Skip to content

Swallowed Star 1357

ตอนที่ 1357: สนามรบเทพแท้จริง

หลัวเฟิง ส่ายหน้าเล็กน้อย

“เจ้ามันโง่!” วูฮี กังวลอย่างมาก

ย้อนกลับไปตอนที่เขาเข้ารับการคัดเลือก เมื่อเห็นว่า หลัวเฟิง เอาชนะเขาได้และเห็นว่ามีแค่สองคนที่ผ่านการคัดเลือกมาได้ เขาก็ตัดสินใจติดตาม หลัวเฟิง จากประสบการณ์ของเขาแล้ว เขาแค่แสดงจุดอ่อนออกมาให้กับ หลัวเฟิง ตอนที่เขาเจอกับอันตราย เพราะความสามารถในการเอาตัวรอดของ วูฮี งั้น หลัวเฟิง คงเป็นคนแรกที่ตาย สิ่งเดียวที่เกินกว่าการคาดการณ์ของเขาคือความบ้าคลั่งของ หลัวเฟิง เขาไม่กล้าจะทำตามความบ้าของ หลัวเฟิง ถ้าพวกเขาไปเสี่ยงแบบนี้ หลัวเฟิง คงต้องวิ่งเข้าหาภัยพิบัติและเขาเองก็ไม่อาจจะหนีออกมาได้โดยปลอดภัยจากการโจมตีของเทพแท้จริงในระยะใกล้

วูฮี ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “เจ้าไม่รู้จักว่าอะไรคือภารกิจระดับภัยพิบัติด้วยซ้ำ! ถ้าเป็นแบบนี้เจ้าก็ต้องสู้เพื่อเอาตัวรอด ข้าก็จะไปสู้ของข้าเอง! ข้าจะไม่อยู่กับเจ้าอีกต่อไปแล้ว!”

ซู่!

วูฮี ได้จากไปมุ่งหน้าเข้าหาสนามรบที่ที่เกิดการต่อสู้อยู่

หลัวเฟิง มองร่าง วูฮี ที่จากไปก่อนจะถอนหายใจ เพื่อนคนเดียวของเขาตั้งแต่เข้าหน่วยมาได้ทิ้งเขาไปแล้ว

“เขาไม่เคยเชื่อใจข้าอยู่แล้วนี่” หลัวเฟิง ส่ายหน้าและซ่อนตัวสังเกตการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในท้องฟ้าต่อ หลังจากที่ดูอยู่นาน เขาก็เริ่มลงมือ

****

มันมี 3 สนามรบในบึงเก้าหมอก

มันคือสนามรบหลักซึ่งมี เจ้าแห่งกฎ จำนวนมากและวุ่นวายที่สุด สนามรบระดับเทพแท้จริงซึ่งมีเทพแท้จริงมากกว่า 10,000 คนและสนามรบเทพแท้จริงมิติ ซึ่งมีเทพแท้จริงมิติอยู่ 6 คน

ในหมู่ 3 สนามรบนี้ สนามรบของ เจ้าแห่งกฎ กินพื้นที่มากที่สุดและค่อนข้างกระจายตัว ในท้องฟ้าและลึกเข้าไปในบึง มันมี เจ้าแห่งกฎ สู้กันอยู่ทั่วทุกที่ เทพแท้จริงอาจจะกินพื้นที่แค่ในท้องฟ้าและบึงแต่มันก็ยังมีการต่อสู้เกิดขึ้นทั่วทุกที่ แต่สำหรับเทพแท้จริงแล้ว การต่อสู้ของพวกเขากระจุกกันในบึงไม้ม่วงของบึงเก้าหมอก ยังไงซะจำนวนเทพแท้จริงทั้งหมดก็มีไม่มาก เขตบึงไม้ม่วงใหญ่พอสำหรับการต่อสู้ของพวกเขาและเขตนี้เทพแท้จริงก็ไม่อาจจะหลบเลี่ยงได้ ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ ยังไงซะพวกที่เข้าไปในระยะโจมตีใกล้ของเทพแท้จริงก็คือวิธีที่ตายได้ง่ายที่สุด

****

“สนามรบของเทพแท้จริง…”

