Skip to content

Swallowed Star 14

ตอนที่ 14 หาเรื่องใส่ตัว

“หืม..ทำไมไม่รับสายนะ? ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว น่าจะเป็นเวลาพัก ทานข้าวแล้วนี่ พวกพ่อต้องหยุดพักกลางวันกันนี่นา เพราะงั้นพ่อ ก็น่าจะรับโทรศัพท์ได้นี่” หลัวเฟิงมองดูหน้าจอมือถืออย่างสงสัย จากนั้นเขาจึงกด ‘ฟังก์ชั่นค้นหาตำแหน่งมือถือ’ หน้าจอมือถือ ปรากฏแผนที่เมืองหยางโจวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มีจุดสีแดงจุดหนึ่ง ปรากฏขึ้นแทนตำแหน่งมือถือของหลัวเฟิง และมีจุดสีเขียวอีกจุด หนึ่งปรากฏขึ้นแทนตำแหน่งมือถือของพ่อเขา

“ไม่ไกลจากที่นี่เท่ไหร่”

หลัวเฟิงรู้ตำแหน่งปัจจุบันของพ่อเขาในทันที แล้วเขาก็อดยิ้ม ออกมาไม่ได้ “เราวิ่งไปหาพ่อแล้วแจ้งข่าวดีกับเขาเลยดีกว่า”

หลัวเฟิงมุ่งหน้าไปที่ตำแหน่งที่ปรากฏในหน้าจอมือถืออย่างรวดเร็ว

………………

ณ สวนลอยฟ้า เขตอี๋อัน

“เร็วเข้าๆ รีบย้ายของตรงนั้นให้เสร็จจะได้ไปพักกัน พวกเราก็ จะได้ไปหาอะไรกินด้วย” ในลนามหญ้าแห่งหนึ่งของคฤหาสน์ภายในพื้นที่ จางฮ่าวไป๋ที่อยู่ในเสื้อสีอ่อนกางเกงขายาวสีขาวกำลังสั่งการคนงานอยู่ ที่ข้างเขามีบอดี้การ์ดสีหน้าเย็นชายืนคุ้มกันอยู่ 3 คน

“นายครับ อย่ารีบเลยครับ เฟอร์นิเจอร์พวกนี้ลํ้าค่ามาก จะ ประมาทไม่ได้นะครับ พวกนั้นน่ะ มาช่วยเร็ว!” รกบรรทุกถูกขับมา จอดอยู่ในสนามหญ้าพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกห่อไว้อีกจำนวนมาก

เฟอร์นิเจอร์ไม้ในช่วงนี้ทั้งลํ้าค่าและราคาแพงมาก พวกมัน เป็นสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือยซึ่งมีน้อยคนจะได้ครอบครอง

เพราะว่ามนุษย์ทั้งหมดอาศัยอยู่ในเมือง ซึ่งในเมืองก็มีไม่กี่ที่ที่ มีต้นไม้ และต้นไม้ส่วนใหญ่ก็มีเอาไว้เพื่อการประดับตกแต่ง แม้ว่า จะมีด้นไม้มากมายอยู่ข้างนอกเมือง แต่ก็มีสัตว์ประหลาดอยู่ในป่า นั้นอีกมากมายเช่นกัน ราคาไม้แปรรูปจึงสูงมาก เพราะจะต้องสู้กับ สัตว์ประหลาดพวกนั้นก่อนจะได้ต้นไม้มา

เฟอร์นิเจอร์ชองคนส่วนใหญ่ล้วนทำมาจากพลาสติก ขณะที่ดี ขึ้นมาหน่อยก็เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทำด้วยกระจก

ครอบครัวคนธรรมดาไม่สามารถจ่ายค่าผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ได้เลย

“ระวังๆ…”

คนงานของบริษัทรับเหมาต่างก็ใช้ความระมัดระวังในการ เคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ลงจากรถบรรทุกกันอย่างเต็มที่ หลังจาก นั้นก็จะมีคนงานอีก 3 คนคอยเคลื่อนย้ายจากตรงนั้นมาไว้ในสนามหญ้าอีกทอดหนึ่ง

