Skip to content

Swallowed Star 121

ตอนที่ 121 ครูของหลัวเฟิง

“นายกำลังดูอะไรในมือถือ?” จ้าวรั่วยิ้มให้ขณะที่เดินเข้ามา

พวกนักเรียนจากประเทศจีนต่างก็เดินเข้ามาสมทบด้วย

“อ๋อ ผมดูการแจ้งเตือนยอดเงินในบัญชีนะครับ” หลัวเฟิงตอบ

พอได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของวิลเลียมยิ่งย่ำแย่ขึ้นไปอีก!

“ยอดเงินเข้าแล้วเหรอ? ฮ่าๆ นายเพิ่งจะเข้ามาร่วมค่ายก็ได้รับเหนาะๆ 5 พันล้านซะแล้ว เรื่องอย่างนี้หาได้ยากจริงๆ ในค่ายเรา นายเลี้ยงพวกเราเลยนะ ไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันดีกว่า” จ้าวรั่วและนักเรียนจีนคนอื่นๆ ต่างก็เฮฮาสนุกสนาน

“แน่นอน ไม่มีปัญหา!” หลัวเฟิงมองหน้าจ้าวรั่วด้วยสีหน้าทีเล่นทีจริง “รุ่นพี่ ไหนบอกว่าถ้าชนะแล้วจะทำของอร่อยให้ผมกินไง?”

“เอ้อ…เอ่อ…” จ้าวรั่วเอามือลูบศีรษะ

“จ้าวรั่ว ฉันก็ได้ยินแบบนั้นเต็มหูเลย เธอพูดแบบนั้นจริงๆ” ฉื่อเจียงกล่าวทำท่าขึงขัง

จ้าวรั่วขมวดคิ้วแล้วมองหน้าฉื่อเจียง “รุ่นพี่ แหม…ไม่นึกว่าจะร้ายขนาดนี้ ก็ได้ๆ ทำก็ทำ!”

ในล็อบบี้ชั้นที่ 9 นั้น พวกนักเรียนชาวจีนกำลังสนทนากันอย่างมีความสุข

แต่อย่างไรก็ตาม พวกนักเรียนจากสหภาพยุโรปก็กำลังสนทนากันอย่างขุ่นเคืองด้วยภาษาอังกฤษ เด็กสาวผมสั้นสีน้ำตาลเข้มอดจะบ่นออกมาไม่ได้ “วิลเลียม นายแพ้เด็กใหม่ได้ยังไง ถึงนายจะควบคุมพลังได้ไม่ค่อยดีนัก แต่เทคนิคดาบของนายเหนือกว่านักเรียนทั่วๆ ไปที่เข้ามาค่ายในรุ่นราวคราวเดียวกันนี่นา นายแพ้ได้ไงเนี่ย? นายประมาทเขางั้นเหรอ?”

“เปล่า” วิลเลียมขมวดคิ้ว “ฉันสู้เต็มที่แล้ว แต่หลัวเฟิงนั่นควบคุมพลังได้ดีกว่าฉัน”

“ออกแรงดีกว่า?”

“วิลเลียม” เด็กหนุ่มร่างสูงผมบลอนด์เอ่ยขึ้น “เมื่อนายแพ้ ก็คือแพ้ แต่ยังไงซะ พวกเราจะปล่อยให้เด็กจีนนั่นหอบเงิน 5 พันล้านไปอย่างลอยนวลไม่ได้ ในอนาคต…เราจะต้องหาทางให้หมอนั่นคลายเงินมันออกมาให้ได้”

เด็กหนุ่มผมบลอนด์กล่าวลอดไรฟัน ทุกคนในกลุ่มพยักหน้ารับรู้

นั่นคือวิถีที่เป็นไปในค่ายฝึก

ถ้านายชนะพนันได้เงินก้อนโตจากฉัน ฉันก็จะต้องหาทางชนะนายกลับให้ได้! ถ้าฉันชนะไม่ได้ ฉันก็จะให้รุ่นพี่ช่วย แน่นอน…สามารถใช้วิธีหดหัวในกระดองและไม่ยอมรับการท้าประลองอีกก็ได้

………….

