ตอนที่ 1229 ป้อมปราการภูผาน้ำแข็ง
มีร่างจำนวนมากมายภายในเส้นทางเดินแห่งชีวิตและความตายในเรือสุสาน พวกเขามาจากรูปแบบชีวิตหลากหลาย ในหมู่พวกเขามีพลังเกินเจ้าแห่งจักรวาล ในหมู่พวกเขายังมีเจ้าแห่งจักรวาลที่กระจัดกระจายอยู่ เจ้าแห่งจักรวาลเหล่านี้มาจากกลุ่มอำนาจที่แตกต่างกันภายในดินแดนไฟน้ำแข็ง พวกเขานั้นรีบมายังเรือสุสานเมื่อได้ยินข่าว พวกเขาได้แต่มองดู โดยไม่กล้าจัดการกับกลุ่มอำนาจทั้งสามที่ทำการโจมตีหลัวเฟิง
“น่าสงสารมนุษย์”
“ช่างโชคร้ายจริงๆ”
“มนุษย์ทางช้างเผือกนั้นค่อนข้างมีความเร็วในการทำความเข้าใจเกม สายน้ำวูดูวงได้ทำให้เขาเป็นที่รู้จัก ถ้าเกิดเราสองคนทำความเข้าใจได้เร็วจะพบสถานการณ์เดียวกับเขาหรือไม่”
“แม้ว่าเราจะถอดรหัสเกมได้ เราก็ซ่อนมันไว้อย่าแสดงให้กับเสาคริสตัล ถ้าเราไม่แสดงมันภายหลัง”
แม้ว่าพวกเขาจะเห็นหลัวเฟิงถูกล้อมก็ไม่ได้แสดงความสงสารเขาจริงๆ ในใจลึกๆ พวกเขานั้นต้องการรับมรดก ถ้าหากหลัวเฟิงคือผู้ที่ดีที่สุด การที่เขาออกไปให้พ้นทางก็ถือเป็นเรื่องดีกับเขา
———-
“พวกน่ารังเกียจ”
กรงเล็บของกิ้งก่าเขาเดียวยักษ์จิกลงไปยังพื้น หางของมันโค้งงอก่อนจะสะบัดสร้างเป็นแสงโค้งขึ้นมา ใบมีดแสงได้ตรงเข้าหาสิ่งมีชีวิตรูปแบบพิเศษจากเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์
แม้ว่าคนจากกลุ่มอำนาจทั้งสามมาล้อมหลัวเฟิง พวกเขาก็ไม่ได้เป็นสิ่งมีชีวิตจากตระกูลเดียวกัน กลุ่มอำนาจบางกลุ่มมีผู้ใต้บังคับบัญชาของพวกเขา เช่นเดียวกับจักรวาลปฐมกาลของมนุษย์ที่มีการจัดตั้งพันธมิตรหงขึ้นมา พวกเขาได้บอกกับเหล่าเด็กๆ ว่าจักรวาลดั้งเดิมจะต้องพบกับการถูกทำลาย ทำให้พวกเขาต้องเข้าสู่จักรวาลขนาดเล็กของมนุษย์ เพื่อความอยู่รอด
เจ้าแห่งจักรวาลจากเผ่าพันธุ์อื่นเหล่านี้จะถือว่ามีสถานะต่ำกว่า พวกเขาจะถูกส่งไปจัดการปัญหาต่างๆ โดยไม่คำนึงถึงระดับอันตราย เจ้าแห่งจักรวาลที่ถูกส่งมาจากสามกลุ่มอำนาจนั้นมีเทคนิคหลายร่าง แม้ว่าพวกเขาจะถูกส่งมาแต่ก็ไม่ได้ขาดความสามารถในการต่อสู้
หลัวเฟิงถูกล้อมโดย 7 เจ้าแห่งจักรวาล
“ทางช้างเผือก เจ้าดิ้นรนได้ดี ชุดเกราะของเจ้าทำงานได้ดีทีเดียว การสูญเสียปีกสีเงินไป แต่ก็ได้รับชุดเกราะที่มีค่า แต่มันจะมีประโยชน์อะไรที่จะสู้ แม้ว่าเจ้าจะมีชีวิตอยู่ แล้วพยายามเอาชนะเกมจักรพรรดิแรด มันจะเป็นไปได้หรือ”
“ยอมแพ้แล้วถอยไปตอนนี้ดีกว่า”
เจ้าแห่งจักรวาลนั้นได้เปรียบหลัวเฟิงที่ยังอ่อนแอในด้านพลังงานอมตะ แม้ว่าเขาจะไม่ด้อยกว่าในด้านอื่นๆ แต่พลังอมตะของเขานั้นอ่อนแอที่สุดในบรรดาเจ้าแห่งจักรวาลทั้ง 7