“ระวังๆ..” จางฮ่าวไป๋คอยเตือนอยู่ตลอด “นี่คือเฟอร์นิเจอร์ที่ ทำจากไม้จริง คุณภาพสูงทั้งนั้น ถ้าพวกนายทำเป็นรอยล่ะก็ เจ้านายเอาพวกนายตายแน่”

“ฮึบ…ฮึบ…”

คนงาน 3 คนค่อยๆ เคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์อย่างระมัดระวัง เฟอร์นิเจอร์ทั้งลํ้าค่าและมีน้ำหนักมาก น่าจะหนักเกือบตันเห็นจะได้ จึงเป็นงานที่หนักมากสำหรับคนงานเพียง 3 คนที่จะต้องเคลื่อนย้ายมัน

“หยุดพักซักแป๊บก่อน แล้วค่อยย้ายเข้ามาข้างใน”

คนงานยก มาตามคำสั่ง

“วางลงก่อน ช้าๆ เบาๆ”

คนงาน 3 คนค่อยๆ วางเฟอร์นิเจอร์ลงบนสนามหญ้า หลังจากที่วางลงพวกเขาถึงได้ยืดตัวขึ้นตรงแล้วสูดหายใจอย่างโล่งอก

“ตาหลัว ฉันหิวข้าวแล้วแฮะ” คนงานร่างโย่งเหยียดร่างขึ้นสุด

“หลังจากเจ้านั้นก็มีอีก 2 ชิ้นที่ต้องย้าย แค่นี้แหละ จากนั้น เราค่อยไปกินข้าวพร้อมกัน” หลัวหงกั๋วหัวเราะขณะที่มองไปยังคนงานอีก 2 คน ตัวเองก็ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ตอนนี้เป็นเดือน มิถุนายนและยังเกือบจะบ่ายโมงอีกต่างหาก เพราะงั้นอากาศเลยร้อนมิใช่น้อย

สำหรับ 3 คนนี้ที่ต้องเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ที่มีค่าแถมหนักเป็นตัน ย่อมเป็นงานหนักเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

“ทำงานเร็วเข้า!” จางฮ่าวไป๋สั่งการอย่างดุดัน

“ครับ” หลัวหงกั๋วก้มตัวลงเตรียมยกเฟอร์นิเจอร์ “เอ้าๆ.. แข็งแรงกันหน่อย ช่วยกันยกเข้าไปเร็ว”

“เอ้า…1…2…3…ฮึบ!”

พวกหลัวหงกั๋วยกเฟอร์นิเจอร์ขึ้นอย่างระมัดระวังแล้วค่อยก้าวเข้าไป พอพวกเขาวางเสร็จแล้วก็พากันเดินออกมา เมื่อพวกหลัวหงกั๋วเดินผ่านจางฮ่าวไป๋ จางฮ่าวไป๋ก็ขมวดคิ้วย่นหลังจากได้กลิ่น เหงื่อที่ฟุ้งออกมาจากพวกคนงาน

“คนจนยังไงก็จนวันยังค่ำ ต่อให้ทำงานหนัก ยังไงพวกเขาก็ต้องใช้ชีวิตที่เหลืออย่างยากลำบากต่อไป” จางฮ่าวไป๋คิดในใจ

พ่อของจางฮ่าวไป๋เป็นคนร่ำรวย เพราะงั้นเขาจึงเกิดใน ครอบครัวที่สุขสบาย จางฮ่าวไป๋มักจะดูถูกคนที่อยู่ในสังคมชั้นล่างเสมอ เขาคิดว่าคนที่ยอมทำงานหนักแบบนี้โดยปราศจากจิต วิญญาณแห่งนักสู้สมควรที่จะใช้ชีวิตอย่างยากลำบากตลอดไป

“ระวังๆ อย่าให้ถูกประตูนะ”

พวกหลัวหงกั๋วค่อยๆ เคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์อย่างระมัดระวัง เสื้อของพวกเขาชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ หยาดเหงื่อจากศีรษะไหล พราวลงไปที่คอของพวกเขา

“พักกันสักหน่อยเถอะ” หลัวหงกั๋ววางเฟอร์นิเจอร์ลงแล้วก็ ผ่อนลมหายใจ

“เอ้า…1…2…3…ฮึบ!”