หลัวเฟิงอารมณ์ดีมาก ถึงแม้เขาจะไม่ได้ชนะอย่างขาดลอยนัก แต่เขาก็ได้เรียนรู้ข้อบกพร่องของตนเอง! นี่เป็นสิ่งที่ดี ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ…เงิน 5 พันล้านที่เพิ่งได้มานี้ ทำให้เขามีเงินพอที่จะซื้อยาอายุวัฒนะได้แล้ว

“เมื่อครั้งล่าสุดมันเคยถูกประมูลไปในราคา 3 หมื่นล้าน และนั่นก็ถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่มาก ถ้ามียาอายุวัฒนะออกมาอีก มันอาจจะราคาไม่ถึง 3 หมื่นล้านก็ได้ เราน่าจะมีเงินมากพอแล้วนะ ถึงแม้ว่าราคามันจะสูงเกินกว่านี้ เราก็ยังกู้ธนาคารได้อยู่!”

ทุกคนล้วนก็มีวงเงินจำกัดในการกู้ยืมธนาคาร สำหรับนักสู้แล้ว ยิ่งสถานะและความแข็งแกร่งของเขามีมากเท่าใด เขาก็จะสามารถกู้ยืมธนาคารได้มากเท่านั้น! และก็ไม่ใช่เรื่องยากที่นักเรียนภายในค่ายที่ดีที่สุดของโลกเช่นนี้จะกู้เงินจากธนาคารซัก 1 หมื่นล้าน แน่นอน…อัตราของวงเงินนั้นสูงมากอยู่แล้ว

“ไป ไปหามื้อเที่ยงทานกันดีกว่า”

“ฮ่าๆๆ ไปทานกันที่ชั้น 2 เถอะวันนี้ เดี๋ยวหลัวเฟิงเลี้ยง” จ้าวรั่วตะโกนเสียงดัง

“ไม่มีปัญหา…ทานให้พุงกางกันไปเลยครับ” หลัวเฟิงหัวเราะ

ในขณะนั้น พวกกลุ่มนักเรียนจากสหภาพยุโรปก็เดินเข้ามา หัวหน้ากลุ่มนั้นก็คือเด็กหนุ่มร่างสูง เขาจ้องหน้าหลัวเฟิงอย่างเยือกเย็น “หลัวเฟิง ความแข็งแกร่งของนายน่าทึ่งมาก…และฉันก็ชักคันไม้คันมือขึ้นมาเหมือนกัน ฉันจะยินดีมากหากมีโอกาสได้ประลองกับนายซักครั้ง! นายท้ามาได้เลย ไม่ว่าจะพนันกันมากแค่ไหน ฉันเอาด้วย!”

เงียบกริบ…นักเรียนในบริเวณนั้นต่างเงียบลงทันที

น่าสนใจ…

มันกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจไปซะแล้ว เหล่านักเรียนที่มาจากรัสเซีย อเมริกา อินเดีย นครหงหนิง และนครอื่นๆ ล้วนกำลังมองดูเหตุการณ์ พวกเขาหวังว่าจะได้ดูมวยหมู่ พวกเขาอยากเห็นการปะทะกันระหว่างนักเรียนจากสหภาพยุโรปและจีน

“ยังไงก็ได้งั้นเหรอ?” หลัวเฟิงมองหน้าชายผู้ยืนอยู่ต่อหน้าเขา

ชายคนนี้สูงเกือบๆ 1.9 เมตร แต่ร่างผอม แววตาของเขาเยือกเย็นสุดๆ และฉายแววหยิ่งทะนงด้วย ขณะที่จ้องตากับเขา หลัวเฟิงรู้สึกเหมือนเขาจ้องตาอยู่กับ…แวมไพร์!

เขาท้าให้หลัวเฟิงเลือกเงินพนันได้มากเท่าที่ต้องการ?

เด็กหนุ่มผิวขาวคนนี้ทรงพลังสุดๆ ทรงพลังมากแน่ๆ

“กล้าหาญจริงๆ สมกับที่เป็นผู้สืบทอดตระกูลพอลลินัส รวย!”