หลัวเฟิงยังคงเต็มไปด้วยความกังวลในสถานการณ์นี้ “ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไปคงจะรักษาร่างสัตว์เทพต่อไปไม่ได้แล้วยังคงใช้พลังงานอมตะมากเกินไป ในมหาสมุทรจักรวาล การเติมเต็มพลังงานของข้าช้า แม้ว่าจะไม่ต้องคิดถึงเรื่องพลังงานอมตะ แต่ประสิทธิภาพในการศึกษาเกมจักรพรรดิแรดจะยิ่งลดลงมาก”
หลัวเฟิงกัดฟัน
ในเมื่อเจ้าแห่งจักรวาลจำนวนมากปรากฏตัวในที่นี้ และมีสองเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดในหมู่พวกเขา หลัวเฟิงนั้นไม่ต้องการเอาหอคอยดวงดาวออกมา แต่ยังคงถูกบีบบังคับแบบนี้ เขาคงไม่มีทางอื่น เพื่อการศึกษาเกมจักรพรรดิแรด
———-
กิ้งก่าเขาเดียวกำลังทำการหลบหนีจากเจ้าแห่งจักรวาลทั้งเจ็ด
หอคอยสีแดงเข้มโผล่ออกมาจากกิ้งก่าเขาเดียว กิ้งก่าเขาเดียวถูกแยกออกเป็นชิ้นๆ และเข้าสู่หอคอยสีแดงเข้ม หอคอยสีแดงได้ตั้งอยู่บนทางเดินและไม่มีการขยับอีกต่อไป
“วังสมบัติแท้จริง!”
“กล้าที่จะซ่อนอยู่ในวังสมบัติ คิดหรือว่าเราไม่มีวิธีจัดการกับเจ้า”
“คนโง่ที่ซ่อนตัวอยู่ในวังสมบัติ เป็นวิธีการตัดสินใจตายที่ดี”
7 เจ้าแห่งจักรวาลได้ล้อมรอบหอคอยสีแดงเข้ม หนึ่งในพวกเขาทำการหัวเราะออกมา
“ใครจะลองคนแรก”
“ใครต้องการเริ่ม”
“นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้รับ”
“ข้าคิดว่ามันดีสำหรับเจ้า เจ้าแห่งจักรวาลหมาป่าสายลม สมบัติประเภทผนึกของเจ้านั้นยอดเยี่ยมที่สุดในหมู่สมบัติแท้จริงชั้นยอดประเภทผนึก มันเป็นสิ่งที่ดีที่เราสามารถผนึกเขาไว้ในหอคอย”
หลัวเฟิงในหอคอยดวงดาวได้ยินที่เขาพูดทุกคำ เขาทำการสังเกตโลกภายนอกอย่างระมัดระวัง เขาที่ได้ยินคนอื่นๆ พูดกันก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“พวกเขาต้องล้อเล่นแน่ๆ พวกเขากำลังคิดจะผนึกข้าด้วยสมบัติแท้จริงชั้นยอด พวกเขาเห็นไหมว่ามันคือสมบัติแท้จริงสูงสุด เป็นไปได้แค่ไหนที่จะผนึกสมบัติแท้จริงสูงสุด”
เจ้าแห่งจักรวาลหมาป่าสายลมหัวเราะออกมา “ปล่อยให้ข้าเอง ด้วยสมบัติของข้า…เขาจะไม่มีทางหลุดลอดไปได้ เขาไม่มีทางหนีพ้นจากการผนึกของข้าแน่”
เจ้าแห่งจักรวาลหมาป่าสายลมไม่กล้าที่จะลงมือในตอนแรกนั้นเพราะเขากลัวสายน้ำวูดูวงจะทำการโจมตีเขา
เจ้าแห่งจักรวาลหมาป่าสายลมกลัวว่าหลัวเฟิงที่ถูกผนึกจะทำให้เขาถูกโจมตีเหมือนกับที่ทำกับผู้สร้างหมอก
แต่เจ้าแห่งจักรวาลหมาป่าสายลมก็ยังคิดว่าการผนึกหลัวเฟิงนั้นยังไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะมันยังไม่ใช่การทำลายหลัวเฟิง แต่เขาก็ไม่คิดจะพูดมากเกินไปเพราะจะเป็นการยั่วยุสายน้ำวูดูวงให้สังหารเขา
เจ้าแห่งจักรวาลหมาป่าสายลมได้ยื่นมือออกไป หอคอยสามเหลี่ยมที่เรืองแสงได้ปรากฏขึ้นมาในอากาศ เขามองไปยังหอคอยสีแดงเข้มก่อนที่จะพูดออกมาดังๆ “ผนึก”