แม้ว่าพวกหลัวหงกั๋วจะเหนื่อยมาก แต่พวกเขาทำงานแบบนี้ มา 20-30ปีแล้วพวกเขาคุ้นเคยดี และรู้ขีดจำกัดของตัวเอง เพราะงั้นความผิดพลาดในงานจึงเกิดขึ้นน้อยมาก

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็เคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสุดท้าย

“ร้อนชะมัด” จางฮ่าวไป๋เงยหน้ามองดูท้องฟ้า “พี่หวัง เสร็จ จากนี้เดี๋ยวเราไปทานข้าวที่ร้านใกล้ๆ นี้ดีกว่านะ”

“ได้สิคุณชาย” บอดี้การ์ดทั้ง 3 หัวเราะเฮฮา

จางฮ่าวไป๋ชำเลืองมองไปยังเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสุดท้ายที่คนงาน กำลังยกมาพร้อมเสียงลมหายใจฟืดฟาด เขาเองไม่ชอบอะไรแบบ นี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สายตาของเขาก็พลันจับไปบนหินอ่อนที่ปูเป็นทางเดินไว้ กระเบื้องแผ่นหนึ่งกะเทาะแตกออก ซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุในการซ้อมมือกับบอดี้การ์ดของเขาเมื่อสองสามวันก่อน

“หือ?” จางฮ่าวไป๋ตาเป็นประกายวาบ “ตอนนี้เราเหลือเงินติดตัวน้อย และนี่ก็เป็นโอกาสดีที่จะทำอะไรซักอย่างแล้ว!”

ในตอนนั้น พวกหลัวหงกั๋วกำลังยุ่งกับการเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์อยู่

ทันใดนั้น…

มือถือของเขาก็ดังขึ้น หลัวหงกั๋วซึ่งตอนนี้กำลังง่วนกับการ เคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์อยู่ก็รู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ “จะต้องเป็นหลัวเฟิง โทรมาแน่”

อย่างไรก็ตาม เพราะหลัวหงกั๋วกำลังเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์อยู่ เขาจึงรับโทรศัพท์ไม่ได้ เขาจะโทรกลับได้ก็ หลังจากที่วางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นลงแล้ว

“เอาล่ะเดี๋ยวก็ได้พักกันแล้ว เบาๆ ช้าๆ” พวกหลัวหงกั๋ววาง เฟอร์นิเจอร์ลงอย่างช้าๆ

หลัวหงกั๋วหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า พอดูหน้าจอก็ ปรากฏว่าเป็นสายจากลูกชายเขาจริงๆ เขายิ้มออกมาเล็กน้อยและเตรียมจะโทรกลับ

“พวกนายทำอะไรเนี่ย?”

นี่…บอกให้พวกนายระวังไง พวกนายทำอะไรลงไปเนี่ย?” น้ำเสียงเคืองๆ ดังขึ้น

พวกหลัวหงกั๋วหันกลับไปอย่างประหลาดใจ แล้วก็เห็นว่าจาง ฮ่าวไป๋ยืนหน้าบึ้งอยู่ จางฮ่าวไป๋ชี้นิ้วไปที่หินอ่อนอย่างเดือดดาล “พวกนายทำอะไรกันเนี่ย? เพราะพวกนายไม่มีสมาธิกันเลย ดูสิ พวกนายทำทางเดินบ้านฉันแตกแล้วเนี่ย นี่เป็นหินอ่อนหนานซาน ซึ่งต้องซื้อมาจากนอกเมืองเชียวนะ หินอ่อนนี้แผ่นหนึ่งราคาเป็นแสนๆ หยวน พวกนายจ่ายไหวหรือเปล่า? หา!!!”