“กล้าหาญกับผีน่ะซิ!” จ้าวรั่วอดสาปแช่งออกมาไม่ได้

แล้วน้ำเสียงนุ่มลึกก็โพล่งขึ้นมา

“แคนเดซ นายติดอันดับ 42 เมื่อเดือนมีนาที่ผ่านมา แล้วนายก็ฝึกในค่ายนี้มาแล้วถึง 3 ปี นายว่ามันเหมาะแล้วเหรอที่นายจะท้าประลองกับหลัวเฟิง?” ภายในกลุ่มของนักเรียนชาวจีน ฉื่อเจียงก้าวออกมาข้างหน้าและทำคิ้วขมวด “นายมาประลองกับฉันเป็นไง ก็เหมือนกัน ฉันให้นายกำหนดเงินเดิมพัน ไม่ว่าจะสูงแค่ไหนฉันก็จะสู้!”

สีหน้าของแคนเดซเปลี่ยนไปทันที ฉื่อเจียงเป็นใครน่ะเหรอ?

ความจริงที่เขาสามารถยืนหยัดอยู่ในอันดับท็อป 5 ของค่ายมาโดยตลอดแสดงให้เห็นว่าเขาแข็งแกร่งเพียงใด! การประลองกับเขาก็ไม่ต่างกับการเอาเงินไปให้เขาฟรีๆ นั่นแหละ

“ฉื่อเจียง นายควรจะประลองกับเรนาตัสมากกว่านะ” แคนเดซพูด

“ที่แท้นายก็รู้จักกลัวเป็นเหมือนกันนี่” ฉื่อเจียงหันไปมองที่หลัวเฟิง

แต่หลัวเฟิงกำลังจ้องไปที่แคนเดซ…

ฉื่อเจียงและจ้าวรั่วกระโดดออกอย่างตกใจ

อย่าบอกนะว่าหลัวเฟิงก็อยากจะสู้กับแคนเดซ? แคนเดซไม่ใช่วิลเลียม วิลเลียมนั่นเพิ่งจะเข้ามาฝึกที่ค่ายได้แค่ 1 ปี! แต่แคนเดซเข้ามาฝึกที่นี่ถึง 3 ปีแล้ว และการอยู่อันดับที่ 42 นั่นแสดงว่าเขาค่อนข้างจะเก่งกว่านักเรียนทั่วๆ ไปในค่ายทีเดียว

พอเห็นอย่างนั้น แคนเดซก็ได้ใจขึ้นมาทันที ‘หลัวเฟิงนี่มันโง่ขนาดนั้นเลย? จะสู้กับเราจริงๆ เหรอเนี่ย?’

แคนเดซจึงกล่าวอย่างจริงจังทันที “หลัวเฟิง ฉันแคนเดซ พอลลินัส อยากจะประลองกับนายเพื่อเป็นการทดสอบทักษะของพวกเราจริงๆ นะ ฉันจะยินดีมาก ถ้า…”

“แคนเดซ พอลลินัส?” หลัวเฟิงโพล่งขึ้น

มีการเรียกชื่อนี้อยู่จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็มีนักเรียนจีนพูดว่า ‘สมกับที่เป็นผู้สืบทอดตระกูลพอลลินัส’ นี่นา หัวใจของหลัวเฟิงเต้นแรง…ตระกูลพอลลินัส! อีแร้งกับแมงป่องพิษที่อยากจะฆ่าเขาแม้แต่ในความฝัน! และแมงป่องพิษนั่นเธอชื่อเต็มๆ ว่า เวนีน่า พอลลินัส!

น้องสาวแท้ๆ ของหัวหน้าตระกูลพอลลินัส

‘นึกไม่ถึงว่าเราจะได้มาเผชิญหน้ากับคนจากตระกูลพอลลินัสที่นี่ด้วย’ หลัวเฟิงคิดในใจ

“โทษนะ ฉันต้องไปทานมื้อเที่ยงกับรุ่นพี่ของฉันก่อน” หลัวเฟิงยิ้ม หลังจากกล่าวเช่นนั้นเขาก็เดินผละไปที่ลิฟต์พร้อมกับฉื่อเจียงและคนอื่นๆ หลัวเฟิงไม่ได้โง่…เขาจะไม่สู้กับคนที่เขาไม่มั่นใจว่าจะชนะได้หรอก

………..