หลัวเฟิง เดินหน้าอย่างระวังตัวด้วยความเร็วสูงสุดมุ่งหน้าไปยังสนามรบเทพแท้จริง

ระหว่างทางเขาได้เจอกับศัตรู 3 คนซึ่งเป็น เจ้าแห่งกฎ จากบึงเก้าหมอก ตอนที่พวกนั้นเห็น หลัวเฟิง พวกนั้นก็คิดว่าเขาเป็นนักรบจากภูเขาซวนหยู

หลัวเฟิง ตั้งใจจะไปยังสนามรบของเทพแท้จริงให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจไปรังแกพวก เจ้าแห่งกฎ แต่อีกฝ่ายยังอยากเข้าหาเขาอยู่จึงทำให้ หลัวเฟิงไม่มีทางเลือก เขาได้ฆ่า เจ้าแห่งกฎ ไปหนึ่งคนจากการพบสามครั้งนี้

ผ่านมาสักพัก หลัวเฟิง ก็ยืนอยู่เหนือบึงแห่งหนึ่งและมองออกไป

“นั่นไง”

หลัวเฟิง มองดูเงียบๆ เขาเห็นว่าบึงนี้มีไม้ม่วงมากมาย นี่คือบึงไม้ม่วงในบึงเก้าหมอก มีสัตว์อสูรเทพแท้จริงและเทพแท้จริงเผ่าจำนวนมากเข้าต่อสู้ระยะใกล้กันอยู่ มีเทพแท้จริงจำนวนหนึ่งถึงกับพุ่งออกมาจากบึง ปรากฏว่าพวกนั้นได้ไปสู้กันที่ใต้บึงมา

“ดูเหมือนว่าพวกนี้จะพยายามลดจำนวนนักรบที่สูญเสียของหน่วยตัวเอง” หลัวเฟิงสังเกตการณ์ “เทพแท้จริงจากทั้งสองฝ่ายปะปนกัน ในหน่วยภูเขาซวนหยู มันมีนักรบน้อยกว่าบึงเก้าหมอก ด้วยวิธีนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดการต่อสู้ขนาดใหญ่ขึ้นมา”

ในการต่อสู้แบบ 1 ต่อ 1 หรือ 2 ต่อ 1 มันจะใช้เวลานานก่อนจะฆ่าอีกฝ่ายได้!

ถ้าเป็นการร่วมโจมตี การโจมตีครั้งเดียวก็สามรถฆ่าได้หลายคนได้ และทั้งสองฝ่ายก็ได้พุ่งเข้าไปหาอีกฝ่ายด้วย จากนั้นพวกเขาก็จะเข้าสู้กันในระยะใกล้กันอีก เทพแท้จริงต่างจากเจ้าแห่งกฎ พวกเขามีน้อยกว่าซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงไม่มีใครยอมเสียเทพแท้จริงที่ล้ำค่านี้ไป

“ศพ” หลัวเฟิง มองไปรอบๆ ตอนนี้เขาแค่ต้องรอว่าศพจะปรากฏขึ้นมาตอนไหน

****

หลัวเฟิง ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลจากสนามรบเทพแท้จริง เขารอคอยเพื่อหาโอกาสโจมตี ไกลออกไปจากเขตนอกของสนามรบเทพแท้จริง มันมีหน่วย เจ้าแห่งกฎ ซ่อนตัวอยู่ในความมืด

“กัปตัน น่าประทับใจจริงๆ สนามรบเทพแท้จริงนั่นน่ากลัวจริงๆ แต่ท่านกลับหาโอกาสในการชิงเอาศพมาได้อย่างง่ายดาย”

“น่าประทับใจ!”