เจ้าแห่งจักรวาลหมาป่าสายลมทำการเผาไหม้พลังงานอมตะเพื่อใช้งามสมบัติผนึกของเขา มันพุ่งขึ้นไปเหนือหอคอยสีแดงเข้ม และฐานด้านล่างของมันมีหลุมเปิดขึ้น มันได้สร้างพลังงานดูดอันทรงพลังใส่หอคอยสีแดงเข้ม
หอคอยสีแดงเข้มสั่นเล็กน้อยขณะที่เจอพลังงานดึงดูดมหาศาล
เจ้าแห่งจักรวาลหมาป่าสายลมเห็นหอคอยสีแดงเข้มสั่นเล็กน้อยก็กัดฟันแน่นก่อนที่จะตะโกนออกมาอย่างรุนแรง “ผนึก”
“มากกว่านี้อีกนิด”
“เจ้าแห่งจักรวาลหมาป่าสายลม พลังดูดของเจ้ายังไม่เพียงพอ”
“เพิ่มพลังให้สูงที่สุด”
เจ้าแห่งจักรวาลอีกคนคนทำการกระตุ้นเขาเพราะความกังวล
เจ้าแห่งจักรวาลหมาป่าสายลมตะโกนออกมาด้วยความโมโห “ข้าพยายามดีที่สุดแล้ว ด้วยพลังของข้ามันยังสั่นเล็กน้อย การที่สามารถต้านทานเช่นนี้ได้ มนุษย์นี้คงมีอีกหนึ่งสมบัติแท้จริงชั้นยอด ถ้าเจ้าคิดว่าทำได้ดีกว่าทำไมไม่ลองดูเองล่ะ”
“ข้าจะทำเอง” ชายที่มีหนึ่งตาอยู่ด้านหลังเป็นคนอาสา
———-
หลัวเฟิงมองไปด้านนอกด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย อีกฝ่ายต้องใช้อย่างน้อยสมบัติแท้จริงสูงสุดถึงจะพอมีความเป็นไปได้ ไม่เช่นนั้นไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็ไม่มีทางผนึกหอคอยดวงดาวได้
การผนึกล้มเหลว เจ้าแห่งจักรวาลเหล่านั้นคิดว่าหอคอยสีแดงเข้มของเขาคือสมบัติแท้จริงชั้นยอด พวกเขาไม่มีความคิดว่ามันคือสมบัติแท้จริงสูงสุด
เมื่อเห็นเจ้าแห่งจักรวาลเหล่านี้ล้มเหลว หลัวเฟิงยังไม่กล้าที่จะลดความระมัดระวัง เขากลัวว่าพวกเขายังคงมีความสามารถอื่นนอกจากการผนึก
———-
สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จากกลุ่มอำนาจต่างๆ ได้มารวมตัวกันในที่นี่ เจ้าแห่งจักรวาลทั้งเจ็ดที่ทำการล้อมหลัวเฟิงได้ประสบกับความล้มเหลว พวกเขาจึงไปขอยืมสมบัติจากสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่คนอื่นโดยที่ยังไม่มีใครประสบความสำเร็จ
“มนุษย์นี้มีของมีค่าจำนวนมาก ทั้งเกราะและหอคอยนี้ ข้าคิดว่ามันจะต้องเป็นหนึ่งสมบัติแท้จริงชั้นยอด การจะกลืนมันลงไปคงมีเพียงสมบัติแท้จริงสูงสุดเท่านั้นที่น่าจะทำได้”
“ใช่”
“ข้าเห็นด้วย”
“ดูเหมือนว่าเราจะต้องไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด”
“ใช่ มีเพียงเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดเท่านั้นที่สามารถจะทำมันได้”
“ดวงตาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นในสามกลุ่มของเราที่มีเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด”
“เราทุกคนต้องร่วมมือกัน มันถึงจะสำเร็จ ”
ทุกคนมีใบหน้าไม่ดีเมื่อพวกเขาได้สังเกตเห็นทุกอย่าง