ในค่ำคืนของวันเดียวกัน…

ลมดึกพัดโชยหวิว ในลานแห่งหอเจียงหนาน

“หลัวเฟิง นี่คือครูเจียง ในช่วงตลอด 5 ปีในค่ายนี้ นายจะเรียนกับครูเจียงคนนี้นะ” ฉื่อเจียงแนะนำ

หลัวเฟิงมองคนที่อยู่ต่อหน้าเขาอย่างไม่เชื่อสายตา เด็กสาวหน้าตาดีในชุดฝึกสีม่วงพร้อมด้วยเรือนร่างอันน่าอัศจรรย์ อกอิ่ม บั้นท้ายงอน เอวคอด!

ครูเจียง?

ครูฝึกในค่ายนี้อย่างน้อยๆ ก็อยู่ในระดับเทพสงคราม! แล้วเทพสงครามแต่ละคนก็ต้องพิเศษพอที่จะถูกเลือกมาให้สอนเหล่าอัจฉริยะได้ ครูเจียงคนนี้…ไม่ว่าหลัวเฟิงจะดูยังไง เธอก็ยังเด็กอยู่และน่าจะไม่แก่ไปกว่าเขาเลย แล้วคนๆ นี้จะเป็นครูของเขาตลอด 5 ปีนับจากนี้จริงๆ เหรอ

“ฉันชื่อเจียงฟาง” เด็กสาวในชุดสีม่วงให้ความรู้สึกเหมือนมีดเล่มหนึ่ง!

“ตลอด 5 ปีต่อไปนี้ ฉันจะเป็นครูฝึกของนาย” เจียงฟางกล่าวต่อ “ตอนนี้มีนักเรียนที่เรียนกับฉันอยู่ 5 คน นายจะเป็นคนที่ 6”

หลัวเฟิงโค้งให้เล็กน้อย “ครูเจียง”

“โอเค หยิบดาบแล้วมากับฉัน” เจียงฟางกล่าว

“ครับ” หลัวเฟิงคว้าดาบปีศาจในทันทีแล้วเสียบเก็บไว้ที่ด้านหลังก่อนจะเดินตามเจียงฟางไป

………

คิดไม่ถึงว่าเขาจะได้ครูเป็นผู้หญิงภายในค่ายนี้

ขณะที่พวกเขากำลังเดินดุ่มๆ อยู่ภายในค่าย เจียงฟางก็เอ่ยขึ้นยิ้มๆ “ฉันได้ยินว่านายเอาชนะวิลเลียมเมื่อตอนเที่ยงที่ผ่านมานี้ใช่ไหม?”

“ครับ” หลัวเฟิงพยักหน้า

“เทคนิคดาบของวิลเลียมค่อนข้างดี เขาบรรลุถึงขั้น 2 แล้ว ไม่เลวที่นายสามารถชนะเขาได้” เจียงฟางพยักหน้าอย่างพอใจแล้วดึงดาบโค้งออกมาจากข้างเอวของเธอ “มา หลัวเฟิง…แสดงเทคนิคดาบของนายออกมา มาเลย มาสู้กับฉัน! ฉันจะใช้พลังและความเร็วไม่เกินของนายหรอก!”

เจียงฟางมีระดับสมรรถภาพร่างกายอยู่ในระดับเทพสงครามไปแล้ว เพราะเธอฝึกพลังพันธุกรรมเธอจึงยังดูเด็กมาก

ถึงแม้ว่าเธอจะดูเหมือนอายุราวๆ 20 ปี แต่ที่จริงเธออายุ 30 เข้าไปแล้ว”

“ครับ ครู” หลัวเฟิงดึงดาบปีศาจออกมา

“โจมตี!” เจียงฟางร้องสั่ง

“ครับ!”

หลัวเฟิงพุ่งตรงเข้าใส่ราวกับสายฟ้า ดาบของเขาพุ่งตรงเข้าหาเจียงฟาง ดาบโค้งของเจียงฟางยังคงอยู่นิ่ง เธอขยับเฉพาะมือซ้ายเท่านั้น

“เคร้ง!” ในทันทีนั้นดาบโค้งในมือซ้ายของเธอก็เข้าปะทะกับดาบปีศาจในมือของหลัวเฟิง หลัวเฟิงรู้สึกแปลกๆ เขารู้สึกเหมือนหมดพลัง ก่อนที่หลัวเฟิงจะทันได้ดึงดาบกลับมา ดาบโค้งของเจียงฟางก็ตวัดเข้ามาที่ลำคอของหลัวเฟิงจากทางด้านหลังและก็ดึงกลับไป

