไปมองหน้าหลัวเฟิงเช่นกัน “หลัวเฟิง อย่าไปเชื่อเจ้าปีศาจวิลเลียมนี่ มันมักจะมีคนในค่ายที่คอยจ้องฉวยโอกาสจากพวกเด็กใหม่แบบนี้แหละ พวกเขาไม่กล้าทำแบบเปิดเผย เลยมักจะใช้วิธีการหลอกล่อให้ประลองแบบนี้…เด็กใหม่ก็จะพ่ายแพ้และเสียเงิน จนกว่าจะรู้ตัวก็เสียเงินไปเยอะแล้ว! เจ้าปีศาจตัวนี้เขามีความสามารถในการต่อสู้ ขั้นกลาง ถึงแม้ว่าจะไม่สูงนัก แต่ก็ไม่ต่ำเลย เด็กใหม่ทั้งหมดไม่ถือว่าเป็นคู่แข่งเขาได้หรอก”

“แค่ล้านเดียวเอง”

วิลเลียมมองหน้าหลัวเฟิง “ถ้านายยอมเข้าร่วมกับองค์กร นายจะได้รับยิ่งกว่านี้เยอะในแต่ละปี เชื่อฉันสิ”

หลัวเฟิงเข้าใจดีว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น มีคนที่ชอบหลอกล่อเด็กใหม่ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรๆ หลอกให้พวกเขาเข้าห้องประลองแล้วก็รีดเงินพวกเขาไป

“นี่วิลเลียม” เด็กหนุ่มชาวจีนคนหนึ่งโผล่พรวดเข้ามา เด็กหนุ่มคนนี้นามว่าเจียงเฉินที่หลัวเฟิงเพิ่งจะได้พบหน้าที่งานเลี้ยงเมื่อวานนี้ “หลัวเฟิง อย่าไปพนันกับเขานะ! หมอนี้มันเจ้าเล่ห์สุดๆ ฉันเพิ่งจะมาเข้าร่วมกับทางค่ายเมื่อวันที่ 1 มีนาที่ผ่านมาและฉันก็เจอเขาหลอกตั้งแต่วันแรกที่มาถึงเลย เขาเล่นฉันซะหมดกระเป๋าเลย”

หน้าของวิลเลียมเจื่อนไปเหมือนกัน ในตอนแรกเขาแค่จะหาโอกาสคุยกับหลัวเฟิงตัวต่อตัว แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีคนหลายคนเข้ามาทำลายแผนเขาแบบนี้

“เอาล่ะๆ ถ้านายต้องการพนันเราจะจัดให้” หลัวเฟิงยิ้มขณะที่มองหน้าวิลเลียม

“หลัวเฟิง” จ้าวรั่วและเจียงเฉินมองหน้าหลัวเฟิงแบบทึ่งๆ

“โอ้” วิลเลียมยิ้มออกมาได้ “หลัวเฟิง นัดมาเลย”

“ว่าแต่ว่า ล้านเดียวน้อยไปนะ ดูแล้วไม่น่าสนเท่าไหร่ เทหมดหน้าตักไปเลย…5 พันล้าน!” หลัวเฟิงจ้องหน้าวิลเลียม “ถ้านายอยากเล่นก็กล้าๆ หน่อย แต่ถ้าป๊อดก็ไม่เป็นไร”

จ้าวรั่วและเจียงเฉินเบิกตากว้าง

“5 พันล้าน?” วิลเลียมแข็งค้างไปเหมือนกัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version