พวกหลัวหงกั๋วมองลงไปยังพื้นหินอ่อน…

อันที่จริง บนทางเดินตรงนั้น มีรอยบิ่นเล็กๆ ที่หินอ่อนเท่านั้น

“หึ…ฉันจะโหรหาเจ้านายของพวกนาย ว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้” จางฮ่าวไป๋ทำท่าทางฉุนเฉียว “พี่หวัง พี่มีเบอร์ของบริษัทนี้ใช่ไหม? โทรไปบอกทางบริษัทแล้วเรียกให้เจ้านายพวกนี้มาที่นี่! ไม่ มีการเจรจากับคนพวกนี้อีกต่อไปแล้ว”

“นี่ครับเบอร์โทรของบริษัท” บอดี้การ์ดแซ่หวังหยิบเบอร์โทร ออกมาแล้วกดโทรทันที

พวกหลัวหงกั๋วคุ้นเคยเรื่องแบบนี้กันเป็นอย่างดี

“ไม่ถูกนะครับ” คนงานร่างใหญ่กล่าวขึ้น “รอยบิ่นที่หินอ่อนนี้ มีอยู่ก่อนแล้ว ผมเห็น”

“แก้ตัวงั้นเหรอ? ไม่ต้องมาแก้ตัวบ้าบออะไรทั้งนั้น” จางฮ่าวไป๋ แผดเสียงดัง

หลัวหงกั๋วขมวดคิ้ว ในฐานะที่เป็นคนงานอาวุโสที่มีประสบการณ์ เขารู้ดีว่าการโต้เถียงกันแบบนี้สร้างความรำคาญเป็นที่สุด บริษัทมักจะให้ความสำคัญกับชื่อเสียงมาก ถ้าบริษัทถูก กล่าวหาและไม่มีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าคนงานไม่ได้ทำผิดพลาด บริษัทมักจะต้องจ่ายค่าเสียหายให้

ถ้าบริษัทต้องจ่ายค่าเสียหาย บริษัทก็จะต้องหักเงินเดือน คนงานเพื่อเป็นการรับผิดชอบแน่นอน

“ย้ายเฟอร์นิเจอร์กันก่อนเถอะแล้วค่อยว่ากัน” หลัวหงกั๋วเอ่ย ขึ้นขณะที่เขาเดินไปเตรียมจะยกเฟอร์นิเจอร์

“ย้ายเฟอร์นิเจอร์เหรอ?”

จางฮ่าวไป๋ก้าวเข้ามาผลักหลัวหงกั๋วจนล้มลง และเริ่มด่ากราด ใส่คนงานทั้ง 3 “ไม่ต้องมาตุกติก! เฟอร์นิเจอร์อยู่บนหินอ่อนคือ เครื่องพิสูจน์! พวกนายจะย้ายเฟอร์นิเจอร์ออกไปแล้วทำเป็นไม่รู้ ไม่ชี้เหรอ? ฉันเคยเห็นกลเม็ดแบบนี้มาแล้ว รอเจ้านายพวกนายอยู่ ตรงนั้นแล้วค่อยคุย”

“ตาหลัว..ตาหลัว”

คนงานอีกสองคนเข้ามาช่วยดึงหลัวหงกั๋วขึ้น

“ไม่เป็นไร” หลัวหงกั๋วเอามือปัดไหล่ของเขา

“ทำไมต้องมาผลักกันด้วย”

“พวกเราไม่แน่ใจหรอกว่าทำกระเบื้องแตกหรือเปล่า แต่มา ผลักกันแบบนี้หมายความว่าไง?” คนงาน 2 คนประกายตาลุกวาว พร้อมพูดอย่างโกรธเคือง คนที่ทำงานแบบนี้จะไม่กลัวอะไรเลย ถ้า พวกเขาโกรธขึ้นมาพวกเขาก็พร้อมที่จะต่อสู้ ถึงแม้จะถูกตำรวจจับกุม แต่พวกตำรวจก็ต้องการแค่เงินไม่ได้ต้องการชีวิต พอ ตำรวจไม่อาจขูดรีดอะไรพวกเขาได้ในที่สุดก็จะปล่อยตัวพวกเขา ออกมาเอง

“อย่ามากำแหงกับฉัน!” สองเท้าของจางฮ่าวไป๋ซึ่งเร็วประดุจ สายฟ้าถีบไปที่ท้องของคนงานทั้งสอง

“ปึกๆ!”