เจ้าแห่งจักรวาลเพทดำได้ส่งข่าวให้กับเจ้าแห่งจักรวาลแท้จริงที่สองและเจ็ด ด้วยข้อความเสียง “ท่านเจ้าแห่งจักรวาลแท้จริง เรากำลังมีปัญหา ข้าคิดว่ามีเพียงท่านเจ้าแห่งจักรวาลแท้จริงเท่านั้นที่จัดการกับหลัวเฟิงได้”
ตั้งแต่ที่เจ้าแห่งจักรวาลแท้จริงทั้งสองได้เข้ามาถึงพวกเขาก็ทำความเข้าใจเกมจักรพรรดิแรดอยู่เงียบๆ โดยที่พวกเขาไม่ทำการแทรกแซงเรื่องนี้
ในตอนนี้เจ้าแห่งจักรวาลไม่สามารถที่จะจัดการหลัวเฟิงได้ เจ้าแห่งจักรวาลแท้จริงสูงสุดคือความหวังของพวกเขาในการจัดการกับหลัวเฟิง
“ธุลีเงา เทพดำ เรานั้นเพิ่งมาถึง สายน้ำวูดูวงได้กำหนดกฎเกณฑ์ไว้ว่าห้ามโจมตีผู้เข้าร่วมสมัครอื่นๆ เราไม่ต้องการโจมตีหรืออยากให้เราพบกับการถูกทำลาย”
ขณะเดียวกันเจ้าแห่งจักรวาลแท้จริงที่สองได้ส่งข่าวให้กับเจ้าแห่งจักรวาลที่เหลือในกลุ่มสามอำนาจ
“เราควรจะทำอะไรในตอนนี้ หรือจะไม่ทำอะไรแล้วมองหลัวเฟิงรับมรดกไป”
เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสตอบกลับด้วยข้อความเสียง
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองได้เพิ่มแรงกดดัน
เจ้าแห่งจักรวาลแท้จริงทั้งสองสบตากัน พวกเขาได้ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
เจ้าแห่งจักรวาลแท้จริงที่สองได้แจ้งให้กับเจ้าแห่งจักรวาลอื่นในกลุ่มอำนาจทั้งสาม
“ข้ามีวังสมบัติแท้จริงสูงสุด มันคือป้อมปราการภูผาน้ำแข็ง มันมีความสามารถในการผนึก” เจ้าแห่งจักรวาลแท้จริงที่เจ็ดกัดฟันพูดข้อมูลนี้
“แต่สมบัติแท้จริงสุงสุดนี้มีความต้องการที่เข้มงวด หากเจ้าแห่งจักรวาลใช้มันจะต้องมีอำนาจจิตระดับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด พวกเจ้าจากสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีกี่คนที่มาถึงอำนาจจิตระดับนี้ ให้เจ้าแห่งจักรวาลที่สามารถใช้มันได้จัดการผนึกหลัวเฟิง”
“ถ้าอย่างงั้นจะเป็นใคร”
สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ที่เป็นตัวแทนทำการคิดไตร่ตรองกัน พวกเขามีโอกาสสูงที่จะถูกทำลายจากการกระทำครั้งนี้
“ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ได้ส่งมอบสมบัติแท้จริงสูงสุดให้ เรายังต้องส่งตัวเราไปที่นั้นเองอีกงั้นรึ” เจ้าแห่งจักรวาลแท้จริงที่เจ็ดโกรธ เขาไม่เต็มใจที่จะส่งมอบสมบัติไป เขาทำการเตรียมพร้อมไม่ให้สายน้ำวูดูวงไม่สามารถยึดสมบัติของเขาไป
“เอาล่ะ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพาจะไปเอง”
ในไม่ช้าหนึ่งในเจ้าแห่งจักรวาลในกลุ่มก็ออกมา
“ดี ด้วยสมบัติแท้จริงสูงสุดนี้มนุษย์นั้นไม่มีทางหนีพ้น ยกเว้นทางช้างเผือกนั้นจะมีสมบัติแท้จริงสูงสุด”