ตอนที่ 1228 กำจัด
เผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์และสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์เริ่มทำการโจมตีในเวลาเดียวกัน การโจมตีที่หลากหลายเริ่มรวมตัวกัน
“พวกนี้น่ารังเกียจจริงๆ” หลัวเฟิงกัดฟันพูดออกมาด้วยความโกรธ
ร่างกายของหลัวเฟิงสั่น เกราะเทพทำลายของเขาได้ขยายตัวออกมา มันรวมตัวกันเป็นสัตว์เทพขนาดใหญ่ที่เหมือนกิ้งก่าหนึ่งเขา ความสามารถในการป้องกันของสัตว์เทพนี้มีค่าเท่ากับสมบัติแท้จริงชั้นยอดประเภทวังทั่วไป
กิ้งก่าเขาเดียวได้คำรามออกมา ไม่ว่าการโจมตีจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่ได้แสดงความเสียหายให้กับมันแม้แต่นิดเดียว
“ไม่คิดว่าพวกเจ้าจะทำเรื่องที่ไร้ยางอายขนาดนี้” เสีงคำรามมาจากกิ้งก่าเขาเดียว
สิ่งมีชีวิตจากเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์เย้ยหยัย “ไร้ยางอายงั้นรึ มันเป็นเรื่องตลกจริงๆ เลย ฮ่า ฮ่า…ด้วยวันแห่งความพินาศที่กำลังเข้ามา มรดกสายน้ำวูดูวงนี้คือความหวังเดียวของเรา ไม่มีสิ่งใดที่เราจำเป็นต้องอาย”
ผู้อาวุโสสามหน้าจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์พระจันทร์ม่วงกล่าว “หลัวเฟิง มนุษย์เจ้าต้องการรับมรดกนี้ด้วยงั้นรึ เผ่าพันธุ์อ่อนแอที่มีเพียงเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดเพียงหนึ่ง ช่างน่าขัน”
สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จากเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์มองหลัวเฟิงอย่างเย็นชา “แค่เกราะสมบัติของเจ้าเราจะใส่ใจกับมันนักรึ เมื่อถึงเวลาทุกคนย่อมรวมตัวกันกำจัดภัยคุกความที่ใหญ่ที่สุด”
“ใช่”
“แม้ว่าจะไม่สามารถฆ่าเขาได้ แต่เราก็ต้องให้แน่ใจว่าเขาเรียนรู้เกมจักรพรรดิแรดไม่ได้”
8 เจ้าแห่งจักรวาลยังคงทำการโจมตีหลัวเฟิง การโจมตีหลากหลายมาจากเจ้าแห่งจักรวาลที่มีระดับ 4 และ 5
“พวกเลว ไม่กล้าที่จะทำความเข้าใจอย่างยุติธรรม”
“อะไรคือความยุติธรรม”
“มนุษย์อ่อนแอ ไม่มีสิทธิ์ขอความยุติธรรม เพราะเจ้ามันอ่อนแอ”
“นี่ถือเป็นเรื่องตลกจริงๆ”
กิ้งก่าสีดำได้พุ่งเข้ามาที่กำแพงสีดำ และประสานงานเข้ากับหนึ่งในเสาหิน เสาหินนั้นไม่อาจที่จะทำลายได้ เจ้าแห่งจักรวาลทั้งแปดก็อาละวาดมากยิ่งขึ้น
หลัวเฟิงไม่ทำตัวไรประโยชน์อย่างการตอบโต้ สัตว์เทพจากเกราะเทพทำลายของเขามีความแข็งแกร่งมาก แต่พลังต่อสู้มันยังอยู่เพียงแค่ระดับสี่ สถานการณ์ที่แย่ในตอนนี้คือทุกคนล้วนเข้ามาหาเขาคนเดียว แทนที่จะเป็นทีละคน
หลัวเฟิงได้ประสบกับปัญหา การตอบโต้เพื่อหลบหลีกป้องกัน แล้วยังต้องสร้างความเสถียรให้กับสัตว์เทพ ทำให้เขาเสียสมาธิไปกับสิ่งเหล่านี้ ประสิทธิภาพในการทำความเข้าใจของหลัวเฟิงได้ลดลงในทันที
“สายน้ำวูดูวงได้มองทุกสิ่งที่เกิดขึ้น?”