“นายแพ้แล้ว” เจียงฟางขมวดคิ้วขณะที่มองหน้าหลัวเฟิง “ลองอีก”

พลังจิตของหลัวเฟิงอยู่รอบๆ ดาบโค้วของเจียงฟางแล้ว ถ้าเจียงฟางต้องการเฉือนคอเขาจริงๆ พลังจิตของเขาจะควบคุมดาบโค้งนั่นทันที

ช่วยไม่ได้…

ดาบนั่นมันน่ากลัวจริงๆ

“ครับ” หลัวเฟิงพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้ง

“เคร้ง”

“เคร้ง”

ดาบโค้งในมือของเจียงฟางเข้าปะทะกับดาบของหลัวเฟิงถึงสองครั้งก่อนที่ดาบของหลัวเฟิงจะทันได้เหวี่ยงออกมาจากตัวเขาซะอีก

“ทำไมเทคนิคดาบของนายถึงได้ห่วยอย่างนี้?” เจียงฟางมองหน้าหลัวเพิงด้วยความสงสัย “นี่นายเอาชนะวิลเลียมได้จริงๆ เหรอเนี่ย?”

หลัวเฟิงเริ่มรู้สึกอายอยู่ลึกๆ

ถูกดูแคลนจากครูฝึกซึ่งเป็นเทพสงครามผู้หญิง…ให้ตาย ทั้งพลังและความเร็วของเธอไม่ได้ดีไปกว่าเขาเลย แต่กลับทำลายจังหวะการโจมตีของเขาได้อย่างง่ายดาย และการโจมตีของดาบก็ซัดเข้ามาเป็นระลอก ซึ่งมันสามารถจัดการเขาได้โดยง่ายดายเหลือเกิน

ในแง่ของเทคนิคดาบ…ใครๆ ก็รู้ว่าเจียงฟางคนนี้เหนือกว่าวิลเลียมหลายเท่านัก และเจียงฟางก็ใช้ดาบแค่ข้างเดียว ดาบอีกข้างไม่ได้ขยับเลยด้วยซ้ำ

ถ้าเขาใช้พลังจิต เขาอาจจะสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาใช้แค่ดาบในมือ เขาก็น่าจะแพ้แบบหมดท่าเลยก็ได้

“ครูครับ ผมใช้ทั้งความเร็วและพลังเข้าโจมตีวิลเลียม เพราะงั้น ผมเลยชนะเขาได้” หลัวเฟิงกล่าว

“โอ้?”

เจียงฟางแสดงสีหน้าดีใจ “ดูเหมือนว่าการออกแรงของนายจะค่อนข้างทรงพลัง การออกแรงอย่างนั้นต้องใช้การควบคุมร่างกายที่ดีมาก! แสดงว่าพื้นฐานการควบคุมพลังของนายค่อนข้างดีทีเดียว ฮึ่ม…ถึงแม้ว่าเทคนิคดาบของนายจะไม่ได้เรื่อง แต่นั่นก็สามารถพัฒนากันได้! แล้วพลังหมัดของนายอยู่ที่เท่าไหร่แล้ว?”

“2.8 ครับ” หลัวเฟิงตอบ

“โห…พลังหมัดของนายอยู่ในระดับสูงทั้งๆ ที่เพิ่งจะเข้ามาร่วมค่าย ไม่แปลกใจเลยที่นายถูกจับตามอง” เจียงฟางพยักหน้าอย่างพอใจ “หลัวเฟิง อย่าไปเสียใจกับเทคนิคดาบที่แย่ของนาย นั่นมันเป็นเรื่องธรรมดา! นายยังเด็กอยู่ ถ้าสถานะดาบและเทคนิคของนายดีขึ้นแล้ว มันจะน่ากลัวมากทีเดียว ฉันฝึกมาตั้งแต่ยังเด็ก หลังจากที่ฝึกหนัก 20 กว่าปีฉันถึงได้มีเทคนิคขนาดนี้ นายตามฉันมา”

เจียงฟางเก็บดาบของเธอเข้าฝักแล้วเดินนำหน้าไป หลัวเฟิงเดินตามครูสาวของเขาไปทันที

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version