“จริง กัปตัน ดูเหมือนว่ามันง่ายเมื่อท่านทำแบบนั้น หากข้าทำหน้าที่นี้ด้วยตัวเอง ข้ามั่นใจว่าข้าคงไม่รอดกลับมา”

เจ้าแห่งกฎ ทั้ง 18 คนซ่อนตัวอยู่ในป่า นี่คือทีมกัปตันและคนของเขา พวกเขาถูกส่งมาที่นี่โดยหน่วยงูหลามแม่น้ำ นักรบคนอื่นชมกัปตันเพราะเมื่อกี้เขาได้แสดงความสามารถอันโดดเด่นออกมาตอนที่ตกในสถานการณ์อันตราย เขาเพิ่งจะชิงเอาศพเทพแท้จริงของบึงเก้าหมอกมาได้

พวกเขาชมกัปตันเพราะสองเหตุผล หนึ่งคือพวกเขาชื่นชมที่กัปตันแข็งแกร่ง สองคือพวกเขาคาดหวังว่ากัปตันจะหาศพได้มากกว่านี้ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาทำภารกิจได้เสร็จสิ้น

กัปตันที่โดนชมในที่สุดก็ได้ตะโกนสั่งการออกมา “พอแล้ว!”

นักรบของเขาอาจจะรู้ว่ามันเสี่ยงแค่ไหนที่เขาทำเมื่อกี้ แต่กัปตันก็รู้ความจริงข้อนี้ดี

“มันมีแค่ครั้งเดียว” สายตากัปตันกวาดตามองไปรอบๆ และพูดขึ้น ความหวังของพวกนั้นหายไปทันที “ก่อนหน้านี้ในสนามรบเทพแท้จริง ไม่มี เจ้าแห่งกฎ เลยสักคนที่กล้าเข้าไปใกล้ข้า อยู่ๆ ข้าก็ได้โอกาสชิงศพมา นี่คือสิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดและพวกเขาก็ไม่ทันระวังตัว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมข้าถึงชิงเอาศพมาได้ ถึงจะเป็นแบบนั้นข้าก็ยังได้รับการโจมตีมาหนึ่งครั้ง ถ้าข้าช้ากว่านี้ก็คงโดนเทพแท้จริงล้อมเอาไว้แล้ว…”

กัปตันส่ายหน้าแล้วคิดถึงผลลัพธ์ที่อาจจะเกิดขึ้น เขาผ่านภารกิจมามากและรอดมาได้แม้แต่ระดับเกิดใหม่ก็ด้วย เขารู้ดีในตอนวิกฤต เมื่อเป็นเรื่องการโจมตี เขาก็ต้องพนันและเสี่ยง! ตั้งแต่ที่เขานำทัพนักรบ อย่างน้อยๆ เขาก็จะได้รับศพมา เขาต้องเป็นคนแรกที่ทำภารกิจนี้สำเร็จก่อนที่จะช่วยคนของเขา

“กัปตัน…”

ทุกคนต่างก็มองไปที่เขา

“ข้าจะไม่ทิ้งพวกเจ้า” กัปตันพูดขึ้น “หากข้าไม่คิดจะช่วย ข้าคงจากไปแล้ว รอก่อน รอโอกาส พวกเจ้าทุกคนแค่ต้องทำตามแผนของข้า ข้าจะพยายามช่วยพวกเจ้าทุกคน”

“กัปตัน แค่สั่งการมาเราก็จะทำตาม”

ทุกคนอาจจะดูเชื่อฟังโดยไม่ลังเลแต่ในใจพวกเขาต่างก็กังวล ไม่ว่ายังไงก็ตามกัปตันก็ได้ชิงเอาศพมาแล้ว และเขาก็มีคะแนนมากพอ แต่ทั้ง 17 คนต้องการศพสัตว์อสูรเทพแท้จริงจากฝั่งบึงเก้าหมอก

“ชิงเอาศพ 17 ร่างมา…” ในหมู่นักรบมันก็มีบางคนรู้สึกว่าเพราะกัปตันทำมันสำเร็จได้ง่ายดาย ถ้าพวกเขาไปเสี่ยง พวกเขาอาจจะสำเร็จบ้างก็ได้ “ก่อนหน้านี้กัปตันได้ทำให้มันดูเหมือนง่าย เขาได้ชิงช่วงโดยที่ศัตรูไม่ระวังตัว จากนั้นด้วยความเร็วสูงสุดเขาก็ชิงเอาศพและหนีออกมาได้ ถ้าข้าลองทำดู มันอาจจะเป็นไปได้”

แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไปพวกเขาก็ไม่อาจจะชิงเอาศพมาได้ พวกเขาถูกกดดันให้กังวลอย่างมาก พวกเขายังคงทำตามแผนของพวกเขาต่อไป

กัปตันกวาดตามองทุกคน เขาคิ้วขมวดแล้วเตือนขึ้นมา “จำไว้ว่ามันมีแค่ครั้งเดียว ครั้งแรกที่พวกเจ้าประมาท ครั้งต่อไปพวกเจ้าก็ต้องระวังตัว พวกเทพแท้จริงจับข้าไม่ได้ แต่พวกเขาก็ไม่คิดจะปล่อยข้าไปตามใจต้องการ พวกเจ้าต้องจำไว้ อย่าเสี่ยง ตอนที่มีใครลงมือแบบเสี่ยง ข้าจะทิ้งเขาไว้ในสนามรบทันที”

“เข้าใจแล้ว”

“เราจะไม่หุนหัน”

นักรบต่างก็พากันตอบกันทีละคนๆ กัปตันและนักรบต่างก็รอคอยอย่างอดทนเพื่อหาโอกาส

****

หลัวเฟิง เองก็รอ แต่เขาไม่รู้ว่ากัปตันและเหล่านักรบเองก็อยู่ที่นั่นด้วย ยังไงซะกัปตันก็มีประสบการณ์มากมาย การคิดแผนและตัดสินใจนั้นกัปตันเร็วกว่าและแน่นอนกว่า ดังนั้นกัปตันจึงทำตามเป้าหมายได้ก่อน หลัวเฟิง และชิงเอาศพมาได้ก่อน

“แค่เพียงคิดมิติก็ก่อตัว ทั้งบึงเก้าหมอกถูกมิติห่อหุ้มเอาไว้ ภายในพื้นที่นี้สมบัติแท้จริงขั้นสูงสุดประเภทขอบเขตไร้พลัง แม้ว่าจะมีปีกซื่อหวู๋อยู่แต่ความสามารถในการควบคุมมิติและเวลาก็ยังไร้ค่า”

หลัวเฟิง เข้าใจเรื่องนี้และรู้ดี ในสนามรบมีแค่เทพแท้จริงมิติที่สามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้ เทพแท้จริงและ เจ้าแห่งกฎ ได้แต่สังเกตด้วยสายตาและการรับรู้ผ่านการใช้พลังอมตะของตัวเอง

“ข้าได้แต่พึ่งตาในการสังเกตและพลังอมตะในการรับรู้” หลัวเฟิง ยังคงจับตาดูอยู่

ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง!

มันราวกับสวรรค์และผืนดินถล่มลงมา

สนามรบเทพแท้จริงอยู่ๆ ก็ปั่นป่วนขึ้นมา หลัวเฟิง ที่อยู่ไกลๆ จับตาดูทุกรายละเอียดและรอโอกาสเหมาะๆ

เพล้ง!

มีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากบึงโคลนและบินขึ้นลง จากนั้นร่างนั้นก็กลิ้งไปมากับพื้น ดูเหมือนว่ามันจะหมดสติ หลังจากนั้นไม่นานเทพแท้จริงเผ่าก็พุ่งออกมาจากบึงอย่างรวดเร็ว ในมือเขามีกระบองหินประหลาด ที่ปลายด้านหนึ่งนั้นแหลมคมอย่างมาก เขายกมือขึ้นเล็งก่อนจะโยนใส่ร่างสัตว์อสูรที่กลิ้งอยู่ กระบองนั้นได้แทงทะลุร่างสัตว์อสูร!

ฉึก!

ปลายแหลมของกระบองหินได้แทงทะลุหัวของสัตว์อสูร การแทงครั้งเดียวนี้ปักร่างนั้นลงไปในบึง ร่างขนาดใหญ่นั้นทำให้น้ำกระจายไปทั่วทุกที่ ที่จุดตรงหัวที่โดนแทงทะลุนั้นมีคลื่นอันน่ากลัวกระเพื่อมออกมา

“อ๊า!” เทพแท้จริงสัตว์อสูรร้องออกมา จากนั้นหัวของมันก็หล่นวูบลงก่อนจะแน่นิ่งไม่ขยับ

“ฮ่า ฮ่า…” เทพแท้จริงเผ่าหัวเราะออกมา

ฮ่ง!