หลัวเฟิงโกรธมาก เขาไม่รู้ถึงเจตนาที่แท้จริงของสายน้ำวูดูวง สิ่งที่เขาทำ มันคือการที่ต้องการให้หลัวเฟิงเป็นศัตรูกับทุกคน
การที่หลัวเฟิงนั้นมีเวลาฝึกฝนค่อนข้างสั้นเป็นที่รู้จักกันดีในมหาสมุทรจักรวาล เขายังเป็นชุดแรกที่เข้ารับมรดก ช่วงที่เขาได้เข้าไปยังเครื่องจักรประหลาดก็ได้สร้างประทับใจกับสายน้ำวูดูวง แล้วเขาก็เป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จด่าน 124
มีหลายปัจจัยที่ทำให้เขาถูกเล่นงาน พวกเขาจะยอมปล่อยให้หลัวเฟิงได้รับมรดกอย่างงั้นรึ มันย่อมไม่มีทาง พวกเขาจึงต้องใช้วิธีอ้อมค้อม
กิ้งก่าเขาเดียวส่งเสียงคำราม สี่เท้าของมันกดลงพื้นและพุ่งไปยังทางเดินฝั่งของอมตะ
“ไม่ดีแล้ว”
“ป้องกันพวกเขาไว้”
อมตะต่างตกใจที่ต้องเข้าร่วมกับการต่อสู้ของเจ้าแห่งจักรวาล
ตั้งแต่เริ่มไม่มีใครรู้ว่าสายน้ำวูดูวงได้กำหนดกฎอะไรไว้ เนื่องจากเป็นการเลือกผู้รับมรดกเพียงคนเดียว อาจไม่ต้องการเป็นการสังหารใดๆ นั่นคือสิ่งที่เจ้าแห่งจักรวาลทั้งแปดทำการล้อมหลัวเฟิงแทนการโจมตีจริงๆ
หลัวเฟิงได้พุ่งเข้ามาสู้กับกลุ่มนักสู้อมตะในตอนนี้ การต่อสู้ที่เริ่มขึ้นหากไม่ควบคุมสถานการณ์ นักสู้อมตะจะพบกับความตาย
ฆ้อนยักษ์ปรากฏขึ้นและฟาดลงมายังหัวของกิ้งก่าเขาเดียว หัวของมันตกลงมายังเข่า คลื่นที่รุนแรงได้มาถึงเหล่าอมตะ จนพวกเขาต้องทำการหลบหนี ในหมู่ของเหล่าอมตะมีสองคนที่ต้องพบกับความตาย ส่วนที่เหลือได้ถูกพัดไปกับสายลม พวกเขาแยกย้ายทันทีเมื่อมีคนถูกฆ่า
กิ้งก่าเขาเดียวมองไปยังผู้ที่อยู่เบื้องหลังเขา “มีคนตายสินะ”
“สองอมตะตายแล้ว”
8 เจ้าแห่งจักรวาลที่ทำการโจมตีหลัวเฟิงก็ตกใจเช่นกัน พวกเขาทำการสังเกตการณ์เคลื่อนไหวรอบๆ ตัวของพวกเขา คนอื่นๆ ก็เฝ้ามองดูเช่นกัน ตัวแทนแห่งความหวังที่อยู่ในแต่ละกลุ่มถูกแยกออกมาเพื่อไม่ให้เสี่ยง
สองอมตะตายจากการต่อสู้ แต่ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ จากสายน้ำวูดูวง
เสาจากหินปล่อยแสงทั้งจากด้านซ้าย 123 และ ขวา 123 มันพุ่งเข้ามารวมกันอย่างเร็ว ลำแสงของมันกลายเป็นงูที่เหมือนกับว่ายอยู่ในน้ำ มันพุ่งเข้าหาเจ้าแห่งจักรวาลจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพาที่ใช้ค้อนโจมตีหลัวเฟิง แสงนั้นมีความเร็วกว่าความเร็วแสงร้อยเท่า มันได้เกิดขีดจำกัดในข้อกำหนดของจักรวาล
สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ทั้งหมดรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังรุนแรง
เสียงร้องเจ็บปวดได้มาจากเจ้าแห่งจักรวาลที่ถือค้อน ร่างของเขาถูกทำลาย มีสมบัติบางอย่างของเขาเหลือทิ้งเอาไว้
แสงนับร้อยเริ่มต้นปกคลุมสมบัติของเขาแต่ละอย่าง จากนั้นมันก็บินไปยังหนึ่งในเสาที่ใกล้ที่สุด สมบัติต่างๆ ได้หายเข้าไปในเสานั้น
ความเงียบได้ปกคลุมทางเดินทั้งหมดก่อนที่จะเริ่มมีคนพูด
“ผู้สร้างหมอกตายแล้ว?”
“ผู้สร้างหมอก…”
“ผู้สร้างหมอกมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพา..”
สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ต่างตกใจกับสิ่งที่พบ หลัวเฟิงนั้นมีอาการสั่นกลัวอยู่ในใจ ตอนแรกที่เขาคิดว่าจะลงโทษด้วยสัตว์ประหลาดควลโล แต่ด้วยความประหลาดใจ
เทคนิคลับจำนวนมากมายบนเสาหินที่สามารถเปิดใช้งานได้ มันถูกใช้โจมตีเจ้าแห่งจักรวาลครั้งเดียวถึงตาย
เขาเป็นรูปแบบชีวิตที่มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพาวิญญาณของเขาประกอบไปด้วยหมอกจำนวนมาก แม้ว่าเขาจะรวมตัวเป็นรูปร่างมนุษย์ก็ฆ่าเขายากมาก ความสามารถต่างๆ ของเขานั้นอาจเทียบได้กับผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล
สิ่งมีชีวิตรูปแบบพิเศษที่สามารถท่องไปทั่วมหาสมุทรจักรวาล ทั้งยังยากที่จะฆ่าแม้แต่กับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด แต่กลับถูกทำลายลงได้ในการโจมตีเดียว
“นี่น่ากลัวมาก”
“สิ่งนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว”
“ผู้สร้างหมอกต้องมาตายแบบนี้…มันช่าง”
สิ่งมีชีวิตอมตะที่อ่อนแอที่สุดในที่นี้มีความกลัวเต็มไปหมด ในสายตาพวกเขา
หลัวเฟิงโล่งใจที่สายน้ำวูดูวงได้ตัดสินใจอย่างสุขุม แต่เขาก็เป็นคนชั่วร้ายที่ทำการโจมตีที่รุนแรงในทันที พร้อมกับยึดสมบัติทั้งหมดทันที
“ก่อนหน้านี้ที่เราล้อมรอบทางช้างเผือก สายน้ำวูดูวงไม่ได้ทำการหยุดพวกเราเลย” เสียงมาจากเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์
“แต่คราวนี้อมตะมีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้สร้างหมอกถึงต้องตาย หากเราไม่ข้องเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่รอบๆ เราก็ยังคงปลอดภัย”
“ใช่ เราทำการต่อสู้อยู่นาน เขาไม่ได้หยุดเรา และไม่ได้ลงโทษเรา”
“งั้นมาต่อ”
“สามกลุ่มอำนาจเราได้เปรียบที่สุดในตอนนี้ เราจำเป็นต้องไม่ให้หลัวเฟิงเป็นผู้รับสมัครที่ดีที่สุด เราจำเป็นต้องควบคุมเขาไว้ สามกลุ่มอำนาจเราจะต้องพึ่งพากัน”
“ข้าเสนอให้อมตะและอัศวินเข้าไปอยู่ในสมบัติแท้จริงประเภทวังชั่วคราว”
“เรารู้กฎแล้วในตอนนี้ เราแค่ให้เขาเข้าไปอยู่ในวังเพื่อทำความเข้าใจกฎ และให้แน่ใจว่าเขาไม่มีส่วนร่วมในทางใดทางหนึ่ง”
“เป็นความคิดที่ดี”
“ข้าเห็นด้วย”
สามกลุ่มอำนาจไม่แสดงความลังเลอีกต่อไป เจ้าแห่งจักรวาลได้นำอัศวินและอมตะไปอยู่ภายใต้การดูแลจากวังสมบัติพวกเขา
หลัวเฟิงที่อยู่ในระยะไกล เฝ้ามองดูทั้งเจ็ดเจ้าแห่งจักรวาล
“ผู้สร้างหมอกตายไปแล้ว ทุกคนจะแสวงหาความตายอีกไหม”
“ร่างหลักของผู้สร้างหมอกถูกทำลาย แต่ร่างอื่นของเขายังคงมีชีวิตอยู่ เราทุกคนที่ล้อมเจ้านั้นมีร่างอื่นอยู่ ตราบเท่าที่เจ้าถูกทำลายและวางมือลงที่สมบัติไม่ได้ มันจะสำคัญยังไงที่ร่างหลักของเราถูกทำลาย”
“ตราบเท่าที่มนุษย์นั้นตาย ความตายเราก็ยังคุ้มค่ำ”
“ข้ามาที่นี่เพื่อขจัดสิ่งกีดขวางให้กับเผ่าพันธุ์ ถ้าได้กำจัดสิ่งกีดขวางได้ก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะถูกทำลาย”
เจ็ดเจ้าแห่งจักรวาลมีความเตรียมใจไว้แล้ว พวกเขายินดีที่จะถูกทำลาย มันคือการถูกกำจัดร่างกายนี้ของเขาเท่านั้น พวกเขายังคงมีร่างอื่นๆ อยู่
“เจ้ามนุษย์อ่อนแอ อย่าหวังว่าจะได้รับมรดกนี้”
เจ็ดสิ่งมีชีวิตได้ทำการเข้าล้อมกิ้งก่าเขาเดียว พวกเขานั้นพร้อมที่จะไม่ให้หลัวเฟิงทำความเข้าใจเกมจักรพรรดิแรด เขาต้องการให้มนุษย์นี้อยู่ใต้การควบคุมของเขาและถูกทำลาย