คนงานทั้งสองลอยละลิ่วแล้วร่วงลงไปนอนกับพื้น

“หึ..พวกนายไม่รู้ซะแล้วว่ากำลังกำแหงกับใคร” จางฮ่าวไป๋ หัวเราะเยือกเย็น ครอบครัวของจางฮ่าวไป๋มีความกว้างขวางในเขตอี๋อัน เพราะฉะนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะอัดคนงานซักสองสามคน ก็จะไม่ มีอะไรเกิดขึ้นแน่

“ตาเถียนลิงยักษ์ เป็นไงบ้าง?” หลัวหงกั๋วเริ่มจะฉุนขึ้นมาเหมือนกัน

“เจ้าหนุ่ม นายทำแบบนี้ได้ไง?” หลัวหงกั๋วพูดขึ้นอย่างแค้นเคือง

จางฮ่าวไป๋ขมวดคิ้วหลังจากที่ได้กลิ่นเหงื่อของหลัวหงกั๋วแล้ว ก็โบกมือ “พี่หวังจัดการสั่งสอนพวกนี้หน่อย พวกเขาจะได้หุบปากเสียที”

“คุณชาย บริษัทรับเหมาครับ” บอดี้การ์ดที่ชื่อหวังยื่นมือถือมาให้

“โอเค” จางฮ่าวไป๋โบกมือแล้วบอดี้การ์ดสามคนนั้นก็เข้าไป อัดคนงานทันที ขณะเดียวกันจางฮ่าวไป๋ก็รับโทรศัพท์ “ครับ โทร จากสวนลอยฟ้าครับ ขอสายหัวหน้าโหวด้วยครับ หัวหน้าโหว เกิด อะไรขึ้นกับคนงาน 3 คนที่คุณส่งมาวันนี้? พวกเขาเลินเล่อและทำหินอ่อนปูทางเดินในสวนผมแตก รีบส่งคนมาที่นี้และจัดการซะ ถ้าไม่จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ก็อย่าหวังว่าจะได้เงินจากผม!”

ขณะที่การสนทนากำลังดำเนินไป…

“หยุด!” นํ้าเสียงเดือดดาลดังมาจากทางนอกสวน

ในตอนนั้น หลัวหงกั๋วกับเพื่อนร่วมงานของเขาก็นอนจมอยู่ที่ มุมกับรอยเท้าจากบอดี้การ์ด 3 คนนั้น

“หือ?” บอดี้การ์ด 3 คนและจางฮ่าวไป๋จำได้ทันทีและเดือด ปุดขึ้นมาเหมือนกัน “หลัวเฟิง แกมาที่บ้านของฉันเพื่อโดนกระทืบ งั้นเหรอ?”

“ไอ้สารเลวเอ๊ย..!” หลัวเฟิงมองเห็นพ่อของเขาขดตัวกุมท้อง และเต็มไปด้วยรอยเท้า ดวงตาของหลัวเฟิงกลายเป็นสีแดงก่ำในทันที ถึงพ่อของเขาต้องอดทนกับชีวิตลำบากแบบนี้แต่เขาก็ยอมรับเสมอมา ทว่าวันนี้กลับมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับพ่อเขา

บอดี้การ์ดร่างเตี้ยล่ำคนหนึ่งหัวเราะเยือกเย็นแล้วก้าวเข้ามาหาเขา

“หลีกไปซะ!!!” หลัวเฟิงตะโกนลั่นแล้วหน้าแข้งปานสายฟ้า ของเขาก็หวดออกไปอย่างรุนแรง บอดี้การ์ดคนนั้นก็ใช้แขนขวารับเอาไว้

“เปรี้ยง!”

ลูกเตะอันหนักหน่วงหวดเข้าเต็มๆ ลำตัวบอดี้การ์ดเตี้ยล่ำคนนั้น ตัวเขาลอยละลิ่วขึ้นไปในอากาศสี่ห้าเมตรก่อนจะตกลงมากระแทกพื้น บอดี้การ์ดอีก 2 คนที่เหลือตะลึงงันไปในทันที

“หลัวเฟิง แกกล้าอัดคนของฉันเหรอ!” จางฮ่าวไป๋จ้องเขม็ง แล้วตะโกนออกมา “หาเรื่องใส่ตัวใช่ไหม!”

“นายต่างหากหาเรื่องใส่ตัว!!!” หลัวเฟิงตะโกนด้วยความเดือด ดาลขณะที่จ้องเขม็งและกัดกรามแน่น…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version