สัตว์อสูรสามคนโผล่มาแทบจะพร้อมกัน

“แค่รังแกคนอ่อนแอที่ไม่มีเกราะเทพแท้จริงได้”

“เจ้าสมควรตาย”

“ไอ้บัดซบจากภูเขาซวนหยู!”

สัตว์อสูรทั้งสามได้ตะโกนพร้อมกับพุ่งเข้าใส่ นักรบเผ่าไม่กล้าจะเผชิญหน้ากับพวกนั้น เขากลับถอยอย่างรวดเร็ว

นี่คือสิ่งที่เรียกว่าล่าเหยื่อที่อ่อนแอ จากสัตว์อสูรเทพแท้จริงจำนวนมากและเทพแท้จริงเผ่า มีมากกว่าครึ่งที่ไม่เคยเข้าร่วมหน่วยมาก่อน!

ผลก็คือมีหลายคนที่ไม่มีเกราะระดับเทพแท้จริง มันคล้ายกับตอนที่ เทพปีศาจคลั่ง ได้มาถึงตอนแรกและพบกับสัตว์อสูรเทพแท้จริง เขาไม่ได้ได้มีเกราะเทพแท้จริงไว้คอยป้องกันตัว

****

ไกลออกไป….

“ศพเทพแท้จริง! จากบึงเก้าหมอก!” นักรบของกัปตันต่างก็จับตาดูร่างนั้น

“อย่าเสี่ยง! ข้าเคยบอกไว้แล้ว อย่าเสี่ยง” กัปตันพูดขึ้น

เขามองไปรอบๆ ในสายตาของพวกนี้ล้วนแต่เต็มไปด้วยความกระหาย ยังไงซะก็ไม่มีสักคนที่มีความมั่นใจได้เพียงพอ ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่หวังว่ากัปตันจะชี้แนะพวกเขา แต่กัปตันนั้นไม่ได้โง่

****

ที่อีกจุดหนึ่งไกลออกไปจากสนามรบเทพแท้จริง หลัวเฟิง เองก็จับตาดูอยู่ เขาเห็นร่างที่นอนอยู่ใจกลางบึง มันยาวหลายหมื่นกิโลเมตร มากกว่าครึ่งนั้นจมอยู่ใต้น้ำ ส่วนอื่นนั้นโผล่มาเหนือผิวน้ำ

“ศพเทพแท้จริงนี้เป็นของบึงเก้าหมอก” หลัวเฟิง ตาเป็นประกายขึ้นมา

เขามองไปยังตำแหน่งของเทพแท้จริงคนอื่นๆ ในสนามรบ ด้วยพลังอมตะของเขานั้นเขารับรู้และยืนยันได้ค่อนข้างแม่นยำถึงตำแหน่งของแต่ละคน ตอนนี้พวกนั้นสู้ระยะใกล้กันอยู่

หลัวเฟิง คิด แม้ว่าพวกนั้นต้องการจะหยุดข้าแต่จากระยะห่างจากข้าแล้ว อย่างมากก็มีเทพแท้จริง 5 คนที่มาได้ทันและ 5 คนนั่น…ก็ไม่ได้เป็นภัยเลยแม้แต่น้อย!

ในหัว หลัวเฟิง มันมีเส้นทางที่เป็นไปได้ทั้ง 8 ปรากฏขึ้นมาและเขาก็ลงมือทันที ตอนที่เขาเข้าไปใกล้สนามรบ เขาก็ได้ปรับเส้นทางและคำนวณความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวของเทพแท้จริงที่สู้กันอยู่

ซู่!

เมื่อมาถึงเขตอันตราย หลัวเฟิง ก็คิด จากนี้ไปมันเป็นไปได้ที่จะถูกพบตัวในทุกๆ วินาที ยิ่งข้าถูกพบช้าเท่าไหร่ มันยิ่งง่ายที่ข้าจะหนีเท่านั้น

หลัวเฟิง ได้พุ่งเข้าหาสนามรบของเทพแท้จริงอันน่ากลัว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version